ประกาศเกณฑ์เข้ารอบใหม่ ซิมที่มีคะแนน 125 คะแนน(ใจดี) คะแนนข้างเคียงเข้ารอบได้+1,-1 ไม่เกินนี้ จะรอ ถึงวันที่7 เพื่อผู้คะแนนไม่ถึง จะกระดึ๊บขึ้นมา อย่าลืมบวกคะแนนที่กวางให้ด้วย รายชื่อผู้เข้ารอบแล้วแน่นอน
JEFFY BARLOC สละสิทธ์
Alexander สละสิทธ์
Gaspard Urigo
Avis Zen
Brandon Bisgo
MAr
Martin Salvo
Jérôme Beluot
Logan Carter
Jared สละสิทธ์ รายชื่อผู้เข้ารอบเพิ่มเติมในวันที่ 7 ปิดรับผลเวลา 18.00 ครูซ ซัมวัน
Brandon Routh
josehp wilson
ViperDemon
Jesse...
โทนี่ เรดไทม์
เฟรช คาลลี่
มีคนมาช่วยโหวตเฮือกสุดท้ายก่อนปิดโหวต ดีใจกับทุกคนที่เข้ารอบ
ประกาศโจทย์รอบ 2 สุภาพบุรุษยุโรปที่เป็นตัวของตัวเอง
ภาพและเอกสารที่ต้องใช้ในการประกวด
ภาพถ่าย3ภาพ
ต้องมี1ภาพเป็นอย่างต่ำที่เน้นหน้าตา
โดยต้อง บรรยายมาสั้นๆว่าสุภาพบุรุษสำหรับซิมท่าน คืออะไร
โดยมีเงื่อนไขว่าต้องใช้ข้อมูล
นิสัย
ความมีเสน่ห์
ที่ได้กรอกข้อมูลมาต้องนำมาพลีเซ้นตัวเองด้วย
เกณฑ์การให้คะแนน
ต้องแสดงให้เห็นถึงสุภาพบุรุษโดยต้องตรงกับนิสัยและเสน่ห์เขียนสมัครมา
จุดเปลี่ยนของรอบนี้
ซิมสามารถเปลี่ยนทรงผมได้ ห้ามเปลี่ยนสีตา สีผม(เปิดโอกาสให้ซิมที่ผมไม่เหมาะกับหน้าได้แก้ไขตัวเอง)สามารถปรับเพิ่ม น้ำหนักและกล้ามเนื้อได้ตามความเหมาะสม
โดยภาพต้องใช้ในเกมส์เท่านั้น ห้ามปรับแสงสีด้วยโปรแกรมใดๆ
จะคัดออกครึ่งนึงของผู้เข้ารอบทั้งหมด ส่งผลงานรอบ 2 ภายในวันที่ 10 ทาง PM
หวังว่าจะทำเต็มที่ทุกคน เพราะในรอบหน้าอาจไม่มีโอกาสให้แก้ไขตัวเองได้อีก ว่าด้วยคำว่า “สุภาพบุรุษ”
โดย ศรีบูรพา
จาก “พูดกันฉันท์เพื่อน” บทบรรณาธิการ สุภาพบุรุษฉบับปฐมฤกษ์
๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๒
...เรามีความเข้าใจหลายอย่างในคำ 'สุภาพบุรุษ' แต่ความเข้าใจนั้นๆ หาถูกแท้ทั้งหมดไม่ บางคนยกมือชี้ที่บุรุษแต่งกาย โอ่โถง ภาคภูมิ แล้วเปล่งวาจาว่า 'นั่นแลคือสุภาพบุรุษ' ความจริงเครื่องแต่งกายไม่ได้ช่วยให้คนเป็นสุภาพบุรุษกี่มากน้อย เครื่องแต่งกายเป็นเพียง 'เครื่องหมาย' ของสุภาพบุรุษเท่านั้น และ 'เครื่องหมาย' เป็นของที่ทำเทียมหรือปลอมขึ้นได้ง่าย เพราะฉะนั้นผู้ที่ติด 'เครื่องหมาย' ของสุภาพบุรุษ จึงไม่จำเป็นต้องเป็นสุภาพบุรุษทุกคนไป หนังสือเล่มหนึ่งแนะนำให้เรารู้จักสุภาพบุรุษของอังกฤษ โดยนัยดังต่อไปนี้
๑. ชอบการกีฬา
๒. สุภาพเรียบร้อย
๓. ถือตัว (คือไม่ยอมประพฤติชั่วง่าย)
๔. ไม่อึกทึกครึกโครม
๕. ชอบอ่านหนังสือพิมพ์
๖. มีนิสัยซื่อสัตย์
กฎกติกาของสุภาพบุรุษอังกฤษ บางข้อไม่จำเป็นสำหรับสุภาพบุรุษไทยนัก แต่ถ้าเรามีกฎที่ดีและปฏิบัติตามได้มากๆ ก็ย่อมแน่ละ ที่ความเป็นสุภาพบุรุษของเราจะต้องเด่นขึ้น ถึงอย่างไรก็ดี เครื่องแต่งกายก็ไม่ได้อยู่ในกฎเกณฑ์ของสุภาพบุรุษอังกฤษในข้อใดข้อหนึ่ง บางทีสุภาพบุรุษอังกฤษเอง ก็คงจะถือว่า เครื่องแต่งกายเป็นเพียง "เครื่องหมาย" ของสุภาพบุรุษ เหมือนดังที่ข้าพเจ้าได้กล่าวไว้ข้างต้น ข้าพเจ้าค่อนข้างแน่ใจว่า ประเพณีได้บังคับ ให้สุภาพบุรุษของเรามีลักษณะต่างกับสุภาพบุรุษของชาติอื่นในบางประการ แต่จะต่างกันอย่างใด ไม่ใช่ความมุ่งหมายที่ข้าพเจ้าตั้งใจเขียนในเวลานี้
ชาวอังกฤษยังถือกฎที่พิสดารอยู่อีกอย่างหนึ่ง ที่ว่า "Three generations make a gentleman" เนื้อความดูจะกะเดียด ๆ มาข้าง 'ผู้ดีแปดสาแหรก' ของเรา กฎอันนี้ชาวอังกฤษในยุคปัจจุบันดูเหมือนไม่ค่อยได้เอาใจใส่ พาลจะเห็นว่าเป็นกฎที่น็อนเซ็นส์เอาทีเดียว ถ้าคนเราจะเป็นสุภาพบุรุษได้ ต่อเมื่อบรรพบุรุษต้องเป็นสุภาพบุรุษมาแล้วถึง ๓ ชั่วคน ก็ดูออกจะเป็นบาปอันหนักสำหรับสุภาพบุรุษที่ไม่มีบรรพบุรุษเป็นสุภาพบุรุษอยู่ครัน ๆ จากกฎอันนี้
สุภาพบุรุษดูเหมือนจะมีรูปร่างหน้าใกล้เข้าไปทางขุนนางเป็นอันมาก เพราะต้องอาศัยบารมีของผู้อื่นช่วย และก็ในหมู่พวกขุนนางอาจมีคนชั่วรวมอยู่ด้วยได้ ฉะนั้นในหมู่สุภาพบุรุษก็เห็นจะต้องมีคนชั่วรวมอยู่ได้ด้วยอีกกระมัง? เป็นของน่าขันมาก
ถ้าสมัยนี้ยังมีคนนิยมนับถือในกฎที่ว่า "Three generations make a gentleman" ถ้าจะว่า "สุภาพบุรุษ" มีรูปร่างหน้าตาใกล้เข้าไปกับ "ผู้ดี" ดูจะไม่ค่อยมีข้อคัดค้าน แต่ต้องให้เป็น "ผู้ดี" ซึ่งคนในสมัยนี้เข้าใจกัน ถ้าเป็น "ผู้ดีเดินตรอก" อย่างสมัย ๑๐ ปีก่อนลงไป สุภาพบุรุษของเราก็คงไม่มีโอกาสใกล้เข้าไปได้อีกตามเคย แต่อย่างไรก็ตาม คำว่า "สุภาพบุรุษ" ข้าพเจ้ารู้สึกว่ามีความหมายแรงกว่า "ผู้ดี" เพราะผู้ดี ตามความเข้าใจ ของข้าพเจ้า เป็นแต่ทำตัวสุภาพอ่อนโยนอยู่ในกรอบของจรรยาเท่านั้น ส่วนสุภาพบุรุษ นอกจากจะต้องทำหน้าที่อย่างผู้ดี ยังมีหน้าที่จุกจิกอื่นๆที่จะต้องทำอยู่มาก หัวใจของ 'ความเป็นสุภาพบุรุษ' อยู่ที่การเสียสละ เพราะการเสียสละเป็นบ่อเกิดของคุณความดีร้อยแปดอย่าง หากผู้ใดขาดภูมิธรรมข้อนี้ ผู้นั้นยังไม่เป็นสุภาพบุรุษโดยครบครัน
ถ้าจะอธิบายความหมายของสุภาพบุรุษให้กระชับเข้า ก็จำต้องยืมถ้อยคำที่ว่า 'ผู้ใดเกิดมาเป็นสุภาพบุรุษ ผู้นั้นเกิดมาสำหรับคนอื่น' ซึ่งข้าพเจ้าได้แต่งไว้ในหนังสือเรื่องหนึ่งมาใช้..
ที่มา : คนชายขอบ