ณ. เร็มเน็นท์ ใจกลางของเมืองกาคุเอ็น
อเลสเตอร์ : เธอน่ะคือผู้ใช้เวทย์มนต์ธาตุมืดสินะ...?
ริซาน : แล้วจะทำไมล่ะ...?! งั้นแกต้องเจอนี่ " Dark waves the sword "
อเลสเตอร์ : อ่อนหัดจริงๆ " รูท ดิสทรัป "
ริซาน : เวทย์มนต์แบบนี้มัน....?!
อลิซ : ไอ่เจ้าคนโง่ !!!
ตูม !!!
ระเบิดความรุนแรงสูงที่เกิดจากพลังของอเลสเตอร์พุ่งเข้ามาใส่ตัวริซานแต่โชคยังดีที่อลิซเข้ามาช่วยป้องกันไว้ทั้นก่อนที่
แรงระเบิดจะมาถึงตัวของริซาน
ริซาน : ยัยบ้า นี้เธอคิดจะทำอะไร...!!!
อลิซ : นายนั้นแหละที่บ้า คิดว่าคนอยางอเลสเตอร์จะจัดการง่ายๆเหมือนกับพวกที่ผ่านมารึไง
ริซาน : งั้นก็มาเป็นเหยื่อของอาวุธใหม่ฉันซะ
ริซานตึงมีดสั้นออกมาจากได้แขนเสื้อกันหนาวของริซานและชึ้มันไปที่หน้าของอเลสเตอร์แต่ในตอนนั้นอลิซเอามือมาจับที่มือ
ของริซานไว้ก่อนที่ริซานจะเผลอใช้อาวุธด้วยความโกรธ
อลิซ : เดี๋ยวก่อนสิ อย่ารีบร้อนเลยดีกว่า
ริซาน : ไม่ได้ดั่งใจเลย.... แต่มันน่าแปลกมาก
อลิซ : แปลกอะไรงั้นเหรอ....?
ริซาน : ทั้งที่มีทั้งพลังเวทย์และพลังพิเศษแต่ทำไมถึงยังดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหวอะไรมาก
อลิซ : หมอนั้นคงจะยังไม่เอาจริงมั้ง ตอนที่มันฆ้าทัตสึยะมันบอกว่าใช้แค่ 0.25% เท่านั้นเองนะ
อเลสเตอร์ : งั้นเรามาลองของกันหน่อยมั้ย....
อลิซ : ลองของงั้นเหรอ หมายความว่ายังไง....?
อเลสเตอร์ : ก็เมื่อกี้ผมใช้พลังไปแค่ 0.02% เองนะครับ แต่ครั้งนี้จะเอาซัก 1.00%
อเลสเตอร์ถอดผ้าพันแผลที่พันดวงตาข้างขวาออกมาและนัยตาข้างขวาของอเลสเตอร์นั้นคือสิ่งที่มนุษย์ธรรมดาไม่มีทางที่จะมีไว้ในครอบครอง
ได้ง่ายๆ สิ่งที่เป็นหนึ่งเดียวและทรงพลังที่สุด สุดยอดอุปกรณ์เวทย์สายเล่นแร่แปลธาตุที่แก่งที่สุด
คอนแทคเลนส์แห่งศาสตร์ความรู้ทั้งมวล
ริซาน : ไอ่นั้นมันอะไรกัน
อเลสเตอร์ : นายนี่มัน เซราะกราว จริงๆเลยนะ
ริซาน : แกจะดูถูกฉันเกินไปแล้วนะ
อลิซ : เดี๋ยวก่อน ถ้าเข้าไปตอนนี้นายเละแน่
ริซาน : หมายความว่ายังไง...?
อลิซ :ลองดูให้ดีๆสิ
ริซาน : นี้มัน...!!!
ริซานยืนตัวแข็งเพราะสิ่งที่เขาเห็นอยู่ตรงหน้านั้นเป็นยิ่งกว่าพลังที่เกินกว่ามนุษย์จะใช้ได้ สิ่งที่ริซานเห็นนั้นเป็นคลื่นพลังงานความเข้มข่นสูงที่ถูก
ปล่อยออกมาจาก คอนแทคเลนส์ของอเลสเตอร์กำลังปะทะกับ Holy light ของอลิซที่ปล่อยออกมาจากคัมภีร์ที่อลิซพกติดตัว
อเลสเตอร์ : สมแล้วนะครับที่เป็นถึงอลิซ นักเวทย์แห่งแสงมือดีของศาสนจักร์
อลิซ : " พลังรุนแรงแบบนี้คงจะด้านไว้ไม่นาน " ริซานนายรีบหนีไป...!!!
ริซาน : จะยอมเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่รึไง
อลิซ : ช่างฉันเถอะน่า รีบไป...!!!
ริซาน : ยัยบ้า....!!!
ตูม !!!
ม่านแสงสวรรค์ศักสิทธ์ที่อลิซสร้างขึ้นได้หายไปกับแรงระเบิดที่ถูกส่งออกมาจากคอนแทคเลนส์ของอเลสเตอร์โดยตรงฝุ่นขวัญได้กระจายไปรอบๆและเศษของตึกที่อยู่บนิเวณรอบๆได้หายไปทั้งหมดแม้แต่ศพของพวกทัตสึยะก็ด้วยแต่ในตอนนั้นก็มีเงาของผู้หญิงอยู่กับพวกริซาน
มามิ : เป็นยังไงบ้าง...? เกือบมาไม่ทันแล้วนะ
ริซาน : เธอมาที่นี้ได้ยังไงกัน....?!
มามิ : ตอนนี้ฉันเองก็ พากำลังรบมาเสริมแล้วละนะ
หลังจากที่มามิพูดจบได้ไม่นาน ปืนไรเฟิลสีขาวสะอาดจำนวนกว่า 1,000 กระบอกที่ถูกติดตั้งไว้อย่างรวดเร็วก็ได้แสดงออกมาหลังจากที่ต้องตกอยู่ในกลุ่มฝุ่นขวัญและทุกๆกระบอกได้เล็งไปยังเป้าหมายเดียว อเลสเตอร์
อลิซ : ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ละ...?
มามิ : คนเจ็บนะนั้งรอไปก่อน เดี๋ยวทางนี้จะเล่นให้เอง
ริซาน : ออกหน้ามกเกินไปหน่อยแล้วมั้ง
มามิ : ความแข็งแกร่งของอเลสเตอร์นายก็น่าจะรู้ เพราะงั้นปล่อยเป็นหน้าที่ของฉัน
อเลสเตอร์ : คิดจะล้มฉันด้วยแค่ของเล่นเป็นพันๆชิ้นนะเหรอครับ
มามิ : มันก็ไม่แน่เสมอไปนะ
ปัง....!!!
มามิยิงปืนไรเฟิลที่มีกระสุนอยู่แค่หนึ่งนัดไปที่หัวของอลเสเตอร์จากได้หลังในระยะประชิดแต่สิ่งที่ทำให้ริซานและอลิซตกใจคือความเร็วที่สุดยอดพลังของนักเวทย์ที่มามิมีอยู่ในตัวนั้นก็พอที่จะทำให้อเลสเตอร์เจ็บได้บ้างเล็กน้อย แต่ว่ากระสุนที่มามิยิงออกไปนั้นถูกสกัดได้ด้วยนิ้วเพียงแค่ริวเดียวของอเลสเตอร์
มามิ : มีความสามารถอยู่เยอะเลยนี้...!
อเลสเตอร์ : งั้นก็ใกล้ถึงเวลาแล้ว " เปิดระบบพลังอยู่ที่ 2% "
มามิ : ไม่ใช้วงไสย์เวทย์หรือเวทย์โจมตีรึไง
อเลสเตอร์ : โทษทีนะ ฉันไม่มีเวลามานั้งเล่นกับเธอนะ
มามิ : ติดกับแล้วไง
อเลสเตอร์ : ว่าไงนะ..!
มามิ : เป็นยังไง The Die of Ribbon ของฉันเจ๋งใช่มั้ยแต่ยังไม่หมดหรอกไรเฟิลพวกนี้ฉันจะใช่ให้หมด
ปังๆๆๆๆๆๆ...!!!!
เสียงลั่นกระสุนจำนวนครั้งนับไม่ท่วนถูกระดมใส่อเลสเตอร์อย่างจัง ซึ้งถ้าเป็นคนะรรมดาก็ไม่น่าจะรอด
มามิ : แล้วก็ปิดท้ายด้วย Tiro Finale !!!
ตูม...!!!
ริซาน : สำเร็จมั้ย...?
อลิซ : เราชนะรึยัง...?!
มามิ : มันคงจบแล้วมั้ง...
อเลสเตอร์ : ฮ่าๆๆ เป็นครั้งแรกเลยนะที่ทำให้ฉันมีรอยขีดข่วนแต่ว่าตอนนี้หมดว่าออมมือแล้วละนะ
มามิ : พอคิดว่าไม่ชนะง่ายๆก็เป็นบ้าไปเลยรึไง
อเลสเตอร์ : เธอลองดูให้ดีๆสิ ปืนของเธอนะไม่เหลือแล้วนะ
มามิ : พลังของนายรุนแรงมากจนทำลายปืนของฉันได้เลยรึไงนะ
อเลสเตอร์ : ไม่เลย พลังของฉันนั้นมีความสามารถในการเปลี่ยนสิ่งหนึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่งเหมือนการแลกเปลี่ยนไง
มามิ : การแลกเปลี่ยน...?!
อเลสเตอร์ : วิชาการเล่นแรแปลธาตุนั้นคือการแลกเปลี่ยน เมื่อกี้ฉันเปลี่ยน ออกซิเจน แถวนี้เป็นคลื่นความร้อนไง
มามิ : บ้าน่า วิชาแปลธาตุนั้นไม่สามารถเปลี่ยนสิ่งที่จับไม่ได้
อเลสเตอร์ : พลังพิเศษของฉันคือ การจินตนาการ ก็เลยทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้
ริซาน : พลังพิเศษแบบนั้นไม่น่าจะเป็นไปได้
อเลสเตอร์ : พลังพิเศษคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับคนที่ไม่มีพลังเวทย์ แต่พลังเวทย์คือสิ่งที่คนไม่มีพลังสร้างขึ้นมาเพื่อให้มีความสามารถเท่ากับ
พลังพิเศษ แต่ก็นะมนุษย์ส่วนน้อยเท่านั้นที่จะมีพลังพิเศษแต่ว่าคนที่มีพลังพิเศานั้นจะไม่มีความสามารถในการใช้พลังเวทย์
อลิซ : และสิ่งที่แกคิดไว้ก็คือ การผสมพลังสินะ
อเลสเตอร์ : ถูกต้องฉันคิดมาเสมอเลยว่าต้องใช้เวทย์มนต์ได้พลังพิเศษของฉันเลยแสดงผลเฉพาะตัวฉัน
ริซาน : งั้นแกก็สามารถที่จะทำได้ทุกอย่างแต่แกนะทำไม่ได้สินะ
อเลสเตอร์ : สิ่งที่พลังของฉันทำไม่ได้คือการสร้างสิ่งของหรือพลังงานได้ ฉันก็เลยต้องใช้พลังเล่นแร่แปลธาตุ และนี้เเหละคือ วิทยาศาสตร์
รู้สึกว่าจะมีคนแอบดูอยู่นะ
มามิ : รึว่า....!!!
ตูม...!!!!
คลื่นพลังที่หลงเหลืออยู่ของอเลสเตอร์พุ่งเข้าใส่ทางเดินทางด้านทิศตะวันออกที่อเลสเตอร์สังเกตเห็นว่ามีเงาคนกำลังเดินมา
ยูมิ : มันอันตรายนะ...
โคน่า : เสียท่าจนได้ ลืมตัวแค่นิดเดียวเล่นเอาจนเกือบตาย
อเลสเตอร์ : เสียดายนะครับ พลังยังน้อยเกินไปนะครับ
ยูมิ : " แม้แต่พลังของสามคนนั้นยังรับมือไม่ไหวเจ้านี้คงไม่ใช้คนธรรมดา "
โคน่า " ฉันรู้นะว่าเธอคิดอะไรอยู่ "
ยูมิ : " เเบบนี้ต้องจัดการให้จบภายในครั้งเดียว "
อเลสเตอร์ : จะจัดการให้เสร็จในครั้งเดียวงั้นเหรอ
มามิ : นี่ ยูมิ พลังของเจ้านั้นนะทำได้เกือบทุกอย่าง อย่าประมาทเด็ดขาด
อีกด้านหนึ่งในเมืองกาคุเอ็น
อิโนะอูเอะ : ไม่เป็นอะไรมากใช่มั้ย
ตอง : ขอบใจ
ซิลเดล : ดูเหมือนว่าที่ส่วนใจกลางเมืองจะมีการปะทะกันนะ
เมมมะ : คงจะรุนแรงน่าดูเลยนะ ดูเหมือนว่าจะเจองานหินสุดๆเลยนะ
ลูกเกด : ต่อให้มันเป็นใครมาจากไหน ฉันก็จัดการได้ไม่เรื่องมาก
อิโนะอูเอะ : มั่นใจน่าดูเลยนะ
ลูกเกด : ฉันนะมีผลงานในสงครามมาเยอะ แค่ผู้นำคนเดียวนะสบายมาก
ตอง : เธอแน่ใจรึไง
เมมมะ : หมายความว่ายังไง
ซิลเดล : นายคิดว่าพวกเรากระจอกขนาดนั้นเลยรึไง
อิโนะอูเอะ : อเลสเตอร์ นะแข็งแกร่งมากกว่าพวกนายเยอะเลยนะ
ณ. ใจกลางเมืองกาคุเอ็น
อเลสเตอร์ : อ้าว.... มีพลังกันแค่นี้เองรึไง
ริซาน : แก...!!!
อเลสเตอร์ : ทำหน้าตาแบบนั้นคงจะเอาจริงแล้วสินะครับ
เสียงลึกลับ : นายนะถ่ารีบใช้อาวุธของฉันจะไม่ดีนะ....
ริซาน : !!! เมื้อกี่มันเสียงอะไรกัน
อลิซ : ฉันก็ได้ยินแต่รู้สึกว่าจะมีแค่ฉันนะ
ริซาน : เปล่า ฉันก็ได้ยินแต่รู้สึกเหมือนว่ามันจะพูดกับฉัน
อเลสเตอร์ : พวกนายกลัวกันจนประสาทหลอนรึเปล่า
เรเนสเม่ : หาว่าใครประสาทหลอนไม่ทราบ....?
อเลสเตอร์ : พากำลังเสริมมาด้วยงั้นเหรอ....
เรเนสเม่ : นายนะคงได้ยินเสียงนั้นแล้วใช่มั้ยริซาน
ริซาน : ก็ถูกอย่างที่เธอพูด
เรเนสเม่ : งั้นตรงนี้ฉันจัดการเอง หลังจากที่เจอกับคนของพวกนายก็จะรู้เอง
ริซาน : หมายความว่ายังไง.....?
วืดดดดดด......
พื้นถนนที่ริซานนั้งอยู่เปลี่ยนกลายเป็นเหมือนประตูมิติขนาดใหญ่อย่างรวดเร็วทำให้ริซานไม่ทั้นได้ตั้งตัวเลยตกลงไปในหลุมนั้น
ตุบ !!!
ร่างของริซานตกลงบนพื้นที่ทำขึ้นมาจากพร้มอย่างหรูหร่าสภาพของห้องเหมือนกับห้องของริซานในสมัยเด็กก่อนที่จะมี
เรื่องร้ายๆและความทรงจำอันเจ็บปวดของริซานในอดีต
เสียงลึกลับ : มาแล้วงั้นเหรอ ฉันรอนายอยู่เลย
ชายหนุ่มวัยกลางคนใส่ชุดสูทสีดำยืนสูบบุหรี่ทักทายริซาน
ริซาน : นายเป็นใครฉันไม่สน ส่งฉันกลับไปได้แล้ว
เสียงลึกลับ : ที่นี้เป็นมิติที่จำลองสถานที่ในจิตของนาย ถึงเวลาที่นี่จะผ่านไปนานแค่ไหน แต่มันก็เเค่เศษเสียววินาทีบนโลกเท่านั้น
ริซาน : แล้วนายเป็นใคร...?
เลียงลึกลับ : ต้นตระกูลของนายไง รู้สึกว่านายเป็นผู้สืบทอดของตะกูลเรารุ่นที่ 166 แล้วนะ
ริซาน : นายเอาเรื่องอะไรมาพูด ฉันนะถูกทิ้งมตั้งแต่เด็กแล้วนะ
บรรพบุรุษของริซาน : ห้องนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยความทรงจำที่ทรมานที่สุดของนาย อยากให้ฉันย้อนความทรงจำนามมั้ย...?!
ริซาน : ก็ได้ฉันเชื่อ แต่พากฉันมาที่นี่เพื่ออะไร
บรรพบุรุษของริซาน : อาวุธของฉันที่นายได้รับไปนายยังใช่ไม่ได้สินะ
ริซาน : ก็ถูก แต่ใช่ครั้งเดียวก็เกือนพอ
บรรพบุรุษของริซาน : นายต้องฝึกใช่อาวุธกับเจ้าของเหมือนับคนอื่นๆไง
อีกด้านหนึ่ง ณ.ห้องนั้งเล่นในจิตของ ลูกเกด
ภายในจิตของลูกเกดมีสภาพเป็นเหมือนกับห้องนั้งเล่นในตอนที่ลูกเกดถูกเลี้ยงมาโดยครอบครัวชั้นสูง
แต่มันก็มีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นในตอนนั้นจนเป็นรอยร้าวในอดีตของลูกเกด
บรรพบุรุษของลูกเกด : ก็เป็นอย่างที่เล่า
ลูกเกด : อืม.... ก็ได้ฉันเชื่อ
บรรพบุรุษของลูกเกด : ดีจริงๆที่เธอเป็นพวกสอนง่าย
ลูกเกด : ว่าแต่นายอายุเท่าไหร่เหรอ....?
บรรพบุรุษของลูกเกด : 24 ครับ
ลูกเกด : นายเป็นเจ้าของปืนคู่นี่สินะ
บรรพบุรุษของลูกเกด : อืม... ปืนนั้นรู้สึกว่าจะเป็นอาวุธที่เจ้าบ้านั้นทำขึ้นมา
ลูกเกด : ใครอ่ะ
บรรพบุรุษของลูกเกด : ช่างเถอะแต่ว่าปืนนั้นมันยิงได้ดีมั้ย
ลูกเกด : มีกระสุนแค่นั้ดเดียว
บรรพบุรุษของลูกเกด : 555 เธอนี้ตลกดีนะ คิดหยั่งงั้นเหรอว่าปืนองฉันใช่กระสุน
ลูกเกด : แล้วมันยังไงล่ะ ถึงมีกระสันแค่นัดเดียวก็จัดการคนได้
บรรพบุรุษของลูกเกด : กระสุนของผมนั้นเป็นพลังงานธาตุกึ่งแสงกึ่งไฟนะครับ
ลูกเกด : พลังแบบฉันงั้นเหรอ
บรรพบุรุษของลูกเกด : ครับ ใช้ไฟเป็นแรงขับแล้ใช่แสงเป็นกระสุนแต่มันคงยากสำหรับเธอสินะ
อีกด้านหนึ่ง ณ.ห้องสร้างอาวุธในจิตของอุซป
ภายในจิตนี้เป็นภาพจำลองของห้องสร้างอาวุธที่อยู่ภายในบ้านของอุซปเมื่อสมัยทียังเคยทำงานให้ศาสนจักร์
บรรพบุรุษของอุซป : เข้าใจเรื่องทั้งหมดที่เล่ามาสินะ
อุซป : ก็พอเข้าใจบ้างส่วนและล่ะครับ
บรรพบุรุษของอุซป : ของที่นายได้ไปเป็นแว่นตาของฉันสินะ คงจะเป็นอันเดียวกับที่ฉันใส่อยู่
อุซป : แล้วแว่นตัวนี้มันทำอะไรได้บ้าง
บรรพบุรุษของอุซป : รู้มั้ยว่าฉายาของแว่นนี้คืออะไร
อุซป : ไม่รู้.....
บรรพบุรุษของอุซป : -*- นายนี้มันจริงๆเลยนะ
อุซป : แล้วแว่นนี้ทำอะไรได้บ้าง
บรรพบุรุษของอุซป : แว่นนี้เป็นการรวมของคัมภีร์เวทย์หลายเล่มแล้วมาผนึกในแผ่นตานี้เลยมีความสามารถในการวิเคราะฺห์
สิ่งต่างๆในโลกและยังมรระบบพิเศษจากโลกภายนอกที่สามารถป้องกันกระสุนปืนและซูมได้ในระยะไกล
อุซป : งั้นก็เจ๋งดีนะเนี้ย
บรรพบุรุษของอุซป : แต่ว่าถ่านายใช่ไม่ได้ก็ตายกันยกทีมก็ยังได้
อีกด้านหนึ่ง ณ.ห้องสมุดในจิตของอิโนะอูเอะ
ภายในห้องสมุดนี้เป็นความทรงจำของอิโนะอูเอะก่อนที่จะมาเป็นทหารในกองทัพของ เนซเซสซาริอุส
บรรพบุรุษของอิโนะอูเอะ : มาช้าจังเลยนะ
อิโนะอูเอะ : ห้องสมุดนี้มัน... ห้องสมุดในเกาะครีก
บรรพบุรุษของอิโนะอูเอะ : จำได้ดีนิ
อิโนะอูเอะ : แต่น่าแปลกนะ... ทั้งที่นายใช้โล่เป็นอาวุธแต่สภาพนายนะไม่ให้เลยนะ
บรรพบุรุษของอิโนะอูเอะ : โล่นั้นไม่ใช่อาวุธของฉันหรอกนะ อาวุธแท้จริงของฉันคือปัญญาไง
อิโนะอูเอะ : แบบนี้เองเหรอ นายคงรู้จักกับบรรพบุรุษคนอื่นๆสินะ
บรรพบุรุษของอิโนะอูเอะ : ระดับฉันไม่นับเพื่อนกับพวกนั้นหรอก พวกนั้นก็ดีกันแต่ใช้พลัง
อิโนะอูเอะ : เพราะนายใช้พลังไม่ได้สินะ
บรรพบุรุษของอิโนะอูเอะ : ชิ...!!! เป็นลูกหลานที่น่าเบื่อจริงๆ ก็ได้ฉันจะสอนวิธีใช้เจ้านั้นก็ได้
อิโนะอูเอะ : ฉันคงไปจัดจุดอ่อนนายได้สินะ....
บรรพบุรุษของอิโนะอูเอะ : ยุ่งยากจริงๆ
อีกด้านหนึ่ง ณ.ห้องนั่งเล่น ภายในจิตของอลิซ
บรรพบุรุษของอลิซ : ว่าไง... ฟังเรื่องไปแล้วเป็นไงบ้าง
อลิซ : มันก็ไม่ค่อยน่าเชื่อหรอกนะ
บรรพบุรุษของอลิซ : งั้นพลังของฉันคงไม่จำเป็นสำหรับเธอสินะ.............
อลิซ : เดี๋ยวก่อนสิ พลังของเธอมีความจำเป็นมากเลยนะ ละ....แล้วยังเป็นของดีด้วย
บรรพบุรุษของอลิซ : จริงเหรอ...!!!
อลิซ : นะ...แน่นอน
บรรพบุรุษของอลิซ : งั้นเดี๋ยวฉันจะสอนให้แบบขบในครั้งเดียวก็แล้วกัน
อลิซ : ฉันพร้อมอยู่แล้ว
บรรพบุรุษของอลิซ : สมแล้วที่เป็นลูกหลานของฉัน