พีทค่อยๆลืมตาขึ้น เขาพบว่าตัวเองนั่งพิงกำแพงอยู่ และแปลกใจกับภาพที่เห็น เขาเห็นสัตว์สองตัว นอนกองอยู่กับเพื่อนสาวของเขา ซึ่งยังจ้อง
มองหุ่นยนตร์อยู่ตอนที่เขายังมีสติ และที่สำคัญ ด้านหลังม่านหมอกนั้น เอ๊ะ ม่านหมอกเหรอ นี่คงค่ำแล้วสินะ
พีทค่อยๆลุกขึ้นยืน และเดินช้าๆ เข้าไปหากลุ่มหมอก ซึ่งมีเงาตะคุ่มของคนตัวใหญ่ยืนอยู่ด้านหลัง ยิ่งเข้าใกล้ ก็ยิ่งเห็นชัด จนเห็นคน คนนั้น เป็น
รูปเป็นร่าง
“แฮทเตอร์! ” พีทพูดขึ้นอย่างดีใจเมื่อ คนเห็นคนตรงหน้ามีรูปร่างสูง ตัวเขียว จมูกโต สวมอาภรประหลาด
“เจ้าเป็นใคร รู้จักชื่อข้าได้ยังไง”
“เอ่อ…ผมเป็นมนุษย์โลก ที่รู้จักคุณเพราะนางไม้บอกมา”
“ยัย…นั่นอีกแล้ว”
“ยัยอะไรนะ”
“เปล่าหรอก ไม่มีอะไร อ้าวเฮ้ย!!แล้วเพื่อนข้าทำไมไปนอนกองอยู่ตรงนั้น ”แฮทเตอร์อุทานขึ้นและวิ่งรีบไปหาสัตว์ทั้ง 2 ตัว ซึ่งพีทเดาได้
ตั้งแต่แรกแล้วว่าใครเป็นคนทำ
ณ โต๊ะน้ำชาของแฮทเตอร์ “เพื่อนของเจ้ามีพลังบางอย่างอยู่ในตัวน่ะสิ”แฮทเตอร์พูดขึ้นหลังจากที่เด็กหนุ่มเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง
“พลัง? พลังอะไรครับ”
“มนุษย์บางคนมีพลังพิเศษมาตั้งแต่เกิด แต่ไม่สามารถสำแดงออกมาในมิติที่ไม่มีไอมนตราได้”
.”อะไรคือไอมนตราครับ”
“เจ้านี่ถามมากจริงๆ เช่นมิติโลกของเจ้ามีชั้นบรรยากาศห่อหุ้มอยู่ใช่มั้ยล่ะ แต่ในบางมิติจะมีไอมนตราห่อหุ้มแทน ซึ่งสิ่งมี
ชีวิตที่เกิดในมิติที่มีไอมนตราจะสามารถใช้พลังที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดได้”
“แล้วพลังของเพื่อนผมคืออะไรล่ะครับ”พีทถามพลางมองเพื่อนสาวที่กำลังนอนสลบอยู่บนเสื่อกับสัตว์สองตัว
“พลังของเพื่อนของเจ้าคือ จะบ้าคลั่งเมื่อความกลัวสะสมถึงขีดสุด เพื่อหลีกหนีให้พ้นจากความกลัวอันนั้น และทุกครั้งที่สู้ จะสามารถดูพลังของ
ศัตรูมาเป็นของตัวเองได้ แต่เมื่อหยุดบ้าคลั่งจะสลบไป”
“มิน่าล่ะ”
"เจ้ามีคำถามอีกมั้ย ถ้าไม่มีแล้วข้าจะพาเจ้ากลับ”
พีทตอบว่าไม่มีแล้ว แฮทเตอร์จึงเข้าไปในห้องที่เป็นเหมือนห้องเก็บของ ก่อนจะออกมาพร้อมพรมผืนสีแดงผืนหนึ่ง มีขอบเป็นสีทอง เมื่อเขาแผ่
มันออก มันก็ค่อยๆลอยขึ้น พีทมองพรมผืนนั้นอย่างอึ้งๆ แต่ความอึ้งก็หยุดไป เมื่อแฮทเตอร์พูดขึ้น
“พรมผืนนี้จะพาเจ้าพวกกลับหุบเขา ตอนขี่มันอย่ายุกยิกละ เพราะมันไม่มีที่กั้น”
“ครับ”
.
.
.
.
“พอมาถึง ยัยลี่ก็ฟื้นขึ้นมา เมื่อเห็นว่าไม้เบสบอลหาย ก็ร้องไห้ใหญ่ และดูเหมือนจะจำตอนตัวเองบ้าคลั่งไม่ได้ด้วย”
“ยัยลี่ร้องไห้เพราะเรื่องแค่นี้เนี่ยนะ”จีโน่หัวเราะ
“เรื่องแค่นี้เหรอ!!!”
ทุกคนหันไปทางต้นเสียง ลี่ตื่นแล้ว!!!
“เอ่อ เราว่าเราควรจะกลับแยกย้ายกันกลับบ้านได้แล้วนะ”
ทุกคนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย (ยกเว้นกิลลี่)และหยิบวัตถุบางอย่างขึ้นมา พร้อมท่องมนตร์บางอย่าง ก่อนจะหายแวบไป ส่วนโน่ ก็ทำเป็นแลบ
ลิ้นปลิ้นตาใส่ลี่ก่อนจะหายตัวไป
“อ้าว ไอโน่ อย่าให้รู้ว่าบ้านอยู่ใหนนะ ไม่งั้นจะไปบึ้มแน่”ในบรรยากาศตรงลานกว้ากลางป่าที่เงียบสงบนั้น ในสายตาหลายๆคน อาจจะเห็นว่ามัน
เงียบเหงา แต่สำหรับเด็กสาวผู้นี้ ที่นี่ช่างดูเงียบสงบ เธอเห็นแสงจันทร์กระทบใบหญ้า และโต๊ะน้ำชาที่ปูด้วยผ้าสีขาว และเหล่าหิ่งห้อยเริ่มออกมา
จากป่ารอบๆลานมาบินไปทั่ว เสียงจั๊กจั่นขับร้องไพเราะดั่งเสียงเพลงแห่งป่า เธอเริ่มเคลิบเคลิ้ม และคิดว่าบรรยากาศในตอนนี้ช่างสวยงามราวกับ
โลกแห่งความฝัน แต่สติเธอต้องกลับมาอีกครั้ง เมื่อคิดได้ว่า…การบ้านเลข 20 ข้อยังไม่เสร็จ!!! นี่ก็คืนวันอาทิตย์ซึ่งหมายถึง ทั้งหมดต้องส่งพรุ่ง
นี้ !!! กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด ม่ายน้าT0T เธอรีบหยิบวัตถุนั้นขึ้นมา พร้องท่องมนตร์บางอย่าง ก่อนจะหายตัวไป โต๊ะน้ำชาทั้งโต๊ะเหลือไว้แต่
เพียงความว่างเปล่า แต่แล้ว ท่ามกลางบรรยากาศแห่งห้วงรัตตินั้น กลับมีเสียงหญิงสาวฮัมเพลงเบาๆคลอขึ้นอย่างไพเราะ ที่ใครได้ยินอาจเคลิ้มจนตัวลอยเลยก็ได้
ยิ่งบรรยากาศแบบนี้ด้วย
^
^
เสียงฮัมเพลง
จบตอน 1