อากาซึนะ โนะ ซาโซริ
ประวัติ
อากาซึนะ โนะ ซาโซริ เป็นนินจาของหมู่บ้านซึนะงาคุเระ และเป็นหลานของย่าชิโจ ซาโซริตอนยังเด็กได้รอพ่อแม่ของเขากลับมาแต่เขาไม่รู้ว่าพ่อแม่ของเขาตายขนาดทำภารกิจ โดยคนฆ่าพ่อแม่ซาโซริคือเขี้ยวขาวแห่งโคโนฮะคือพ่อของคาคาชินั่นเอง พอเขาทนไม่ไหวกับการรอคอยพ่อแม่ของเขา เขาจึงออกจากหมู่บ้านไปเข้าองค์กรแสงอุษาแล้วได้ลักพาตัวคาเซคาเงะรุ่นที่3 ซึ่งว่ากันว่าเป็นคาเซคาเงะที่เก่งสุดเท่าที่เคยมีมา เพื่อทำหุ่นเชิดมนุษย์ แล้วมีส่วนลักรอบเข้าหมู่บ้านซึนะงาคุเระเพื่อเอาตัวกาอาระไป แต่ซาโซริได้ตายขนาดทำภารกิจด้วยน้ำมือของย่าชิโจและซากุระ แต่ตามจริงการโจมตีครั้งสุดท้ายของย่าชิโจ ซาโซรินั้นสามารถหลบได้แต่กับเลือกที่จะตายในอ้อมกอดของหุ่นพ่อแม่ เขาได้ดัดแปลงตัวเองเป็นหุ่นเชิดโดยเก็บชิ้นส่วนมนุษย์ไว้ในหน้าอกของหุ่น ซาโซริใช้วิชาลับแดงเชิด100หุ่น ซึ่งเชิดหุ่นถึง100ตัวพร้อมกัน และเป็นคนเดียวที่สร้างหุ่นโดยใช้มนุษย์สร้าง หุ่นที่ซาโซริใช้ในเวลาต่อสู้ : ฮิรูโกะ, คาเซคาเงะรุ่นที่3, ตัวเขาเอง
ซาโซริ มีฉายาว่า Akasuna No Sasori หมายถึง "ซาโซริแห่งทรายสีแดง" จิตใจด้านมืดของซาโซริ เริ่มปรากฏให้เห็นภายหลังเมื่อพ่อและแม่ของเขาได้เสียชีวิตไป ซึ่งพฤติกรรมของซาโซริก็จะแปลกไป และในช่วงวัยเด็กที่ขาดความอบอุ่นจากพ่อและแม่นั้น ซาโซริก็ได้สร้าง "หุ่นเชิดมนุษย์ 2 ตัว" ให้เป็นตัวแทนพ่อและแม่ของตนที่ตายไป โดยตั้งชื่อว่า "พ่อกับแม่"ซาโซริมีฝีมือดีที่ถูกจัดเป็นนักสร้างและเชิดหุ่นระดับอัจฉริยะแห่งซึนะเลย ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะย่าโจได้สอนซาโซริ มาตั้งแต่เด็กๆนั่นเองซาโซริก็ได้สร้างหุ่นเชิดมากมายรวมไปถึงหุ่นเชิดที่คันคุโร่ใช้อยู่ด้วยนอกจากนี้ซาโซริยังมีความรู้ความสามารถในการใช้"พิษ"ได้อย่างชำนาญ และยาพิษที่ซาโซริใช้ก็สามารถทำให้คู่ต่อสู้ที่ถูกพิษนั้นเกิดอาการชาไปทั้งร่าง ประมาณ 3 วัน และรวมทั้งมีพิษชนิดอื่นๆฉาบไว้บนอาวุธของตนอีกด้วย ซึ่งยาพิษมีอานุภาพที่รุนแรงทำให้ศัตรูถึงตายเลยทีเดียวในข้อมูลของ ซาโซริ กล่าวไว้เพียงว่า ซาโซริได้ทำผิดร้ายแรงและหลบหนีออกจากหมู่บ้านไปเข้าร่วมกับแสงอุษา โดยช่วงแรกก็ได้ปฏิบัติงานคู่กับโอโรจิมารุ แต่เมื่อโอโรจิมารุ ได้ถอนตัวออกไป ซาโซริก็ได้มาจับคู่ปฏิบัติงานกับเดอิดาระแทนทั้งซาโซริและเดอิดาระ ก็ถือว่าเป็นคู่เหมือน ในด้านที่ว่าบ้าศิลปะด้วยกันทั้งคู่ ด้านซาโซริ ถือว่า "ศิลปะต้องเป็นสิ่งสวยงามที่อยู่ยืนยาวถาวร" เหมือนหุ่นเชิดที่สวยงามไม่มีวันแก่เฒ่า ส่วนเดอิดาระ ถือว่า "ศิลปะต้องเป็นสิ่งที่สวยงามที่ส่องประกายแม้เพียงชั่วครู่ก็ตาม" ประมาณว่าเหมือนระเบิดที่เขาสร้างขึ้นเพื่อทำลาย ที่ส่องแสงเจิดจ้าและระเบิดดับสลายทุกอย่างในพริบตานั่นละ เป็นคู่ที่เข้าขากันดีเนอะ
ใน Comic นั้น ซาโซริซ่อนอยู่ในหุ่นเชิดขนาดใหญ่ที่ชื่อ "ฮิรูโกะ" ซึ่งมีกระดองและหางขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นหุ่นที่ซาโซริชอบใช้มากที่สุด แต่สุดท้าย ก็ปรากฏร่างที่แท้จริงออกมา ซึ่งเป็นร่างหุ่นเชิดที่มีลักษณะรูปร่างเหมือนตนเองเมื่อ 20 ปีก่อน ซาโซริดัดแปลงร่างกายตนเองกลายเป็นหุ่นเชิด ส่วนหัวใจของตนก็เก็บซ่อนไว้ในร่างหุ่นเชิดที่หน้าอกด้านซ้ายที่มีลักษณะเป็นกระบอกทรงกลมสีดำที่ฝังในอกหุ่น
คาถาที่โดดเด่นของซาโซริ เห็นจะเป็น คาถาเชิดหุ่น ที่นำเอาร่างของมนุษย์มาใช้เป็นหุ่นเชิด ซึ่งจะได้ความสามารถของร่างมนุษย์ผู้นั้นมาใช้งานได้ โดยเฉพาะร่างของ คาเสะคาเงะ รุ่นที่ 3 ที่ซาโซรินำมาใช้เป็นหุ่นเชิด ทำให้สามารถใช้คาถา "ทรายเหล็ก" ต่อสู้กับย่าโจและซากุระ นั่นเอง นอกจากนี้ ยังมีคาถาลับที่สามารถบังคับหุ่นนับร้อยตัวถล่มทั้งแคว้นด้วยตัวคนเดียวมาแล้วเรียกคาถานี้ว่า "เชิดร้อยหุ่น" ซึ่งซาโซริงัดมาใช้ต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับย่าโจและซากุระ
แต่ท้ายที่สุด จากการต่อสู้กับย่าโจและซากุระ ซาโซริก็พ่ายแพ้ด้วยหุ่น "พ่อและแม่" ที่ซาโซริเคยสร้างเป็นตัวแทนพ่อและแม่ในอดีต โดยที่ย่าโจใช้วิชาเชิดหุ่นทั้งสองกอดร่างซาโซริและจับดาบเข้าแทงทะลุหัวใจของซาโซริ
ก่อนตาย ซาโซริก็ได้ยอมบอกการนัดพบกับ คนของตนที่ใช้เป็นสายในการค้นหาโอโรจิมารุเมื่อซาโซริสิ้นลมหายใจ ย่าโจได้กล่าวออกมาด้วยความอาลัยซาโซริซึ่งเป็นหลานของตนให้ซากุระฟังว่า แท้จริงแล้วทั้งตนและซากุระไม่ได้ชนะซาโซริเลย หากแต่ในช่วงสุดท้ายก่อนการโจมตี ซาโซริไม่ยอมหลบเลี่ยงการโจมตี แต่เขากลับเลือกที่จะตายในอ้อมกอดของ "พ่อและแม่" นั่นเอง
นับว่า การตายของซาโซริก็เรียกคะแนนความสงสารจนเกลียดไม่ลง ทั้งนี้ก็เพราะหัวใจที่บิดเบี้ยวสืบเนื่องด้วยพ่อและแม่อันเป็นที่รักได้ตายจากไปเมื่อครั้งอดีตนั่นเอง
ปล.น่าสงสารอะ