ณ. ใจกลางเมือง นครวาติกัน
ซายะ : ชิ... ยังไงแกก็จะทำตามหน้าที่ให้ได้สินะ
ฮิโรยาม่า : คนที่ทรยศอย่างแกก็เป็นได้แค่เศษสวะที่ต้องถูกกำจัด...
ซายะ : หึ... ไม่แปลกที่นายจะคิดอย่างนั้น
ฮิโรยาม่า : พูดแบบนี้แปลว่านายจะเอาจริงสินะ...
ซายะ : ปล่อยผู้นำของศาสนจักรไปซะ...!!!
ฟลังดร์ : นายคิดจะทำอะไรกันแน่...!!! แผลของนายสาหัสมากนะ
ซายะ : ปล่อยฉันไปเถอะน่า...!!!
ฮิโรยาม่า : เป็นพระเอกที่ใจดีจริงๆเลยนะซายะ...
ซายะ : หึ... คนอย่างฉันไม่มาตายที่นี่เด็ดขาด...
ฮิโรยาม่า : งั้นเหรอ... ฉันอยากรู้จังเลยว่านายจะพาผู้นำของนายฝ่าทหารพวกนี้ไปได้ยังไง
ฟลังดร์ : แกยังไม่รู้ตัวสินะ
ฮิโรยาม่า : อะไรนะ....!?
ฟลังดร์ : แกคงไม่รู้สินะว่าตอนนี้พวกเราเริ่มเข้าโจมตีแล้ว
ตูมๆๆ !!!
หลังจากสิ้นสุดเสียงของฟลังดร์ ระเบิดจำนวนมากที่ถูกติดตั้งไว้รอบๆใจกลางเมืองได้ระเบิดขึ้นมาและทหารองค์รักษ์ส่วนที่เหลือของวาติกัน
และประชาชนบางส่วนได้ทำการบุกเข้าโจมตีใจกลางเมือง
ยูยูโกะ : ถึงขั้นต้องใช้ของแบบนี้เลยงั้นเหรอ...?
อลิซ : ช่วยไม่ได้ ก็เพื่อช่วยท่านผู้นำถึงต้องใช้พลังของวิทยาศาสตร์เราก็ยอม
ยูยูโกะ : แบบนี้เองเหรอ... พวกเธอติดตั้งสารที่สามารถระเบิดได้ไว้ใต้พื้นถนนสินะ
อลิซ : แต่ว่าตอนนี้รีบไปก่อนดีกว่า
ยูยูโกะ : นั้นสิ ตอนนี้ท่านผู้นำก็มาแล้วด้วย
อลิซ : ท่านผู้นำเป็นไงบ้างค่ะ
ลอร่า : ไม่เป็นไรหรอกแต่ว่า...
ฟลังดร์ : อย่างห่วงซายะเลย หมอนั้นเอาตัวรอดได้แน่
ลอร่า : ตะ...แต่
อลิซ : ต้อนนี้เราเตรียมรถไฟไว้ให้แล้วค่ะ
ลอร่า : มันจะดีเหรอที่เราไปพึ่งอุปกรณ์ของวิทยาศาสตร์
ซายะ : รีบหน่อย ฉันด้านพวกนี้ได้ไม่นานนะ
หลังจากที่ซายะถ่วงเวลาทหารของฝ่ายศัตรูไว้ได้ซักพักซายะได้กระโดดขึ้นรถไฟตามคนอื่นไปโดยที่ไม่รู้ว่ามีอะไรรอยู่
ฮิโรยาม่า : หึ... หนีไปได้งั้นเหรอ ตอนนี้แกไม่รู้หรอกว่าอะไรรอแกอยู่
ทหาร : จะตามไปมั้ยครับ
ฮิโรยาม่า : ไม่ต้อง ปล่อยให้ท่านนั้นจัดการดีกว่า
หลังจากที่ทุกๆคนขึ้นรถไฟของศาสนจักรไปกันหมดแล้วซายะรู้สึกได้ว่ามีพลังบางอย่างำลังเข้าใกล้รถไฟมาเรื่อยๆ
เเละพอซายะลองมองไปถ้ายขบวนรถซายะพบว่ามีชายคนหนึ่งยืนอยู่บนหลังคารถไป
ซายะ : แย่แล้ว...!!!
ลอร่า : มีอะไรหรอ...?
ซายะ : เปล่าครับ ผมขอตัวก่อนนะครับ
ฟลังดร์ : นายจะไปไหน....?
ซายะ : เล่นหิมะกับเพื่อเก่าน่ะ
หลังจากที่ซายะพูดจบซายะก็ปีนขึ้นไปบนหลังคารถไฟที่ซายะเห็นว่ามีคนยืนอยู่
ฟิลิปส์ : ไม่เจอกันนายเลยนะ ซายะคุง....
ซายะ : นายมาที่นี่ได้ยังไง...?
ฟิลิปส์ : โทษทีนะที่ฉันไม่ได้บอกนายทุกๆเรื่องนะ
ซายะ : ปล่อยคนในรถไฟขบวนนี้ไปซะ...
ฟิลิปส์ : ฉันทำไม่ได้หรอกนะ แต่ถ้าเเลกด้วยบางอย่างก็ได้
ซายะ : แลกด้วยบางอย่าง...?
ฟิลิปส์ : ก็ชีวิตนายไง...!!!
ฉึก !!!
ฟลังจากที่ฟลิบส์พูดเสร็จฟิลิปส์ก็พุ่งเข้ามาแทงซายะด้วยมีดอย่างรวดเร็วและใช้มีดเล่มที่ 2 ปีกเข้าที่หลังของซายะ
ก่อนจะใช้ปืนยิงไปที่ขาของซายะอีกรอบ
ซายะ : ทำกับแบบนี้ ไม่ฆ้าฉันให้ตายไปตั้งแต่มีดเล่มแรกเลยว่ะ
ฟิลิปส์ : ฉันยังมีเรื่องที่อยากจะบอกนายอีกอย่าง
ซายะ : เรื่องอะไร...?!
ฟิลิปส์ : บอกตำแหน่งที่อยู่ของริซานมาซะ
ซายะ : เรื่องแบบนั้นฉันไม่รู้หรอก ตะ...แต่ว่า
ฟิลิปส์ : แต่อะไร...?
ซายะ : แกเสร็จฉันหล่ะ
ฉัวะ !!!
ซายะใช้โอกาศตอนที่ฟิลิปส์ไม่รู้ตัวเลยทำให้ซายะเอามีดพกของตัวเองที่ผสมเข้ากับพลังขั้นสุดยอดของซายะแทงเข้าไปที่ฟิลิปส์
อย่างไม่ลังแลแต่ว่าฟิลิปส์ก็ยังยืนอยู่ได้โดยที่ไม่รู้สึกอะไรแม้แต่น้อย
ซายะ : บ้าน่า...!!! คนปกติโดนแบบนี้ไปน่าจะตายตั้งแต่แรกแล้วนิ...
ฟิลิปส์ : ขอโทษนะที่ฉันทำให้นายผิดหวัง ฉันน่ะมีคัมภีร์ 103,000 เล่ม ไว้ในครอบครองไง
ซายะ : คัมภีร์พวกนั้นมันเป็นแค่เรื่องหลอกเด็กไม่ใช่รึไง
ฟิลิปซ์ : งั้นก็ตามที่สัญญา ฉันจะปล่อยคนในรถไฟนี้ไป
ซายะ : ขอบใจมาก
ฟิลิปส์ : งั้นก็ถึงตานายแล้วล่ะ มีอะไรอยากสั่งเสียมั้ย...?
ซายะ : ฉันจะฆ้าแกให้ได้ คอยดูเถอะ
ฟิลิปส์ : ใจกล้าดีนี่ งั้นฉันจะใช้พลังของฉันกำจัดนายเอง
ปัง!!!
กระสุนที่ฟิลิปส์ยิงออกมาจากปืนของฟิลิปส์กลายเป็นคลื่นพลังงานบางอย่างที่ทำลายเขตป้องกันของรถไฟลงและฟิลิปส์ก็ได้กระโดด
ลงจากรถไฟและปล่อยคนอื่นๆให้เห็นอิสระและทิ้งศพของซายะไว้บนหลังคารถไฟ
ณ. เมืองเรย์เซน เขตตะวันตก
มาโดกะ : รีบไปกันเถอะ
แมสซ่า : ตัวอักษรพวกนี้ลงเวทย์มนต์ของพี่ริซานไว้จริงๆค่ะ
มามิ : งั้นคำเตือนพวกนี้ก็เป็นของจริงสินะ
มาโดกะ : โหดร้ายเกินไปแล้ว ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้ด้วย
แมสซ่า : มาโดกะถึงตัวอักษรพวกนี้จะเป็นคำเตือนของพี่ริซาน แต่ใช่ว่าจะเกิดแต่เรื่องร้ายๆนะ
มามิ : ถูกอย่างที่แมสซ่าพูด เราอย่ารีบร้อนจะดีกว่า
มาโดกะ : แต่ว่าเกาะทางตะวันตกที่อยู่ในจดหมายนี้เป็นฐานของพวกศัตรูนะค่ะ
แมสซ่า : งั้นก็แย่หน่อยนะ แต่ว่าพวกศัตรูกระจายกำลังไปทั่วโลกแล้วนี่
มามิ : ตามรายงานข้าวบอกว่าที่ฐานของพวกมันเหรอกำลังรบแค่ 30% เองนะั
มาโดกะ : คือว่า....
แมสซ่า : มีอะไรเหรอมาโดกะ...?
มาโดกะ : มีรายงานว่ามีคนเห็นตัวของริซานน่ะ
แมสซ่า : ที่ไหนเหรอ...?
มาโดกะ : ทางตอนเหนือของฐานศัตรูน่ะ
มามิ : รู้สึกว่าแถวๆนั้นจะเป็นจุดที่ใช้ขังตัวคนที่ก่อสงครามเมื่อ 7 ปีก่อนนะ
มาโดกะ : สงครามเมื่อ 7 ปีก่อนเหรอค่ะ
มามิ : ตอนนั้นเป็นยุคที่กลุ่มเวทย์มนตร์มีสงครามกลางเมืองน่ะ พวกวิทยาศาสตร์เลยใช้ช่วงนั้นก่อสงคราม
แมสซ่า : แต่แถวๆนั้นโดนพายุหิมะลูกใหญ่โจมตีนะ ใครจะไปในที่แบบนั้นกันได้ล่ะ
มามิ : มันก็ไม่แน่หรอกนะ
ณ. เมืองเรย์เซนเขตตะวันตก สะพานข้ามแม่น้ำ
โยมิ : เกิดอะไรขึ้น...?!
โยมิลุกขึ้นมาจากพื้นบนสะพานที่ตัวเองได้ต่อสู้กับโชกุนฟูจิวาระไปไม่นาน
โยมิ : จริงสิเราเกือบถูกเจ้านั้นฆ้านี่ เจ็บใจจริงๆ รู้ว่าจะเป็นแบบนี้เราน่าจะ...
ฟูจิวาระ อาคาชิ : น่าจะอะไร....?
โยมิ : เฮ้ย...!!! นี่ลุงยังไม่ไปอีกเหรอ
ฟูจิวาระ อาคาชิ : หึ... ฉันไม่สนใจเธอหรอกนะ โดยเฉพาะที่เรียกคนอายุ 23 อย่างฉันว่าลุงน่ะ
โยมิ : มาได้ก็ดี ฉันจะฝังแกไว้ที่นี่เอง
ฟูจิวาระ อาคาชิ : ฉันแค่อยากดูหน้าของคนที่ทำให้พ่อใช้ดาบต่อสู้เท่านั้นเอง
โยมิ : แกเตรียมใจไว้ได้เลย
ฟูจิวาระ อาคาชิ : โทษที่นะ ฉันไม่มีเวลาเล่นกับเธอหรอก
ณ. ท่าเรือของเมืองเร์เซน ฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ
มาโดสึกิ : มาถึงซะทีนะค่ะ...
อิมากาวะ ยูริ : ขอบใจนะ ที่มาถึงที่นี่ได้เพราะเธอนั้นแหละ
มาโดสึกิ : ไม่หรอกค่ะ เเต่ว่าเราจะไปที่ไหนต่อล่ะค่ะ
อิมากาวะ ยูริ : เรื่องนั้นฉันขอไปคุยกับคนจากแผ่นดินใหญ่ก่อนนะ
มาโดสึกิ : หมายถึงตะกูล ฟูจิวาระ ใช่มั้ยค่ะ....?
อิมากาวะ ยูริ : ก็ประมาณนั้นแหละ... งั้นฝากเรือด้วยนะ
มาโดสึกิ : ได้ค่ะ...
ณ. ตอนเหนือของเกาะทางตะวันตก หอสมุดในปราสาทร้างหลังหนึ่ง
ริซาน : ว่าไง... 7 ปีแล้วนะที่ไม่ได้เจอกัน
ชายลึกลับ : อืม... นายยังสนใจร่วมแผนการของฉันด้วยมั้ย
ริซาน : ฉันมาที่นี่ทุกรอบนายก็จะพูดแต่เรื่องเดิมสินะ อเลสเตอร์
อเลสเตอร์ : แล้วทำไมถึงต้องมาหาฉันด้วยล่ะ หรือนายไม่มีศัทธาในศาสนจักรแล้ว
ริซาน : ฉันอยากได้คำปรึษาจากนาย...
อเลสเตอร์ : ต้องการแค่นั้นจริงๆเหรอ...?
ริซาน : บอกฉันมาเกี่ยวกับเรื่องของคัมภีร์ 103,000 เล่ม
อเลสเตอร์ : นายเองก็ได้พลังของมันมาแล้วไม่ใช่รึไง
ริซาน : ฉันอยากรู้วิธีหยุดพลังของมัน....
อเลสเตอร์ : เข้าใจแล้ว...
ริซาน : ต้องทำยังไงบ้าง
อเลสเตอร์ : ผู้ที่ได้รับพลังมาส่วนใหญ่ต้องผนึกวิญญาญส่วนหนึ่งไว้ในวัตถุบางอย่าง
ริซาน : วัตถุงั้นเหรอ...?
อเลสเตอร์ : ใช่ ในกรณีของฉันนั้นฉันพนึกพลังของตัวเองไว้ในเครื่องช่วยรักษาเพื่อไม่ให้พลังเป็นอันตรายกับตัวฉัน
ริซาน : หมายความว่าต้องทำลายสิ่งที่ผนึกพลังของเจ้าของพลังสินะ
อเลสเตอร์ : ใช่ ตอนนี้ฉันผนึกวิญญาญส่วนหนึ่งไว้ในแว่นตาของฉัน
ริซาน : เข้าใจแล้ว... งั้นฉันไปก่อนนะ
อเลสเตอร์ : เดี๋ยวสิ... ยังมีเรื่องที่ฉันยังไม่ได้บอกนาย
ริซาน : เรื่องอะไร...?
อเลสเตอร์ : เรียกน้องสาวนายมาฟังด้วยสิ
ยูกะ : มีอะไรงั้นเหรอ
อเลสเตอร์ : เธอเคยได้ยินตำนานของ มังกรเหล็กทมิฬ กันบ้างมั้ย
ยูกะ : มันคืออะไรงั้นเหรอค่ะ
ริซาน : นายไม่ต้องมาแต่งนิทานหรอกเด็กแล้วล่ะ ส่งเจ้านั้นมาให้ฉันซะ
อเลสเตอร์ : ตั้งแต่ที่ฉันไร้พลัง นายจะมาขออุปกรณ์ของฉันตลอดเลยนะ
ริซาน : ส่งเครื่องบิน A6M Zero ของนายมาได้เเล้ว
อเลสเตอร์ : ขอโทษด้วยนะ มันหายไปตอนที่พายุเข้าน่ะ