โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ
: สาระดีๆ : " กระทู้นี้รวมสาระดีๆ ขำๆ สนุกๆ มาแชร์กันได้ โปรดมาอ่าน "
p-o-o
#41
15-07-2011 - 18:40:51

#41 p-o-o  [ 15-07-2011 - 18:40:51 ]






``เกิดเป็นหญิงแท้ที่จริงแสนลำบาก...



เกิดเป็นหญิงแท้ที่จริงแสนลำบาก

เกิดเป็นชายยิ่งยากลำบากกว่า

เป็นกระเทยยิ่งยากเย็นเข็นอุรา

เพราะเกิดมาต้องสวยกว่าบรรดาชะน​ี


CD : siamzone


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-07-15 18:41:22


ไม่เล่นบอร์ดนี้แล้วน้อออ
p-o-o
#42
15-07-2011 - 18:47:32

#42 p-o-o  [ 15-07-2011 - 18:47:32 ]






เอ่อ.... firefox ชั่งเป็นกันเอง = ="

อันนี้ไปเจอมาอะนะ เช่นเคย เว็บเดิม


































CD : siamzone


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-07-15 18:48:01


ไม่เล่นบอร์ดนี้แล้วน้อออ
p-o-o
#43
15-07-2011 - 18:52:54

#43 p-o-o  [ 15-07-2011 - 18:52:54 ]






` 70 ข้อจริง ที่ยังไงก็เถียงไม่ขึ้น







01. ประวัติศาสตร์มักซ้ำรอยเสมอ

02. หน้าหม้อ ไม่ได้แปลว่า จีบหญิงเก่ง คนจีบหญิงเก่งแล้วไม่โม้ก็มีถมไป

03. คนต่างชาติมาเมืองไทยเพื่อสักการะวัดพระแก้ว คนไทยไปยุโรปเพื่อไปสักการะร้าน GUCCI

04. คำว่า “จู๋” กะ “จิ๋ม” ไม่ได้เป็นคำหยาบ …สามารถพูดได้ในสถานการณ์ที่เหมาะสม

05. ซื้อคอมใหม่ดีกว่า upgrade คอม เพราะไม่เกินครึ่งปี คุณก็จะเบื่อคอมเครื่องนั้นอยู่ดี

06. คนเราเปิด dictionary แล้วเราก็ลืมคำคำนั้นไป

07. ช่างกลนิสัยดีก็มี …แต่น้อย

08. ความอยากได้ของถูก ทำให้เราซื้อของราคาแพง

09. เราเรียกมันว่าน้ำหอม… แต่ฉีดมากก็เหม็น

10. ยุคนี้แล้ว พกแผ่น diskette เปล่าติดตัวไว้สักแผ่นนึงไม่ใช่เรื่องเสียหาย

11. วัยรุ่นบางคนไม่อายที่จะเต้นท่าแปลกๆใน RCA แต่อายที่จะต้องซื้อถุงยางในร้าน 7-11 ที่อยู่แถวๆนั้น

12. “ประเทศกำลังพัฒนา” เป็นคำปลอบใจให้ประเทศที่ยังไม่พัฒนา

13. คนไทยหลายคนรู้จักตึก WTC ก็ตั้งแต่ตอนที่มันถล่มนี่แหละ

14. ข้อดีข้อเดียวของคนที่เลวสุดขั้วคือ มันทำให้เราดูดีขึ้นเมื่อไปเทียบกะมัน

15. อย่าตั้งความหวังว่าจะไปซื้ออะไรที่จตุจักร ให้ไปเดินดูของก่อนและค่อยนึกว่าจะซื้ออะไร

16. อย่าหลงกลพวก “**มั้ยพี่” ที่โซนหนังสือจตุจักรเด็ดขาด

ราคาสินค้าของมันซื้อแผ่น vcd ที่พันธุ์ทิพย์ได้ครึ่งโหล

17. ทุกวันนี้ เราหาซื้อ VCD ได้ง่ายกว่า VDO แล้ว

18. บางครั้งมิตรภาพในอินเตอร์เนทมันก็ยั่งยืนมากกว่ามิตรภาพในโลกความจริง

19. อย่าคิดจะหาแฟนในเนทเพราะคิดว่าเขาจะหล่อ หรือ เธอจะสวย

20. ข้อมูลที่คุณอยากรู้ มีอยู่ในอินเตอร์เนททั้งนั้นแหละ แต่คุณจะ search หามันเจอรึเปล่าเท่านั้นเอง

21. ถ้าคุณไม่โปรจริง … คุณจะไม่เจอเว็บ ** ที่ไม่ต้องเสียตังค์

22. เครื่องคอมมันก็ระเบิดได้…

23. ผู้หญิงบางคนพูดคำหยาบมากกว่าผู้ชายอีกนะ …

24. บางอัลบั้ม …เพลงหน้า B เพราะกว่าหน้า A

25. อาหารในโรงแรมรสชาติมักไม่เอาไหน …

26. หนังฟอร์มยักษ์จะไม่สมบูรณ์ ถ้าไม่มีคนที่เรียกว่า “ตัวประกอบ”

27. และแน่นอนว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ PC ราคา 50000 บาทจะไม่มีค่าอะไร

ถ้าคุณไม่ได้ซื้อเม้าส์กะคีย์บอร์ดราคา 500 บาทมาด้วย

28. แม่ค้าดีๆเขาไม่เอากระดาษมาปิดตาชั่งด้านนึงหรอก

29. หมามันก็ละเมอเหมือนเราน่ะแหละ

30. คารมเป็นต่อ รูปหล่อเป็นเกย์ !!!

31. คนไทย copy ทุกอย่างที่ญี่ปุ่นบอกว่า “copy ไม่ได้” …

32. อาหารไทยเป็นอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก!!!!

33. อย่ารีบซื้ออัลบั้มเพลง RS รออีก 2 เดือนมันจะออกอัลบั้มขอบคุณแฟนเพลงเปลี่ยนปก พร้อม 2 เพลงใหม่

34. พนักงานร้านเซเว่นจะไม่ถามคุณว่า “รับhotdogทานเพิ่มมั้ยคะ” ถ้าคุณซื้อถุงยาง…

35. นอนตื่นสายไม่ได้ทำให้เราหายง่วง

36. นักวิจารณ์หนังไม่ใช่พระเจ้า …อย่าไปเชื่อมัน

37. ฝรั่งหลายคนรู้จักเมืองไทยเพราะสถานที่ที่เรียกว่า “พัฒน์พงษ์”

38. ดาราบางคนดังได้เพราะเธอกลัวส้มตำ

39. คนบางคนเต็มใจซื้อดอกไม้วันวาเลนไทน์ให้แฟนราคา 2500 บาท

แต่อิดออดใจที่จะซื้อดอกมะลิแค่ 10 บาทให้แม่ตอนวันแม่

40. หัดใช้ hot key เวลาเล่นคอมบ้าง อย่าใช้เม้าส์อย่างเดียว

41. เราน่าจะเพิ่มความเร็วให้บันไดเลื่อน เพราะทุกวันนี้มีคนเดินบนบันไดเลื่อนเต็มไปหมด

42. อย่าเอาอะไรกับการ์ตูนมากเลย เขาสร้างขึ้นมาเพื่อ entertain” เรานะ

43. หน้าปกหนังสือวรรณกรรมต่างประเทศมักมีเพียงชื่อเรื่องและชื่อคนแต่ง แต่ถ้ามันถูกแปลเป็นภาษาไทย

มันจะมีทั้งคำนิยมของบุคคลผู้มีชื่อเสียง ราคาและคำชวนเชื่อทั้งหลาย

44. สารภาพมาซะ … คุณเคยฉี่ในสระว่ายน้ำ

45. เราไม่จำเป็นต้องขำตามเสียงหัวเราะ เวลาเราดู sitcom ใน UBC Series

46. คนผิวดำก็สวยและ sexy ได้

47. ถึงร้าน MK มันจะแพงแค่ไหน …เราก็เห็นคนนับร้อยต่อแถวรอกิน

48. สินค้า “MADE IN THAILAND” หลายอย่าง หาซื้อในประเทศไทยไม่ได้

49. ตั้งแต่เกิดมา ปากกาผ่านมือมานับร้อยด้าม แต่ใช้จนหมึกหมดด้ามไม่เกิน 20 ด้าม

50. รถเมล์ที่เราจะขึ้นมันจะไม่โผล่มาตอนที่เราต้องการหรอก แต่ถ้าวันไหนไม่อยากขึ้นนะ …วิ่งกันเต็มถนนเลย

51. จะมีสักกี่คนเชียวที่ใช้ function มือถือของตัวเองครบ"ทั้งหมด"

52. เศรษฐีบางคนใช้ PCT…แต่ salary man บางคนใช้ nokia 8850 (ที่ผ่อน 24 เดือน)

53. ก่อนสั่งอาหารไทยชื่อแปลกๆ ลองถามบ๋อยก่อนว่าหน้าตามันเป็นยังไง

54. บางครั้งคำปลอบใจก็ยิ่งทำให้เจ็บปวด

55. ความสุขกับความทุกข์มักมาด้วยกัน เพียงแต่อันไหนจะมาถึงก่อนแค่นั้นเอง

56. อเมริกาไม่ใช่ประเทศที่ประเสริฐเหมือนพระเจ้า จะไปศรัทธาเขาทำไม

57. หนังสือคอมส่วนใหญ่มักจะแพงเกินเหตุ

58. …แถมอ่านไม่ค่อยจะรู้เรื่องอีกต่างหาก

59. ไม่ว่าคอมคุณจะเร็วสักเท่าไร ไม่เกินปีมันก็จะต้องเป็นคอมตกรุ่นอย่างเลี่ยงไม่ได้

60. ผู้หญิงที่หน้าเหมือน "นังชะนีทะเล" ในสายตาเรา อาจจะเป็น "นางฟ้า" ในสายตาเพื่อนเราบางคน…

61. การเล่นพนันจะทำให้เราได้เพื่อนและศัตรูเพิ่มขึ้นพร้อมๆกัน

62. บางครั้งเทคโนโลยีมักจะทำให้เราลำบากขึ้นกว่าเดิม

63. นักบุญของนักเล่นเนทคือคนทำเว็บแจกภาพ**ฟรี!!!

64. ไอติมโบราณ กาแฟโบราณ ก๋วยเตี๋ยวโบราณ ฯลฯ … มันก็คือของกินธรรมดานั่นแหละ

65. สักวันนึง…กระแสการกินเจคงจะบูมจนแมคโดนัลด์หันมาทำ happy meal เจ หลังจากมี แมคส้มตำแล้ว

66. ขณะที่เรากำลังละเลียดจิบเบียร์ที่ลานหน้า WTC …มีขอทานบางคนแถวนั้นกำลังจะหนาวตาย…

67. ขอสาบาน …ไอติมกะทิไผ่ทองถ้วยละ 10 บาทอร่อยกว่าไอติมฮาเก้นดาซ ลูกละ 88 บาท

68. กะเทยมักให้คำปรึกษาด้านความรักได้ดี …เพราะมันเข้าใจทั้งชายและหญิง

69. บางคนจำวันเกิดเพื่อนได้ครึ่งห้อง แต่จำวันเกิดพ่อแม่ 2 คนไม่ได้

70. ร่างกายที่เข้มแข็งมักมาทดแทนจิตใจอันบอบบาง



คุณว่ามันจริงไหมคะ ?


CD : xchange.teenee


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-07-15 18:54:17


ไม่เล่นบอร์ดนี้แล้วน้อออ
p-o-o
#44
15-07-2011 - 18:58:09

#44 p-o-o  [ 15-07-2011 - 18:58:09 ]






" , คำคมโดนๆ จาก FB , "





ความรักไม่สามารถเปรียบได้กับกา​รตบมือหรอก,ตบมือข้างเดียวไม่เจ​็บ แต่รักข้างเดียว "เจ็บ"

สิ่งที่มองไม่เห็น ,ก็ใช่ว่าสิ่งนั้นจะไม่มี

ความสุขอาจเกิดขึ้นช่วงสั้นๆ แต่ความทรงจำถึงมันจะอยู่นานเท่​านาน

สิ่งที่ยากสำหรับการตัดใจ คือคุณโกหกตัวเองว่าตัดใจได้ แต่คุณไม่สามารถตัดใจได้เลย"

คนบางคนมี "ตัวตน" แต่ไร้ "หัวใจ" > คนบางคนมี "หัวใจ" แต่ไม่มีใคร 'เป็นตัวเป็นตน'

คนบางคนอยู่แสนไกล >แต่กลับมาอยู่ในหัวใจและความคิ​ด ,,แต่ บางคนแม้ใกล้ชิด แต่ไม่เคยได้อยู่ในชีวิตและหัวใ​จ ♥

เมื่อคนเราอยู่ใกล้กันตลอดเวลา เราอาจจะลืมความหมายของคำว่า > คิดถึง

น้อยคนที่จะวาดภาพออกมาได้สวยกว​่าภาพในความคิด,,น้อยคนที่จะวาด​ชีวิตให้สวยเท่าที่จินตนาการ

บางคำถามอาจไม่ต้องการคำตอบ,, ,เพราะบางคำตอบอาจทำร้ายคนที่ถา​ม

คำพูด ” ที่ดูเหมือน..ไม่มีอะไร,,บางครั​้งมันก็ทำให้เกิด ” แผลในใจ “> สำหรับใครบางคน

อยู่ห่างๆ อย่าง ” ไร้ใจ ” ,ดีกว่า อยู่ใกล้ๆ แล้ว ” ไร้ค่า

ล้านความรู้สึกดีๆ ของคนที่อยู่นอกสายตา,,ก็ไม่เท่​าหนึ่งความรู้สึกธรรมดาของคนที่​อยู่ในหัวใจ

บางความทรงจำนั้นทำให้เรายิ้มได​้,, แต่บางความทรงจำก็ยังคงทำร้ายเร​าอยู่เรื่อยมา

บอกรักแต่ไม่เคยใส่ใจ,มันจะต่าง​อะไรกับห่วงใยแต่ไม่เคยดูแล

เวลาเราตกหลุมรักใครคนนึง,ทุกเร​ื่องของเค้า >เป็นเรื่องน่าสนใจของเราเสมอ


CD : siamzone



ไม่เล่นบอร์ดนี้แล้วน้อออ
p-o-o
#45
15-07-2011 - 19:01:55

#45 p-o-o  [ 15-07-2011 - 19:01:55 ]






_ , 10 อันดับพฤติกรรมของการนอกใจ , _




10 เธอดีเกินไป

เมื่อเขาหรือเธอมีคำพูดหลุดออกมาว่า…เธอดีเกินไป

9 ขอโทษ

ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะลืมไปแล้วว่าคำว่า…ขอโทษสะกดอย่างไร

8 ผิดสัญญา

ผิดสัญญาบ่อยครั้ง

7 ซ้ำเติม

ในภาวะที่อยากได้กำลังใจ หรือมีภาวะที่เป็นข้อผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ เกิดขึ้น แทนที่จะมีคำปลอบใจ

ให้กำลังใจ หรือเป็นที่ปรึกษา กลับมีแต่คำพูดที่ซ้ำเติม

6 แต่งสวย แต่งหล่อ

จู่ ๆ เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงภาพภายนอก แต่งสวย แต่งหล่อ ดูแลตัวเองเกินเหตุ เกินปกติที่เคยเป็นหรือเคยไปด้วยกัน

โดยไม่มีการพูดคุยถึงการเปลี่ยนแปลงมา ก่อน เช่น อยากตัดผมทรงใหม่

หรืออยากเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัว เป็นต้น

5 เริ่มมีคำพูดประเภทก้าวร้าว ไม่ให้เกียรติ

เริ่มมีคำพูดประเภทก้าวร้าว ไม่ให้เกียรติ หรือไม่ก็พาดพิงแง่ลบไปถึงครอบครัว

4 ร้างลาการชักชวนไปไหนด้วยกัน

ร้างลาการชักชวนไปไหนด้วยกันเกินกว่า 2 อาทิตย์ โดยที่…ไม่ได้ป่วย หรือติดธุระสำคัญ

3 โทร.มาทำไม

โทร.ไปหาทีไร ไม่ค่อยติด เอ…อ้างโทรศัพท์แบตฯหมดบ๊อย…บ่อย หรือไม่กว่าจะรับโทรศัพท์นานเกินเหตุ

และที่เป็นลางบอกเหตุก็คือ คำถามคำแรกจากปลายสายก็คือ…โทร.มาทำไม หรือ มีอะไรรึเปล่า…

2 หงุดหงิดไปเสียทุกอย่าง

เจอหน้ากันทีไร เริ่มมีอาการแสดงท่าทีเฉย ๆ บ่อย หรือไม่ก็ดูจะหงุดหงิดไปเสียทุกอย่าง

โดยเฉพาะที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณ

1 ไม่ว่าง, ติดธุระ

เวลาชวนไปไหนมาไหน จะชวนไปทำธุระด้วย หรือจะไปดูหนัง ฟังเพลง เริ่มมีคำพูดประเภท

ไม่ว่าง, ติดธุระ ฯลฯ บ่อยขึ้น


CD : siamzone


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-07-15 19:02:37


ไม่เล่นบอร์ดนี้แล้วน้อออ
p-o-o
#46
15-07-2011 - 19:04:23

#46 p-o-o  [ 15-07-2011 - 19:04:23 ]






แวะมาดันจ้า ช่วยกันเม้นหน่อยนะ



ไม่เล่นบอร์ดนี้แล้วน้อออ
p-o-o
#47
15-07-2011 - 19:09:39

#47 p-o-o  [ 15-07-2011 - 19:09:39 ]






` 50 เรื่องจริงของโฆษณาไทย ฮามาก .




1. ถ้าโฆษณาไหนต้องใช้โน้ตบุ๊คประกอบฉาก มันจะต้องเป็น Macbook เท่านั้น

2. คุณแม่ใจดีในโฆษณาผงซักฟอกไม่มีจริงในโลก เพราะแม่ตัวจริงเจอลูกทำเสื้อเลอะแบบที่เห็นในโฆษณา

อีตัวลูกโดนตบนมแตกตายตั้งแต่ก่อนเข้าบ้านแล้ว

3. โฆษณาของหน่วยงานของรัฐฯ มักจะดูเสล่อๆ

4. ขนมในโฆษณาขนมกุ๊บกิ๊บทั้งหลาย มันจะตัดปากถุงซะเรียบแปล้

ทั้งๆที่ในโลกความจริง ไม่มีใครเขาเอากรรไกรตัดฝากถุงอย่างนั้นซักคน

5. จนป่านนี้แล้ว อียูโรคัสตาร์ดเค้ก มันก็ยัง**โฆษณาว่าเค้กมันไส้ไหลล้นทะลักทั้งๆที่ใครๆก็รู้ว่า

เมนส์ปลวกยังเยอะกว่าไส้ขนมมันเลย --- สคบ. ช่วยจัดการด้วย

6. โฆษณาการบินไทย ใช้แอร์ดูสาวและสวยมาก แต่ของจริงบนเครื่องนั้นป้าที่สุด!

7. โฆษณาของ Dtac ไม่เคยใช้ดาราดังแสดง

8. หลายบริษัทเอาคนในบริษัทตัวเองนี่แหละ มาเล่นโฆษณาเองซะเลย ประหยัดดี!

9. บางทีเห็นโฆษณาเดียวกันฉายต่อติดๆกัน อันนั้นเขาตั้งใจจริงๆนะครับ

10. โฆษณาท่องเที่ยวไทยที่ป้าเบิร์ดเล่น เฟคมาก นั่นป้าวิ่งเล่นอยู่ในโลกความฝันหรือครับ?

11. เมืองไทยเคยมีโฆษณาแชมพู ที่นางเอกผมเงาจนสะท้อนหน้าคนบนเส้นผมมาแล้ว!

12. และเมืองไทยก็เคยมีโฆษณาจั๊กกะแร้ขาวถึงขั้นมีแสงพุ่งออกมาจากจั๊กกะแร้มาแล้ว!

13. มีสินค้าหลายตัวที่ดัง และขายดีมาก โดยไม่เคยออกโฆษณาทีวีแม้แต่ครั้งเดียว

14. ห้องครัวในโฆษณาผงปรุงรสต่างๆ ดูดีและสะอาดเกินกว่าห้องความในโลกความจริง

15. ครีมบำรุงผิวสมัยนี้ มีอิทธิฤทธิ์ถึงขั้นใช้แล้ว**เปลี่ยนพฤติกรรมได้ มหัศจรรย์มั้ยล่ะ!

16. สังเกตดีๆว่า พวกโฆษณาที่อ้างว่า 99% ของผู้ทดลองใช้พอใจ มันจะมีตัวหนังสือเล็กๆบอกว่าจริงๆแล้ว

สำรวจกับคนประมาณ 112 คนในประเทศแถวๆอเมริกาใต้

17. ทำไมเบียร์ต้องได้เหรียญทอง? ตกลงเอ็งจะขายเบียร์หรือไปวิ่งแข่งโอลิมปิก?

18. อีห้องแล๊บของ pond’s ที่เป็นห้องขาวทั้งห้อง ดูแล้วนึกว่าเป็นแล๊บ NASA

19. โฆษณาขนมหลอกเด็ก กล้องจะไม่ตั้งตรงๆ แต่จะหมุนไปหมุนมา ซูมเข้าซูมออกตลอด

20. โฆษณาน้ำยาปรับผ้านุ่ม เวลาดมผ้า จะมีดอกไม้พุ่งออกมาจากผ้าขนหนูทุกครั้ง

21. โฆษณาประตูน้ำโพลีคลินิก เป็นโฆษณาที่**มาก

เพราะทั้งโฆษณาไม่มีอะไรเลย นอกจากตัวหนังสือวิ่งๆ เหมือนใช้ powerpoint ทำ

22. ตัวหนังสือเล็กๆ ใต้จอที่เล็กจนอ่านไม่ออก หลายคนในวงการเรียกว่า “มดวิ่ง”

23. โฆษณาประเภทโปรโมชั่น ตอนจบมักมีคนจำนวนมากยืนกระจุกกัน กำหมัดชูมือ แล้วร้อง “เย้!”

24. โฆษณาเอ็มเค เรียงอาหารในหม้อสุกี้ได้โคตรเฟค มีใครเขากินสุกี้ประดิดประดอยกันแบบนี้ด้วยเหรอ?

25. โฆษณาของบาร์บีคิวพลาซ่าก็เช่นเดียวกัน ใส่ผักในกระทะเยอะเว่อร์! ชั้นไปร้านแกเพื่อกินเนื้อเว้ย!

26. โฆษณาของ “ไทยประกันชีวิต” นั้นโคตรเศร้า...

27. ในขณะที่ โฆษณาของ “เมิองไทยประกันชีวิต” นั้นโคตรฮา...

28. โฆษณาของโค้กจะแอบกัดเป๊ปซี่แบบเนียนๆอยู่เกือบทุกเรื่อง (ลองสังเกตดีๆ ...)

29. โฆษณาน้ำยาล้างจาน จะต้องมีฉากที่เอามือลูบจานแล้วได้ยินเสียง “วื้ด” เพื่อยืนยันความสะอาด

30. โฆษณารถกระบะ จะต้องมีฉากเลี้ยวโค้งหักศอก แอ่งน้ำขังบนพื้นสาดกระจายยยยย

31. โฆษณาเครื่องดื่มบรรจุขวด พรีเซนเตอร์ต้องกระดกขวดเท่านั้น ห้ามใช้หลอดดูดเด็ดขาด!

32. โฆษณาผ้าอนามัยทุกยี่ห้อ ใช้ของเหลวใสสีฟ้าหรือเขียวแทน...เอ่อ... นั่นล่ะค่ะ

33. มาม่าในชามในโฆษณา จะมีหมูสับลอยฟ่องเป็นแพ พร้อมผักและดอกไม้ใบหญ้าอีกมากมาย

34. โฆษณาไวเทนนิ่ง จะต้องมีฉากที่นางเอกค่อยๆลอกคราบทีละชั้นจากดำเป็นขาว

35. หลายคนคอนเฟิร์มว่าพรีเซนเตอร์ผู้ชายของโฆษณา NIVEA หล่อล่ำลากเลือดมาก...

36. ช่างก่อสร้างในโฆษณาปูนบางยี่ห้อ หน้าตาดีซะจนอยากจะทุบบ้านให้ช่างคนนี้มาซ่อมให้

37. โฆษณาแชมพู มักมีเนื้อเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับแชมพู เช่น นางเอกไปสมัครงาน หรือเล่นคาราเต้

38. พรีเซนเตอร์ในโฆษณามักใส่เสื้อสีเดียวกับสีของผลิตภัณฑ์นั้นๆ

39. โฆษณาสินค้าทุกประเภทที่เกี่ยวกับการ “ฆ่าเชื้อ” หรือ “ทำความสะอาด”

จะต้องมีฉากแบ่งครึ่งจอเพื่อเทียบกันซ้ายขวาเสมอ (ข้างที่ใช้กับไม่ใช้)

40. และแม้ว่าสินค้านั้นจะฆ่าเชื้อได้สะอาดขนาดไหน เราจะเห็นภาพเชื้อโรคเหลืออยู่หย่อมเล็กๆเสมอ

41. เราจะไม่เห็นขวดเหล้าขวดเบียร์ในโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แม้แต่ขวดเดียว

42. โฆษณาเดียวกัน ถ้าดูในโรงหนังมันจะได้อารมณ์กว่า เศร้ากว่า ฮากว่าดูที่บ้าน

43. เพลงบางเพลงดังได้เพียงเพราะโฆษณาหยิบมาใช้ (เช่นเพลงในโฆษณาชุด “แม่ต้อย”)

44. โฆษณาประเภท testimonial ที่ให้คนเคยใช้สินค้าออกมายืนยัน บางทีจริงแต่ชื่อ แต่คนแสดงไม่จริง

เพราะหน้าตาตัวจริงน่ากลัวจนกล้องถ่ายไม่ติด ...เอ้ย ไม่ดีพอจะขึ้นกล้องได้ จึงต้องใช้คนแทน

45. โฆษณาน้ำอัดลม คนดื่มแล้วจะต้องร้อง “อ้าหห์” เสมอ

46. มีโฆษณาหลายตัวที่ให้พรีเซนเตอร์เอาสินค้าแนบใบหน้าซะใกล้จนเกินเหตุ

47. ในไทยรัฐหน้าบันเทิง คอลัมน์ “บันเทิงไทยรัฐ” นี่มันโฆษณาเครื่องสำอาง ชัดๆ!

48. เสียงเคี้ยวขนมในโฆษณามันฝรั่งทอดจะดัง “กร้วม” แบบไร้มารยาทสังคมที่สุด

49. บางทีเราก็มัวแต่ดูหน้าดูนมของพรีเซนเตอร์ จนลืมดูสินค้าไปโดยปริยาย

50. และโฆษณาบางเรื่อง ตลกมากมาย ดูจนจบก็จำชื่อไม่ได้



CD : fwmail



ไม่เล่นบอร์ดนี้แล้วน้อออ
p-o-o
#48
15-07-2011 - 19:14:39

#48 p-o-o  [ 15-07-2011 - 19:14:39 ]






113 ข้อเรื่องจริงของเด็กไทย




1.โรงเรียนรัฐบาล เรียนหนัก วันละ 7-8 คาบ (แต่ เราก็เป็น)

2.เมื่อมีคาบว่าง คุณครูวิชาใดวิชาหนึ่ง มักขอ (เป็นอีกเช่นกัน)

3.รร.เอกชน เด็กนักเรียนไม่เคร่งกฏ(แต่ คณะ ผู้บริหารเคร่ง)

4.รร.ที่เก่าแก่ ยึดติดศักดิ์ศรีมากเกินไป บ่มเพาะให้เด็กเป็นศัตรูกับสถาบันอื่น

5.รร.รัฐบาล เข้าแถวหน้าเสาธง ฟัง ผอ.ให้โอวาทก่อนเข้าคาบแรก

แต่กิน เวลาไป 10-20 นาที(แต่เรา บางครั้ง หมดไปคาบ)

6.เด็กต้องตากแดด ร้อน หน้ามืดเป็นลม(รับวิตามินไงครับ)

7.บาง รร. ผิดกฏนิดหน่อย ก็เรียกผู้ปกครอง ทั้งๆที่ควรจะตักเตือนก่อน

8.เด็กไทยขนหนังสือในกระเป๋าเป็นสิบกิโล หลังงอไปโรงเรียน

(รวมทั้งนิยายและการ์ตูน หนังสือโ ป๊)

9.การบ้าน งานต่างๆ ฝึกให้นักเรียนรับผิดชอบก็จริง แต่สั่งทีเยอะ

แล้ววันนึงเรียนกี่วิชา ครูคนนึงสั่งกี่อย่าง? เด็กตายห่ า พอดี

10.มา รร. เช้า ลอกการบ้าน แล้วเด็กได้อะไร จากการสั่งงานเยอะ

11.หลับตี 1-2 พิมพ์รายงานส่ง

12.เนื้อหารายงานมาจากอินเตอร์เน็ต หามา ก็อปใส่เวิด ปริ้น เข้าเล่ม ส่ง

13.พรีเซนต์งานโดยการออกมาอ่าน

14.ครูแก่ เกินรับได้ โบราณ

15.คนเก่งไปเรียนหมอ แล้วใครมาเป็นครู?

16.รร.ในไทย แต่งยูนิฟอร์ม ชุดนักเรีย ชุดพละ ชุดลูกเสือ ทั้งที่อากาศร้อนจัด

17.มีเด็กที่ไม่ได้เรียนหนังสือเยอะแยะ

18.มีเด็กที่ได้เรียน แต่ไม่อยากเรียน

19.พ่อแม่เสียเงินค่าเรียนพิเศษ มากว่า ค่าเทอม มากเป็นเท่าตัว

20.ต่างประเทศ ปิดเทอม ไปเที่ยว ทำงานพิเศษ ทำกิจกรรม

21.เด็กไทยเรียนพิเศษเป็นบ้าเป็นหลัง

22.มหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของประเทศไทย ไม่ติดใน 100 มหาวิทยาลัยโลก

23. บาง รร.จ่ายค่าเรียนคอมพิวเตอร์ทุกปี แต่ว่า ได้เรียนแค่ ม.1และม.4 = =

24.ครูบางคน การสอนคือการอ่านให้เด็กฟัง

25.ครูบางคน สอนไม่รู้เรื่อง ออกข้อสอบหิน เด็กตก ไม่ยอมให้แก้

26.ครู ขายของแก่นักเรียน ทำธุรกิจ ทดลองสินค้าในห้องเรียน ตั้งแต่ของเล็กๆน้อยๆ

ยันถึงกิฟฟารีน แอมเวย์

27.ครูไม่สอน นั่งบ่นเรื่องที่ไม่ในตำรา แต่นักเรียนชอบฟัง(เพราะไม่ได้เรียน)

28.เวลาว่างที่ รร. นร.นั่งนินทาครู

29.ปัจจุบัน ทั่วไปคิดว่า ครู แค่คือ คนที่รับจ้างสอน ไม่ใช่แม่พิมพ์ที่แท้จริง

30.สอนไป ทุก10 นาที โทรศัพท์ดัง

31.ครูใช้เด็กซื้อกับข้าว ซื้อโอเลี้ยง ซื้อส้มตำ

32.ครูสนใจ เด็กที่เรียนพิเศษด้วยมากกว่า

33.ช่องว่างระหว่างครูและเด็ก เยอะมาก เนื่องจากจำนวนเด็กในห้อง เฉลี่ย 50 ขึ้น

ครูจำนักเรียนได้ไม่หมด ยิ่งครูแก่ๆก็....

34.รร. นานาชาติ มีความผูกพัน กับครูที่สอน ทั้ง รร.รักกันดี

35.บางคนเกรด 4.00 สอบไม่ติดก็มี เพราะการศึกษาไทย

เก็บคะแนนสอบแค่ 15-30% นอกนั้นงาน การบ้านที่สั่ง

36.ครูบางคนตั้งใจสอน แต่ไม่มีเทคนิค ทำให้เด็กเบื่อที่จะเรียน

37.ความรู้ที่ใช้สอบ มาจากที่เรียนพิเศษ

38.กวดวิชาแต่ละจังหวัดมากกว่า 50 แห่ง

39.ครูบางคนชอบโอ้อวดว่าจบที่นั่น เอกอย่างนี้ ได้เกียรตินิยม แต่สอนไม่รู้เรื่อง

40.เด็กในห้องมี 50 คน เก่งสุดๆแค่ 1-2 คน

41.นอกนั้น เรียนๆเล่นๆ เที่ยวๆ

42.เด็ก ม.3 สะกดคำว่า family house ศัพท์อังกฤษง่ายๆไม่ได้

43.โรงเรียน ประจบผู้ปกครองที่มีเงิน

44.โรงเรียนหญิงล้วน มีทอมดี้เยอะ โรงเรียนชายล้วน มีเกย์ ตุ๊ดเต็ม

45.ต่างประเทศ เรียนวันละ 3-5 ชม. หลังจากนั้นก็สนามบาส สระว่ายน้ำ ห้องดนตรี

ไม่ก็กลับบ้าน ทำกิจกรรม ไปอ่านหนังสือเอง

46.ถ้าเด็กเรียนที่ไทย ก็ไปกวดวิชา เรียนเลิก3 -4 ทุ่ม


47.เด็กเที่ยวนั่งรถไฟฟ้าไปสยาม

48.เด็กใส่แว่นเนื่องจากเล่นคอม มากกว่าเรียน

49.ครูคาดหวังกับเด็กห้องคิงเกินไป ทำดีนิดหน่อย ชมเว่อร์ๆ

ทำผิดนิดเดียว คือเรื่องคอขาดบาดตาย

50.เอาใจใส่เด็กแต่ละห้องไม่เท่ากัน

51.รร.รัฐ ให้เด็กทำป้าย เดินรณรงค์ยาเสพติด เลือกตั้ง ฯ

ตามนโยบาย ทำเอาหน้าตา รร. เด็กต้องเดิน 2-3กิโล แดดก็ร้อน หน้ามืดเป็นลม

52.วิชาอาจารย์ฝรั่ง ดูเหมือนจะมีความสุข จะหลับก็ได้ คุยกันไป แต่ก็เรียนไม่รู้เรื่อง

53.เด็กไทยอวดฉลาด

54.เด็กไทยตามกระแส แฟชั่น

55.เด็กไทยบ้าเที่ยว บ้าเรียน บ้าใช้เงิน บ้าดารา

56.วัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์เป็นธรรมดา

57.ท้อง แท้ง ฆ่าตัวตาย ใจแตก ติดยา คือ ปัญหาวัยรุ่นไทยที่แก้ไม่ได้

58.เด็กส่วนใหญ่ฝันมี รร.ที่กว้าง ต้นไม้ สบายๆ บรรยากาศดี การเรียน สนุก มีกิจกรรมทำ

59.ความฝันห่างไกลความจริง(เหลือเกิน) รร. อากาศร้อนไม่มีพัดลม เสียงรถที่ถนนดัง

ห้องเรียนติดห้องน้ำ ครูสอนก็ดุ แก่ โหดคะแนน น่าเบื่อ ครูลามก

60.มีพ่อแม่ บังคับ อนาคตวาแผนให้ลูกเสร็จสรรพ โดยไม่ถามว่าลูกชอบหรือไม่

61.พ่อแม่ชอบกดดัน ซึ่งความจริงในยุคนี้ การเลี้ยงลูกแบบนี้ หัวโบราณมาก

เด็กไทย ฆ่าตัวตายเพราะเครียดเยอะขึ้นทุกปี

62.ไฮโซ ต้องให้ลูกเรียนเอกชน นานาชาติ รร.รัฐสุดโด่งดัง

63.ไปเรียนพิเศษต่างประเทศ ตอนปิดเทอม

64.รู้ไหม คนต่างชาติคิดว่า วัยรุ่นไทยที่รวย พ่อแม่ คุณทำงานใหญ่โต

นักการเมือง นักธุรกิจส่งลุกมาใช้เงิน นั้น เราคิดว่า พ่อแม่คุณคอรัปชั่น

และคุณทำตัวไร้สาระ

65.ประเทศไทยเป็นประเทศด้อยพัฒนา แต่เรียกตัวเองว่า กำลังพัฒนา

66.วัยรุ่น ไม่เคารพผู้ใหญ่ ด่าได้ก็ด่า ก็พ่อแม่ฉันยังไม่ว่า คุณเป็นใครมาว่า

67.แต่งตัว ใช้เงิน ซื้อของอวดกัน

68.ตบกันแย่งผู้หญิง ผู้ชาย ทอมดี้ เกย์

69.มีเพื่อนในชีวิตจริงและสังคมอินเตอร์เน็ต

70.เล่นเกมออนไลน์ เล่นmsn ทุกวัน หลับดึก

71.เที่ยวจัด จนบางวันไม่กลับบ้าน พรุ่งนี้มีสอบ เอาเสื้อผ้าไปเปลี่ยน ที่ห้องน้ำ รร.แล้วเข้าสอบ ก็มี

72.พ่อแม่เลี้ยงลูกดีเกินไป แย่เกินไป โอ๋ลูกเกินไป ด่าลูกเกินไป เด็กเก็บกด

73.เด็กที่ไม่ได้รับการศึกษา มีคุณภาพชีวิตที่แย่ บางคนยอมขายตัวเพือเอาเงินมาเรียนก็มี

74.ครูแนะแนว ตือครูที่เด็กชอบมากที่สุด

75.เด็กไทย เกรด 4.00 เอ็นเข้าคณะอินเตอร์ไม่ติด เด็กนานาชาติไม่เก่งเท่าเด็กรัฐบาล

แต่นั่งฝนข้อสอบฉลุย เมื่อจะเอ็นเข้าคณะอินเตอร์

76.ต่างประเทศ อเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น เรียนน้อยกว่าไทย แต่ทำไมฉลาดกว่ามีคุณภาพกว่า?

77.เด็ก คืออนาคตของชาติ แต่มีตัวอย่างบุคคลชั้นนำของประเทศที่เห็นได้ตามหน้า หนังสือพิมพ์ว่า...

แค่ไหน เป็นแบบนี้ คุณยังจะหวังอะไรกับเด็กไทยศตวรรษที่ 21 อย่างเราไหม

78.วัยรุ่นไทยไม่อยากรับรู้เรื่องข่าวสารของประเทศไทยที่มีแต่อะไรที่ชวนทำให้

น่าเบื่อ เกิดการแอนตี้ ไม่อยากรู้

79.เด็กไทยไปโรงเรียน และ มหาวิทยาลัย จากการสำรวจแล้ว

พบว่าปัจจัยคือ เพื่อน เท่านั้น

80.โลกก้าวหน้าไปทุกวัน แต่การศึกษาไทย ยังอยู่กับที่

81. การศึกษาในปัจจุบันทำให้เด็กไทย บ้าเรียนพิเศษ ไปติวที่นั่นที่นี่ สอบมหาลัยได้

จบมาไม่ได้เอาความรู้มาใช้ มันมีประโยชน์อะไร

82.เด็กห้องเรียนพิเศษ ถ้าไม่แยกรั้วโรงเรียนแล้ว จะอยู่ร่วมกับห้องเรียนปรกติไม่ได้

83.ในโรงเรียน รัฐบาลมีการแบ่งแยกชนชั้น ฝ่าย สี(พวกเสื้อแดง-เหลือง)

ทำให้สิ่งไร้สาระพวกนี้มาเป็นเกณท์ให้คะแนนนักเรียน

84.GAT-PAT คือการสอบที่ไม่มีใครตอบได้ว่า

สอบทำไม สอบเพื่ออะไร และเด้กจะได้อะไร ใครเป็นคนคิด คิดเพื่อใคร และคิดมาทำไมเพื่ออะไร

85.เด็กนักเรียนห้องเรียนภาษาอังกฤษเป็นสื่อจะเรียนห นักกว่าห้องเรียนอื่นๆ

แต่สอบวัดผลโรงเรียน กลับได้คะแนนน้อยกว่าห้องปกติ

86. 80% ของผู้ปกครองเด็กไทย อยากให้ลูกเรียนจบเร็วๆ

87.ช่วงชีวิตที่เรียนระดับ มัธยม คือช่วงที่มีความสุขที่สุด

88. นักเรียนที่ผู้ปกครองเลี้ยงปล่อย(ไปเที่ยวได้กับเพื่ อนๆ ไปไหนก็ได้ พ่อแม่ไม่จู้จี้จุกจิกและอื่นๆ)

จะใช้ชีวิตในสังคมได้ดีกว่า คนที่พ่อแม่เลี้ยงแบบ ให้อยู่แต่ในบ้าน

89.เด็กบ้าเรียนมักจะไม่มีเพื่อนแท้และเพื่อนสนิท

90.คนเราเกิดมามีความสามารถต่างกัน แต่การศึกษาในปัจจุบันไม่สนับสนุน

ความสามารถพิเศษ ของนักเรียน

91.ผุ้ปกครองหลายคน วาดอนาคตให้ลูก และดูถูกสิ่งที่ลูกใฝ่ฝัน

92.ในปัจจุบันมีผู้ปกครองที่ เลือกที่เรียนให้ลูก เลือกอาชีพให้ลูก แม้แต่เลือกคู่ครองให้ยังมี

93.วัยรุ่นมักจะมีแฟนตั้งแต่อายุ 13ปี ขึ้นไป

94.ในปัจจุบันยังมีผู้ปกครองที่หัวโบราณมากกว่าผู้ปก ครองสมัยใหม่

95.ปัจจุบัน โลกกำลังวิปริต ประเทศไทยในตอนนี้มี ทอม ดี้ และเลสเบี้ยนเยอะมาก

ในขณะที่ผู้ชายหลายคนแห้วกับการจีบผู้หญิงหันไปคบผู้ หญิง

96.มาตรฐานการศึกษาในประเทศไทยคือ พ.ศ. 2544 แต่นี่คือปี 2552

97.ผู้ปกครองให้ลูกไปเรียนพิเศษ เพียงแค่ไม่ให้เด็กเล่นเกม หารู้ไม่ว่าเสียเงินโดยใช้เหตุ

เพราะเด็กบางคน ไปเรียนแต่ไม่รับอะไรกลับมาเลย

98.ทุกโรงเรียนในประเทศไทย จะมี 1ใน 10 ที่จะเป็นนักเลง และผู้มีอิทธิพล

99.ในปัจุจบันมีการตีกันและฆ่ากัน ปัจจุยหลักมาจาก แย่งผู้หญิงกัน

100.ประชุมผู้ปกครอง คือให้ผู้ปกครองมาออกความเห็นว่าจะให้ โรงเรียนเป็นยังไง

ผู้ปกครองออกเสียงให้เรียนหนักเพิ่มขึ้น มีการบ้านเพิ่มขึ้น

แต่ไม่เคยถามนักเรียนว่า เรียนแต่ลพวันเป็นยังไง

101.ผู้ปกครองที่บ่นว่าอยากให้มีการบ้านเยอะๆมาก จะโดนอ.ประชด โดยการให้การบ้านนักเรียนเยอะๆ

และทุกวัน แม้กระทั่งใกล้สอบ

102.ผู้ ปกครองทำเหมือนมาเรียนกับนักเรียนเอง โดยมากำหนดเพิ่มคาบพิเศษ เรียนเสริมเข้าไป

โดนที่ทุกวันจะเลิกเรียน 5 โมง 2 ทุ่มกันอยู่แล้ว

103.ห้องเรียนพิเศษบางที่ไม่ค่อยมีความเป็นประชาธิปไ ตย (ผู้ปกครองและครูเป็นใหญ่)

104.สภาพแวดล้อมในปัจุบันทำให้เด็กไทยแข่งกันเรียน

105.เด้กไทยแข่งกันเรียนมาก จนทำให้เป็นคนเห็นแก่ตัว

106.โรงเรียนทุกโรงเรียน สอนให้นักเรียนเป็นคนเก่งไ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับโรงเรียน

107.เส้นสายระบาด จนทำให้คนเก่งมีฝีมือและความสามารถ ไม่มีงานทำ

108. คนที่บ้าเรียนจะมีวิถีชีวิตประจำวันที่น่าเบื่อมากกว่า คนปรกติ

109.เด็กไทยเรียนไม่เก่ง สอบไม่ผ่าน พ่อแม่มักจะโทษ ครูและเกม

110. พ่อแม่ไม่เห็นความสามารถของลูกและไม่สนับสนุนสิ่งที่ ลูกชอบ

111.พ่อแม่อยากจะให้ลูกเป็นไปตามคนอื่น ทำให้ไร้ซึ้งความเป็นตัวของตัวเอง

112.การ เรียนไม่ได้มีผลเสีย และการเรียนมีข้อดีมากมาย แต่คนที่ทำให้มันมีข้อเสียคือ

ผู้ใหญ่และพวกหัวโบราณ ที่ปลูกฝังความคิดไร้สาระ ใส่ในหัวของเด็ก

113. 5 อันดับ สิ่งที่ทำให้โรงเรียนไม่น่าเบื่อที่สุดคือ

1.เพื่อน
2.กิจกรรม
3.บรรยากาศ
4.วิชาเรียนน้อย
5.เรียนไม่หนัก


อันนี้เยอะ !~ ขอให้อ่านให้สนุกนะีคะ

CD : souleaterfc


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-07-15 19:15:17


ไม่เล่นบอร์ดนี้แล้วน้อออ
sunshineka
#49
15-07-2011 - 19:19:46

#49 sunshineka  [ 15-07-2011 - 19:19:46 ]




quote : p-o-o

40,,ความจริงของโรงเรียนหญิงล้วน ;]





1. คนภายนอกมักคิดว่า รร.หญิงล้วนจะมีแต่กุลสตรีผู้เรียบร้อย

2. ความจริงคือ รร.ชายล้วนยังเรียบร้อยกว่า

3. คนภายนอกมักคิดว่า รร.หญิงล้วนก็ต้องมีแต่ผู้หญิง

4. หารู้ไม่ว่าที่จริง 30% เป็นทอม 20%เป็นดี้ และ50% ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นทอมหรือดี้หรือเป็นผู้หญิงธรรมดาดี

5. สิ่งที่ทำให้ รร.หญิงล้วนดีใจมาก คือ มีดาราหนุ่มเข้ามาใน รร.

6. และสิ่งที่ทำให้ รร.หญิงล้วนดีใจมากกว่า คือ มีสาวหล่อเข้ามาใน รร.

7.โรงอาหารไม่ใช่ที่กินข้าว แต่เป็นที่พูดคุย พบปะ สังสรรค์ของสาวๆ

8.แต่สำหรับคนที่ไม่ใช่สาวๆ ที่พูดคุย พบปะ สังสรรค์คือสนามบาส

9.และสนามบาสไม่ได้มีไว้เล่นบาสเท่านั้น มันยังมีไว้กินข้าว นอนพักผ่อน ลอกการบ้าน ทำโครงงาน และแก้บน

10.ห้องสมุดเป็นที่สำหรับคน 2 พวกคือ 1.เด็กเนิร์ด 2.คนที่มาหาที่นอน

11.ห้องพักครูเป็นที่สำหรับคน 3 พวกคือ 1.เด็กเนิร์ด 2.เด็กผิดระเบียบ 3.โดนเรียกมาใช้งาน

12.หนังสือที่ขายดีที่สุดในโรงเรียนหญิงล้วนมี 2 ประเภทคือ 1.แจ่มใส 2.พูนิก้า

13.อาหารที่มียอดขายสูงสุดในโรงเรียนหญิงล้วน คือ อาหารอีสาน

14.อาหารที่มียอดขายต่ำสุดในโรงเรียนหญิงล้วน คือ สเต็ก

15.แต่เวลาไปเที่ยวห้าง สาวๆกลับชอบกินสเต็ก (ซะงั้น!?)

16.เขียนชื่อบอกรักคนนู้นคนนี้บนโต๊ะไม่ใช่เรื่องแปลก

17.และอย่าแปลกใจถ้ามีชื่อเพื่อนเราถูกบอกรักอยู่บนโต๊ะ

18.อย่าอิจฉามัน แต่จงเอามาล้อให้มันอายมุดดินหนี

19.ใครคบกับรุ่นพี่น่าอิจฉา ใครคบกับรุ่นน้องน่าอิจฉากว่า แต่ใครคบกับผู้ชาย-ทรยศ

20.ความฮ็อตของแต่ละคนไม่ได้วัดด้วยจำนวนช็อกโกแลตในวันวาเลนไทน์

21.แต่วัดด้วยราคาของช็อกโกแลตมากกว่า

22.เวลาเรียน คนมักจะไม่ค่อยครบ ยิ่งเวลาที่มีดารานักร้องมา รร. คนยิ่งหาย

23.ที่เหลืออยู่ในห้องจะมี เด็กเนิร์ด หัวหน้าหรือตัวแทนห้องเพื่อรับมืออาจารย์

24.เวลาเรียกส่งงานมักจะมีเสียงดังขึ้นมาว่า "อย่าพึ่งเก็บน้า เราพึ่งลอกได้หน้าเดียวเอง"

25.ถ้าหัวหน้าห้องอารมณ์ดีก็จะตอบว่า "เคๆ งั้นคาบ 4 ค่อยส่งน้า"

26.แต่ถ้าหัวหน้าห้องอารมณ์ไม่ดีก็จะตอบว่า "แกจะให้เราแบกไปเองช้ะ! เออ!

ไม่ต้องรีบส่งหรอก เราแค่ต้องแบกไปอีกสามคาบเอง!"

27.ทุกคนจะมีตารางสอนของทุกห้อง เผื่อเวลาลืมเอาหนังสือมาจะได้แว้บไปยืมได้

28. ทุกคนจะมีเพื่อนอยู่ทุกห้อง เผื่อเวลาสอบท้ายหน่วยจะได้ไปขอคำปรึกษาได้ = =+

29.เวลาสอบเสร็จ จะมีคน 2 พวกคือ 1.วิ่งแก้บน 2.ไปฉลองสเวนเซ่นแล้วค่อยมาแก้บนวันหลัง

30.แล้วก็ไม่รู้ทำไม สอบเสร็จต้องไปฉลองที่สเวนเซ่น

31.แล้วก็ไม่รู้ทำไม จะต้องบนเป็นการวิ่ง ไม่บนของกินนั่นนี่เหมือนที่อื่นเขา

32.แต่บางทีเราก็เห็นการแก้บนด้วยการเต้น cover เพลง gee...= ='

33.ที่พูดคุยนอกเหนือจากโรงอาหารคือ โฟลเดอร์สาธารณะในคอม รร. กับโต๊ะนักเรียน

34.ในคอม รร.มีไอเท็มทุกอย่างที่สาวๆ อยากได้ ตั้งแต่คลิปดารานักร้อง ซีรี่ย์ และโดจินวาย

35.บางทีอาจารย์เปิดมาตรวจงานเด็กเจอแบบนี้ก็ช็อกเหมือนกัน

36.อาจารยผู้หญิงจะตกใจแบบไม่อยากเชื่อ แต่อาจารย์ผู้ชายจะตกใจแบบสยอง

37.ยิ่งถ้าเป็นคลิปผู้ชายจูบกัน อาจารย์ผู้ชายจะยิ่งสยองอย่างถึงที่สุด

38.เวลาจบการศึกษาจะมีรุ่นน้องมาเลี้ยงอำลารุ่นพี่เสมอ

39.บางทีเราก็เห็นเรื่องซึ้งๆ อย่างเช่น เฟรนด์ชิพแฮนด์เมด ร่วมกันบูมรุ่นพี่ รวมถึงฉากสารภาพรักด้วย

40.และสิ่งสำคัญที่สุดที่เราได้รู้จาก รร.หญิงล้วนคือ ไม่มีความลับและสัจจะในหมู่ผู้หญิง...



เห็นแล้วไม่มีข้อไหนไม่ตรง มีทุกข้อ

CD : FW mail


ตรงมาก แต่ข้อ12ควรจะมีสน.นานมีบุ๊คนะค่ะ
แล้วข้อ10อีก1ก็คือมาเล่นคอมค่ะ


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-07-15 19:21:29

lovemiku
#50
16-07-2011 - 11:36:37

#50 lovemiku  [ 16-07-2011 - 11:36:37 ]







1.โรงเรียนรัฐบาล เรียนหนัก วันละ 7-8 คาบ (แต่ เราก็เป็น)ใช่โรงเรียน(เอกชน)เค้ามี 7 วิชา

2.เมื่อมีคาบว่าง คุณครูวิชาใดวิชาหนึ่ง มักขอ (เป็นอีกเช่นกัน)ทามไมไม่รู้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

3.รร.เอกชน เด็กนักเรียนไม่เคร่งกฏ(แต่ คณะ ผู้บริหารเคร่ง)จริง ตอนนี้เบื่อมากๆเลย


p-o-o
#51
16-07-2011 - 17:38:26

#51 p-o-o  [ 16-07-2011 - 17:38:26 ]






ดันกระทู้จ้า ตกแล้วๆ



ไม่เล่นบอร์ดนี้แล้วน้อออ
jojoloveRD
#52
16-07-2011 - 19:22:01

#52 jojoloveRD  [ 16-07-2011 - 19:22:01 ]





79.เด็กไทยไปโรงเรียน และ มหาวิทยาลัย จากการสำรวจแล้ว
พบว่าปัจจัยคือ เพื่อน เท่านั้น

ถูก!!!



กำลังดาวน์โหลด..
p-o-o
#53
20-07-2011 - 20:09:06

#53 p-o-o  [ 20-07-2011 - 20:09:06 ]






`10คนที่เก่งที่สุดในโลก.. ~






10. Elaina Smith: ผู้ให้คำปรึกษาปัญหาชีวิตอายุ 7 ขวบ

สถานีวิทยุท้องถิ่นได้เสนองานให้คำ ปรึกษาปัญหาชีวิตกับหนูน้อย Elaina เมื่อเธอโทร.

เข้ามาให้คำแนะนำกับหญิงสาวคนหนึ่งที่โทร. มาปรึกษาสถานีเรื่องที่เธอถูกแฟนทิ้ง

คำแนะนำง่าย ๆ ของ Elaina คือการบอกให้หญิงสาวผู้นั้นออกไปโยนโบว์ลิ่งกับเพื่อน

และก็ดื่มนมสักแก้วนึง โต ๆ และนั่นทำให้เธอได้เวลาจัดรายการแก้ปัญหาชีวิตรายสัปดาห์จากสถานีจนได้รับ

ความนิยมจากผู้ฟังนับพัน เธอรับปรึกษาตั้งแต่ปัญหาเรื่องจะทิ้งแฟนอย่างไร จะทำยังไงเมื่อเลิกกับแฟน

ไปจนกระทั่งปัญหากลิ่นตัวของพี่น้องในบ้าน ครั้งหนึ่งได้มีคนฟังโทรศัพท์มาถาม Elaina

ว่าทำยังไงเธอถึงจะได้แฟนของเธอกลับมา หนูน้อยบอกไปว่า ” ผู้ชายคนนั้นไม่มีค่าพอที่จะคร่ำครวญถึง

ชีวิตคนเรามันสั้นเกินกว่าจะไปเศร้าโศกถึงผู้ชายแค่คนเดียว”






9. Willie Mosconi: เริ่มชีวิตนักบิลเลียดอาชีพเมื่ออายุเพียง 6 ขวบ

William Joseph Mosconi หรือเจ้าของฉายา “Mr. Pocket Billiards” (pocket billiard = พูล)

หนูน้อยจาก Philadelphia, Pennsylvania มีบิดาเป็นเจ้าของโต๊ะพูลแต่กลับไม่ยอมให้เขาเล่นพูล แต่ Willie

ก็ไม่ยอมแพ้โดยเลี่ยงไปฝึกฝนด้วยหัวมันฝรั่งกับด้ามไม้กวาดเก่า ๆ ในครัวของแม่ ไม่นานนักพ่อของเขา

ก็ได้เห็นความเป็นอัจริยะ จึงได้จัดให้มีการแข่งขันท้าประลองเกิดขึ้น และ Willie

ก็สามารถเอาชนะคู่แข่งที่มีอายุ และประสบการณ์เหนือกว่าตนเองมากมายได้ ทั้ง ๆ ที่เขายัง

ต้องยืนบนกล่องต่อขาเพื่อให้สูงถึงโต๊ะจนเล่นได้ก็ตาม

ใน ปี 1919 ได้มีการจัดการแข่งขันระหว่างหนูน้อย Willie วัย 6 ขวบและแชมป์โลกอย่าง Ralph Greenleaf

แม้ Greenleaf จะเป็นผู้ชนะแต่ Willie ก็เล่นได้ดีมากและทำให้เขาก้าวเข้าสู่วงการ

บิลเลียดอาชีพตั้งแต่บัดนั้น และในปี 1924 Willie ก็ได้เป็นแชมป์ straight pool (พูล 15 ลูก)

เยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 11 ปี และมีงานเดินสายโชว์เทคนิคการเล่นอย่างสม่ำเสมอ ใน ช่วงปี 1941-1957

Willie ก็ได้ครองแชมป์ BCA (Billiard Congress of America) World Championship

ถึง15 สมัย เป็นผู้ริเริ่มเทคนิคใหม่ ๆ ในการตีบิลเลียด สร้างสถิติมากมาย และยังช่วยทำให้กีฬาบิลเลียด

กลายเป็นที่นิยมอีกด้วย ปัจจุบันเขาก็ยังเป็นเจ้าของสถิติสูงสุดในการตีลูกได้ติดต่อกัน

ถึง 526 ลูกในการแข่งขัน Straight Pool






8. Fabiano Luigi Caruana: แกรนมาสเตอร์หมากรุกอายุน้อยที่สุด

Fabiano หนุ่มน้อยสองสัญชาติ (อเมริกัน-อิตาลี) ปัจจุบันอายุ 16 ปี เขาได้เป็นแกรนมาสเตอร์ตั้งแต่ปี 2007

ตอนนั้นเขามีอายุเพีย 14 ปี 11 เดือน 20 วัน ถือได้ว่าอายุน้อยที่สุดในประวัติศาตร์ของอิตาลีและอเมริกา

และเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาสมาพันธ์หมากรุกโลก (World Chess Federation (FIDE)

ได้ประกาศว่า Fabiano นั้นมีอันดับโลกอยู่ที่ 2649 ทำให้ เขากลายเป็นนักหมากรุกที่มีอันดับ

สูงสุดสำหรับรุ่นอายุต่ำกว่า 18 ปี






7. Michael Kevin Kearney: รับปริญญาใบแรกเมื่ออายุ 10 ขวบและกลายเป็น

เศรษฐีจาก การเล่นเรียลลิตี้โชว์ หนุ่มวัย 24 ผู้นี้เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นผู้ที่เรียนจบมหาวิทยาลัย

ที่อายุน้อยที่สุดในโลกและเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเมื่ออายุเพียง 17 ในปี 2008 เขาชนะ้รางวัล

1 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการเล่นเกมโชว์ ที่ชื่อว่า Who Wants to be a Millionaire?

นอกจากนี้เขายังทำสถิติโลก ไว้อีกหลายอย่าง Kearney เริ่มพูดคำแรกเมื่ออายุ 4 เดือน

เมื่ออายุได้ 6 เดือน เขาบอกกับกุมารแพทย์ของเขาว่า “ผมติดเชื้อที่หูซ้ายฮะ” อายุ 10

เดือนก็เริ่มเรียนเขียนอ่าน อายุ 4 ขวบ ได้เข้าร่วมการทดสอบ

ทางคณิตศาสตร์ของสถาบัน Johns Hopkins และได้คะแนนเต็ม เรียนจบไฮสคูล เมื่ออายุ 6 ขวบ

และเข้าเรียนที่ Santa Rosa Junior College จนจบปริญญาเมื่ออายุ 10 ขวบ ในปี 2006

ชื่อเสียงของเขาดังไปทั่วโลกเมื่อเขาเล่นเกมออนไลน์ Gold Rush

จนชนะและได้รางวัล 1 ล้านเหรียญเป็นคนแรก






6. Saul Aaron Kripke: Harvard( มหาวิทยาลัยอันดับ1 ของโลก)

เชิญให้ไปสมัครเป็นอาจารย์ขณะที่ยังเรียนไฮสคูล

Kripke เป็นลูกชายของพระแรบไบ เกิดที่นิวยอร์คและโตที่ Omaha รัฐ Nebraska

เริ่มศึกษาพีชคณิตเมื่อตอนอยู่เกรด 4 และพอจบชั้นประถมก็เรียนรู้เรขาคณิตและแคลคิวลัสจนทะลุปรุโปร่ง

และเริ่มหันไปให้ความสนใจกับปรัชญา Kripke เขียนบทความหลายชิ้นทั้ง

ในเรื่องของอรรถศาสตร์ (semantics) และตรรกวิทยาแบบ modal logic ในขณะที่มีอายุเพียง 16 ปี

และหนึ่งในผลงานด้านตรรกวิทยานั้นทำให้เขาได้รับจดหมายเชิญจากภาควิชาคณิตศาสตร์

ของมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด เชิญชวนให้เขาไปสมัครเป็นอาจารย์ ซึ่งเขาก็ได้เขียนตอบปฎิเสธไปว่า

“แม่ผมบอกว่าให้ผมเรียนให้จบไฮสคูลและมหาวิทยาลัยเสียก่อนดีกว่า”

และเมื่อเขาเรียนจบไฮสคูลเขา ก็เลือกเรียนต่อที่ฮาร์วาร์ด Kripke ได้รับรางวัล Shock Prize

ซึ่งเป็นรางวัลทางด้านปรัชญาที่เทียบ ได้กับรางวัลโนเบล ปัจจุบันเขาได้รับการยกย่องว่า

เป็นปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกที่ยังมีชีวิตอยู่






5. Aelita Andre : หนูน้อยที่มีผลงานภาพออกแสดงในแกลลอรี่มีชื่อเสียง ด้วยวัยเพียง 2 ขวบ

ศิลปินแนว Abstract อายุเพียง 2 ขวบผู้นี้ได้กลายเป็นบุคคลที่ชาวออสเตรเลียกล่าวถึงเป็นอันมาก

เมื่อผลงานของเธอได้ออกแสดงใน Brunswick Street Gallery ใน Melbourne’s Fitzroy

Mark Jamieson ผู้อำนวยการของแกลลอรี่ดังกล่าวได้เห็นภาพที่ Nikka Kalashnikova

นักถ่ายภาพคนหนึ่งที่มีงานแสดงในแกลลอรีนำมาให้ดูและเขาก็ชอบจนตกลงใจที่จะ

จัดการแสดงภาพเหล่านั้น จนเมื่อได้มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์งานในนิตยสารต่าง ๆ แล้ว

เขาจึงได้ทราบว่าเจ้าของผลงาน คือลูกสาวของ Kalashnikova นั่นเอง และมีอายุเพียง 22 เดือน

แม้ Jamieson รู้สึกอับอายไม่น้อย แต่ก็ตัดสินใจที่จะแสดงผลงานของหนูน้อยต่อไป






4. Cleopatra Stratan : นักร้องเด็กอายุเพียง 3 ขวบ มีรายได้ 1,000 ยูโรต่อเพลง (47,000-48,000 บาท)

Clepotra เกิดเมื่อ 6 ตุลาคม 2002 ที่เมืองคีชีเนา ประเทศมอลโดวา

เป็นลูกสาวของนักร้องเชื้อสายมอลโดวา-โรมาเนีย เธอเป็นนักร้องอายุน้อยที่สุดที่ประสบความสำเร็จ

ด้วยอัลบั้มในปี 2006 ของเธอที่ชื่อว่า”At the age of 3″ และยังเป็นเจ้าของสถิติศิลปินอายุน้อยที่สุด

ที่เปิดการแสดงสดตลอด 2 ชั่วโมงต่อหน้าผู้ชมจำนวนมาก เป็นศิลปินเด็กที่ค่าตัวสูงสุด

เป็นศิลปินอายุน้อยที่สุดที่จะได้รับรางวัล MTV และเป็นศิลปินที่อายุน้อยที่สุดที่มีเพลงติดชาร์ต

อันดับหนึ่งในประเทศโรมาเนีย






3. Akrit Jaswal : ศัลยแพทย์อายุ 7 ขวบ

Akrit Jaswal เป็นชาวอินเดีย และได้รับการขนานนามว่า “เด็กผู้ชายที่ฉลาดที่สุดในโลก”

เพราะมี IQ ถึง 146 และได้รับการยอมรับว่าเป็นคนที่ฉลาดที่สุดในเด็กที่อายุเท่า ๆ กันในอินเดีย

ประเทศที่มีประชากรนับพันล้านคน Akrit กลายเป็นจุดสนใจของสาธารณะในปี 2000

เมื่อเขาได้ทำการรักษาคนไข้ คนแรกที่บ้านของเขาเองเมื่อมีอายุเพียง 7 ขวบ คนไข้เป็นเด็กผู้หญิงอายุ 8 ขวบ

มีฐานะยากจน ไม่มีเงินพอที่จะไปหาหมอได้ มือของเธอถูกไฟลวกทำให้นิ้วมือกำแน่นติดกัน Akrit ในตอนนั้น

ยังไม่ได้เรียนแพทย์อย่างเป็นทางการและยังไม่มีประสบการณ์ในการผ่า ตัดใด ๆ ทั้งสิ้น

แต่เขาก็สามารถทำให้นิ้วมือของเด็กหญิงคลายออกมาได้และใช้มือได้เป็นปกติอีก ครั้ง ขณะนี้ Akrit

กำลังเรียนปริญญาตรีวิทยาศาสตร์อยู่ที่ วิทยาลัย Chandigarh

และเป็นนักศึกษาที่อายุน้อยที่สุดที่มหาวิทยาลัยอินเดียเคยรับเข้าเรียน






2. Gregory Smith: ผู้ได้รับการเสนอชื่อให้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ เมื่ออายุ เพียง 12 ปี

Gregory เกิดในปี 1990 อ่านหนังสือออกตั้งแต่อายุ 2 ขวบ และเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเมื่ออายุ 10 ขวบ

ความเป็นอัจฉริยะของเขานั้นยังไม่ได้ครึ่งของเรื่องราวของเด็กหนุ่มคนนี้ เมื่อเขาตัดสินใจ

ออกเดินทางไปทั่วโลก เพื่อรณรงค์เรื่องสันติภาพและสิทธิ เด็ก Gregory Smith เป็นผู้ก่อตั้ง

International Youth Advocates ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้การสนับสนุนหลักการแห่งสันติภาพ

และความเข้าอกเข้าใจในระหว่างเยาวชนทั่วโลก เขาเคยได้พบกับผู้นำคนสำคัญอย่าง Bill Clinton

และ Mikhail Gorbachev และยังเคยปฐกถา ต่อหน้าที่ประชุม UN อีกด้วย จากการทำงานด้านมนุษยธรรมนี้

ทำให้เขาได้ถูกเสนอชื่อให้รับรางวัล โนเบลสาขาสันติภาพ ถึง 4 ครั้ง แต่ความสำเร็จครั้งล่าสุดที่

เขาเพิ่งได้รับคือ... มีใบขับขี่เป็นของตัวเอง ได้ซะทีนั่นเอง







1. Kim Ung-Yong: เข้ามหาวิทยาลัยเมื่ออายุ 4 ขวบ จบปริญญาเอกตอนอายุ 15 และมี IQ สูงที่สุดในโลก

Kim Ung-Yong เกิดในปี 1962 และอาจจะถือได้ว่าเป็นมนุษย์ที่ฉลาดที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่ โดย

Guinness Book of World Records ได้บันทึกว่าเขามี IQ สูงที่สุดในโลกคือสูงกว่า 210

คิมอ่านภาษาญี่ปุ่น เกาหลี เยอรมัน และอังกฤษ ได้ตั้งแต่ 4 ขวบ ตอนวันเกิดครบ 5 ขวบ

เขาก็สามารถแก้โจทย์แคลคิวลัส (differential and integral calculus) ที่ซับซ้อนได้

หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้ไปออกรายการทีวีญี่ปุ่นแสดงสามารถทางภาษาจีน สเปน เวียดนาม ตากาลอก

เยอรมัน อังกฤษ ญี่ปุ่น และเกาหลี คิม เป็นนักเรียนรับเชิญในชั้นเรียนวิชาฟิสิกส์ที่มหาวิทยาลัย Hanyang

ตั้งแต่อายุ 3 – 6 ขวบ พออายุ 7 ขวบ NASA ได้เชิญเขาไปอเมริกาและเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย Colorado

ในปี 1974 จนได้ Ph.D ด้านฟิสิกส์ ตั้งแต่ก่อนที่เขาจะมีอายุครบ 15 เสียอีก ระหว่างที่เรียนมหาวิทยาลัยเขาก็

เริ่มทำงานวิจัยที่ NASA ด้วย และทำต่อมาตลอดจนกระทั่งเขากลับเกาหลีในปี 1978 และได้ตัดสินใจเปลี่ยน

สาขาจากฟิสิกส์ไปเป็นวิศวกรรมโยธาและได้ศึกษาจนได้รับ ปริญญาเอกอีกเช่นกัน


CD : http://fws.cc/index.php?topic=883.0



แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-07-20 20:17:01


ไม่เล่นบอร์ดนี้แล้วน้อออ
p-o-o
#54
20-07-2011 - 20:23:35

#54 p-o-o  [ 20-07-2011 - 20:23:35 ]






::........เธอ "จี๊ด" มาก...........!!

























อยากจะบอกว่า She ช่างกล้า - -"


CD : siamzone


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-07-20 20:37:56


ไม่เล่นบอร์ดนี้แล้วน้อออ
p-o-o
#55
20-07-2011 - 20:29:31

#55 p-o-o  [ 20-07-2011 - 20:29:31 ]






::...ภาพเหมือนมากๆ เทพแบบสุดๆ จากศิลปิน Joe Simpson !!























ย้ำค่ะว่า วาด !! แบบว่าเหมือนจน จขกท. ดูไม่ออกเลย


CD : siamzone


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-07-20 20:30:01


ไม่เล่นบอร์ดนี้แล้วน้อออ
mukmomint
#56
20-07-2011 - 20:36:20

#56 mukmomint  [ 20-07-2011 - 20:36:20 ]




ดีจริงๆ อ่ะ



I like your smile... :)
lovemiku
#57
20-07-2011 - 20:47:27

#57 lovemiku  [ 20-07-2011 - 20:47:27 ]






โอ็ย นึกว่าถ่ายภาพนะเนี่ย


lovemiku
#58
20-07-2011 - 21:09:29

#58 lovemiku  [ 20-07-2011 - 21:09:29 ]






58.เด็กส่วนใหญ่ฝันมี รร.ที่กว้าง ต้นไม้ สบายๆ บรรยากาศดี การเรียน สนุก มีกิจกรรมทำ ใช่ๆ
98.ทุกโรงเรียนในประเทศไทย จะมี 1ใน 10 ที่จะเป็นนักเลง และผู้มีอิทธิพล โอ้ว เพื่อน ช ในห้องฉัน

เพิ่งอ่านจบ


lovemiku
#59
21-07-2011 - 22:15:06

#59 lovemiku  [ 21-07-2011 - 22:15:06 ]






ดันวันละนิดข้อมูลเยอะมาก~~~~~~~~~~~~~~~


mooham8247
#60
21-07-2011 - 22:22:28

#60 mooham8247  [ 21-07-2011 - 22:22:28 ]





ผมว่า มันยังไงๆ อยู่นะกระทู้นี้เนี่ย เหมือนเอา รายงาน หรือ เเบบงานที่เขา เขียนไว้มาเเปะ ยังไง ยังงั้นเลย ผมว่าน่าจะมีรูปหรือวีดีโอ

บ้างนะครับ



ลงข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ต้องสมัครเป็นสมาชิกและ login เข้าสู่ระบบก่อนถึงจะสามารถลงความเห็นได้
เข้าสู่ระบบสมัครสมาชิก



โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ