โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ
รวมสัตว์โลกในตำนาน
ponza1144
#101
10-10-2010 - 12:52:23

#101 ponza1144  [ 10-10-2010 - 12:52:23 ]





Naga (นากา - นาค)
ตำนานของนาคริเริ่มจากที่อินเดีย และสามารถพบได้ทั่วไปในตำนานของประเทศแถบเอเชียอาคเนย์ มันเป็นสัตว์กึ่งเทพและสัตว์กึ่งมนุษย์ที่อยู่ในรูปแบบของงูซึ่งมีกำลังมหาศาล นาคอาศัยอยู่ใต้ดินหรือในแม่น้ำและทะเลสาบ มันเป็นสัตว์ต่ำชั้นกว่ามนุษย์เพราะไม่มีวิญญาณ ดังนั้นจึงไม่สามารถรับความรู้ได้ นาคมีเจ็ดศีรษะ มีหงอนเหมือนงูเห่า และรูปร่างคล้ายกับไฮดรา มันมักจะปรากฏในเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าซึ่งถูกวาดภาพเป็นพระพุทธเจ้านั่งอยู่
และได้รับการปกป้องจากนาค
 324202



นานๆครั้งเข้ามาเว็ปที ชอบกินเนื้อมากกว่าผักอะผิดเร...
ponza1144
#102
10-10-2010 - 12:53:17

#102 ponza1144  [ 10-10-2010 - 12:53:17 ]





Monstrous Wolves (สุนัขป่ายักษ์)
สุนัขป่าร่างยักษ์พบได้ในตำนานและนิทานพื้นบ้านหลายเรื่อง จากตำนานของชาวนอร์ส Fenris หรือ Fenrir (เฟนริล หรือ เฟนริร์) ผู้เป็นลูกชายของเทพโลกิกับยักษ์ตัวเมีย ได้ถือกำเนิดมาและมีกำลังมากผิดปกติ เหล่าทวยเทพกลัวเขาและพยายามล่ามโซ่แต่เขาก็กระชากโซ่ทุกเส้นจนขาดสะบั้น สุดท้ายเหล่าเทพจึงให้คนแคระหลอมโซ่เวทมนตร์เรียกว่า Gleipnir ที่บางแต่แข็งแกร่ง เฟนริลยอมถูกล่ามด้วยโซ่เวทนั้นหากมีเทพสักองค์ยอมวางมือไว้ในปากของมัน เทพแห่งสงครามนาม Tyr ยอมรับคำท้านั้น เฟนริลพยายามกระชากโซ่แต่ไม่สามารถอะไรโซ่เวทมนตร์ได้ จึงโกรธและกัดมือของ Tyr ขาด ในช่วงสงครามแร็กนาร็อคเฟนริลทำลายโซ่เวทมนตร์ลงจนได้ และออกมาฆ่าเทพโอดินกับ Vidar บุตรแห่งโอดิน

อีกเรื่องหนึ่งก็มาจากตำนานชาวนอร์สอีกเช่นกัน ว่ากันว่าสุนัขป่าตัวใหญ่สองตัวได้ไล่ตามพระอาทิตย์และพระจันทร์ผ่านสรวงสวรรค์ เมื่อมันไล่จับได้จะทำให้เกิดปรากฏการณ์สุริยคราสหรือจันทรคราส โอดินเรียกสุนัขทั้งสองตัวว่า Geri จอมตะกละ กับ Freki ผู้ละโมบ (Geri the Ravenous & Freki the Greedy)
 324204



นานๆครั้งเข้ามาเว็ปที ชอบกินเนื้อมากกว่าผักอะผิดเร...
jodykiss1
#103
10-10-2010 - 12:54:57

#103 jodykiss1  [ 10-10-2010 - 12:54:57 ]






วุ้นน่ารัก หลายสี


ArialRasen
#104
10-10-2010 - 12:56:43

#104 ArialRasen  [ 10-10-2010 - 12:56:43 ]




นกเพลิงอมตะ(Pheonix )

Pheonix เป็นสิ่งมีชีวิตที่คล้ายนก ปรากฏในตำนานของหลายๆชาติ ในลักษณะที่ คล้ายกันแต่แตกต่างกันในบางราย

ละเอียด ชื่อนี้ได้ระบุขึ้นในตำนานของพวกอียิปต์โบราณ ก่อนในฐานะของ!เทพในตำนานซึ่งคู่ควรแก่การบูชา ยกย่อง

เคารพ เกี่ยวข้องกับ เทพแห่งไฟ ดังนั้นจะสังเกตได้ว่า ขนนกของฟีนิกส์นั้นจะออกเป็นประกาย เหลืองทอง คล้าย

เปลวไฟ บ้างก็ว่าปกคลุมด้วยแปลวไฟ ทั้งตัวทีเดียว นกฟีนิกส์นี้เป็นสัญลักษณ์แห่ง ความเป็น อมตะ มีชีวิต

ยั่งยืนนิรันดร์ (จะไปคล้ายกับนกหงศ์หยก ของตำนานจีน ที่เชื่อว่าคู่กับมังกรไง อีกอย่างคือนกหงส์ หยกของจีนมี

ลักษณะ คล้ายนกฟีนิกส์มากจน คิดว่าน่าจะเป็นตัวเดียวกัน แต่แยกออกไป ตามความเชื่อของแต่ละท้องถิ่น) ขนาด

ของนกฟีนิกส์นี้จะมีขนาดเท่านกอินทรีย์ตัวโต จงอยปากและส่วนขาเป็นสีทอง ประกายขนสีแดงถึงเหลืองทอง มีเสียง

ร้องที่ไพเราะดังเสียงดนตรี เป็นสิ่งมีชีวิต ที่มีอายุเป็นอมตะ รูปร่างสวยสง่างาม บางครั้งหยิ่งผยอง บางครั้งเปี่ยมด้วย

ความเป็นมิตร บางตำนานเล่าว่านกนี้สามารถ ฟื้นชีวิต ให้กับผู้ตายได้ และสามารถฟื้นพลังทั้งหมดให้กลับสู่ ปกติได้

เนื่องจากเป็น!เวทย์ตัวหนึ่งภายใต้ เทพแห่งไฟ บางครั้งจะ พบว่าสามารถใช้มนตร์ไฟได้ ฟีนิกซ์มีชีวิตอยู่ได้ยาวนาน

มาก เพราะ มันสามารถฟื้นคืนชีพได้ เมื่อ ร่างกายสิ้น อายุขัย ตัวก็จะลุกเป็นไฟ จากนั้นฟีนิกซ ์ ก็จะฟื้นจากกองขี้เถ้า

มาเป็นลูกนก ใหม่ ฟีนิกซ์เป็น!ที่นิสัยอ่อนโยน เพลงของ ฟีนิกซ์มีเวทย์มนต์สามารถกระตุ้นความกล้าหาญ แห่งจิตใจ

บริสุทธิ์ และทำให้เกิดความกลัวในจิตใจที่คิดร้าย น้ำตาของนก ฟีนิกซ์มีพลังในการรักษาบาดแผลได้


ponza1144
#105
10-10-2010 - 12:57:15

#105 ponza1144  [ 10-10-2010 - 12:57:15 ]





mermaid (เงือก)
....นาง เงือก (mermaid) เป็นสัตว์โลกอยู่ในทะเลในจินตนาการ มีศรีษะและลำตัวท่อนบนเป็นผู้หญิงสวย ท่อนล่างเป็นปลา ภาษาเยอรมันเรียกนางเงือกว่า meerfrau และเดนมาร์กคือ maremind

....โจนส์ ระบุว่านางเงือกคือเทพธิดาแห่งทะเล มักปรากฏตัวขึ้นเหนือผิวน้ำ มือหนึ่งถือหวีสางผม มือหนึ่งถือกระจก มีลักษณะคล้ายไซเรน (siren - ปีศาจทะเล ครึ่งมนุษย์ผู้หญิง ครึ่งนก มีเสียงไพเราะมาก ล่อลวงคนไปสู่ความตาย ในนิทานปรัมปราของกรีก)

....แต่เดิมนางเงือก อาจจะเป็นธิดาของพวกเคลต์ (ชาวไอริชโบราณ) นอกจากนี้ตำนานเกี่ยวกับนางเงือกมาจากเรื่องเล่าของพวกกะลาสีด้วย ซึ่งเกี่ยวข้องกับความหายนะของมนุษย์ (Jobes 1961: 1093) แต่โรสกล่าวว่า บางครั้งนางเงือกก็ให้คุณต่อมนุษย์ มนุษย์ที่ช่วยเหลือนางเงือกมักได้รับความรู้เรื่องสมุนไพรรักษาโรคซึ่งเยียว ยาไม่ได้แล้ว ได้ของกำนัล หรือนางเงือกช่วยเตือนให้ระวังพายุ (Rose 1998: 218)


....บางครั้งนางเงือกก็ได้รับสมญานามว่าพรหมจารีแห่งทะเล มีลักษณะสวยงาม กระจกของนางเงือกคือสิ่งที่แทนวงพระจันทร์ และผมที่สยายยาวคือสาหร่ายทะเล หรือรังสีบนผิวน้ำ (Jobes 1961: 1093) แต่บางครั้งก็กล่าวว่ากะลาสีเรือเดินทางไปในเรือนานๆเข้า ไม่ได้เห็นผู้หญิงเลยก็เกิดภาพหลอนขึ้นมา นั่นคือนางเงือกไร้ตัวตนอย่างสิ้นเชิง แต่พวกเดินทางทางเรือเกิดจินตนาการเพราะว้าเหว่คิดถึงครอบครัว

....ใน อดีตการเล่าขานตำนานของเงือกส่วนมากจะคล้ายๆกันคือสาวน้อยที่โผล่พ้นน้ำด้วย ท่อนบนเปลือยเปล่าแต่ท่อนล่างที่อยู่ใต้น้ำนั้นเป็นปลาในวรรณคดีไทยก็กล่าว ถึงเงือกไว้ว่าเป็นสาวงามที่สวยสะอาด ท่อนบนเป็นมนุษย์ท่อนร่างเป็นปลามีประทุมถันอวบและที่สำคัญเป็นเอกของเรื่อง พระอภัยมณีเป็นต้นเหตุของเหตุการณ์ทั้งหมดและกำเนิดสุดสาครตัวเอกของเรื่อง (ตกลงจะเล่าเรื่องอะไรกันแน่ )


....หลักฐานที่พบจากหนังสือ พิมพ์เซ้าแอฟริกัน ฟรีเทอร์เรียนิวส์ ฉบับวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 1977 รายงานว่ามีคนพบเงือกตนหนึ่งขึ้นมาเหนือน้ำขณะที่ทะเลคลั่งและท้องฟ้ามีแต่ ดาวมีร่างท่อนบนเป็นหญิงสาวแสนสวยลอยเหนือผิวน้ำสักพักก็จมหายไปแต่เห็นมี ส่วนที่คล้ายหางของปลาชูขึ้นแล้วจมหายลงไปในทะเล ....ตาม ตำนานเกี่ยวกับเงือกนั้นกล่าวไว้ว่าเทพโอนเน่ส์เทพเจ้าแห่งท้องน้ำเทพเจ้า แห่งแสงสว่างและสติปัญญามีบุตรสาว และบุตรชาย ที่มีรูปร่างคล้ายปลา ให้ดูแลท้องน้ำในมหาสมุทรและปกครองทะเลทั้งหมด เรื่องนึงที่น่าประหลาดเกิดขึ้นในปี ค.ศ.1608 มีคนพบคนครึ่งปลากลุ่มใหญ่ออกมาปิดปากถ้ำที่เซ็นไอเว่ส์แถบชายฝั่ง เบ็นโอเวอร์เนื่องจากเรือหลายลำได้รับคำสั่งให้ไปจับคนนอกศาสนาหรือเหล่าเพ แกนมาทำโทษและจัดการฆ่าทิ้งศพลงทะเล เหตุการณ์นี้ยังเป็นที่งุนงงมาถึงปัจจุบันว่าจริงหรือไม่

....เงือก เป็นเผ่าพันธุ์ของอมนุษย์สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกอีกชนิดหนึ่ง ว่ากันว่าเงือกพวกนี้อาจมีถิ่นกำเนิดบนฝั่ง บริตานี และว่ายข้ามช่องแคบอังกฤษไปยังคอร์วอลล์ จึงทำให้ผู้คนที่นั่นขนานนามว่า เมอร์เมด-เมอร์แมน(เงือกตัวเมีย-ตัวผู้) อันเป็นคำผสมของแองโกล-ฝรั่งเศส และจากคอร์นวอลล์นี่เอง เงือกก็แพร่พันธุ์ไปจนถึงฝั่งตะวันตกของเกาะอังกฤษ ไปถึงรอบๆสกอตแลนด์ตอนเหนือสู่สแกนดิเนเวีย มีบางครั้งที่เราอาจเห็นเงือกในจุดต่างๆตลอดแนวฝั่งยุโรปด้วย อาจเป็นเพราะเงือกชอบอากาศเย็นและแนวฝั่งแอตแลนติกของอังกฤษกับไอร์แลนด์ (อันหลังนี่เรียกเงือกว่าเมอร์โรว์และเมอรูชา)

....ในต่างถิ่นมี ตำนานเล่าถึงกำเนิดของเงือกต่างๆกัน นิทานพื้นบ้านของโรมันบอกว่า ในสงครามกรุงทรอย เศษไม้จากซากเรือรบที่ถูกเผาวอดกลายสภาพเป็นเลือดเนื้อและเกิดเป็นสิ่งมี ชีวิตคือ เงือก ชาวไอริชเล่าว่านางเงือกคือผู้หญิงนอกศาสนาที่ถูกเนรเทศออกไปจากแผ่นดิน บางท้องถิ่นมีเรื่องเล่าว่า ชาวเงือกคือ ลูกๆของฟาโรห์ที่จมน้ำในทะเลแดง



....ใน ตำนานเทพของกรีก ต้นตระกูลเงือกคือ ไตรตอน ซึ่งเป็นลูกของ โพเซดอน เทพเจ้าแห่งท้องทะเล กับพรายน้ำสาวตนหนึ่ง ผู้คนมักจินตนาการว่าไตรตอนมีหางเป็นปลา ไว้หนวดเครายาว ทรงอำนาจในท้องทะเลเหมือนพ่อ ไตรตอนอาศัยอยู่ในปราสาททองคำที่ซ่อนตัวอยู่ก้นทะเล มีตรีศูล(ฉมวกสามง่าม)เป็นอาวุธ คอยเป่าแตรหอยสังข์เพื่อควบคุมทะเลให้สงบหรือบ้าคลั่ง ไตรตอนจึงมีสมญาว่า นักเป่าแตรแห่งท้องทะเล

...แต่ตำนานที่เก่าแก่กว่าเล่าว่า ชาวเงือกยุคบุกเบิกคือ โอนเนส (Oannes) เทพแห่งทะเลของชาวบาบิโลน (อาณาจักรโบราณในแถบเอเชียตะวันตกเฉียงใต้) ซึ่งมีพลังอำนาจต่อดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ โอนเนสเป็นตัวแทนของดวงอาทิตย์ มีร่างกายเป็นมนุษย์และมีศีรษะเป็นปลา (บ้างก็ว่าสวมเสื้อคลุมปลา) โอนเนสจะปรากฏกายขึ้นมาจากทะเลในยามเช้าและกลับลงไปในทะเลตอนพลบค่ำทุกวัน ต่อมา เทพอียา(Ea) ซึ่งมีลักษณะครึ่งคนครึ่งปลาเช่นกันก็ได้ค่อยๆเข้ามามีบทบาทแทนที่โอนเนส ซึ่งถือกันว่า เทพเจ้าอียา เป็นบรรพบุรุษของเงือก ส่วนเทพเจ้า อาทาร์การ์ติส (Atargartis) เป็นตัวแทนของดวงจันทร์ มีลักษณะครึ่งคนครึ่งปลาเช่นเดียวกัน สาเหตุที่เทพเจ้าต่างๆของชาวบาบิโลนมีลักษณะดังกล่าวนี้ เพราะพวกเขาเชื่อว่า เมื่อพวกเขาเสร็จสิ้นภารกิจในแต่ละวัน ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ก็จะจมหายลงไปในทะเล ดังนั้นเทพเจ้าของเขาจึงควรมีรูปร่างลักษณะที่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ทั้งใน น้ำและบนบก....เรื่อง ราวเหล่านี้ล้วนเป็นปริศนาลี้ลับที่ไม่สามารถอธิบายได้ ความลึกลับนี้สืบทอดต่อเนื่องกันมาโดยผ่านทางเรื่องเล่าเกี่ยวกับเงือก กระจกที่นางเงือกใช้ส่องนั้นเป็นตัวแทนของดวงจันทร์ ซึ่งการโคจรของดวงจันทร์นั้นมีอิทธิพลต่อการเกิดน้ำขึ้นน้ำลง และความเชื่อมโยงกันระหว่างดวงจันทร์และนางเงือกนี้ได้ช่วยให้ตำนานของนาง เงือกมีความแปลกประหลาดพิศดารมากยิ่งขึ้น

....เมื่อศาสนาคริสต์ เริ่มก่อตั้งขึ้น ตำนานนางเงือกได้เปลี่ยนแง่มุมไปจากเดิม ตามความเชื่อของศาสนาคริสต์นั้น นางเงือกสามารถที่จะมีชีวิตจิตใจ และวิญญาณได้ แต่จะต้องสัญญาว่าจะอาศัยอยู่บนบกตลอดไป ไม่คิดจะกลับคืนสู่ท้องทะเลอีก ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ จึงถือเป็นการสร้างความทุกข์ทรมานใจให้แก่ตัวเธอเป็นอย่างยิ่ง

....มี เรื่องราวอันน่าเศร้าใจเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับนางเงือก ซึ่งไปเยี่ยมเยียนนักบวชรูปหนึ่งอยู่เป็นประจำ ณ สถานที่อันเป็นที่เคารพสักการะในเกาะไอโอนา (Iona) เกาะเล็กๆแห่งหนึ่งห่างออกไปจากประเทศสกอตแลนด์ เธอได้ขอชีวิต จิตใจ และวิญญาณจากนักบวชรูปนั้น และนักบวชก็สวดมนต์ขอพรให้แก่เธอ แต่เธอจะต้องละทิ้งท้องทะเลของเธอตลอดไป แม้ว่าเธอจะปรารถนาชีวิตและจิตใจมากเพียงใด แต่ก็ไม่สามารถละทิ้งทะเลไปได้ ตอนจบค่อนข้างเศร้าเล็กน้อย เธอได้ไปจากเกาะนั้น และน้ำตาของเธอได้กลายมาเป็นก้อนกรวดสีเขียวเทา หากมีใครพบก้อนกรวดดังกล่าวบนเกาะไอโอนา ก็จะเป็นที่ทราบกันดีว่า คือน้ำตาของนางเงือก ...หลัก ฐานอีกอย่างที่สนับสนุนเรื่องเงือกมีจริงเมื่อปี1685ได้มีชาวประมงพบซาก สัตว์ที่ดูคล้ายคนครึ่งปลานอนตายเกยชายฝั่งของฟิลิปปินไปทางตะวันตก และ ปี 1741ได้มีคนพบซากของปลามีหัวเป็นคนที่ฝั่งทางตอนใต้ของออสเตเรีย แต่ที่สำคัญเมื่อ ปี 1985 ได้มีคนค้นพบปลาชนิดหนึ่งมีหัวคล้ายๆหน้าของมนุษย์ตัวเป็นปลาต่อมาได้ให้ ชื่อปลาชนิดนี้ว่า HUMANFISH

คุณสมบัติของนางเงือก

....บางตำนานกล่าวถึงนางเงือกว่าเสียงของนางเงือกจะใสกังวาลและชักนำพากลาสีเรือแตกลงสู่ห่วงน้ำวงใต้ทะเล

....บางตำนานกว่าวว่า เสียงของนางเงือกไพเราะและขับร้องพาเรือลงสู่วังน้ำวน

....บางตำนานกล่าวว่า นางเงือกเป็นแค่ปล่าพยูน แต่ข้อนี้ตัดทิ้งไปได้เพราเราคิดว่าคงไม่มีทางมองพยูนเป็นคนได้หรอก -*-

....บางตำนานกล่าวว่า น้ำตาของนางเงือกจะเป็นไข่มุกแห่งพลังในการคุ้มครองจากปีศาจร้าย

....บาง ตำนาน (รุ้สึกจะหลายที่แต่จำไม่ได้ว่ามาจากไหนบ้าง -*-) มงกุฏของนางเงือกทำมาจากใบไม้ใต้ท้องทะเลมีพลังในการฟื้นนพลังและรักษา

....นางเงือกสามารถว่ายรวมกันเพื่อสร้างน้ำวนได้ และยังสามารถทำให้เรือจมลงได้

....บางตำนานยังกล่าวว่านางเงือกเป็นธิดาของโพเซดอนอีกด้วย
 324215



นานๆครั้งเข้ามาเว็ปที ชอบกินเนื้อมากกว่าผักอะผิดเร...
otimus
#106
10-10-2010 - 13:00:11

#106 otimus  [ 10-10-2010 - 13:00:11 ]




น่าสนใจมาก ๆ เลยครับ ขอบคุณครับ


ponza1144
#107
10-10-2010 - 13:00:21

#107 ponza1144  [ 10-10-2010 - 13:00:21 ]






บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียด
วีนัส (Venus) หรือเทวี อโฟรไดท์ (Aphrodite) เป็นเทพธิดาแห่งความรักและความงาม สามารถสะกดเทพและมนุษย์ทั้งปวงให้ลุ่มหลง เรื่องกำเนิดของวีนัสมีแตกต่างกันหลายประการ

หากจะสืบสาวต้นกำเนิดของอโฟร์ไดท์ อาจต้องสืบสาวไปไกลกว่าตำนานของกรีกเสียอีก เนื่องจากนางมี ต้นกำเนิดมาจากดินแดนซีกโลกตะวันออก ว่ากันว่านางเป็นเทวีองค์แรกเริ่มของชนชาติฟีนีเซีย ที่มาตั้งอาณานิคมมากมาย ในดินแดนตะวันออกแถบตะวันออกกลาง ทราบกันมาว่านางเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเทวีของชาวอัสสิเรีย กับบาบิโลเนีย ที่มีนามว่า อีชตาร์ (Ishtar) และก็ยังเป็น อันหนึ่งอันเดียวกับเทวีของชาวไซโร-ฟีนิเซี่ยน ผู้มีนามกรว่า แอสตาร์เต (Astarte) จึงนับได้ว่าเป็น เทวีที่มีความสำคัญมากมาแต่ดึกดำบรรพ์

ตามมหากาพย์อีเลียดของโฮเมอร์ เทวีอโฟรไดท์ที่เป็นเทพธิดาของซูส เกิดกับนางอัปสร ไดโอนี (Dione)เทพธิดาแห่งความชุ่มชื้น บ้างก็เล่าเรื่องย้อนถึงตอนกำเนิดโลก มี Ge เป็นพระแม่ธรณี ซึ่งต่อมาเธอได้สร้างยูเรนัส ( ท้องฟ้าหรือสวรรค์ ) มาเป็นสวามี มีลูกๆตัวใหญ่มาก มีพลังมหาศาล ยูเรนัสผู้พ่อ กลัวว่าลูกจะแย่งอำนาจตนจึงจับลูกทั้งหมดขังไว้ใต้ดิน ลูกๆรุ่นนี้ ผู้ชายชื่อ ไตตานส์ (Titans ) ผู้หญิงเรียกว่า ไตตานิดส์ ( Titanides )

แม่ธรณีไม่พอใจ แต่ก็ยังมีลูกต่อไป คราวนี้ออกมาเป็นยักษ์ตาเดียว( Cyclops )ก็ถูกพ่อจับไปขังรวมกับพวกแรกอีก

แม่ธรณีจึงลงไปยุให้ลูกๆ ขึ้นมาแย่งอำนาจพ่อ มีลูกคนเล็กชื่อ โครนัส(Cronus หรือ Saturn พระเสาร์นั่นเอง) ที่ทำได้ จับพ่อมัดไว้ แล้วปล่อยพี่ๆเป็นอิสระ แบ่งเนื้อที่ในโลกกันครอบครอง

แม่ธรณีจะมีลูกรุ่นต่อไปเป็นยักษ์มีอาวุธครบมือ โครนัสทนไม่ไหวจึงไปตอนพ่อตนเอง โยนของของพ่อทิ้งลงในทะเล

ปรากฎเกิดอัศจรรย์ทะเลปั่นป่วน เกิดเป็นเทพธิดาวีนัส

บทกวีนิพนธ์ชั้นหลังๆจึงกล่าวว่า นางผุดขึ้นจากฟองทะเล เนื่องจากคำว่า Aphros อันเป็นที่มาของชื่อนางในภาษากรีกแปลว่า "ฟอง" แหล่งกำเนิดของนางอยู่ในทะเลบริเวณเกาะ ไซเธอรา (Cythera) จากนั้น นางถูกคลื่นซัดไปจนถึงเกาะ ไซปรัส (Cyprus) อาศัยเหตุนี้ เกาะทั้งสองจึงกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เกี่ยวกับวีนัส และบางทีนางก็มีชื่อเรียกตามชื่อเกาะทั้งสอง นี้ว่า ไซเธอเรีย (Cytherea) และ ไซเปรียน (Cyprian)

ด้วยความงามอันหาที่เปรียบมิได้ เนปจูนจึงนำเธอไปที่ยอดเขาโอลิมปุส อันเป็นที่อยู่ของเทพเจ้า ปวงเทพพากันลงมติให้เธอเป็น "เทพธิดาแห่งความงามและความรัก"

ปวงเทพหมายปอง พากันมาขอแต่งงานกับเธอ แต่เธอก็ปฎิเสธ จูปิเตอร์โกรธ เลยแกล้งให้เธอแต่งงานกับ วูลแค่น เทพแห่งงานช่าง ซึ่งเป็นคนหลังค่อม ขาเป๋ ในไม่ช้า วินัสจึงทิ้งเขาไป

เทพองค์แรกที่วีนัสพิศวาสและร่วมอภิรมย์ด้วยคือ เอรีส (Ares) หรือ มาร์ส (Mars) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งการสงคราม ( ซึ่งเป็นบุตรของซูสเทพบดี เกิดกับเจ้าแม่ ฮีรา ) จนให้ประสูติบุตรสอง ธิดาหนึ่งรวมเป็นวาม มีนามตามลำดับว่า อีรอส (Eros) หรือ คิวพิด (Cupid) แอนติรอส (Anteros) และ เฮอร์ไมโอนี (Hermione) หรือ ฮาร์โมเนีย (Harmonia)

ต่อมานางมีสัมพันธ์กับเทพเฮอร์มีส จนเกิดมีโอรสองค์หนึ่งนามว่า เฮอร์มาโฟร์ดิทัส (Hermahroditus) ในด้านของมนุษย์เทวีอโฟร์ไดที่ยังเคยแอบไปมีจิตพิศวาสกับบุรุษเดินดิน เช่น ไปชอบพอกับเจ้าชายชาวโทรยันนามว่า แอนคิซีส (Anchises) จนมีโอรสครึ่งเทพครึ่งมนุษย์ออกมานามว่า เอนิแอส(Aenias) ผู้เป็นต้นตระกลูของ ชาวโรมันทั้งหมด



นานๆครั้งเข้ามาเว็ปที ชอบกินเนื้อมากกว่าผักอะผิดเร...
ponza1144
#108
10-10-2010 - 13:01:29

#108 ponza1144  [ 10-10-2010 - 13:01:29 ]





บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียด
กาลครั้งหนึ่งมีเจ้าหญิงกรีกนัยน์ตาสีฟ้า มีนามว่า ไซคี เธอเป็นผู้ที่มีความงามมาก มีผู้คนแปลกหน้าต่างเดินทางมาเพื่อชมโฉม และหว่านโปรยกลีบกุหลาบบนทางเดินให้เธอ ยามที่เธอยิ้ม ทวยเทพที่เฝ้ามองเธอจากเทือกเขาโอลิมปุสยังพากันยินดี มีเพียงผู้เดียวที่ข้องขุ่นใจ คือ วีนัส ผู้เป็นเทวีแห่งความงาม เพราะเมื่อมองลงมายังวิหารทั้งหลายของเธอบนโลกมนุษย์ กลับว่างเปล่า เพราะพวกชายหนุ่มที่เควรจะนำดอกไม้มาลัยมาประดับที่แท่นบูชาของเธอพากันไปโปรยกลีบกุหลาบให้ไซคี วีนัสโกรธจึงให้บุตรชาย คือกามเทพ ไปทำร้ายไซคีด้วยลูกศรทองคำ



นานๆครั้งเข้ามาเว็ปที ชอบกินเนื้อมากกว่าผักอะผิดเร...
ponza1144
#109
10-10-2010 - 13:05:54

#109 ponza1144  [ 10-10-2010 - 13:05:54 ]





บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียด
ว่าด้วย…เรื่องเทพนิยายนี้ เราเพิ่งเริ่มศึกษานะคะ ซึ่งแปลมาจาก
เว็บ Wikipedia นะคะ ไม่ทราบว่ามันมีแปลอยู่แล้วรึเปล่า
ถ้าผิดพลาดประการใด ก็ต้องขออภัยเป็นอย่างสูง และ แนะนำกันได้นะคะ

Gaia มารดาแห่งโลก (อ่านว่า เก-อา หรือ ไก-อา) ซึ่งในกรีกมีความ
หมายว่า อาณาจักร หรือ โลก เธอคือ ‘ปฐมเทวี’ และเป็นสัญลักษณ์ของ
โลกอีกด้วย Gaia คือต้นกำเนิดของโลก และเทพผู้สร้างสรรค์โลก
ในตำนานกรีกโบราณ เป็นที่สักการะบูชาและนับถือเป็น “มารดาแห่งโลก”
ในโรมันเธอถูกสักการะบูชาในชื่อ Terra



ใน บทกวี Theogony ของ Hesiod กล่าวว่า หลังจาก Chaos
(กล่าวว่าเป็นเทพองค์แรกที่ปรากฎ) Gia เติบโตขึ้นเป็นพื้นฐานแห่ง
ความอมตะของเทพแห่งโอลิมปัส เธอให้กำเนิด Uranus, Pontus และ
Ourea ซึ่งทั้งสาม เกิดมาจากตัวเธอเอง โดยไม่พึ่งเพศชาย แต่หลัง
จากนั้น Hesoid กล่าวว่า เธอมีความสัมพันธ์กับลูกชายของเธอ Uranus



Gaia มีทายาทกับ Uranus ได้แก่ Oceanus, Coeus, Crius, Hyperion,
Iapetus, Theia, Rhea, Themis, Mnemosyne, Phoebe, Tethys.
หลังจากพวกเขา Cronus ก็ถือกำเนิดขึ้น อายุน้อยที่สุด และน่าเกรง
ขามที่สุด ในจำนวนลูกๆของเธอ และ “เขาเกลียดพ่อของเขา”



Hesiod ยังอ้างอิงว่า Gaia ได้ให้กำเนิดทายาทร่วมกับ Uranus
เป็นพวกยักษ์ตาเดียว (ไซคลอป) ด้วยได้แก่ Brontes, Steropes
และ Arges และอีก 3 เป็นพวก Hecatoncheires (ยักษ์ 100 มือ 50 หัว
ที่แข็งแรง และดุร้ายที่สุด) คือ Cottus, Briareos และ Gyges



Uranus ซ่อนพวก Hecatoncheires กับไซคลอปไว้ที่ Tartarus
(สถานที่ๆอยู่ใต้สวรรค์และโลก สถานที่ที่ลึกที่สุด มีหลุมและหุบเหว
ที่ถูกใช้เป็นคุกใต้ดิน กล่าวว่าเป็นสถานที่ที่วิญญานจะถูกพิพากษา
ซึ่งน่าจะเป็น นรก นั่นเอง) ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้เห็นแสงเดือนแสงตะวัน

นี่จึงเป็นเหตุผลที่สร้างความเจ็บปวดให้แก่ Gaia ดังนั้นเธอจึงสร้าง
หินเหล็กไฟสีเทา (หรือหินแร่ Adamantine) มาเปลี่ยนรูปร่างให้เป็นเคียว


Cronus รวบรวมพี่น้องทั้งหลาย ทำตามคำสั่งของเธอ แต่มีเพียง Cronus
ที่วัยเยาว์ที่สุดที่กล้าใช้เคียวที่เธอสร้างขึ้น และ ‘ตอน’ พ่อของเขาเอง

ด้วยเลือดกับน้ำอสุจิที่หยดลงมา Gaia ยังคงมีทายาทเพิ่มขึ้น คือ
Erinyes, Gigantes และนางไม้ต้นแอ๊ชนามว่า Meliae. หลังจาก Uranos
ถูก Cronus ขับไล่ ตัว Cronus เอง ก็ถูกกำหนดชะตาให้โดนลูกชาย
ของตัวเอง (Zeus) โค่นล้มเช่นกัน จะกล่าวถึงในตอนต่อไปค่ะ



ในระหว่างนั้น ไททั่นก็ปลดปล่อย ไซคลอปออกจาก Tatarus
และ Cronus ก็มอบรางวัลให้กับพวกเขา และได้เริ่มต้น “ยุคทอง”
หลังจากการตอน Uranus แล้ว Gaia ยังได้ให้กำเนิด Echidna, Typhon
ร่วมกับ Tatarus (น่าจะเป็นเทพที่อยู่ใน Tatarus ถูกบงการโดย Hades)
ให้กำเนิด Nereus, Thaumas, Phorcys, Ceto, Eurybia ร่วมกับ Pontus

ส่วนที่ Gaia + Uranus มีลูกออกมาจะเป็นพวก ไททั่น ค่ะ
นี่เป็น แผนผัง เหล่าลูกๆ เนื่องจากเยอะมากๆและเราคงใส่ไม่หมด


+ ส่วนมากต้องศึกษาเทพแต่ละองค์ต่อ จะเอามาลงครั้งต่อๆไปค่ะ อิอิ

Theogony คือ บทกวีแห่งการ “กำเนิดของพระเจ้า” ที่พรรณาถึง
ต้นกำเนิด และการลำดับวงศ์ตระกูล ของเทพเจ้ากรีกโบราณ ซึ่งถูก
แต่งขึ้นในราว 700 ปีก่อนคริสตกาล โดยกวีชื่อ Hesiod



นานๆครั้งเข้ามาเว็ปที ชอบกินเนื้อมากกว่าผักอะผิดเร...
ponza1144
#110
10-10-2010 - 13:08:15

#110 ponza1144  [ 10-10-2010 - 13:08:15 ]





...เฮร่า (Hera) หรือภาษาโรมันว่า จูโน (Juno) เป็นราชินีของเทพธิดาทั้งหลาย เพราะเป็นชายาของซูส


ฮีร่าเป็นธิดาองค์ใหญ่ของเทพไทแทนโครนัสกับเทพมารดารีอา ต่อมาในตอนหลังได้อภิเษกสมรสกับซูสเทพบดี อนุชาของนาง ทำให้นางกลายเป็นราชินีสูงสุดในสวรรค์ชั้นโอลิมปัสที่ไม่ว่าผู้ใดก็คร้ามเกรง เทวีฮีร่าไม่ชอบนิสัยเจ้าชู้ของซูส ด้วยเหตุที่ซูสเป็นคนเจ้าชู้ ทำให้ฮีร่ากลายเป็นคนขี้หึงและคอยลงโทษหรือพยาบาทคนที่มาเป็นภรรยาน้อยของซูสอยู่เสมอ


เมื่อแรกที่ซูสขอแต่งงานด้วยฮีร่าปฏิเสธ และปฏิเสธเรื่อยมาจนถึง 300 ปี วันหนึ่งซูสคิดทำอุบายปลอมตัว เป็นนกกาเหว่าเปียกพายุฝนไปเกาะที่หน้าต่าง ฮีร่าสงสารก็เลยจับนกมาลูบขนพร้อมกับพูดว่า "ฉันรักเธอ" ทันใดนั้นซูสก็กลายร่างกลับคืนและบอกว่าฮีร่าต้องแต่งงานกับพระองค์


แต่ทว่าชีวิตการครองคู่ของเทวีฮีร่ากับเทพปริณายกซูสไม่ค่อยราบรื่นเท่าใดนัก มักจะทะเละเบาะแว้งเป็นปากเสียงกันตลอดเวลา จนเป็นเหตุให้ชาวกรีกโบราณเชื่อกันว่า ในเวลาที่เกิดฟ้าคะนองดุเดือดขึ้นเมื่อไร นั่นคือสัญญาณว่าซูสกับฮีร่าต้องทะเลาะกันเป็นแน่ เพราะ 2 เทพนี้เป็นสัญลักษณ์ของสรวงสวรรค์ เมื่อท้องฟ้าเกิดอาเพศก็เหมาเอาว่าเป็นเพราะการขัดแย้งรุนแรงของ 2 เทพคู่นี้

แม้ว่าเทวีฮีร่ามีศักดิ์ศรีเป็นถึงราชินีแห่งสวรรค์หรือเทพมารดาแทนรีอา แต่ความประพฤติและอุปนิสัยของเจ้าแม่ไม่อ่อนหวานมี เมตตาสมกับเป็นเทพมารดาเลย โดยประวัติของเจ้าแม่นั้นมีทั้งโหดร้าย ไร้เหตุผล เจ้าคิดเจ้าแค้นและอาฆาตพยาบาทจนถึงที่สุด ผู้ใดก็ตามที่ถูกเทวีฮีร่าอาฆาตไว้มักมีจุดจบที่ไม่สวยงามนัก ว่ากันว่าชาวกรุงทรอยทั้งเมืองล่มจมลงไปเพราะเพลิงอาฆาตแค้นของเจ้าแม่ฮีร่านี้เอง สาเหตุเกิจาก เจ้าชายปารีสแห่งทรอยไม่เลือกให้เจ้าแม่ชนะเลิศในการตัดสินความงาม ระหว่าง 3 เทวีแห่งสวรรค์คือเทวีฮีร่า เทวีเอเธน่า และเทวีอโฟรไดที


รูปเขียนรูปสลักของชาวกรีกโบราณมักทำรูปของเจ้าแม่ฮีร่า เป็นเทวีวัยสาวที่สวยสง่า ซึ่งความจริงก็เป็นเช่นนั้น ว่ากันว่ามีคน หลงใหลความงามของเจ้าแม่จนคลั่งไคล้หลายคน โดยเฉพาะอิกซิออน (Ixion) ราชาแห่งลาปิธี (Lapithae) ต่อมาถูกซูสเทพบดี ลงโทษอย่างรุนแรง และบางทีอาจเป็นเพราะทรนงตนว่ามีสิริโฉมงดงามก็ได้ที่มำให้เทวีฮีร่าเป็นเดือดเป็นแค้นนักที่สวามีปันใจให้สตรีอื่น จึงต้องราวีอย่าถึงที่สุดเสมอ ความร้ายกาจของเจ้าแม่เคยถึงขนาดคิดปฏิวัติโค่นอำนาจของสวามีจนเกือบสัมฤทธิ์ผล
เรื่องมีอยู่ว่า เจ้าแม่โกรธแค้นความไม่ซื่อสัตย์ของสวามีขึ้นมาอย่างเต็มกลืน จึงร่วมมือกับเทพโปเซดอน จ้าวสมุทร เชษฐาของซูเอง และเทพอพอลโลกับเทวีเอเธน่าด้วย ช่วยกันรุมจับองค์เทพซูสมัดพันธการไว้แน่นหนา จนเป็นเหตุให้เทพปริณายกซูสจวนเจียนจะสูญเสีอำนาจอยู่รำไร ก็พอดีชายาอีกองค์ของซูสนามว่า มีทิส (แปลว่าภูมิปัญญา) ได้นำผู้ช่วยเหลือมากู้สถานการณ์ทันเวลา โดยไปพาอาอีกีออน (Aegaeon) ซึ่งเป็นอสูรร้อยแขนที่น่าประหวั่นพรั่นพรึงมาช่วยเหลือเทพบดีซูส อสูรตนนี้มีฤทธิ์อำนาจมากเสียจนเทพเทวาน้อยใหญ่ต้องยอมศิโรราบไปตาม ๆ กัน เมื่ออาอีกีออนมาแก้ไขให้ซูส และนั่งเฝ้าอยู่ข้างบัลลังก์ของไท้เธอ บรรดาผู้คิดกบฎปฎิวัติก็หน้าม่อย ชวนกันหนีหน้าไปหมด แผนการณ์จึงล้มครืนด้วยประการฉะนี้


องค์เทพซูสเองก็เคยร้ายกาจกับราชินีเทวีฮีร่าเหมือนกัน ทรงลงโทษลงทัณฑ์แก่เจ้าแม่อย่างไม่ไว้หน้าอยู่บ่อย ๆ นอกจากทุบตอย่างรุนแรงแล้ว ไท้เธอยังใส่โซ่ตรวนที่บาทของเจ้าแม่กับผูกข้อหัตถ์และพาหาติดกันมัดโยงโตงเตงอยู่บนท้องฟ้า จนเป็นเหตุให้เกิดตำนานเกี่ยกับเทพ ฮีฟีสทัส ขึ้นมาว่า จากการวิวาทครั้งนี้ เทพฮีฟีสทัสผู้เป็นโอรสเข้าขัดขวางมิให้พระบิดากระทำรุนแรงแก่พระมารดา ซูสเทพบดีที่กำลังโกรกริ้ว จึงจับตัวฮีฟีสทัสขว้างลงมาจากสวรรค์ กลายเป็นเทพพิการไปเลย


เทวีฮีร่านอกจากขี้หึงแล้ว ยังช่างริษยามากอีกด้วย ครั้งหนึ่งเมื่อซูสทรงมีราชธิดานามว่า เอเธน่า ออกมาได้โดยไม่ต้องพึ่งใคร ซึ่กระโดดออกจากเศียรของไท้เธอเอง เจ้าแม่ฮีร่าก็ริษยายิ่งนัก ตรัสว่าเมื่อสวามีทรงมีกุมารีด้วยองค์เองได้ นางเองก็มีได้เช่นกัน ทว่าบุตรที่เกิดจากตัวเจ้าแม่เองนั้นกลับมิได้สะสวย เรืองฤทธิ์เช่นเอเธน่า แต่เป็นอสูรร้ายน่าเกลียดน่ากลัวยิ่ง (แต่บาง ตำนานกล่าวว่าบุตรที่จากเทวีฮีร่าก็คือ ฮีฟีทัสนั่นเอง) คืออสูรร้ายไทฟีอัส (Typheus) ซึ่งผู้ใดเห็นก็หวาดกลัว เลยทำให้เทพปริณายกซูสกริ้วใหญ่ และการวิวาทบาดหมางก็เกิดขึ้นอีก


เจ้าแม่ฮีร่ามีโอรสธิดากับเทพบดีซูส 4 องค์ นามว่า ฮิ๊บบี้ (Hebe) อิลลิธธียา (Ilithyia) เอเรส (Ares) และฮีฟีสทัส (Hephaestus) เทพ 2องค์หลังนี้เป็นที่รู้จักกันดี เพราะเทพเอเรส คือเทพแห่งสงคราม ส่วนเทพฮีฟีสทัสคือเทพถลุงเหล็กหหรือเทพแห่งงานช่าง

แม้ว่าชีวิตสมรสของเจ้าแม่ฮีร่าจะไม่ราบรื่นนัก แต่ในฐานะที่เป็นราชินีหรือเป็นมารดาแห่งสวรรค์ ฮีร่าเป็นเทพที่คุ้มครองการแต่งาน มีหลายครั้งที่เธอคอยดลใจให้วีรบุรุษได้แสดงความกล้าหาญ จึงทำให้เป็นที่เคารพนับถือในเขตโอลิมปัสเทวาลัยที่เป็นที่บูชาขนาดใหญ่ที่สุดขอเทวีฮีร่าอยู่ที่เมืองอาร์กอสเรียกว่า เดอะฮีร่าอีอุม (Heraeum)


สัญลักษณ์ของฮีร่าคือ วัว นกยูง และสิงโต พฤกษาประจำตัวของเจ้าแม่คือผลทับทิม และนกแขกเต้า การเข้าถึงเทพและเทวีก็ไม่จำเป็นต้องอัญเชิญท่านมาเสมอไป ท่านก็อยู่กับเราเสมอ ถ้าเราเชื่อนะ ซึ่งวันนี้จะนำเสนอ!! แนะนำการเข้าถึงเทวี การปฏิบัติตัว ซึ่งมาจากความชอบของเทวี นิสัยของเทวี และพลัง ความคิดของเทวี อ่านเป็นความรู้สนุกๆจ้า

#
ทำให้บ้านของคุณเหมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เทวีจะรู้สึกถึงความสงบสันติภาพในบ้านของเธอ และรู้ว่าทำให้เธอรู้สึกถึงพลังงานและเติมเต็มพลังของเธอ ดังนั้น คุนเกียดงานบ้านไหม? ให้คิดว่าเป็นอะไรที่น่าสนุกอย่างหนึ่ง ทำเพื่อส่งจิตถึงเทวี อย่างน้อยก็มอบให้เธอซัก 30 นาทีต่อสัปดาห์เพื่อทำให้บ้าน
อบอวลไปด้วยความรู้สึกสันติภาพและสวยงาม หรืออาจจะลุกขึ้นมาจัดตู้ยาก็ยังดี วางกระถางต้นไม้สักต้นไว้ที่ริมหน้าต่าง

#
ให้หัดนำกฏแห่งสามมาใช้ในครอบครัวของคุณ สำหรับทุกๆการอย่างที่คุณพูดไม่ดีหรือไปวิจารณ์ใคร ก่อนจะพูดอะไรให้แน่ใจว่าสิ่งที่จะสะท้อนกลับมาเป็นคำพูดดีๆ

#
แบ่งเวลาสำหรับที่จะสนใจใครสักคนอย่างจริงจัง ใครที่คุณแคร์ รับฟังพวกเค้าด้วยความเต็มใจจากใจคุณ




-#
ความทรงจำเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวความสำพันธ์ระหว่างกันและกัน ดังนั้นปัดฝุ่นออกจากอลบัมรูป นำภาพต่างๆออกมา ภาพที่ไปเที่ยวตามที่ต่างๆด้วยกัน และให้นำความทรงจำเหล่านั้น และนำภาพความทรงจำที่คุณทนุถนอมนั้นกลับมา ให้เปล่งปลั่งในแสงสว่าง นำความรู้สึกกลับเข้ามาในจิตใจคุณอีกครั้ง ค่อยๆปราณีตมันออกมาจนกระทั่งสีสรรเหมือนจริง จากนั้นก็แบ่งปันกับคนรักของคุณ "จำได้ไหมตอนนี่เราไป..." ซึ่งถึงอยู่ในสถานการที่เลวร้าย ทะเลาะกันหรืออะไร ก็สามารถนำความทรงจำดีๆออกมาได้ & quot;ฉันคิดว่ามันช่างแสนดีแค่ไหนที่ช่วงเวลานั้นที่ฉันรู้สึกว่ามีคุณยืนอยู่ข้างฉันจริงๆเมื่อ...." (เธอเป็นเทวีที่คุ้มครองการแต่งงาน ดังนั้นแสดงออกถึงความรักที่คุณมีสิ!!)

ไม่สำคัญว่าวันๆคุณจะยุ่งสักเพียงไหน แบ่งเวลาเลี่ยงออกมาบ้างในแต่ละวัน ที่จะพูดคุยกับคนที่คุณแคร์เค้าจริงๆ ประมาณว่า ขอเวลาไม่กี่นาทีเพื่อที่จะให้ความสนใจอย่างเต็มที่!!กับเค้า ทุกสิ่งที่เค้าพูด คุณลองหยุดฟังบ้าง ตระหนักฟังอย่างเงียบๆ ซึ่งจะทำให้คุณน่ารัก และเป็นที่ชื่นชอบของผู้คน

#
เปลี่ยนจัดห้องน้ำของคุณใหม่ ไม่สำคัญว่าห้องนั้นจะเล็กสักเพียงไหน อย่างไรก็ตามเทวีเฮร่าเป็นที่รู้จักกันของเทวีแห่งสปา ลองซื้อของตกแต่งห้องน้ำ อ้างน้ำ เกลือ และ น้ำมัน หาผ้าเช็ดตัวผืนหนาๆที่หาได้ ตกแต่งอ่างอาบน้ำของคุณให้โอบล้อมไปด้วยแสงระยิบระยับของเทียนหอมให้ชื่นชมพลังแห่งการรักษาของเทวีที่โอบล้อมและอบอวลร่วมกับคุณในชีวิต

#
รู้จักบอกความรู้สึกของตัวเองต่อคนอื่นบ้าง และอะไรที่เราคาดหวังต่อเค้าบ้างในคนรักของคุณ เป็นการเปิดใจที่ดี

#
เช่นเดียวกับเทวี สนับสนุนและทำงานเพื่อจะช่วยพัฒนาสถาบันสังคมของคุณ แบ่งเวลา พลังและเงิน แต่ทำโดยตั้งจุดประสงค์เพื่อ จะให้โลกคงซึ่งสันติภาพและให้โลกนี้ดีขึ้นเพื่อใครๆ

# โอ้บล้อมตัวคุณด้วยสัญลักษณ์แห่งเทวี ให้นึกถึงเทวีด้วยความศรัทธา เช่นสวมใส่เสื่อผ้าด้วยสีสรรของเธอ และใส่ต่างหูเพชรในชุดของเธอแขวนขนนกยูงไว้ท้ายเตียงรอบๆ ซื้อมงกุฏสำหรับคุณมา และใส่เดินรอบบ้านจนกว่าจะรู้สึกเหมือนราชินี!! อย่าลืมว่า เทวีทรงอยู่ในตัวคุณด้วย ยามใดที่คิดถึงท่านจะอยู่กับเรา การทำนี้ไม่ใช่เผื่อยกตัวเองขึ้น แต่เป็นการเคราพเทวี

สัญลักษณ์แห่งเทวี


ทั่วไป
- ทางช้างเผือก
-ฤดูกาลต่างๆ
-รัดเกล้า(มงกุฏเพชร)
-สปา และห้องอาบน้ำ

สัตว์
- นกยูง
-วัง
-เหยี่ยว
-ปู
-หอยทาก หรืออะไรก็ตามที่มีกระดอง

พืช-ลิลลี่
-ป็อปปี่
-กุหลาบขาว
-ต้นเมเปิ้ล
-ดอกกุหลาบสีขาวทั้งหลาย

น้ำหอมหรือเครื่องหอม-กุหลาบ
-ไอริซ
-ชะมด
-myrrh
-มะลิ
-พืชที่ให้น้ำมันหอม

หินสีและโลหะ--เงิน
-ไข่มุก
-โกเมน
-ซิทริน
-อำพัน
-เพชร
-ธาตุทองคำขาว
-นิลสีน้ำเงิน

สี-ขาว
-royal blue
-ม่วง
-กุหลาบ
-เขียวมืด
-เงิน
-เทา


ศึกษาการเข้าถึงและสัมผัสสิ่งคนที่คุณแคร์ ไม่เกี่ยวกับเซ็ก แต่ด้วมความรักที่ยิ่งใหญ่ และเมตตา ผิวหนังเป็นจุดรับความรู้สึกที่ใหญ่ที่สุด

#
อย่ากลัวที่จะพูดสิ่งที่คุณคิด อะไรที่ชอบ หรือไม่ชอบ ให้พูดออกมาตรงๆอย่างฉลาด ทุกคนจะรู้สิ่งนี้เมื่อได้ไปยืนข้างๆเทวี

#ให้รู้ตัวว่าตนเองต้องการอะไร และพูดถึงมัน และแน่นอนสำหรับความสัมพันธที่ต้องการการปรับตัวซึ่งกันและกัน ถ้าเป็นเทวีเฮน่า จะไม่มีความเมตตาหรืออ่อนโอน เมื่อต้องการจะตัดความผิดพลาดถึงการกระทำที่ไม่ดีออกไป ให้ตั้งจิตจินตนาการว่าอะไรที่คุณต้องการ และคิดบ่อยๆ จนกว่าความคิดแง่บวกจะติดเป็นนิสัยคุณ และความปราถนาจะเป็นจริง



นานๆครั้งเข้ามาเว็ปที ชอบกินเนื้อมากกว่าผักอะผิดเร...
regunda
#111
10-10-2010 - 13:20:16

#111 regunda  [ 10-10-2010 - 13:20:16 ]




ขอบคุณมากนะค่ะที่เอามาให้อ่าน เราชอบพวกสัตว์ในตำนานแบบนี้มานานแล้ว แต่ไม่ว่างอ่านซักที ข้อมูลเยอะมากเลยค่า สงสัยต้องทยอยอ่าน


Nene
#112
10-10-2010 - 13:43:37

#112 Nene  [ 10-10-2010 - 13:43:37 ]





แกรมลินมีประวัติบ้างไหม


ponza1144
#113
10-10-2010 - 13:49:28

#113 ponza1144  [ 10-10-2010 - 13:49:28 ]





มีคับนี่เรยเกรมลิน ปีศาจในกรีโมวาล(ตำราไสยศาสตร์)ของยุโรป
 324325



นานๆครั้งเข้ามาเว็ปที ชอบกินเนื้อมากกว่าผักอะผิดเร...
ponza1144
#114
10-10-2010 - 13:50:03

#114 ponza1144  [ 10-10-2010 - 13:50:03 ]





แซคคูลบัส(ถ้าสคูลบัสเป็นรถโรงเรียน ฮา) ราชินีแห่งฝันร้าย สวยแต่เผ็ด
 324328



นานๆครั้งเข้ามาเว็ปที ชอบกินเนื้อมากกว่าผักอะผิดเร...
ponza1144
#115
10-10-2010 - 13:51:58

#115 ponza1144  [ 10-10-2010 - 13:51:58 ]





อิคูเบเตอร์ แมลงสังหาร มันชอบกินแต่เหยือที่เป็นผู้หญิง ผู้ที่โดนพิษจะแก่ตายภายใน 24 ชม.
 324329



นานๆครั้งเข้ามาเว็ปที ชอบกินเนื้อมากกว่าผักอะผิดเร...
ponza1144
#116
10-10-2010 - 13:53:04

#116 ponza1144  [ 10-10-2010 - 13:53:04 ]





เรวิแนนซ์ ยมทูตที่พายเรือ พาวิญญาณข้ามฝั่งไปยมโลก โดยต้องให้ค่าจ้างเป็นเงิน 1 เหรียญ(ในปากศพ).
 324331



นานๆครั้งเข้ามาเว็ปที ชอบกินเนื้อมากกว่าผักอะผิดเร...
ponza1144
#117
10-10-2010 - 13:55:31

#117 ponza1144  [ 10-10-2010 - 13:55:31 ]





เคลปี ม้าน้ำ พาหนะของชาวเงือก
 324338



นานๆครั้งเข้ามาเว็ปที ชอบกินเนื้อมากกว่าผักอะผิดเร...
ponza1144
#118
10-10-2010 - 13:57:13

#118 ponza1144  [ 10-10-2010 - 13:57:13 ]





ฟาฟิวเรียส มังกรน้ำ มังกรดึกดำบรรพ์ที่บินไม่ได้ อาศัยอยู่ในน้ำ
 324342



นานๆครั้งเข้ามาเว็ปที ชอบกินเนื้อมากกว่าผักอะผิดเร...
ponza1144
#119
10-10-2010 - 13:57:50

#119 ponza1144  [ 10-10-2010 - 13:57:50 ]





ก็อบลิน (Goblin) รู้จักกันดีในเรื่องสไปเดอร์แมน ปีศาจค้างคาวเจ้าแห่งรัตติกาล ผู้เฝ้าสุสานสยองขวัญ
คือเป็นพวกโน มที่มีรูปร่างวิกลวิการ พวกมันชอบเล่นสนุก แต่บางครั้งก็ชั่วร้ายและเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมสามารถทำอันตรายแก่ผู้คน รอยยิ้มของก็อบลินทำให้เลือดหยุดไหล เสียงหัวเราะทำให้นมบูดและผลไม้หล่น ก็อบลินมีต้นกำเนิดมาจากฝรั่งเศส

ตัวอย่างก็อบลินในภาพยนตร์ เช่น ตัวก็อบลินในเหมืองมอเรียในเรื่อง The Lord of The Ring หรือ Green Goblin ในเรื่อง Spider Man เป็นต้น

 324344


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2010-10-11 18:56:32


นานๆครั้งเข้ามาเว็ปที ชอบกินเนื้อมากกว่าผักอะผิดเร...
pee60213
#120
10-10-2010 - 14:06:32

#120 pee60213  [ 10-10-2010 - 14:06:32 ]






อยากรู้ว่าทำไมสฟิงค์ไม่มีจมูกคับ ??



I GOT 7 Jackson ♥

ลงข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ต้องสมัครเป็นสมาชิกและ login เข้าสู่ระบบก่อนถึงจะสามารถลงความเห็นได้
เข้าสู่ระบบสมัครสมาชิก



ข้อมูลเมื่อ 13th November 2024 13:18

โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ