โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ
คุณคิดว่าบนโลกนี้คำถามอะไรยากที่สุด?
lovemiku
#101
02-07-2011 - 21:26:43

#101 lovemiku  [ 02-07-2011 - 21:26:43 ]






quote : สุภัสสรา_

จริงหรือไม่จริงหนูก็ไม่รู้ค่ะ
แล้วใครตอบคำถามนี้ได้บ้างกวนๆนะคะ มีสองตายายอยู่บนยอดเขาสูงสองตายายนั้นไม่ได้เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่จะถามว่าสองตายายนั้นจะเอาไข่อะไรกิน
ตอบได้ให้หนึ่งดาว กวนๆ



lovemiku
#102
02-07-2011 - 21:29:29

#102 lovemiku  [ 02-07-2011 - 21:29:29 ]






quote : kpwkpw

quote : lovemiku

quote : kpwkpw

quote : lovemiku

quote : สุภัสสรา_

ทำไมไก่เกิดก่อนล่ะคะ


หนูคิดว่าคงจะเป็นพวก
อะตอม>ปลา>ปลาขึ้นบก>กลายเป็นไดโนเสาร์หรืออะไรไม่รู้>เริ่มเหมือนไก่>ไก่>แล้วก็ออกไข่


แล้ว อะตอม เกิดมาจากอะไรล่ะ ...


อะตอม (กรีก: άτομον; อังกฤษ: Atom) คือหน่วยพื้นฐานของสสาร ประกอบด้วยส่วนของนิวเคลียสที่หนาแน่นมากอยู่ตรงศูนย์กลาง ล้อมรอบด้วยกลุ่มเมฆของอิเล็กตรอนประจุลบ นิวเคลียสของอะตอมประกอบด้วยส่วนประสมระหว่างโปรตอนที่มีประจุบวกกับนิวตรอนซึ่งเป็นกลางทางไฟฟ้า (ยกเว้นในกรณีของ ไฮโดรเจน-1 ซึ่งเป็นนิวไคลด์ชนิดเดียวที่เสถียรโดยไม่มีนิวตรอนเลย) อิเล็กตรอนของอะตอมถูกดึงดูดอยู่กับนิวเคลียสด้วยแรงแม่เหล็กไฟฟ้า ในทำนองเดียวกัน กลุ่มของอะตอมสามารถดึงดูดกันและกันก่อตัวเป็นโมเลกุลได้ อะตอมหนึ่งๆ ที่มีจำนวนโปรตอนและอิเล็กตรอนเท่าๆ กันจะมีสภาพเป็นกลางทางไฟฟ้า มิฉะนั้นแล้วมันอาจมีประจุเป็นบวกหรือลบก็ได้ เรียกว่า ไอออน เราจัดประเภทของอะตอมด้วยจำนวนโปรตอนและนิวตรอนที่อยู่ในนิวเคลียส จำนวนโปรตอนเป็นตัวบ่งบอกคุณสมบัติทางเคมี และจำนวนนิวตรอนบ่งบอกความเป็นไอโซโทป[1]
คำว่า อะตอม มาจากภาษากรีกว่า ἄτομος/átomos, α-τεμνω ซึ่งมีความหมายว่า ไม่สามารถแบ่งได้อีกต่อไป หลักการของอะตอมในฐานะส่วนประกอบเล็กที่สุดของสสารที่ไม่สามารถแบ่งได้อีกต่อไปเสนอขึ้นครั้งแรกโดยนักปรัชญาชาวอินเดียและนักปรัชญาชาวกรีก ในคริสต์ศตวรรษที่ 17-18 นักเคมีเริ่มวางแนวคิดทางกายภาพจากหลักการนี้โดยแสดงให้เห็นว่าวัตถุหนึ่งๆ ไม่สามารถแบ่งแยกได้อีกต่อไปด้วยกระบวนการทางเคมี ระหว่างช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 และต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 นักฟิสิกส์ค้นพบส่วนประกอบย่อยของอะตอมและโครงสร้างภายในของอะตอม ซึ่งเป็นการแสดงว่า "อะตอม" ยังสามารถแบ่งแยกได้ หลักการของกลศาสตร์ควอนตัมเป็นหลักการที่นำมาใช้สร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ของอะตอมได้เป็นผลสำเร็จ[2][3]
ตามความเข้าใจในปัจจุบัน อะตอมเป็นวัตถุขนาดเล็กมากที่มีมวลน้อยมากๆ เราสามารถสังเกตการณ์อะตอมเดี่ยวๆ ได้โดยอาศัยเครื่องมือพิเศษ เช่น scanning tunneling microscope มวลประมาณ 99.9% ของอะตอมจะกระจุกรวมกันอยู่ในนิวเคลียส โดยมีโปรตอนและนิวตรอนเป็นมวลที่เหลือประมาณเท่าๆ กัน ธาตุแต่ละตัวจะมีอย่างน้อยหนึ่งไอโซโทปที่มีนิวเคลียสซึ่งไม่เสถียรและเกิดการเสื่อมสลายโดยการแผ่รังสี ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดการแปลงรูปทางนิวเคลียร์ที่ทำให้จำนวนโปรตอนและนิวตรอนในนิวเคลียสเปลี่ยนแปลงไป[4] อิเล็กตรอนที่โคจรรอบอะตอมจะมีระดับพลังงานที่เสถียรอยู่จำนวนหนึ่งในลักษณะของวงโคจรอะตอม และสามารถเปลี่ยนแปลงระดับไปมาระหว่างกันได้โดยการดูดซับหรือปลดปล่อยโฟตอนที่สอดคล้องกับระดับพลังงานที่ต่างกัน อิเล็กตรอนเหล่านี้เป็นตัวกำหนดคุณสมบัติทางเคมีของธาตุ และมีอิทธิพลอย่างมากต่อคุณสมบัติทางแม่เหล็กของอะตอม
อนุภาคหลักที่พบได้ในอะตอมทั่วไปมี 3 ชนิด คือ
โปรตอน มีประจุบวก อยู่ในส่วนนิวเคลียสเป็นแกนกลางของอะตอม
นิวตรอน ซึ่งไม่มีประจุ น้ำหนักใกล้เคียงกับโปรตอน ในอะตอมบางชนิดไม่มีนิวเคลียส เช่นอะตอมของโปรเทียม (ไอโซโทปหนึ่งของไฮโดรเจน)
อิเล็กตรอน มีประจุลบ เบากว่าอนุภาคทั้งสองชนิดแรกมาก เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วอยู่รอบนิวเคลียส
อะตอมเป็นองค์ประกอบพื้นฐานทางเคมีซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงตามปฏิกิริยาเคมี ธาตุที่พบได้ตามธรรมชาติบนโลกนี้นั้นมีปรากฏอยู่ประมาณ 90 ชนิดเท่านั้น (นอกเหนือจากนี้มี ธาตุบางชนิดเช่น เทคนิเซียม และ แคลิฟอร์เนียม ที่พบได้ในซูเปอร์โนวา และธาตุที่เลขอะตอมสูง (มากกว่า 100 ขึ้นไป) ที่สามารถสังเคราะห์ได้จาก การนำอะตอมมาชนกันด้วยความเร็วสูง)
นอกจากธาตุที่เกิดตามธรรมชาติแล้ว ยังมีธาตุที่ถูกสร้างขึ้น แต่ธาตุเหล่านี้มักจะไม่เสถียร และ สลายไปเป็นธาตุอื่นที่เสถียร โดยกระบวนการสลายกัมมันตรังสี ตัวอย่างเช่น Beta Decay, Double Beta Decay, Beta Capture, Gamma Decay และอื่น ๆ
ถึงแม้ว่าจะมีธาตุที่เกิดตามธรรมชาติเพียง 90 ชนิด อะตอมของธาตุเหล่านี้สามารถสร้างพันธะเคมี รวมกันเป็นโมเลกุล และองค์ประกอบชนิดอื่นๆ โมเลกุลเกิดจากการรวมตัวกันของอะตอมหลายอะตอม เช่น โมเลกุลของน้ำเกิดจากการรวมตัวกันของอะตอมไฮโดรเจน 2 อะตอม และ อะตอมออกซิเจน 1 อะตอม
เนื่องจากอะตอมเป็นสิ่งที่มีอยู่ไปทั่วทุกที่ จึงเป็นหัวข้อศึกษาที่ได้รับความสำคัญในหลายศตวรรษที่ผ่านมา หัวข้อวิจัยทางด้านอะตอมในปัจจุบันจะเน้นทางด้าน quantum effects เช่น ของเหลวผลควบแน่นโบส-ไอน์สไตน์

นิวเคลียส เกิดมาจากอะไรล่ะ ????

http://www.oaep.go.th/dt_news1.php?id=111 ดูเอาเองนะ


Zupanut
#103
02-07-2011 - 21:31:01

#103 Zupanut  [ 02-07-2011 - 21:31:01 ]




กลางวันนี้ กินอะไรดี


kpwkpw
#104
02-07-2011 - 22:36:50

#104 kpwkpw  [ 02-07-2011 - 22:36:50 ]




quote : lovemiku

quote : kpwkpw

quote : lovemiku

quote : kpwkpw

quote : lovemiku

quote : สุภัสสรา_

ทำไมไก่เกิดก่อนล่ะคะ


หนูคิดว่าคงจะเป็นพวก
อะตอม>ปลา>ปลาขึ้นบก>กลายเป็นไดโนเสาร์หรืออะไรไม่รู้>เริ่มเหมือนไก่>ไก่>แล้วก็ออกไข่


แล้ว อะตอม เกิดมาจากอะไรล่ะ ...


อะตอม (กรีก: άτομον; อังกฤษ: Atom) คือหน่วยพื้นฐานของสสาร ประกอบด้วยส่วนของนิวเคลียสที่หนาแน่นมากอยู่ตรงศูนย์กลาง ล้อมรอบด้วยกลุ่มเมฆของอิเล็กตรอนประจุลบ นิวเคลียสของอะตอมประกอบด้วยส่วนประสมระหว่างโปรตอนที่มีประจุบวกกับนิวตรอนซึ่งเป็นกลางทางไฟฟ้า (ยกเว้นในกรณีของ ไฮโดรเจน-1 ซึ่งเป็นนิวไคลด์ชนิดเดียวที่เสถียรโดยไม่มีนิวตรอนเลย) อิเล็กตรอนของอะตอมถูกดึงดูดอยู่กับนิวเคลียสด้วยแรงแม่เหล็กไฟฟ้า ในทำนองเดียวกัน กลุ่มของอะตอมสามารถดึงดูดกันและกันก่อตัวเป็นโมเลกุลได้ อะตอมหนึ่งๆ ที่มีจำนวนโปรตอนและอิเล็กตรอนเท่าๆ กันจะมีสภาพเป็นกลางทางไฟฟ้า มิฉะนั้นแล้วมันอาจมีประจุเป็นบวกหรือลบก็ได้ เรียกว่า ไอออน เราจัดประเภทของอะตอมด้วยจำนวนโปรตอนและนิวตรอนที่อยู่ในนิวเคลียส จำนวนโปรตอนเป็นตัวบ่งบอกคุณสมบัติทางเคมี และจำนวนนิวตรอนบ่งบอกความเป็นไอโซโทป[1]
คำว่า อะตอม มาจากภาษากรีกว่า ἄτομος/átomos, α-τεμνω ซึ่งมีความหมายว่า ไม่สามารถแบ่งได้อีกต่อไป หลักการของอะตอมในฐานะส่วนประกอบเล็กที่สุดของสสารที่ไม่สามารถแบ่งได้อีกต่อไปเสนอขึ้นครั้งแรกโดยนักปรัชญาชาวอินเดียและนักปรัชญาชาวกรีก ในคริสต์ศตวรรษที่ 17-18 นักเคมีเริ่มวางแนวคิดทางกายภาพจากหลักการนี้โดยแสดงให้เห็นว่าวัตถุหนึ่งๆ ไม่สามารถแบ่งแยกได้อีกต่อไปด้วยกระบวนการทางเคมี ระหว่างช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 และต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 นักฟิสิกส์ค้นพบส่วนประกอบย่อยของอะตอมและโครงสร้างภายในของอะตอม ซึ่งเป็นการแสดงว่า "อะตอม" ยังสามารถแบ่งแยกได้ หลักการของกลศาสตร์ควอนตัมเป็นหลักการที่นำมาใช้สร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ของอะตอมได้เป็นผลสำเร็จ[2][3]
ตามความเข้าใจในปัจจุบัน อะตอมเป็นวัตถุขนาดเล็กมากที่มีมวลน้อยมากๆ เราสามารถสังเกตการณ์อะตอมเดี่ยวๆ ได้โดยอาศัยเครื่องมือพิเศษ เช่น scanning tunneling microscope มวลประมาณ 99.9% ของอะตอมจะกระจุกรวมกันอยู่ในนิวเคลียส โดยมีโปรตอนและนิวตรอนเป็นมวลที่เหลือประมาณเท่าๆ กัน ธาตุแต่ละตัวจะมีอย่างน้อยหนึ่งไอโซโทปที่มีนิวเคลียสซึ่งไม่เสถียรและเกิดการเสื่อมสลายโดยการแผ่รังสี ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดการแปลงรูปทางนิวเคลียร์ที่ทำให้จำนวนโปรตอนและนิวตรอนในนิวเคลียสเปลี่ยนแปลงไป[4] อิเล็กตรอนที่โคจรรอบอะตอมจะมีระดับพลังงานที่เสถียรอยู่จำนวนหนึ่งในลักษณะของวงโคจรอะตอม และสามารถเปลี่ยนแปลงระดับไปมาระหว่างกันได้โดยการดูดซับหรือปลดปล่อยโฟตอนที่สอดคล้องกับระดับพลังงานที่ต่างกัน อิเล็กตรอนเหล่านี้เป็นตัวกำหนดคุณสมบัติทางเคมีของธาตุ และมีอิทธิพลอย่างมากต่อคุณสมบัติทางแม่เหล็กของอะตอม
อนุภาคหลักที่พบได้ในอะตอมทั่วไปมี 3 ชนิด คือ
โปรตอน มีประจุบวก อยู่ในส่วนนิวเคลียสเป็นแกนกลางของอะตอม
นิวตรอน ซึ่งไม่มีประจุ น้ำหนักใกล้เคียงกับโปรตอน ในอะตอมบางชนิดไม่มีนิวเคลียส เช่นอะตอมของโปรเทียม (ไอโซโทปหนึ่งของไฮโดรเจน)
อิเล็กตรอน มีประจุลบ เบากว่าอนุภาคทั้งสองชนิดแรกมาก เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วอยู่รอบนิวเคลียส
อะตอมเป็นองค์ประกอบพื้นฐานทางเคมีซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงตามปฏิกิริยาเคมี ธาตุที่พบได้ตามธรรมชาติบนโลกนี้นั้นมีปรากฏอยู่ประมาณ 90 ชนิดเท่านั้น (นอกเหนือจากนี้มี ธาตุบางชนิดเช่น เทคนิเซียม และ แคลิฟอร์เนียม ที่พบได้ในซูเปอร์โนวา และธาตุที่เลขอะตอมสูง (มากกว่า 100 ขึ้นไป) ที่สามารถสังเคราะห์ได้จาก การนำอะตอมมาชนกันด้วยความเร็วสูง)
นอกจากธาตุที่เกิดตามธรรมชาติแล้ว ยังมีธาตุที่ถูกสร้างขึ้น แต่ธาตุเหล่านี้มักจะไม่เสถียร และ สลายไปเป็นธาตุอื่นที่เสถียร โดยกระบวนการสลายกัมมันตรังสี ตัวอย่างเช่น Beta Decay, Double Beta Decay, Beta Capture, Gamma Decay และอื่น ๆ
ถึงแม้ว่าจะมีธาตุที่เกิดตามธรรมชาติเพียง 90 ชนิด อะตอมของธาตุเหล่านี้สามารถสร้างพันธะเคมี รวมกันเป็นโมเลกุล และองค์ประกอบชนิดอื่นๆ โมเลกุลเกิดจากการรวมตัวกันของอะตอมหลายอะตอม เช่น โมเลกุลของน้ำเกิดจากการรวมตัวกันของอะตอมไฮโดรเจน 2 อะตอม และ อะตอมออกซิเจน 1 อะตอม
เนื่องจากอะตอมเป็นสิ่งที่มีอยู่ไปทั่วทุกที่ จึงเป็นหัวข้อศึกษาที่ได้รับความสำคัญในหลายศตวรรษที่ผ่านมา หัวข้อวิจัยทางด้านอะตอมในปัจจุบันจะเน้นทางด้าน quantum effects เช่น ของเหลวผลควบแน่นโบส-ไอน์สไตน์

นิวเคลียส เกิดมาจากอะไรล่ะ ????

http://www.oaep.go.th/dt_news1.php?id=111 ดูเอาเองนะ

นิวเคลียส หรือ นิวเคลียร์ กันแน่


สุภัสสรา_
#105
สุภัสสรา_
03-07-2011 - 17:10:40

#105 สุภัสสรา_  [ 03-07-2011 - 17:10:40 ]





ไม่รู้ค่ะนิวเคลียร์มั้งคะ


Reno
#106
03-07-2011 - 17:11:47

#106 Reno  [ 03-07-2011 - 17:11:47 ]






ใครเป็นคนสร้างโลกนี้ล่ะ



เล่นแบบไม่มี mod สนุกดีอ่ะ -w-
Reno
#107
03-07-2011 - 17:12:29

#107 Reno  [ 03-07-2011 - 17:12:29 ]






quote : สุภัสสรา_

ไม่รู้ค่ะนิวเคลียร์มั้งคะ


นิวเคลียส ครับเซลล์อ่ะครับ



เล่นแบบไม่มี mod สนุกดีอ่ะ -w-
สุภัสสรา_
#108
สุภัสสรา_
03-07-2011 - 17:13:57

#108 สุภัสสรา_  [ 03-07-2011 - 17:13:57 ]





ว้าย!เรปบนท่าทางจะตอบยากนะคะ


bmnet011
#109
03-07-2011 - 17:18:29

#109 bmnet011  [ 03-07-2011 - 17:18:29 ]





"ทำไมไม่ยอมทำการบ้าน "

คือคำตอบที่ยากที่สุด !


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-07-03 17:19:03

สุภัสสรา_
#110
สุภัสสรา_
03-07-2011 - 17:18:42

#110 สุภัสสรา_  [ 03-07-2011 - 17:18:42 ]





เข้าใจแล้วค่ะ
คุณ Reno


สุภัสสรา_
#111
สุภัสสรา_
03-07-2011 - 17:20:04

#111 สุภัสสรา_  [ 03-07-2011 - 17:20:04 ]





ใครไม่ยอมทำการบ้านคะ


bmnet011
#112
03-07-2011 - 17:23:54

#112 bmnet011  [ 03-07-2011 - 17:23:54 ]





quote :
ใครไม่ยอมทำการบ้านคะ


คำถามที่ตอบยากที่สุดไง = ="

สมมุติเราไม่ทำการบ้าน เเล้วครูถาม "ทำไมไม่ยอมทำ"

เราก็ ไม่รู้จะตอบอ่ะไร ขืนตอบว่า ขี้เกียจ !! เจอครูกดเกรด บรรลัยเลยไง =w="

คือคำถามของบนโลกนี้ที่ตอบยากที่สุดสำหรับเรา


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-07-03 17:25:41

สุภัสสรา_
#113
สุภัสสรา_
03-07-2011 - 17:30:27

#113 สุภัสสรา_  [ 03-07-2011 - 17:30:27 ]





555+จะว่าไปมันก็จริง


aumlovethesim3
#114
04-07-2011 - 13:32:47

#114 aumlovethesim3  [ 04-07-2011 - 13:32:47 ]






quote : สุภัสสรา_

จริงหรือไม่จริงหนูก็ไม่รู้ค่ะ
แล้วใครตอบคำถามนี้ได้บ้างกวนๆนะคะ มีสองตายายอยู่บนยอดเขาสูงสองตายายนั้นไม่ได้เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่จะถามว่าสองตายายนั้นจะเอาไข่อะไรกิน
ตอบได้ให้หนึ่งดาว กวนๆ

ก็เอาไข่ไก่ไง เพราะว่าโจทย์บอกไม่ได้เลี้ยงเป็ด แต่ข้างหน้าคำว่าไก่ไม่มีคำว่า ไม่ได้เลี้ยง

สุภัสสรา_

jok1050king
#115
04-07-2011 - 18:44:39

#115 jok1050king  [ 04-07-2011 - 18:44:39 ]




quote : สุภัสสรา_

จริงหรือไม่จริงหนูก็ไม่รู้ค่ะ
แล้วใครตอบคำถามนี้ได้บ้างกวนๆนะคะ มีสองตายายอยู่บนยอดเขาสูงสองตายายนั้นไม่ได้เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่จะถามว่าสองตายายนั้นจะเอาไข่อะไรกิน
ตอบได้ให้หนึ่งดาว กวนๆ

ไก่เพราะ ไม่ได้เลี้ยงเป็ด แต่ เลี้ยงไก่
สังเกตุดู ไม่ได้เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่
ป.ล. แงๆ ตอบไม่ได้ดู(โดนแย่ง)


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-07-04 18:45:40
สุภัสสรา_


"Insert some good status here"
aumlovethesim3
#116
04-07-2011 - 18:47:59

#116 aumlovethesim3  [ 04-07-2011 - 18:47:59 ]






quote : jok1050king

quote : สุภัสสรา_

จริงหรือไม่จริงหนูก็ไม่รู้ค่ะ
แล้วใครตอบคำถามนี้ได้บ้างกวนๆนะคะ มีสองตายายอยู่บนยอดเขาสูงสองตายายนั้นไม่ได้เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่จะถามว่าสองตายายนั้นจะเอาไข่อะไรกิน
ตอบได้ให้หนึ่งดาว กวนๆ

ไก่เพราะ ไม่ได้เลี้ยงเป็ด แต่ เลี้ยงไก่
สังเกตุดู ไม่ได้เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่
ป.ล. แงๆ ตอบไม่ได้ดู(โดนแย่ง)



สุภัสสรา_
#117
สุภัสสรา_
04-07-2011 - 20:32:29

#117 สุภัสสรา_  [ 04-07-2011 - 20:32:29 ]





เอาดาวไปทั้งสองคนเลยค่า


Galaxy-Gun
#118
04-07-2011 - 21:34:31

#118 Galaxy-Gun  [ 04-07-2011 - 21:34:31 ]




ทำไมมดมันเยอะยังงี้!!!!???


werty_boat
#119
04-07-2011 - 21:51:02

#119 werty_boat  [ 04-07-2011 - 21:51:02 ]




ใครเป็นคนคิดคำถาม?? (นี่คำถามนะ ตอบมาหน่อยสิ)


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-07-04 21:51:26

nongking200
#120
04-07-2011 - 21:56:50

#120 nongking200  [ 04-07-2011 - 21:56:50 ]




quote : nitiwat

ตอบตำถามนี้ได้หรือเปล่าครับ

"อะไรเอ่ย ยาม เด็ก เดิน สี่ขา ยามหนุ่มเดิน 2 ขา ยามแก่เดิน 3 ขา ตอบได้ ผมให้ดาวครับ "

คน



ลงข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ต้องสมัครเป็นสมาชิกและ login เข้าสู่ระบบก่อนถึงจะสามารถลงความเห็นได้
เข้าสู่ระบบสมัครสมาชิก



ข้อมูลเมื่อ 6th April 2025 08:11

โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ