Harry potter prequel
พรีเควลแฮร์รี่ พอตเตอร์เป็นบทความสั้นๆของนักเขียน เจ. เค. โรว์ลิ่งซึ่งเธอเขียนขึ้นมาหลังจากแฮร์รี่ พอตเตอร์จบลง
มีทั้งหมด 800 คำ 2 หน้ากระดาษด้วยกัน โดยเธอกล่าวว่า “สองสามเดือนก่อน นักเขียนจำนวนหนึ่งได้รับเชิญให้เขียนการ์ดด้วยลายมือสำหรับการประมูล
โดย Waterstone's ในวันที่ 10 มิถุนายน รายได้ทั้งหมดจะมอบให้กับ English PEN ซึ่งเป็นสมาคมของนักเขียน แล้วก็ Dyslexia Society
เนื้อเรื้องนั้นเกี่ยวกับการที่เจมส์ พอตเตอร์ และซิเรียส แบล๊ก ต้องปะทะกับตำรวจมักเกิ้ล เกิดขึ้นใน ค.ศ.1986 หรือ 3 ปีก่อนแฮร์รี่ พอตเตอร์จะเกิด
เนื้อเรื่อง
v
V
รถจักรยานยนต์วิ่งมาด้วยความเร็วเกินกำหนดและหักมุมอย่างกะทันหันในความมืด
ทำให้ตำรวจทั้งสองนายที่นั่งอยู่ในรถที่ไล่ตามมาตะโกน “หยุด!”
สิบเอกฟิชเชอร์กระแทกเท้าอันใหญ่โตของเขาลงบนเบรก
พลางคิดอย่างมั่นใจว่าเด็กหนุ่มที่นั่งซ้อนท้ายจะต้องถูกเหวี่ยงลงมาอยู่ใต้ล้อรถของเขาอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม รถจักรยานยนต์คันนั้นยังคงวิ่งต่อโดยไม่มีใครคนใดคนหนึ่งหายไป
และจากแสงสีแดงของไฟท้าย รถคันนั้นก็หายลับไปบนตรอกเล็กๆที่ดูคับแคบ
“พวกเราได้ตัวมันแน่!” พลตำรวจแอนเดอร์สันร้องออกมาอย่างตื่นเต้น “นั่นมันทางตัน!”
ฟิชเชอร์ทุ่มเทสมาธิอย่างหนักในการควบคุมพวงมาลัยและคันเร่ง
ในขณะที่เขาบังคับรถให้วิ่งไล่ขึ้นไปตามทาง สีด้านข้างของตัวรถก็ถูกครูดออกไปครึ่งคัน
จากแสงของไฟหน้า ในท้ายที่สุดเหยื่อของพวกเขาก็หยุดนิ่งอยู่เบื้องหน้า หลังการไล่ตามที่กินเวลาถึง 15 นาที
พวกเขาทั้งสองถูกล้อมไว้ระหว่างกำแพงอิฐสูงกับรถตำรวจ ซึ่งตอนนี้กำลังส่งเสียงขู่คำรามอย่างผู้ล่าที่มีตาวาว
มันมีพื้นที่เพียงเล็กน้อยเท่านั้นระหว่างประตูรถกับกำแพง
ฟิชเชอร์และแอนเดอร์สันต้องพบกับความยากลำบากในการพาตัวเองออกจากรถ
สิ่งนี้ได้สร้างบาดแผลให้กับศักดิ์ศรีของพวกเขาที่จำเป็นจะต้องเคลื่อนตัวไปทีละนิด เหมือนปู
ตรงไปยังพวกแหกกฎ ฟิชเชอร์ลากพุงใหญ่ๆของเขาไปตามกำแพง
กระดุมเสื้อเชิ้ตหลายเม็ดถูกฉีกออก และในท้ายที่สุด ก้นของเขาก็ทำให้กระจกด้านข้างหัก
“ลงจากรถ!” เขาตะโกนไปยังวัยรุ่นที่มีรอยยิ้มแบบไม่จริงใจทั้งสอง
พวกเขานั่งอยู่ภายใต้แสงไฟสีฟ้าอย่างเป็นสุขราวกับว่ากำลังสนุกสนาน
พวกนั้นทำตามที่ถูกสั่ง
ในท้ายที่สุด ฟิชเชอร์ก็พาตัวเองออกมาจากกระจกข้างที่หักไปแล้วได้สำเร็จ และจ้องตรงไป
พวกนั้นดูเหมือนจะอยู่ในช่วงวัยรุ่นตอนปลาย คนที่เป็นคนขับไว้ผมยาวสีดำ
หน้าตาหล่อเหลาที่ดูอวดดีนั้นทำให้ฟิชเชอร์นึกอย่างไม่พอใจนัก
ถึงเพื่อนชายของลูกสาวที่วันๆเอาแต่เตร่ไปเตร่มาแล้วก็เล่นกีต้าร์
ส่วนเด็กหนุ่มคนที่สองนั้นมีผมสีดำสั้นแล้วก็ชี้ไปทุกทิศทาง
เขาสวมแว่นตาและส่งรอยยิ้มกว้างออกมา พวกเขาทั้งคู่สวมเสื้อยืดที่มีลายนกสีทองตัวใหญ่
อย่างไม่ต้องสงสัย นั่นต้องเป็นสัญลักษณ์ของพวกวงดนตรีร็อกที่ไร้สุนทรียศาสตร์และน่าหนวกหู
“ไม่มีหมวกกันน็อก!” ฟิชเชอร์ตะโกน ชี้ไปยังศีรษะที่ไม่ได้สวมอะไรเลยจากอีกคนไปยังอีกคน
“ขับรถด้วยความเร็วเกินกำหนดถึง – ถึงอย่างมาก!” (ในความเป็นจริงแล้ว ความเร็วที่ถูกบันทึกไว้นั้น
มันมากเกินกว่าที่ฟิชเชอร์จะยอมรับว่ามีรถจักรยานยนต์คันใดจะทำได้) “ไม่หยุดตามตำรวจสั่ง!”
“พวกเราก็อยากจะหยุดเพื่อพูดคุยกันนะ” เด็กหนุ่มสวมแว่นพูดขึ้น “เพียงแต่ว่าพวกเรากำลังพยายาม–”
“อย่าทำเป็นรู้มากไปหน่อยเลย – พวกแกทั้งสองน่ะกำลังอยู่ในกองปัญหา!” แอนเดอร์สันตะคอก “ชื่อ!”
“ชื่อเหรอ” นักบิดผมยาวกล่าวซ้ำ “เออ – อืม ไหนลองดูสิ มันก็มี วิลเบอร์ฟอร์ส...
บาธชีบ้า... เอลเวนดอร์ค...”
“ชื่อนี้ดีนะ ใช้ได้กับทั้งเด็กผู้ชายแล้วก็ผู้หญิงเลย” เด็กหนุ่มสวมแว่นพูด
“โอ้ หมายถึงชื่อของพวกเราหรอ” เด็กหนุ่มคนแรกถาม ขณะที่แอนเดอร์สันกำลัง
จะระเบิดออกมาด้วยความโกรธ
“ก็น่าจะบอกกันนี่! นี่ เจมส์ พอตเตอร์ แล้วผมก็ ซีเรียส แบล็ก!”
“เรื่องมันจะเลวร้ายสำหรับพวกแกในอีกนาทีข้างหน้านี้แล้วไอ้เจ้าเด็กกวนประ-”
แต่ทั้งเจมส์และซีเรียสไม่ได้สนใจ พวกเขาตื่นตัวอย่างทันทีทันใดเหมือนสุนัขที่ถูกฝึกให้ล่าเหยื่อ
จ้องผ่านฟิชเชอร์และเอนเดอร์สัน มองเหนือหลังคารถตำรวจ ตรงไปยังปากทาง
หลังจากนั้น พวกเขาก็เอื้อมมือไปยังกระเป๋าหลังด้วยการเคลื่อนไหวที่สอดคล้องเหมือนกัน
ในชั่วอึดใจ นายตำรวจทั้งสองจินตนาการว่าปืนกำลังส่องตรงมายังพวกเขา
แต่ในวินาทีถัดมา พวกเขาก็เห็นว่าเด็กหนุ่มทั้งสองไม่ได้ดึงอะไรออกมา นอกจาก –
“ไม้กลองงั้นหรอ” แอนเดอร์สันเยาะเย้ย “ตลกถูกคู่เลยล่ะ ใช่มั้ย เอาล่ะ พวกเราขอจับพวกแกในข้อหา–”
แต่แอนเดอร์สันไม่มีโอกาสได้เอ่ยชื่อของข้อกล่าวหา
เจมส์และซีเรียสได้ตะโกนอะไรบางอย่างที่ฟังไม่เข้าใจ
หลังจากนั้นแสงจากไฟหน้ารถก็เปลี่ยนทิศ
นายตำรวจหันหน้าไปมอง พวกเขาเดินโซเซถอยหลังด้วยความตื่นตะลึง
ผู้ชายสามคนกำลังบิน – ใช่แล้ว กำลังบิน – บนไม้กวาด มุ่งตรงมายังตรอก –
และในขณะเดียวกันนั้น รถตำรวจก็กำลังยกตัวขึ้นบนล้อหลัง
หัวเข่าของฟิชเชอร์เสียการควบคุม เขานั่งลงอย่างยากลำบาก
แอนเดอร์สันสะดุดขาของฟิชเชอร์ และล้มลงทับเขา ฟุบ – ปัง – กรอบ
พวกเขาได้ยินเสียงพวกผู้ชายบนไม้กวาดชนเข้ากับรถที่กลับหัวกลับหาง แล้วตกลงมาบนพื้น
อย่างเห็นได้ชัด พวกเขาสลบไป ซึ่งขณะเดียวกันนั้น เศษชิ้นส่วนของไม้กวาดก็กระจัดกระจายไปรอบตัว
รถจักรยานยนต์ส่งเสียงคำรามขึ้นมาอีกครั้ง
ฟิชเชอร์อ้าปากค้าง พยายามรวบรวมแรงเพื่อหันหลังไปมองเด็กหนุ่มทั้งสอง
“ขอบคุณมาก!” ซีเรียสพูดแข่งกับเสียงสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ “พวกเราเป็นหนี้พวกคุณหนหนึ่งแล้วล่ะ!”
“ใช่ ดีนะที่ได้พบพวกคุณ!” เจมส์พูด “แล้วก็อย่าลืม เอลเวนดอร์คน่ะ มันใช้ได้ทั้งสองเพศ!”
เสียงดังสะท้านเกิดขึ้น ฟิชเชอร์และแอนเดอร์สันยกแขนขึ้นโอบกันและกันด้วยความกลัว
รถของพวกเขาเพิ่งจะตกลงมาสู่พื้น ตอนนี้กลับกลายเป็นรถจักรยานยนต์ที่ยกตัวสูงขึ้น
มันบินขึ้นไปบนฟ้า ต่อหน้านายตำรวจทั้งสองที่มองด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ
เจมส์และซีเรียสไกลห่างออกไปบนท้องฟ้ายามมืดมิด
ไฟท้ายรถส่องสว่างอยู่เบื้องหลังราวกับเม็ดทับทิมที่กำลังหายลับไป
Credits:www.mugglethai.com