เข้าได้ทุกคน 
ตั้งกระทู้ใหม่ 
หน้าสมาชิก
_______________________________________________________
เมื่อมีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด เมื่อมีคนชอบ Windows 8 ก็ย่อมมีคนที่ไม่ชอบอยู่เช่นกัน เรามาดูกันว่าอะไรบน Windows 8 ที่หลายคนไม่ปลื้ม และอะไรที่หายไปและอยากให้กลับมากันครับ
ตลอดระยะเวลาที่ Windows เติบโตมากว่า 27 ปีนั้น Windows ได้เปลี่ยนแปลงอนาคตของโลกเอาไว้มากมาย หนึ่งในนั้นคือการทำให้คอมพิวเตอร์กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของมนุษย์ เป็นปัจจัยที่ขาดไม่ได้ในการทำงาน การเล่น หรือแม้แต่การค้นคว้าวิจัย Windows ได้เปิดย่อโลกทั้งใบให้แคบลง แก้ปัญหาทั้งปวงให้ง่ายขึ้น อย่างที่ทุกคนปฏิเสธไม่ได้
Microsoft Windows 1.01
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า Windows นั้นจะมีเส้นทางที่เรียบหรูและสมบูรณ์แบบเสมอไป สำหรับผู้ที่คลุกคลีอยู่กับ Windows มานานน่าจะทราบดีว่ามี Windows อยู่หลายรุ่นที่บกพร่อง และสมบูรณ์ไม่เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ ยกตัวอย่างเช่น Windows ME ที่เป็น Windows ตัวแรกที่ตัดระบบ DOS ออกไปและทำงานบนพื้นฐาน 32 Bit อย่างสิ้นเชิง ซึ่งในขณะนั้นความเข้ากันได้ของฮาร์ดแวร์และซอร์ฟแวร์ยังติดอยู่กับระบบเก่าๆ อย่าง Windows 98 จึงทำให้ Windows ME เป็น Windows ตัวหนึ่งที่มีความเสถียรต่ำ และอีกรุ่นที่เราไม่พูดถึงไม่ได้คือ Windows Vista ที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนักจากระบบที่ใช้ทรัพยากรเครื่องสูงกว่าปกติ เพียงเพื่อความสวยงามของ Aero UI เท่านั้น
Windows ME (Millennium Edition)
และในปัจจุบัน Microsoft ก็นำพาเส้นทางของ Windows มาสู่ศักราชใหม่ นั่นก็คือ Windows 8 ซึ่งถือว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่พลิกโฉมหน้าของ Windows PC อีกครั้งหลังจากที่ Windows XP และ Windows 7 เคยทำไว้ ด้วยมีส่วนติดต่อกับผู้ใช้ใหม่ ความเข้ากันได้ของฮาร์ดแวร์แบบใหม่ที่มันสามารถสิงสถิตได้ตั้งแต่แท็บเล็ตที่ใช้ชิพ ARM ความเร็วเพียง 1GHz ไปจนถึง CPU ตัวแรงของ PC ราคาแพง และ Windows 8 ก็เปิดให้บุคคลทั่วไปได้ทดลองใช้แล้วในรุ่น Release Preview ซึ่งหลายฝ่ายต่างก็ชื่นชม Windows 8 ตัวนี้ในหลายจุด (คลิกที่นี่ เพื่ออ่านข้อดีของ Windows 8)
แต่เมื่อมีด้านบวก ก็ต้องมีด้านลบ วันนี้ MonaVista.com ขอนำเสนอด้านลบที่หลายคนอาจจะไม่ปลื้ม และอยากให้ Windows 8 เปลี่ยนสิ่งเหล่านั้น ให้ทุกคนได้ทราบกันครับ
ข้อเสียที่ 1 ปุ่ม Start Menu หาย!!!
ปุ่ม Start Menu ที่สถิตอยู่ตรงด้านซ้ายของ Taskbar ซึ่งนับเป็นปุ่มสำคัญที่ผู้ใช้ทุกคนคุ้นชินกันมาตั้งแต่ Windows 95 จนถึง Windows 7 แต่มันไม่ได้อยู่ใน Windows 8 อีกต่อไปแล้ว!ปุ่ม Start Menu ถูกตัดออกไปจากระบบปฏิบัติการอย่างถาวร นับเป็นข้อเสียที่ผู้ใช้ Windows 8 พบเป็นอย่างแรกเลยทีเดียว (แต่คำว่า Start ใน Windows 8 จะมีความหมายแทน Metro UI ครับ ซึ่งถ้าเรียกคำสั่ง Start ก็จะเป็นการเรียก Metro ขึ้นมาใช้งาน)
ปุ่ม Start ของ Windows 8 ไม่มีแล้ว
โดยการตัดปุ่ม Start Menu ออกไปจาก Windows 8 นี้ Microsoft ได้ให้เหตุผลว่าคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ใช้ปุ่ม Start กันแล้ว แต่ตามความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่เลย! เพราะปุ่ม Start เป็นช่องทางอันรวดเร็วที่ทำให้เราสามารถเรียกใช้งานแอปพลิเคชั่นได้ แม้ในขณะที่เรากำลังทำงานที่ขยายหน้าต่างจนบัง Shortcut บน Desktop ทั้งหมด รวมทั้งเรียกใช้ Windows Explorer เพื่อเปิด Computer หรือ Documents และเรียกคำสั่งต่างๆ เช่น Control Panel หรือการ Shut down เครื่อง ซึ่งการตัดส่วนสำคัญออกไปเช่นนี้ดูจะเป็นการบังคับให้ผู้ใช้ไปพึ่งพา Metro แทน
ข้อเสียที่ 2 Shut down ยากไปมะ?
เป็นผลพวงมาจากข้อ 1 เรื่องปุ่ม StartMenu ถูกตัดออกไป จากเดิมใน Windows 7 เราจะคลิกที่ปุ่ม Start 1 ครั้งเพื่อเรียกเมนู และคลิกที่ปุ่ม Shut down อีกครั้งเพื่อปิดเครื่อง รวมขั้นตอนในการปิดเครื่องเพียง 2 คลิก
การ Shut down บน Windows 8
แต่การ Shut down แบบใหม่นั้นทำให้ผู้ใช้ต้องปรับตัวกันยกใหญ่ เพราะมันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เริ่มจากเราต้องนำเมาส์ไปชี้ที่มุมขวาบนสุดหรือล่างสุดของหน้าจอเพื่อเรียกเมนูด้านข้างออกมา จากนั้นคลิกที่ Settings แล้วคลิกอีกครั้งที่ Power แล้วคลิกอีกทีที่คำว่า Shut down ซึ่งเป็นขั้นตอนที่เยอะกว่า Windows 7 ถึง 2 เท่า!
ข้อเสียที่ 3 ปรับตัวกันเยอะกับฟีเจอร์ขอบจอ
ใน Windows 8 นั้นถูกออกแบบใหม่ให้ใช้ประโยชน์จากมุมทั้ง 4 มุมของหน้าจอ เพื่อเรียกหาต่างๆ เช่นดูแอปพลิเคชั่นที่ใช้ล่าสุด หรือเรียกการใช้งาน Metro โดยการใช้เมาส์ลากไปยังมุมของหน้าจอ หรือสัมผัสที่มุมหน้าจอ ซึ่งนับว่าเป็นฟีเจอร์ที่สะดวกต่อการใช้งานอย่างหนึ่ง (หากใช้คล่องแล้ว) ซึ่งฟีเจอร์ของมุมหน้าจอนั้นมีดังนี้
- มุมขวาบนและล่าง ใช้เรียกเมนูการค้นหา, การแชร์, การเข้าสู่ Metro, การเลือกอุปกรณ์ต่อพ่วง, และการตั้งค่า
- มุมซ้ายบน ใช้เรียกดูแอพลิเคชั่นที่ทำงานล่าสุด และลากเมาส์หรือเลื่อนนิ้วลงลงเพื่อดูแอปพลิเคชั่นที่ทำงานล่าสุดตามลำดับ
- มุมซ้ายล่าง ใช้เรียกการเข้าสู่ Metroและลากเมาส์หรือเลื่อนนิ้วขึ้นเพื่อดูแอปพลิเคชั่นที่ทำงานล่าสุดตามลำดับ
เมื่อชี้เมาส์ไปที่มุมซ้ายบน ก็จะเป็นแถบนี้
การเรียกเมนูการทำงานเช่นนี้ดูจะสะดวกสำหรับผู้ใช้งานระบบสัมผัส แต่อาจจะไม่ใช่กับคนที่ใช้เมาส์เท่าไหร่นัก เพราะต้องลากเมาส์ไปให้สุดจอเพื่อเรียกหาเมนูใดสักเมนูหนึ่ง และในบางครั้งที่เราจำเป็นต้องคลิกอะไรสักอย่างที่มุมจอ เจ้าเมนูพวกนี้ก็จะโผล่มาให้เราเห็น และบังไม่ให้เรากดอะไรตรงมุมนั้น จนเกิดเสียงบ่นกับผู้ใช้จำนวนหนึ่งถึงความไมคุ้นชินกับการใช้งานลักษณะนี้
ข้อเสียที่ 4 Metro แบบครึ่งๆ กลางๆ เพราะไม่มี Windows Explorer
Metro นับเป็นฟีเจอร์เด่นของ Windows 8 ซึ่งคาดว่าจะนำมาใช้ทดแทน Desktop ในอนาคต (คลิกที่นี่ เพื่ออ่านข่าว) แต่กว่าจะใช้แทน Desktop ได้จริงๆ คงอีกนานเพราะ Metro ของ Windows 8 ไม่มี Windows Explorer!
เรื่องนี้นับเป็นสิ่งที่ผู้ใช้ไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่นัก เพราะ Windows Explorer คือการใช้งานหลักของ PC เลยก็ว่าได้ ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูล และไฟล์ที่เก็บไว้จากที่ต่างๆ ได้อย่างอิสระ และถ้าไม่มีสิ่งนี้อยู่ใน Metro สุดท้ายผู้ใช้ก็ต้องสลับไปใช้งาน Desktop ตามปกติอยู่ดี
ข้อเสียที่ 5 เมาส์ขวากับ Metro
ตามปกติแล้วไม่ว่าจะเป็นไฟล์ใด Windows เมื่อคลิกขวาที่ไฟล์นั้นจะมีเมนูย่อยขึ้นมาตรงจุดที่คลิกทันที เพื่อให้ผู้ใช้เลือกคำสั่งต่างๆ แต่ไม่เป็นเช่นนั้นสำหรับ Metro เพราะการคลิกเมาส์ขวาของ Metro หมายถึงการเรียกเมนูย่อยขึ้นมาเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ตรงจุดที่คลิกนะครับ เมนูมันจะอยู่ด้านล่างต่างหาก!
การใช้งาน Emailใน Metro
จากรูป ผมต้องการคลิกเมาส์ขวาที่อีเมลของ Microsoft นี้เพื่อย้ายมันไปยังโฟลเดอร์อื่น แต่แทนที่มันจะมีเมนูคำสั่งขึ้นมาตรงที่ผมคลิกแบบที่คลิกขวาตามปกติ มันกลับโผล่มาทางด้านขวาล่าง ผมต้องลากเมาส์ลงเพื่อเลือกคำสั่งอีกทีหนึ่ง แต่ถ้าหากเป็นการใช้นิ้วจะไวและง่ายกว่า
ข้อเสียที่ 6 มึนกับการสลับการทำงานระหว่าง Metro กับ Desktop
ในเมื่อ Microsoft ได้ลดความสำคัญของ Desktop ลง และเน้นการทำงานบน Metro มากขึ้น ผู้ใช้ก็ต้องปรับตัวเพื่อให้เข้ากับการทำงานของ Metro ได้ จากข้อเสียที่แล้วที่ Metro ไม่มี Windows Explorer ก็ยังไม่เป็นไร เราค่อยไปจัดการไฟล์ทีหลังก็ได้ ว่าแล้วก็ลองเข้า Word 2013 ใน Metro ซะหน่อย...
มาใช้งาน Word 2013 ใน Metro กันดีกว่า
ทันทีที่คลิกปุ่ม Microsoft Word 2013 หน้าต่าง Metro ก็ยุบหายไป และปรากฏเป็นหน้าต่าง Desktop แทนอีกครั้ง งานนี้ผู้ใช้ก็เป็นงงล่ะสิครับ ก็เราอยากจะใช้ Metro อยู่ดีๆ พอเปิดแอปพลิเคชั่นปุ๊บ มันก็กลับมาหน้า Desktop ปั๊บ แล้วเราจะมี Metro ไวทำอะไรล่ะ? สร้าง Shortcut ของแอปพลิเคชั่นไว้บน Desktop ไม่ดีกว่าหรอ? ทำไมถึงไม่ทำให้ Metro มีความต่อเนื่องในการใช้งานล่ะเนี่ย?
เปิด Word ใน Metro แต่มันก็ยังวกกลับมาเปิดใน Desktop
ตรงส่วนนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจดีว่าแอปพลิเคชั่นหลายตัวนั้นต้องทำงานบน Desktop และแอปพลิเคชั่นที่จะทำงานบน Metro ได้จะต้องเขียนขึ้นมาใหม่ แต่มันจะดีกว่าไหมถ้าเวลาผู้ใช้เข้า Metro เพื่อเรียกใช้งานแอปพลิเคชั่นที่ทำงานบน Metro ไม่ได้ Windows 8 ก็แค่ทำให้แอปพลิเคชั่นนั้นเต็มหน้าจอ และใช้หน้าตาของ Metro ครอบ Desktop เอาไว้ ทำให้ดูเหมือนว่าผู้ใช้ยังอยู่ใน Metro โดยไม่ต้องสลับกลับไปกลับมาระหว่าง Metro กับ Desktop ให้ผู้ใช้ต้องมึนเล่น จริงไหมครับ?
ข้อเสียที่ 7 Messaging ที่ทำได้แค่รับ-ส่งข้อความ
ยังอยู่กันในMetro ของ Windows 8 กับระบบ Messaging ที่รวมเอาแอปพลิเคชั่นการแชทอย่าง Windows Live Messenger (MSN) และ Facebook มาอยู่ในหน้าเดียวกัน ซึ่งนับว่าเป็นข้อดีอย่างหนึ่งที่สะดวกต่อการใช้งาน ผู้ใช้สามารถเลือกสนทนากับใคร ในช่องทางไหนก็ได้ด้วย Messaging นี้ แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่ว่ามันยังบกพร่องอยู่อะสิ เพราะผู้ใช้ไม่สามารถส่งไฟล์หรือส่งรูปให้คู่สนทนาได้เลย แม้ว่าจะคัดลอก แล้ววาง หรือ Ctrl+V ก็ไม่สามารถส่งได้
หน้าต่าง Messaging
นอกจากนี้แล้ว ในรูปคู่สนทนาของผมซึ่งใช้ Windows Live Messenger ใน Windows 7 ได้พิมพ์เลข 0987 ขึ้นมา โดยในความเป็นจริงถ้าผมอยู่ในแอปพลิเคชั่น Windows Live Messenger ตามปกติ ผมก็จะเห็นเป็นรูปอีโมติคอนน่ารักๆ รูปหนึ่ง และเช่นเดียวกัน เมื่อผมส่งอีโมติคอนของ Messaging ไปให้คู่สนทนา คู่สนทนาก็มองไม่เห็นด้วย สรุปก็คือ ตอนนี้ใช้ได้แต่พิมพ์ข้อความส่งเท่านั้นครับ ถ้าอยากจะใช้อีโมติคอนที่มีอยู่ ต้องใช้สนทนากับผู้ที่ใช้งาน Windows 8 ด้วยกันเท่านั้น
ข้อเสียที่ 8 ความลำบากในการเรียกใช้แอปพลิเคชั่น
เมื่อ Start Menu หายไป สิ่งที่ตามมานั่นก็คือการเข้าถึงแอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่อยู่ในเครื่องก็ยากลำบากตามไปด้วย โดยเฉพาะกับแอปพลิเคชั่นที่มีมากับตัวเครื่อง และไม่มี Shortcut บน Desktop หรือไม่ได้ปกหมุดไว้ใน Start ของ Metro ตัวอย่างเช่น เครื่องคิดเลข, Paint หรือ Windows Media Player
หากต้องการเรียกใช้แอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่ติดอยู่ในเงื่อนไขข้างต้น คุณจะต้องเข้าไปที่ Metro และคลิกเมาส์ขวา เพื่อเลือกใช้งานคำสั่ง All Apps ที่จะปรากฏอยู่ตรงมุมขวาล่าง (อีกแล้ว) จึงจะเข้าสู่รายการแอปพลิเคชั่นทั้งหมดที่มีอยู่ในเครื่อง ซึ่งรายการเหล่านี้จะอ้างอิงตาม Shortcut ที่ Installerสร้างไว้ใน Start Menu ในโฟลเดอร์ Start Menu ที่อยู่ใน Program Data ของ Windows 8 ซึ่งซ่อนโฟลเดอร์ไว้ในไดร์ฟ C
ยกตัวอย่างเช่นผมลง Nero ตามปกติ Nero จะสร้าง Shortcut ใน Start Menu เพื่อให้เข้าถึงคู่มือการใช้งานทั้งหมด แต่ในเมื่อ Start Menu ตามปกติไม่มีแล้ว และ Metro ก็ดึง Shortcut เหล่านั้นมาอยู่ใน All Apps แทน ผลที่ได้จึงเป็นเช่นนี้
คู่มือ Nero อยู่ใน All Apps
Metro จะแสดงผลคู่มือทั้งหมดซึ่งยาวเป็นหางว่าว (นับได้ 210 Shortcut) และหากจะลบ Shortcut พวกนี้ก็ลบบน Metro ไม่ได้ ต้องคลิกเมาส์ขวาแล้วคลิก Open File Location และไปลบในโฟลเดอร์ Start Menu บน Windows Explorer ซึ่งขอบอกคำเดียวว่าลำบากกับคนใช้คอมพิวเตอร์ไม่เก่งมากครับ! แต่ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้ All Apps ของเราก็ดูเลอะเทอะไปเลย
ถ้า Metro มี Shortcut เยอะ ก็ยิ่งหาแอปพลิชั่นได้ยากขึ้น
ปัจจุบันผู้ใช้ต้องแก้ปัญหาโดยการใช้การค้นหาแอปพลิเคชั่นเพื่อให้พบกับแอปพลิเคชั่นที่ต้องการใช้ทันทีโดยไม่ต้องมาเสียเวลาเข้า Metro และเลื่อนหาใน All Apps ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ใน Windows รุ่นเก่า เราแทบจะไม่ได้ใช้ฟีเจอร์การค้นหาของ Windows เลย
แอปพลิเคชั่นหายากจนต้องค้นหา
และทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงตัวอย่างเพียง 8 ข้อ จากการพยายามพัฒนาและเปลี่ยนแปลง Windows รุ่นใหม่ ซึ่งข้อเสียส่วนใหญ่ที่ผู้ใช้งานไม่ชอบมักจะอยู่ที่ส่วนติดต่อกับผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปจากเดิม โดยเฉพาะ Metro ที่ดูจะ “สวยแต่รูป” แต่ใช้งานได้ยากขึ้น เข้าถึงลำบากขึ้น และไม่เอื้อต่อการใช้งานของผู้ที่ยังใช้เมาส์ในการควบคุม แต่ส่วนหนึ่งก็อาจจะเกิดจากความไม่คุ้นชินของผู้ใช้เองด้วย
อีกจุดหนึ่งที่นับเป็นข้อบกพร่องใหญ่ของ Windows 8 คือ ความไม่เป็นเอกภาพระหว่าง Desktop UI และ Metro UI ที่ Windows 8 ทำให้ผู้ใช้ต้องพึ่งพาทั้ง 2 ส่วนนี้พร้อมกัน แทนที่จะสามารถเลือกส่วนใดส่วนหนึ่งได้ จนเกิดความสับสนในการใช้งานมากกว่าจะเพิ่มความสะดวก เพราะหลายครั้งที่ผู้ใช้อยู่บนหน้า Metro แต่ก็ต้องวกกลับมาใช้งาน Desktop จากแอปพลิเคชั่น หรือต้องกลับมาจัดการไฟล์ใน Windows Explorer บน Desktop อีกครั้ง
แต่ทั้งนี้ผมไม่ขอกล่าวถึงความเข้ากันได้ของฮาร์ดแวร์และซอร์ฟแวร์ ซึ่งก็มีเสียงบ่นว่าแอปพลิเคชั่นบางตัวทำงานช้า เกมบางเกมเล่นไม่ได้ หรือ Driver บางตัวหาไม่เจอ โดยสิ่งเหล่านี้ยังไม่สามารถสรุปได้ในทันทีว่า Windows 8 ผิด เพราะมันยังอยู่ในช่วงเปิดทดลองใช้ และต้องอาศัยระยะเวลาในการพัฒนาทุกส่วนให้เข้ากันทั้งหมด อย่างที่ Windows 7 ซึ่งใช้เวลาเป็นปีหลังจากเปิดตัวกว่าจะเป็น Windows ที่มี Driver รองรับครบทุกอุปกรณ์ และใช้งานได้ทุกแอปพลิเคชั่น สิ่งเหล่านี้เราคงต้องให้เวลา Windows 8 และนักพัฒนาซอร์ฟแวร์ทุกคนกันด้วยครับ
Cradit: ข้อ 1-4
ข้อ 5-8
ไม่ต้องแม่ หนูก็ไม่ปลื้ม ปุ่ม Start หายอืก ใช้ยาก
โฮ Microsoft กล้าทำ Office 2013 ด้วย ฦ นี่ ปกติ ฝรั่งจะหลีกเลี่ยงเลข 13 
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก