เมื่อสายลมเย็น ๆ โชยมากระทบผิวกาย เสมือนส่งสัญญาณเป็นนัย ๆ ว่ากลิ่นอายของฤดูหนาวกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว ภาพความงดงามของทะเลหมอกขาวโพลน สีเขียวชะอุ่มของขุนเขาสลับซับซ้อน ท้องฟ้าสีครามตัดกับเมฆขาวไม่ไกลเกินเอื้อม คงผุดขึ้นภายมาในใจของใครหลาย ๆ คน
แหม ๆ เสน่ห์ของธรรมชาติมันช่างเย้ายวนให้เราเดินทางไปสัมผัสซะเหลือเกิน อิอิ แต่เอ...แล้วจะไปเที่ยวหน้าหนาวที่ไหนดีล่ะ ขึ้นเหนือไปสัมผัสอากาศเย็นยะเยือกบนยอดเขายอดดอย ล่องใต้ไปเล่นน้ำทะเลให้ฉ่ำปอด แวะไปทัวร์อีสานหาของอร่อย ๆ กิน หรือไปผจญภัยแถวภาคตะวันตกดี โอ้ย! ไม่ต้องคิดเยอะขนาดนั้นจ้า เพราะวันนี้กระปุกดอทคอมหยิบเอา 15 สถานที่เที่ยวหน้าหนาว มาแนะนำกัน เริ่มกันที่...
เรียกได้ว่าเป็น ภูกระดึง จังหวัดเลย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ที่เหล่านักเดินทางคิดถึงเสมอ เพราะความสวยงามของทิวทัศน์ บวกกับสภาพธรรมชาติที่สมบูรณ์ ทั้งทุ่งหญ้า ป่าสนเขา ป่าดิบ น้ำตกและหน้าผาชมทิวทัศน์ ผสมผสานกับความยากลำบากในขึ้นไปพิชิต ทำให้ใคร ๆ ต่างก็อยากลิ้มลองสัมผัสกับภูกระดึงสักครั้งในชีวิต
ส่วนจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจบนภูกระดึง ได้แก่ ผานกแอ่น เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามมากแห่งหนึ่ง สามารถมองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างซึ่งเป็นท้องทุ่งและเทือกเขา ริมทางเดินใกล้ผานกแอ่นมีดอกกุหลาบป่าขึ้นเป็นดงใหญ่ ซึ่งบานสะพรั่งในเดือนมีนาคม-เมษายน, ผาหล่มสัก เป็นลานหินกว้าง และมีสนต้นใหญ่อยู่ใกล้กับชะง่อนหินที่ยื่นออกไปจากหน้าผา เป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกได้ชัดเจนที่สุด จึงทำให้นักท่องเที่ยว ช่างภาพนิยมไปถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ผาแห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของภูกระดึง
นอกจากนี้ ยังมี ผาหมากดูก น้ำตกวังกวาง น้ำตกเพ็ญพบใหม่ น้ำตกโผนพบ น้ำตกเพ็ญพบ น้ำตกถ้ำใหญ่ น้ำตกธารสวรรค์ น้ำตกถ้ำสอเหนือ น้ำตกถ้ำสอใต้ สระอโนดาต เป็นต้น
ทั้งนี้ บริเวณที่ทำการอุทยานฯ มีด่านเก็บค่าธรรมเนียม ผู้ใหญ่คนละ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท และบริการลูกหาบสัมภาระ กิโลกรัมละ 15 บาท นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเต็นท์และบ้านพักได้ที่ที่ทำการอุทยานฯ โทรศัพท์ 0 4287 1333, 0 4287 1458 ระหว่างเวลา 07.00-18.00 น. หรือติดต่อกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2562 0760 หรือ www.dnp.go.th
หมายเหตุ : อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จะปิดระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายนทุกปี เพื่อให้สภาพธรรมชาติฟื้นตัวและปรับปรุงสถานที่พักสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว 5,000 คน ต่อวัน และกางเต็นท์บนอุทยานฯ 200 หลัง ต่อวัน
สวนผึ้ง เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดราชบุรี ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ทั้งป่าไม้ ภูเขา และน้ำตก พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นที่ราบสูง ภูมิประเทศของสวนผึ้งนั้นขนาบด้วยเทือกเขาตะนาวศรี ซึ่งเป็นพรมแดนทางตะวันตกกั้นระหว่างประเทศไทยกับพม่า การเดินทางสะดวก ใช้เวลาเดินทางเพียง 2 ชั่วโมงกว่า ๆ จากกรุงเทพฯ ก็ถึงแล้ว
เสน่ห์ที่ทำให้ใคร ๆ ก็อยากไปเยือน สวนผึ้ง ราชบุรี นั่นก็คือ "แกะ" สีขาวขนปุย และรีสอร์ทสวย ๆ ที่ประดับประดาตกแต่งด้วยไอเดียแจ่ม ๆ หลากแบบหลายสไตล์ ให้นักท่องเที่ยวเลือกสรรได้ตามความชอบใจ และนอกจากไปพักผ่อนกายพักผ่อนใจที่รีสอร์ทสวย ๆ แล้ว สวนผึ้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น "โป่งยุบ" ปรากฎการณ์แผ่นดินยุบตัวลง และถูกน้ำกัดเซาะดินทำให้เกิดเป็นหน้าผาสูงชันเป็นหลุมเป็นบ่อ ลักษณะคล้ายกับแพะเมืองผีที่จังหวัดแพร่
ธารน้ำร้อนบ่อคลึง เป็นธารน้ำร้อนที่ไหลออกจากซอกหินเชิงเขาตะนาวศรี มีความร้อนประมาณ 50-57 องศาเซลเซียส ไหลลงสู่สระใหญ่ เเวดล้อมด้วยธรรมชาติ ทิวทัศน์สวยงาม มีบริการให้นักท่องเที่ยวเข้าพักผ่อนและอาบน้ำร้อน, น้ำตกเก้าโจน หรือ น้ำตกเก้าชั้น เป็นน้ำตกขนาดใหญ่สูง 9 ชั้น ตั้งอยู่ในหุบเขาที่สมบูรณ์ แวดล้อมรอบด้วยธรรมชาติ
เขากระโจม เป็นพื้นที่ที่สูงที่สุดในจังหวัดราชบุรี ประมาณ 1,045 เมตร จากระดับน้ำทะเล การเดินทางสู่ยอดเขาต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น สองข้างทางยังเป็นป่าเขาสภาพสมบูรณ์ พบกล้วยไม้ป่าหลากหลายอยู่ทั่วไป ทัศนียภาพโดยรวมคล้ายทางภาคเหนือ บนจุดสูงสุดเป็นเส้นแบ่งเขตแดนไทย-พม่า มีลานกว้างสำหรับกางเต็นท์พักแรม สามารถชมทัศนียภาพได้รอบบริเวณ ระหว่างทางมีน้ำตกผาแดง จุดพักชมวิว และทางเดินศึกษาธรรมชาติที่สวยงาม และ น้ำตกบ้านบ่อหวี เป็นน้ำตกขนาด 7 ชั้น มีความเป็นธรรมชาติอยู่มาก น้ำใสสะอาด เหนือขึ้นไปบนน้ำตกจะเป็นชายแดนไทย-พม่า มีฐานทหารรักษาการอยู่ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเดินป่าศึกษาธรรมชาติ
ฮอตฮิตไม่มีตกเทรนด์สำหรับ ดอยอินทนนท์ หรือ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ เพราะไม่ว่าจะรักการเที่ยวแบบชิล ๆ หรือลุย ๆ สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตแห่งนี้ ก็พร้อมต้อนรับด้วยความงดงามของธรรมชาติอย่างแท้จริง รวมถึงมีอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะมีหมอกปกคลุมเกือบทั้งวัน สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นเสน่ห์ดึงดูดให้มีผู้มาเยือนที่นี่อย่างไม่ขาดสาย
ส่วนสถานที่น่าสนใจ ณ ดอยอินทนนท์ ได้แก่ น้ำตกแม่ยะ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสวยงามมากแห่งหนึ่ง เพราะน้ำซึ่งไหลลงมาจากหน้าผาที่สูงชัน 280 เมตร ลงมากระทบโขดหินเป็นชั้น ๆ เหมือนม่าน แล้วลงไปรวมกันที่แอ่งน้ำเบื้องล่าง น้ำใสเย็นเหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ, น้ำตกแม่กลาง เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ชั้นเดียว สูงประมาณ 100 เมตร ต้นน้ำอยู่บนดอยอินทนนท์ มีน้ำไหลตลอดปี มีความสวยงามตามธรรมชาติ, น้ำตกวชิรธาร เดิมชื่อ "ตาดฆ้องโยง" น้ำจะดิ่งจากผาด้านบนตกลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง ในช่วงที่มีน้ำมากละอองน้ำจะสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณรู้สึกได้ถึงความเย็นและชุ่มชื้น
ถ้ำบริจินดา ภายในถ้ำลึกหลายกิโลเมตร เพดานถ้ำมีหินงอกหินย้อย หรือชาวเหนือเรียกว่า "นมผา" สวยงามมาก มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ในถ้ำด้วย, น้ำตกสิริภูมิ ไหลมาจากหน้าผาสูงชัน เป็นทางยาวสวยงามมาก สามารถมองเห็นได้จากบริเวณที่ทำการอุทยานฯ เป็นสายน้ำตกแฝดไหลลงมาคู่กัน
โครงการหลวงดอยอินทนนท์ ตั้งอยู่ในบริเวณดอยอินทนนท์ เป็นสถานีวิจัยดอกไม้เมืองหนาวเป็นหลัก นอกจากนั้นยังมีโครงการวิจัยสตรอว์เบอร์รี โครงการวิจัยกาแฟ โครงการวิจัยฝรั่งคั้นน้ำ ไม้ผล เช่น สาลี่ พลับ กีวี ทิบทิมเมล็ดนิ่ม ฯลฯ ไม้ดอก เช่น แกลดิโอลัส กุหลาบ เยอบีรา ฯลฯ ผัก เช่น พริกหวาน มะเขือเทศ เซเลอรี ฯลฯ อีกทั้งยังมีพืชผักสมุนไพรและไม้ผลขนาดเล็ก ซึ่งจัดจำหน่ายภายใต้ตรา "ดอยคำ" นอกจากนี้ ยังมีประเพณีและภูมิปัญญาท้องถิ่นที่น่าสนใจ ได้แก่ การทำนาข้าวขั้นบันไดของเผ่ากะเหรี่ยง ประเพณีกินวอของชาวเผ่าม้งบ้านขุนกลาง
พระมหาธาตุนภเมทนีดล และ พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ สร้างถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อ พ.ศ. 2530 และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ สร้างถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อ พ.ศ. 2535 รอบบริเวณสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของดอยอินทนนท์ได้อย่างสวยงาม, ยอดดอยอินทนนท์ จุดสิ้นสุดของทางหลวงหมายเลข 1009 เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย (2,565 เมตร) มีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดปี เป็นที่ตั้งสถานีเรดาร์ของกองทัพอากาศไท ยและเป็นที่ประดิษฐานสถูปเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าเมืองเชียงใหม่องค์สุดท้าย
น้ำตกห้วยทรายเหลือง น้ำตกขนาดกลาง มีน้ำไหลแรงตลอดปี และไหลจากหน้าผาลงมาเป็นชั้น ๆ เข้าทางเดียวกับน้ำตกแม่ปาน, น้ำตกแม่ปาน นับว่าเป็นน้ำตกที่ยาวที่สุดของเชียงใหม่ก็ว่าได้ น้ำจะตกลงมาจากหน้าผาซึ่งสูงกว่า 100 เมตร เป็นทางยาว ถ้ามองดูแต่ไกลจะเห็นสายน้ำยาวสีขาวตัดกับสีเขียวของต้นไม้ทำให้ดูเด่น น้ำที่ตกลงมายังเบื้องล่างกระทบโขดหินแตกเป็นฟองกระจายไปทั่วบริเวณทำให้มีความชุ่มชื้น เบื้องล่างมีแอ่งน้ำรองรับอยู่ สามารถพักผ่อนลงอาบเล่นได้
เส้นทางศึกษาธรรมชาติบนดอยอินทนนท์ กิ่วแม่ปาน ระยะทางเดิน 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 3 ชั่วโมง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติแท้จริง แต่การใช้เส้นทางนี้ต้องลงทะเบียนขอรับใบอนุญาตให้ใช้เส้นทาง โดยติดต่อที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์อุทยานฯ และควรจัดกลุ่มละไม่เกิน 15 คน, อ่างกาหลวง เส้นทางนี้มีระยะทาง 1,800 เมตร พื้นที่นี้เป็นหนองน้ำซับในหุบเขา จุดเด่นที่น่าสนใจ คือ ป่าดิบเขาระดับสูง ลักษณะของพรรณไม้เขตอบอุ่นผสมกับเขตร้อนที่พบเฉพาะในระดับสูง
ทั้งนี้ ก่อนการเข้าไปท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวควรมีการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติ หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์ 0 5326 8550 ตลอด 24 ชั่วโมง และ โทรศัพท์ 0 5326 8577 ระหว่าง 08.00-17.00 น. หรือ www.doiinthanon.com
quote :