>>ตำนานคู่รัก 500 ปี<<
คงไม่มีคนไทยคนไหนไม่รู้จักตำนานรักระบือลือลั่นของ "พ่อมาก" กับ "แม่นาค" แห่งบางพระโขนง แต่ถ้าไปที่ญี่ปุ่น ตำนานรักที่ขึ้นชื่อลือชาไม่แพ้กันต้องยกให้นี่เลย...ตำนานรัก 500 ปี แห่งปราสาทมัตซึไดระ
ตำนานเรื่องนี้เป็นเรื่องของคนที่มีตัวตนอยู่จริงเมื่อ 500 ปีก่อน เป็นความรักของดอกฟ้ากับเท็ปเปิ้ลด็อกนามว่า "องค์หญิงมัตซึอิ" พระธิดาของเจ้าของปราสาทกับนายทหารคนเฝ้าประตูวัง ความรักของทั้งคู่ถูกเก็บเป็นความลับสุดยอด โดยมีสื่อกลางเป็นดอกไม้ราคาถูกๆ ที่นายทหารหนุ่มเอาไปถวายรับเสด็จ เวลาเกี้ยวขององค์หญิงผ่านมาเท่านั้น
แต่ไม่รู้นางเมี้ยนที่ไหนดันปากโป้งเอาเรื่องของทั้งคู่ไปเม้าท์ จนรู้ไปถึงหูพระบิดาเจ้าหญิงเข้า เล่นเอาเสด็จพ่อหนวดกระดิก รับสั่งให้เอาองค์หญิงกับทหารหนุ่มมาสอบสวน พอรู้ว่าทุกอย่างนี้แมงเม้าท์ไม่ได้เต้าข่าว ปาปารัซซี่ไม่ได้ตัดต่อภาพ เสด็จพ่อก็ของขึ้น สั่งให้เอาพระธิดาผู้ไม่รักดีไปประหารทันที หลังจากนั้นศพของเจ้าหญิงมัตซึอิก็ถูกนำไปฝังไว้อย่างลับๆ โดยไม่มีใครรู้ว่าอยู่ที่ไหน
ส่วนนายทหารหนุ่มถูกจับไปทรมานแสนสาหัสถึง 7 วัน 7 คืน ประหนึ่งฉลองโคมยี่เป็ง เพื่อให้สมกับความแค้นของเจ้าของปราสาทที่ต้องมาเสียลูกสาวไป ว่ากันว่ากระบวนการทรมานที่เจ้าของปราสาทจัดให้นั้นซาดิสม์ติดอันดับต้นๆ ในประวิติศาสตร์ญี่ปุ่นเลยทีเดียว พอทรมานจนสาแก่ใจแล้ว ทหารหนุ่มก็ถูกเอาตัวไปประหาร ตำนานรักต่างชนชั้นเรื่องนี้จึงต้องจบลงด้วยเลือดและน้ำตา
แต่ถึงคนจะตายแล้ว แต่ดวงวิญญาณยังไม่แตกดับ หลังจากนั้นทุกคืนพระจันทร์เต็มดวง คนในปราสาทก็จะเห็นวิญญาณของนายทหารหนุ่มออกมาร้องโหยหวนและพยายามขุดหาหลุมศพของเจ้าหญิงอย่างน่าสงสาร เช้าวันต่อมาบริเวณที่มีคนเห็นวิญญาณก็มีร่องรอยการขุดอยู่จริงๆ ทหารในปราสาทถูกสั่งให้กลบหลุมให้เร็วที่สุด แต่คืนพระจันทร์เต็มดวงครั้งหน้าก็มีหลุมใหม่เกิดขึ้นอีก ตามกลบตามขุดกันอยู่อย่างนี้อยู่ 500 ปี จนปราสาทมัตซึไดระตกต่ำลงกลายเป็นวัดมัตซึมุชินโต แต่วิญญาณของทหารหนุ่มก็ยังไม่ยอมจากไป วัดมัตซึมุชินโตจึงมีชื่อเสียงเลื่องลือ เป็นที่สยดสยองของนักท่องเที่ยวว่าเป็นวัดผีดุ
ที่ไหนมีผีที่นั่นก็ต้องมีคนชอบลองของนี่เป็นสัจธรรมโลก..ที่วัดมัตซึมุชินโตก็เช่นกัน วันหนึ่งเด็กวัดที่เพิ่งเข้ามาอยู่ใหม่กลุ่มหนึ่งเกิดว่างจัด เลยท้ากันให้มาดักพิสูจน์ผี พวกเด็กๆ ปีนขึ้นไปสังเกตการณ์อยู่บนต้นสนอายุหลายร้อยปีหลังวัด แต่รอแล้วรอเล่าก็ไม่มีผีมาสักตัว จนเด็กวัดทั้งหมดถอดใจเตรียมจะกลับไปนอน ทันใดนั้นเองก็มีเสียงกระดิ่งดังแว่วมาแต่ไกล พร้อมกับมีคนกลุ่มหนึ่งแต่งตัวเหมือนกับทหารสมัยโบราณแบกโลงศพเก่าๆ มาตั้งไว้บนลานวัด จากนั้นทุกคนก็หายวับไป...และแล้วร่างๆ หนึ่งก็ค่อยๆ ปีนออกมาจากโลง เขาก็คือนายทหารหนุ่มผู้รักแท้นั่นเองร่างกายของเขาอยู่ในสภาพเดียวกับวันที่ตายเมื่อหลายร้อยปีก่อน หนังที่หน้าถูกลอกออกไป มีตะปูเล่มยาวตอกอยู่ที่หน้าผาก ขมับ ดวงตา นิ้วถูกตัดหายไป บางนิ้วก็มีร่องรอยถูกตอกเล็บ เลือดไหลเปรอะไปทั้งตัว...พอออกจากโลงแล้วนายทหารก็ร้องไห้คร่ำครวญถึงเจ้าหญิงสุดที่รัก ส่วนมือก็ตะกุยขุดหาศพไปด้วย กรี๊ด!!
เด็กวัดเห็นแล้วก็ร้องจ๊ากโดยมิได้นัดหมาย ต่างคนต่างรีบไถลตัวลงจากต้นไม้เพื่อจะหนี บังเอิญเด็กคนหนึ่งจับกิ่งไม้ไว้แล้วโหนตัวลงมาทำให้เปลือกไม้ขาดตามมาเป็นทางยาว เผยให้เห็นสิ่งที่ถูกซ่อนอยู่ข้างใน ซึ่งก็คือพระศพของเจ้าหญิงมัตซึอินั่นเอง!! เมื่อได้พบกันเจ้าหญิงกับนายทหารหนุ่มก็โผเข้ากอดกันร้องไห้ด้วยความดีใจ จากนั้นวิญญาณทั้งคู่ก็ค่อยๆ เลือนหายไป ทิ้งไว้แต่ต้นไม้ฉีกขาดกับรอยขุดที่พื้นเท่านั้น
และนับตั้งแต่วันนั้นมา ที่วัดมัตซึมุชินโตก็ไม่มีผีหรือเสียงร้องไห้คร่ำครวญอีกเลย จะเหลือก็แต่เรื่องเล่าลือถึงรักแท้ที่แม้แต่ความตายก็ไม่อาจพราก ตราบจนทุกวันนี้
ตำนานเรื่องนี้เป็นเรื่องของคนที่มีตัวตนอยู่จริงเมื่อ 500 ปีก่อน เป็นความรักของดอกฟ้ากับเท็ปเปิ้ลด็อกนามว่า "องค์หญิงมัตซึอิ" พระธิดาของเจ้าของปราสาทกับนายทหารคนเฝ้าประตูวัง ความรักของทั้งคู่ถูกเก็บเป็นความลับสุดยอด โดยมีสื่อกลางเป็นดอกไม้ราคาถูกๆ ที่นายทหารหนุ่มเอาไปถวายรับเสด็จ เวลาเกี้ยวขององค์หญิงผ่านมาเท่านั้น
แต่ไม่รู้นางเมี้ยนที่ไหนดันปากโป้งเอาเรื่องของทั้งคู่ไปเม้าท์ จนรู้ไปถึงหูพระบิดาเจ้าหญิงเข้า เล่นเอาเสด็จพ่อหนวดกระดิก รับสั่งให้เอาองค์หญิงกับทหารหนุ่มมาสอบสวน พอรู้ว่าทุกอย่างนี้แมงเม้าท์ไม่ได้เต้าข่าว ปาปารัซซี่ไม่ได้ตัดต่อภาพ เสด็จพ่อก็ของขึ้น สั่งให้เอาพระธิดาผู้ไม่รักดีไปประหารทันที หลังจากนั้นศพของเจ้าหญิงมัตซึอิก็ถูกนำไปฝังไว้อย่างลับๆ โดยไม่มีใครรู้ว่าอยู่ที่ไหน
ส่วนนายทหารหนุ่มถูกจับไปทรมานแสนสาหัสถึง 7 วัน 7 คืน ประหนึ่งฉลองโคมยี่เป็ง เพื่อให้สมกับความแค้นของเจ้าของปราสาทที่ต้องมาเสียลูกสาวไป ว่ากันว่ากระบวนการทรมานที่เจ้าของปราสาทจัดให้นั้นซาดิสม์ติดอันดับต้นๆ ในประวิติศาสตร์ญี่ปุ่นเลยทีเดียว พอทรมานจนสาแก่ใจแล้ว ทหารหนุ่มก็ถูกเอาตัวไปประหาร ตำนานรักต่างชนชั้นเรื่องนี้จึงต้องจบลงด้วยเลือดและน้ำตา
แต่ถึงคนจะตายแล้ว แต่ดวงวิญญาณยังไม่แตกดับ หลังจากนั้นทุกคืนพระจันทร์เต็มดวง คนในปราสาทก็จะเห็นวิญญาณของนายทหารหนุ่มออกมาร้องโหยหวนและพยายามขุดหาหลุมศพของเจ้าหญิงอย่างน่าสงสาร เช้าวันต่อมาบริเวณที่มีคนเห็นวิญญาณก็มีร่องรอยการขุดอยู่จริงๆ ทหารในปราสาทถูกสั่งให้กลบหลุมให้เร็วที่สุด แต่คืนพระจันทร์เต็มดวงครั้งหน้าก็มีหลุมใหม่เกิดขึ้นอีก ตามกลบตามขุดกันอยู่อย่างนี้อยู่ 500 ปี จนปราสาทมัตซึไดระตกต่ำลงกลายเป็นวัดมัตซึมุชินโต แต่วิญญาณของทหารหนุ่มก็ยังไม่ยอมจากไป วัดมัตซึมุชินโตจึงมีชื่อเสียงเลื่องลือ เป็นที่สยดสยองของนักท่องเที่ยวว่าเป็นวัดผีดุ
ที่ไหนมีผีที่นั่นก็ต้องมีคนชอบลองของนี่เป็นสัจธรรมโลก..ที่วัดมัตซึมุชินโตก็เช่นกัน วันหนึ่งเด็กวัดที่เพิ่งเข้ามาอยู่ใหม่กลุ่มหนึ่งเกิดว่างจัด เลยท้ากันให้มาดักพิสูจน์ผี พวกเด็กๆ ปีนขึ้นไปสังเกตการณ์อยู่บนต้นสนอายุหลายร้อยปีหลังวัด แต่รอแล้วรอเล่าก็ไม่มีผีมาสักตัว จนเด็กวัดทั้งหมดถอดใจเตรียมจะกลับไปนอน ทันใดนั้นเองก็มีเสียงกระดิ่งดังแว่วมาแต่ไกล พร้อมกับมีคนกลุ่มหนึ่งแต่งตัวเหมือนกับทหารสมัยโบราณแบกโลงศพเก่าๆ มาตั้งไว้บนลานวัด จากนั้นทุกคนก็หายวับไป...และแล้วร่างๆ หนึ่งก็ค่อยๆ ปีนออกมาจากโลง เขาก็คือนายทหารหนุ่มผู้รักแท้นั่นเองร่างกายของเขาอยู่ในสภาพเดียวกับวันที่ตายเมื่อหลายร้อยปีก่อน หนังที่หน้าถูกลอกออกไป มีตะปูเล่มยาวตอกอยู่ที่หน้าผาก ขมับ ดวงตา นิ้วถูกตัดหายไป บางนิ้วก็มีร่องรอยถูกตอกเล็บ เลือดไหลเปรอะไปทั้งตัว...พอออกจากโลงแล้วนายทหารก็ร้องไห้คร่ำครวญถึงเจ้าหญิงสุดที่รัก ส่วนมือก็ตะกุยขุดหาศพไปด้วย กรี๊ด!!
เด็กวัดเห็นแล้วก็ร้องจ๊ากโดยมิได้นัดหมาย ต่างคนต่างรีบไถลตัวลงจากต้นไม้เพื่อจะหนี บังเอิญเด็กคนหนึ่งจับกิ่งไม้ไว้แล้วโหนตัวลงมาทำให้เปลือกไม้ขาดตามมาเป็นทางยาว เผยให้เห็นสิ่งที่ถูกซ่อนอยู่ข้างใน ซึ่งก็คือพระศพของเจ้าหญิงมัตซึอินั่นเอง!! เมื่อได้พบกันเจ้าหญิงกับนายทหารหนุ่มก็โผเข้ากอดกันร้องไห้ด้วยความดีใจ จากนั้นวิญญาณทั้งคู่ก็ค่อยๆ เลือนหายไป ทิ้งไว้แต่ต้นไม้ฉีกขาดกับรอยขุดที่พื้นเท่านั้น
และนับตั้งแต่วันนั้นมา ที่วัดมัตซึมุชินโตก็ไม่มีผีหรือเสียงร้องไห้คร่ำครวญอีกเลย จะเหลือก็แต่เรื่องเล่าลือถึงรักแท้ที่แม้แต่ความตายก็ไม่อาจพราก ตราบจนทุกวันนี้
ขอขอบคุณที่เข้ามาในกระทู้ของเราในวันนี้นะค่ะ