สวัสดีจ้า! เพิ่งจัดกระทู้ครั้งแรกค่ะ เนื่องจากว่าไม่มีอะไรทำ(?)
แต่...จริงๆแล้ว ก็อาจารย์ให้แต่งเรื่องสั้นส่งค่ะ แต่รู้สึกว่ายังไม่ดี
เลยคิดว่าให้คนอื่นวิจารณ์ดีกว่า จะได้วิจารณ์แบบไม่ต้องแคร์เราเลยอะไรอย่างนี้
ถ้าผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
เริ่มเลยล่ะกัน!!!
ฟังเพลงไปด้วยเนอะ
กริ๊งงงงงงงงงงงงงง!!!!
ปีป!
โครม!!!
โอ๊ย!
“ เจ็บ! ” ฉันลุกขึ้นยืนพร้อมกับกุมหัวตัวเอง เช้ามาก็ซวยเลยเหรอเนี่ย ซวยอะไรไม่ซวยดันมาตกเตียง จะมีซักวันไหมเนี่ยที่ฉันจะไม่เจ็บตัว
“ ...นี่ ตกเตียงอีกแล้วเหรอฝน ” เสียงของน้ำดังขึ้น ฉันเห็นมันยืนอยู่ตรงขอบประตูห้องนอนของฉัน น้ำเป็นพี่สาวฝาแฝดของฉัน ห่างกันแค่หนึ่งนาที อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก เวลามาปัญหาอะไรมักจะปรึกษากันตลอดทำให้เราสนิทกันมาก
“ อืม... ตกทุกวันเลย ”
“ ทำไมไม่ลองนอนพื้นมั้งอะ ”
“ เคยลองแล้ว แต่นาฬิกาปลุกมันชอบหล่นใส่หัวอะ เจ็บกว่าตกเตียงอีก ”
“ น้ำล่ะเบื่อกับความซุ่มซ่ามของฝนจริงๆ ” น้ำส่ายหัวแล้วเดินไปอาบน้ำ
“ อะไรอ่ะ เราซุ่มซามทุกวันเพิ่งจะมาเบื่อตอนนี้เนี่ยนะ ” ฉันหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินออกไปอาบน้ำเช่นกัน
ทุกๆวัน ฉันต้องตื่นนอน อาบน้ำ ไปโรงเรียนกับน้ำทุกวัน เป็นอย่างนี้ตั้งแต่เตรียมอนุบาลมาจนถึงมัธยม ตอนนี้อยู่ม.4 แล้ว เราเพิ่งแยกจากกันก็ตอนนี้ล่ะ เพราะน้ำอยู่คนละโรงเรียนกับฉัน ทุกวันมีแต่เรื่องซ้ำๆ เดิมๆ มีแต่ความน่าเบื่อ จนกระทั่งวันหนึ่งฉันได้เจอเขาคนนั้น ตั้งแต่นั้นมา การมาโรงเรียนของฉันก็กลายเป็นเรื่องสนุก วันไหนไม่ไปโรงเรียนก็ไม่มีความสุขทั้งวัน เป็นอย่างนี้มาอาทิตย์หนึ่งได้แล้ว อิอิ... เขิน วันนี้ก็จะได้เจอเขาแล้ว!!
“ เป็นอะไร ฝนเป็นอย่างนี้มาอาทิตย์นึ่งแล้วนะ ” น้ำถามขึ้น
“ ฝนว่าฝนกำลังมีความรักอะน้ำ ” จู่ๆหน้าฉันก็เริ่มร้อนขึ้น วันนี้อากาศร้อนงั้นเหรอเนี่ย
“ มิน่าล่ะ ขยันตื่นเช้าเหลือเกิน ตื่นก่อนน้ำอีก ”
“ แหะๆ ”
“ แล้ว...เขาคนนั้นเป็นใครอะ ” น้ำถามขึ้นพร้อมกับเลื่อนหน้าเขามาใกล้ “ ทำไมต้องยืนหน้าเข้ามาใกล้ด้วยล่ะ ” ฉันเบือนหน้าหนีเพราะไม่อยากให้คนหน้าเหมือนฉันรู้อะไรไปมากกว่านี้
“ อ่าว! ก็อยากรู้นะสิ น้ำอยากรู้ว่าที่น้องเขยในอนาคตนิน่า ” น้ำพูดขึ้นพร้อมกับเลือนหน้าเข้ามาใกล้อีกเพราะความอยากรู้อยากเห็น
“ ก็ได้ ฝนเจอเค้าตอนที่กำลังจะซื้อน้ำ รู้สึกจะชื่อแดนมั้ง อยู่ม.3 ”
“ โห! นี่แอบกินเด็กเหรอเนี่ย! ”
“ กินเด็กอะไรล่ะ เปล่าซักหน่อย ”
“ แล้วแต่เลย... ” แฝดพี่เดินนำออกไป ทำเหมือนไม่สนใจใยดี แต่จู่ๆก็หยุดเดินแล้วพูดขึ้นว่า
“ ระวังอีตาแดนอะไรนั้น จะเป็นตุ๊ดเอานะ ฮ่าๆๆๆ ” พูดจบน้ำก็วิ่งหนีฉันไป
“ เฮ้ย! ปากเสีย!! ” ฉันวิ่งตามคนปากเสียไป จนเมาถึงโรงเรียน
มาถึงโรงเรียนฉันก็ได้แต่นั้งคิดว่า แดนเป็นตุ๊ดอย่างที่น้ำพูดหรือเปล่า แต่ว่าตัวสูง หล่อ ขาว ตี๋ จมูกโด่ง ปากบาง ใส่แว่น ขาสวย อย่างนี้เนี่ยนะ มันจะไปคล้ายกับพวกตุ๊ดตรงไหน ไม่เข้าใจเลยจริงๆ เอ๋! นั้นไงแดนเดินมาแล้ว เดินออกจะแมนซะขนาดนั้นไม่ใช่ตุ๊ดแน่นอน
ฉันมองแดนที่ค่อยๆลับสายตาไป แล้วเผลอยิ้มออกมา จนลืมไปว่ามีคนตัวสูงที่นั่งอยู่ข้าง กำลังมองฉันด้วยความสงสัย
“ ยิ้มอะไรอะฝน... ฝน.... ฝน!! ” คนตัวสูงตะโกนใส่
“ อะไร เรียกซะดังเลยนะเฉิ่ม ” เฉิ่ม คือฉายาที่ฉันตั้งให้ เพราะแว่นหนาเตอะของเขา ผมเรียบๆปัดข้าง แถมจัดฟัน กับชุดนักเรียนที่ติด
กระดุมทุกเม็ดแม้กระทั่งคอ ถูกระเบียบทุกตารางนิ้ว อย่างนี้มันทำให้ฉันหงุดหงิด
“ ฉันไม่ได้ชื่อเฉิ่มนะ ฉันชื่อฟ้า ” เจ้าตัวรีบพูดขึ้น แก้ชื่อตัวเองให้ถูกต้องเพื่อไม่ให้คนอื่นเข้าใจผิดไปมากกว่านี้
“ ผู้ชายอะไรชื่อฟ้ากันย่ะ ” ฉันถามอย่างไม่สบอารมณ์ แต่เพราะความอยากรู้เลยสงสายตาสงสัยให้เห็น ก็คนมันอยากรู้นิน่า -3-
“ จริงๆแล้ว ฉันชื่อฟ้าประทาน จะเรียกให้เต็มชื่อเลยก็ยาวไป เรียกฟ้านั้นล่ะดีแล้ว ”
“ ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีนั้นล่ะ - - ”
“ ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลย เมื่อกี้เธอยิ้มอะไร ”
“ ก็... ฉันยิ้มไม่ได้หรือไง จะให้ทำหน้ายักษ์ตลอดเลยเหรอ ” ฉันรีบเปลี่ยนเรื่องเพราะกลัวคนตรงหน้ารู้ว่าฉันชอบใคร
“ เปล่าซักหน่อย ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ”
“...” ฉันเงียบไปพักนึ่ง แต่คนตรงหน้าก็พูดขึ้นทำลายความเงียบ
“ ...ฉันจะไปห้องสมุด ไปด้วยกันไหม ” ฟ้าถาม
“ ไปสิ ฉันยังไม่ทำรายงานเลย ” ว่าแล้วฉันก็เดินตามนายเฉิ่มที่สุดแสนจะโคตรเชยคนนี้ไป
ห้องสมุด....
ฟี้...
ครอกกก... ฟี้....
ครอกก...ครอกกกก.... ฟี้....
ตุ้บ!!
“ ว๊ากกกกกกกก !!! แม่มึงตกใจ! ” ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นเพราะถูกโดนปลุกด้วยหนังสือหนาๆ 5 เล่ม ใครว่ะกำลังฝันดีเลย
“ หึๆ ” นายเฉิ่มหัวเราะขึ้น เพราะฉันแสดงสีหน้าตกใจได้น่าเกียจมาก.... แต่นานทีนายนี่จะหัวเราะ ไม่เป็นไร ให้อภัยค่ะ
“ อะไรอีกเนี่ยเฉิ่ม! ฉันกำลังนอนอยู่นะ ฝันดีเสียด้วย โคตรเสียดายเลย " จะไม่ให้เสียดายได้ไง เมื่อกี้กำลังจะได้จูบกับแดนอยู่แล้วเชียว เสียดายชะมัด!
“ ฝันอะไรห๊ะ ยัยหื่น! เมื่อกี้ฉันเห็นเธอทำหน้าเหมือนจะฉุดใครไปปล้ำอย่างนั้นล่ะ ” ฟ้าประทานพูดขึ้นพร้อมกับนั่งลงตรงข้ามกับฉัน
“จะ...จะบ้าเหรอ! ฉะ...ฉันไม่ได้ฝันอะไรหื่นๆ อย่างนั้นซักหน่อย ” ฉันทำหน้าบู้บี้ใส่คนรู้ทัน
“ หลับอย่างนี้งานจะเสร็จไหมล่ะห่ะ หาหนังสือยัง ”
“ ยังเลย ฉันรอให้นายช่วยหาอยู่นี้ไง แหะๆ ”
“ ยัยบ๊องเอ๊ย! ” นายเฉิ่มลุกขึ้น ถึงแม้ปากจะบ่นแต่ก็ทำตามที่ฉันบอก
ฉันรีบวิ่งตามเข้าไป เพื่อจะได้ช่วยฟ้าประทานหาหนังสือ แต่ขาเจ้ากรรมดันพันกัน สะดุดล้มหน้าคว่ำไปโดนชั้นหนังสือ ด้วยแรงชนหนังสือก็เลยตกลงมาใส่คนดวงตกอย่างฉัน!!!
“ กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!! ” ฉันหลับตาปี้ เตรียมพร้อมที่จะรับความเจ็บปวดที่จะตามมา
ปึก! ปึก! ปึก!
เสียงหนังสือหล่นลงมาแต่ฉันกลับไม่ได้รับความเจ็บปวดซักนิด ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นมาช้าพบว่านายฟ้าประทาน กำลังยืนบังหนังสือให้ฉันอยู่
“ เฮ้ย! ฟ้า! ” ฉันอุทานขึ้นด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าฟ้าประทานจะมารับหนังสือแทนฉัน
“ เป็นอะไรไหม ”
“ นายนั้นล่ะ เป็นอะไรมากไหม ”
ปึก!
จู่ๆ หนังสือหนาๆ เล่มหนึ่งก็ตกลงมาใส่หัวของฟ้าประทาน แต่เพราะตกแรงไปหน่อย เลยทำให้แว่นตาหนาเตอะของเขาตกลงมาใส่ฉัน
“ ฟะ...ฟ้า....... โห.......หล่อทะลุแว่นตกเลยวะ ”
ฉันตกอยู่ในภวังค์ นัยน์ตาของฉันและเขาสบเข้าด้วยกัน จะไม่ให้ตกตะลึงได้ไง ก็ในเมื่อจากผมที่ปัดข้างเรียบๆ ดันยุ่งนิดๆ เพราะ
หนังสือตกใส่ แว่นที่ใส่อยู่ก็ตกลงมาอยู่บนมือฉัน ทำให้ได้เห็นหน้าตาของเขาใกล้และชัดเหมือนหนังสามมิติได้ขนาดนี้
ใบหน้าเรียวยาวขาวใสไร้รูขุมขนจนผู้หญิงต้องอิจฉา ทำให้แก้มที่อมชมพูระเรื่อๆ นั้นเห็นชัดยิ่งขึ้น นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลทำให้ดูมีเสน่ห์หน้า
มอง จมูกยาวเป็นสัน ริมฝีปากเรียวบางอมชมพูน่าจูบนั้น ทำให้ฉันได้เลื่อนหน้าเข้าไปใกล้เขามากขึ้น
ใบหน้าของเราทั้งสองเริ่มเข้าใกล้เรื่อยๆฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฉันไม่ปฏิเสธแต่ริมฝีบางเรียวบางนั้นน่าจูบชะมัด อยู่ดีๆก่อนที่ฉันจะฝัน
ไปไกลนายเฉิ่มก็...
โป๊กก!!
“ ยะ...ยัยหื่น...ธะ...เธอจะทำอะไรของเธอน่ะ -_- ” เขาดีดหน้าผากฉัน แม้จะทำเป็นดุ แต่ใบหน้านั้นกับแดงไปถึงหูอย่างเห็นได้ชัด
“ ไอ้บ้า! ทำอะไรของนายเนี่ย เจ็บนะอีกอย่าง...ฉันก็ไม่ได้หื่นซะหน่อย ”คำพูดหลังฉันก็เริ่มทำเสียงอุ๊บอิบ -3-
“ -///- แว่นๆๆ แว่นฉันอยู่ไหนวะ ” คนตัวสูงพยายามหาแว่นของตัวเอง แต่ แว่นของเขาอยู่ที่มือฉัน ฉันเลยขโมยแว่นหมอนั้นมาใส่
“หานี้หรอนายเฉิ่ม @-@ แว่นใครว้า.....แบร่ :P ” ฉันวิ่งหนีหมอนั้นมา แล้วเขาก็มาวิ่งไล่จับฉันเพราะต้องการแว่นของเขาคืน...
ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันนะว่าจะขโมยแว่นฟ้าประทานมาใส่เล่นทำไม ฉันรู้แต่ว่า...ความรู้สึกฉันตอนนี้อยากเห็นใบหน้าของหมอนั้น
ให้นานที่สุดเก็บภาพตอนนี้ไว้นานที่สุดฉันอยากเป็นคนแรกที่ได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของนายเฉิ่มและอยากเป็นคนสุดท้ายเช่นเดียวกัน
หลังจากวันนั้นฉันก็ไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริงของนายเฉิ่มอีกเลย ปกปิดด้วยแว่นหนาๆนั้น กับผมปัดข้างเรียบๆของเขา แต่ก็ดีเหมือนกันนะเพราะว่าฉันจะได้ไม่หวั่นไหวจะได้รักแดนได้สุดหัวใจจริงๆโดยที่ฉันไม่ต้องลังเล
“ เฮ้อ ... สบายใจขึ้นเยอะ ”
“ สบายใจอะไรเหรอ ยัยหื่น ”
มาทำไมวะ ตายยากจัง -_- คนอุสาจะไม่คิดยังจะมาให้คิดอีก เดินหนีเลยดีมะ !
“ เปล๊า... ไม่มีอะไรอีกอย่างฉันมีชื่อค่ะ ไม่ต้องเรียกยัยหื่น ”
“ อ่าว ก็เธอหื่นจริงๆนี้น่า ”
“ อะ...ไอ้...ไอ้หล่อไม่ทะลุแว่นเอ้ย! ” อยู่ๆ ฉันก็เผลอพูดสิ่งที่คิดในใจออกมา
“ หะ ... ห๊ะ? O///O ”
“ ชิ... เออจริงสิ ใกล้วันวาเลนไทน์แล้ว นายมีคนที่อยากจะสารภาพรักหรือยังอะ ” ฉันถามขึ้นเพราะความอยากรู้อยากเห็น แต่ต้องเก็บ
อาการไว้ กลัวอีกฝ่ายรู้ว่าฉันก็แอบมีใจให้เขานิดๆ
“ มีสิ เธอคนนั้นเธอรู้จักดีเลยล่ะ ”
“ จะบ้าเหรอ ฉันจะไปรู้จักใครนอกจากนายอีกล่ะ เพื่อนผู้หญิงฉันก็ไม่มี ” แม้จะทำท่าทีว่าไม่มีอะไร แต่ในใจฉันทำไมมันเจ็บปวดจังนะ
“ เออ...น่า เดี๋ยวเธอก็รู้เองนั้นล่ะ ” ฟ้าประทานเดินจากไป ทิ้งไว้คำถามที่ยังไม่ได้คำตอบของฉัน ฉันจะไปรู้จักใครอีกวะนอกจากนายนะ
ฉันเดินกลับมาที่บ้าน พบกับน้ำที่กำลังดูหนังสุดโปรดอยู่อย่างเมามัน
“ กรี๊ดดดด! ตายแล้ว ฟินฝุดๆ >///< ”
“ น้ำ ฝนมีเรื่องจะปรึกษา...”
“ มีไรอะ น้ำกำลังดูหนังอยู่นะ ” ปากพูดแต่สายตากับจองแต่จอทีวี อึก... ไม่สนใจฉันเลยอะ T^T
“ เดี๋ยวก่อน ค่อยดู น้ำดูเรื่องนี้มา 20รอบแล้วนะ ”
“ เออๆ... มีไรอะ เรื่องแดนเหรอ ”
“ อืม...ก็มีเกี่ยวอยู่ คือว่าเรามีเพื่อนอยู่คนหนึ่งแล้วเราดันหวั่นไหวกับเขาอะ ทั้งที่เราชอบแดนอยู่แล้วอะ ทำไงดีน้ำ.....”
“ เอางี้ ฝนก็ลองบอกชอบแดนตอนวันวาเลนไทน์ก่อนดิ เพราะในกรณีของเพื่อนฝนแค่หวั่นไหวใช่ไหมล่ะ อาจจะแค่แพ้ความใกล้ชิดอะไร
อย่างเนี่ย ก็ลองดู”
“ ขอบใจ ไปดูหนังของน้ำต่อได้แล้วล่ะ ”
“ ชิ! มีแค่นี้เองเหรอเนี่ย ” น้ำบ่นพึมพำ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรมากนัก
และ แล้ววันนี้ก็มาถึง ตอนนี้ฉันยังไม่เห็นแดนเลย อยู่ไหนกันนะ...
“ กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!! หล่อโคตร ”
จู่ๆเสียงปริศนาก็ดังขึ้น จะไม่ตกใจเลย ถ้าคนกรี๊ดนั้นไม่ใช่แดนคนที่ฉันชอบ อะ...อะไรกันเนี่ย นี้แดนเป็นตุ๊ดหรอกเหรอ โอ้ย! อยากจะ
สะดุดขาตัวเองซักร้อยรอบ ฉันมองแดนด้วยความตกตะลึง แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะรู้ตัวว่ามีคนมองเลยหันมาทางฉัน
“ มองอะไรย่ะ ยัยชะนี เดี๋ยวแม่ปั๊ดตบคว่ำเลย แต่ตอนเนี่ย สุดหล่อคนนั้นสำคัญสุด กริ๊ดดดดๆๆๆ ” พูดเสร็จแดนก็เดินจากไป อย่าใช้คำว่า
เดินเลย เรียกว่าติดจรวดแล้ววิ่งไปหาสุดหล่ออะไรนั้นดีกว่า ท่าจะเหมาะสุด
ฉันได้แต่ยืนอึ้งอยู่ตรงนั้นนานสองนาน ว่าแต่สุดหล่ออะไรนั้นมีอยู่ในโรงเรียนเราด้วยเหรอ ไม่เห็นจะมีใครเลยที่เป็นจุดเด่น รวมทั้งคนที่
หล่อไม่ทะลุแว่นอย่างฟ้าประทานด้วย
“ ฝน! ฝน! ช่วยฉัน ด้วย ฉันโดนรุม! ” เสียงของฟ้าประทานดังขึ้นมาแต่ไกล ฉันวิ่งเข้าไปหาเสียงนั้นด้วยความรู้สึกเป็นห่วง
“ เฉิ่ม! อยู่ไหนของนายเนี่ย ” ฉันพูดขึ้นเพราะไม่เห็นคนที่แต่งตัวเฉิ่มๆ เชยๆอย่างทุกวัน
“ อยู่นี่! ” ฟ้าประทานตะโกนขึ้น
“ อ่าว...เฮ้ย!! ” ฉันรีบช่วยดึงเขาออกจากฝูงชนแล้ววิ่งหนีพวกนั้นมาที่หลังโรงเรียน
แฮ่ก...แฮ่ก...แฮ่ก...
ฉันและฟ้าประทานหอบหายใจด้วยความเหนื่อยพร้อมกัน รู้เหตุผลแล้วว่าทำไมว่าหมอนี่ถึงโดนรุม แต่งตัวนี้โคตรเท่เลยแม้จะอยู่ใน
ชุดนักเรียน ผมเผ้าที่ดูยุ่งนิดๆ จากการที่วิ่งหนีฝูงชนมา จากใบหน้าที่มีแว่นหนาเตอะ แต่ตอนนี้กลับมีเพียงแค่นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลเท่านั้นที่
เป็นจุดเด่นที่สุดบนใบหน้า
“ ขอบใจนะ ” ฟ้าประทานพูดขึ้น แม้จะหอบอยู่ก็ตาม
“ อืม ไม่เป็นไร แล้วทำไมถึงอยู่ในสภาพนี่ล่ะ ” ฉันถามขึ้นเพราะความสงสัย
“ ก็... เมื่อเช้าฉันตื่นสายมากเลยลืมหวีผมกับใส่แว่นมานะสิ ไม่คิดว่ามาอยู่ในสภาพนี้แล้วจะมีคนรุม ”
“ ก็แหงล่ะ จะไม่ให้คนรุมได้ไง ” ฉันชักสีหน้าใส่ หงุดหงิดชะมัด ที่หมอนี้เป็นจุดสนใจ ทั้งๆที่เมื่อก่อนมีเพียงฉันและเขาเท่านั้น
“ ทำไม หึงเหรอ ” ฟ้าประทานพูดขึ้น พร้อมกับยิ้มมุมปากนิดๆ เหมือนอยู่เหนือกว่า
“ ปะ...เปล่า จะหึงนายทำไมกัน ”
“ งั้นเหรอ แล้วเมื่อกี้ชักสีหน้าทำไม ” ฟ้าประทานเดินเข้ามาหาฉันเรื่อยๆ จนตอนนี้ หลังฉันติดกับมุมกำแพง มือข้างนึ่งของฟ้าประทาน
ค่อมฉันไว้หลวมๆ กันไม่ให้ฉันหนีไปไหน
“ จะทำอะไรน่ะ ”
“ นี่ ฉันเอาไอ้นี้มาให้ ” มืออีกข้างนึ่งที่ไม่ได้ค่อมฉันไว้ ยื้นมาตรงหน้าฉัน ในมือนั้นมีดอกกุหลาบสีแดงสดอยู่
ฉันรับมาแบบงงๆ เพราะไม่รู้เหตุผลว่าทำไม คนตัวสูงถึงได้เอามาให้ฉัน
“ อะไร เอามาให้ฉันทำไม ไม่เอาไปให้คนที่นายชอบเหรอ ” ฉันพูดอ้อมนิดหน่อยเพื่อจะได้ไม่รู้สึกหลงตัวเองมากเกินไป
“ ยัยบ้า! ผู้หญิงฉันรู้จักก็มีแต่เธอเท่านั้นและ จะให้ฉันไปชอบใครได้อีกล่ะ นอกจากเธอ” พอฟ้าประทานพูดจบใบหน้าของเราทั้งสองก็แดงขึ้นพร้อมกัน เมื่อทั้งสองสบตากัน ก็ยิ่งหน้าแดงขึ้นไปอีก
“ ฉะ...ฉัน คือฉัน เขิน......-////- ” ตอนนี้หน้าของฉันคงจะแดงเป็นลูกตำลึงแล้วล่ะมั้ง
“ เธอ ชอบฉันมั้งไหม ”
“.....ชอบ ” ฉันพูดเสียงเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน แต่คนตรงหน้าต้องได้ยินแน่ๆ เพราะตอนนี้ หน้าของฟ้าประทานได้แดงหนักกว่าเดิมอีก
“ มะ...ไม่เห็นจะได้ยินตรงไหนเลย ” คนตัวสูงแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน แต่ฉันก็ซื่อบื้อตอบออกไป
“ ก็บอกว่าชอบ! ไม่ได้ยินหรือไงล่ะ! เฮ้ย!! OxO ” ฉันพูดไม่ทันคิด ฉันรีบยกมือปิดปากอย่างรวดเร็ว กลัวว่าคนตรงหน้าจะได้รู้ความรู้สึกของฉันไปมากกว่านี้ เขินนะ -///-
“ เป็นแฟนกันนะ ฉันสัญญาว่าจะดูแลเธออย่างดี ” เขาพูดพร้อมกุมมือของฉันทั้งสองข้างเอาไว้
โอ้ชีวิตฉันชั่งอาภัพเกิดมาแล้วต้องอกหักจากตุ๊ด แต่ไม่ทันไรก็มีเทพบุตรสุดหล่อหมาตายควายตะลึ่งมาขอเป็นแฟน โอ้ย ฟินน ... ชีวิตนี้ไม่ขออะไรอีกแหละมันคุ้มละตายแล้วเกิดใหม่ยังไม่ได้เท่านี้เลย
“ อืม ถ้านายทิ้งฉันไป ฉันจะตัดตอนนายแล้วโยนให้เป็ดกินเลย ”
“ ฝันไปเถอะ มันมีวันนั้นหรอก ฮ่าๆๆ ” เขาสบตาฉันนิ่ง มองเข้ามาในดวงตาของฉัน เหมือนบอกผ่านความรู้สึกทั้งหมดที่มีผ่านมาทาง
สายตา ใบหน้าของเราทั้งสองเข้าใกล้กันเรื่อยๆ จนริมฝีปากของเราทั้งสองประกบกัน จูบที่เนินนานและหอมหวาน เหมือนกับขนมหวานที่ไม่เคยลองชิมที่ไหนมาก่อน
ใครจะไปคิดว่าคนที่เฉิ่มเชยอย่างหมอนี้จะกลายเป็นเทพบุตรสุดหล่อที่พระอินทร์ถีบตกลงมาให้ฉัน...ทำให้ฉันได้พบเขา และรักเขา
“ รักเธอนะ ” ฟ้าประทานกระซิบข้างหูฉันเบาๆ หลังจากถอนจูบอันหอมหวานนั้นเสร็จ
“.....” ฉันไม่พูดอะไรนอกจากกอดเขาเบาๆ ส่งผ่านความรู้สึกนี้ไปให้ฟ้าประทาน
ปีป!
โครม!!!
โอ๊ย!
“ เจ็บ! ” ฉันลุกขึ้นยืนพร้อมกับกุมหัวตัวเอง เช้ามาก็ซวยเลยเหรอเนี่ย ซวยอะไรไม่ซวยดันมาตกเตียง จะมีซักวันไหมเนี่ยที่ฉันจะไม่เจ็บตัว
“ ...นี่ ตกเตียงอีกแล้วเหรอฝน ” เสียงของน้ำดังขึ้น ฉันเห็นมันยืนอยู่ตรงขอบประตูห้องนอนของฉัน น้ำเป็นพี่สาวฝาแฝดของฉัน ห่างกันแค่หนึ่งนาที อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก เวลามาปัญหาอะไรมักจะปรึกษากันตลอดทำให้เราสนิทกันมาก
“ อืม... ตกทุกวันเลย ”
“ ทำไมไม่ลองนอนพื้นมั้งอะ ”
“ เคยลองแล้ว แต่นาฬิกาปลุกมันชอบหล่นใส่หัวอะ เจ็บกว่าตกเตียงอีก ”
“ น้ำล่ะเบื่อกับความซุ่มซ่ามของฝนจริงๆ ” น้ำส่ายหัวแล้วเดินไปอาบน้ำ
“ อะไรอ่ะ เราซุ่มซามทุกวันเพิ่งจะมาเบื่อตอนนี้เนี่ยนะ ” ฉันหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินออกไปอาบน้ำเช่นกัน
ทุกๆวัน ฉันต้องตื่นนอน อาบน้ำ ไปโรงเรียนกับน้ำทุกวัน เป็นอย่างนี้ตั้งแต่เตรียมอนุบาลมาจนถึงมัธยม ตอนนี้อยู่ม.4 แล้ว เราเพิ่งแยกจากกันก็ตอนนี้ล่ะ เพราะน้ำอยู่คนละโรงเรียนกับฉัน ทุกวันมีแต่เรื่องซ้ำๆ เดิมๆ มีแต่ความน่าเบื่อ จนกระทั่งวันหนึ่งฉันได้เจอเขาคนนั้น ตั้งแต่นั้นมา การมาโรงเรียนของฉันก็กลายเป็นเรื่องสนุก วันไหนไม่ไปโรงเรียนก็ไม่มีความสุขทั้งวัน เป็นอย่างนี้มาอาทิตย์หนึ่งได้แล้ว อิอิ... เขิน วันนี้ก็จะได้เจอเขาแล้ว!!
“ เป็นอะไร ฝนเป็นอย่างนี้มาอาทิตย์นึ่งแล้วนะ ” น้ำถามขึ้น
“ ฝนว่าฝนกำลังมีความรักอะน้ำ ” จู่ๆหน้าฉันก็เริ่มร้อนขึ้น วันนี้อากาศร้อนงั้นเหรอเนี่ย
“ มิน่าล่ะ ขยันตื่นเช้าเหลือเกิน ตื่นก่อนน้ำอีก ”
“ แหะๆ ”
“ แล้ว...เขาคนนั้นเป็นใครอะ ” น้ำถามขึ้นพร้อมกับเลื่อนหน้าเขามาใกล้ “ ทำไมต้องยืนหน้าเข้ามาใกล้ด้วยล่ะ ” ฉันเบือนหน้าหนีเพราะไม่อยากให้คนหน้าเหมือนฉันรู้อะไรไปมากกว่านี้
“ อ่าว! ก็อยากรู้นะสิ น้ำอยากรู้ว่าที่น้องเขยในอนาคตนิน่า ” น้ำพูดขึ้นพร้อมกับเลือนหน้าเข้ามาใกล้อีกเพราะความอยากรู้อยากเห็น
“ ก็ได้ ฝนเจอเค้าตอนที่กำลังจะซื้อน้ำ รู้สึกจะชื่อแดนมั้ง อยู่ม.3 ”
“ โห! นี่แอบกินเด็กเหรอเนี่ย! ”
“ กินเด็กอะไรล่ะ เปล่าซักหน่อย ”
“ แล้วแต่เลย... ” แฝดพี่เดินนำออกไป ทำเหมือนไม่สนใจใยดี แต่จู่ๆก็หยุดเดินแล้วพูดขึ้นว่า
“ ระวังอีตาแดนอะไรนั้น จะเป็นตุ๊ดเอานะ ฮ่าๆๆๆ ” พูดจบน้ำก็วิ่งหนีฉันไป
“ เฮ้ย! ปากเสีย!! ” ฉันวิ่งตามคนปากเสียไป จนเมาถึงโรงเรียน
มาถึงโรงเรียนฉันก็ได้แต่นั้งคิดว่า แดนเป็นตุ๊ดอย่างที่น้ำพูดหรือเปล่า แต่ว่าตัวสูง หล่อ ขาว ตี๋ จมูกโด่ง ปากบาง ใส่แว่น ขาสวย อย่างนี้เนี่ยนะ มันจะไปคล้ายกับพวกตุ๊ดตรงไหน ไม่เข้าใจเลยจริงๆ เอ๋! นั้นไงแดนเดินมาแล้ว เดินออกจะแมนซะขนาดนั้นไม่ใช่ตุ๊ดแน่นอน
ฉันมองแดนที่ค่อยๆลับสายตาไป แล้วเผลอยิ้มออกมา จนลืมไปว่ามีคนตัวสูงที่นั่งอยู่ข้าง กำลังมองฉันด้วยความสงสัย
“ ยิ้มอะไรอะฝน... ฝน.... ฝน!! ” คนตัวสูงตะโกนใส่
“ อะไร เรียกซะดังเลยนะเฉิ่ม ” เฉิ่ม คือฉายาที่ฉันตั้งให้ เพราะแว่นหนาเตอะของเขา ผมเรียบๆปัดข้าง แถมจัดฟัน กับชุดนักเรียนที่ติด
กระดุมทุกเม็ดแม้กระทั่งคอ ถูกระเบียบทุกตารางนิ้ว อย่างนี้มันทำให้ฉันหงุดหงิด
“ ฉันไม่ได้ชื่อเฉิ่มนะ ฉันชื่อฟ้า ” เจ้าตัวรีบพูดขึ้น แก้ชื่อตัวเองให้ถูกต้องเพื่อไม่ให้คนอื่นเข้าใจผิดไปมากกว่านี้
“ ผู้ชายอะไรชื่อฟ้ากันย่ะ ” ฉันถามอย่างไม่สบอารมณ์ แต่เพราะความอยากรู้เลยสงสายตาสงสัยให้เห็น ก็คนมันอยากรู้นิน่า -3-
“ จริงๆแล้ว ฉันชื่อฟ้าประทาน จะเรียกให้เต็มชื่อเลยก็ยาวไป เรียกฟ้านั้นล่ะดีแล้ว ”
“ ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีนั้นล่ะ - - ”
“ ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลย เมื่อกี้เธอยิ้มอะไร ”
“ ก็... ฉันยิ้มไม่ได้หรือไง จะให้ทำหน้ายักษ์ตลอดเลยเหรอ ” ฉันรีบเปลี่ยนเรื่องเพราะกลัวคนตรงหน้ารู้ว่าฉันชอบใคร
“ เปล่าซักหน่อย ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ”
“...” ฉันเงียบไปพักนึ่ง แต่คนตรงหน้าก็พูดขึ้นทำลายความเงียบ
“ ...ฉันจะไปห้องสมุด ไปด้วยกันไหม ” ฟ้าถาม
“ ไปสิ ฉันยังไม่ทำรายงานเลย ” ว่าแล้วฉันก็เดินตามนายเฉิ่มที่สุดแสนจะโคตรเชยคนนี้ไป
ห้องสมุด....
ฟี้...
ครอกกก... ฟี้....
ครอกก...ครอกกกก.... ฟี้....
ตุ้บ!!
“ ว๊ากกกกกกกก !!! แม่มึงตกใจ! ” ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นเพราะถูกโดนปลุกด้วยหนังสือหนาๆ 5 เล่ม ใครว่ะกำลังฝันดีเลย
“ หึๆ ” นายเฉิ่มหัวเราะขึ้น เพราะฉันแสดงสีหน้าตกใจได้น่าเกียจมาก.... แต่นานทีนายนี่จะหัวเราะ ไม่เป็นไร ให้อภัยค่ะ
“ อะไรอีกเนี่ยเฉิ่ม! ฉันกำลังนอนอยู่นะ ฝันดีเสียด้วย โคตรเสียดายเลย " จะไม่ให้เสียดายได้ไง เมื่อกี้กำลังจะได้จูบกับแดนอยู่แล้วเชียว เสียดายชะมัด!
“ ฝันอะไรห๊ะ ยัยหื่น! เมื่อกี้ฉันเห็นเธอทำหน้าเหมือนจะฉุดใครไปปล้ำอย่างนั้นล่ะ ” ฟ้าประทานพูดขึ้นพร้อมกับนั่งลงตรงข้ามกับฉัน
“จะ...จะบ้าเหรอ! ฉะ...ฉันไม่ได้ฝันอะไรหื่นๆ อย่างนั้นซักหน่อย ” ฉันทำหน้าบู้บี้ใส่คนรู้ทัน
“ หลับอย่างนี้งานจะเสร็จไหมล่ะห่ะ หาหนังสือยัง ”
“ ยังเลย ฉันรอให้นายช่วยหาอยู่นี้ไง แหะๆ ”
“ ยัยบ๊องเอ๊ย! ” นายเฉิ่มลุกขึ้น ถึงแม้ปากจะบ่นแต่ก็ทำตามที่ฉันบอก
ฉันรีบวิ่งตามเข้าไป เพื่อจะได้ช่วยฟ้าประทานหาหนังสือ แต่ขาเจ้ากรรมดันพันกัน สะดุดล้มหน้าคว่ำไปโดนชั้นหนังสือ ด้วยแรงชนหนังสือก็เลยตกลงมาใส่คนดวงตกอย่างฉัน!!!
“ กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!! ” ฉันหลับตาปี้ เตรียมพร้อมที่จะรับความเจ็บปวดที่จะตามมา
ปึก! ปึก! ปึก!
เสียงหนังสือหล่นลงมาแต่ฉันกลับไม่ได้รับความเจ็บปวดซักนิด ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นมาช้าพบว่านายฟ้าประทาน กำลังยืนบังหนังสือให้ฉันอยู่
“ เฮ้ย! ฟ้า! ” ฉันอุทานขึ้นด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าฟ้าประทานจะมารับหนังสือแทนฉัน
“ เป็นอะไรไหม ”
“ นายนั้นล่ะ เป็นอะไรมากไหม ”
ปึก!
จู่ๆ หนังสือหนาๆ เล่มหนึ่งก็ตกลงมาใส่หัวของฟ้าประทาน แต่เพราะตกแรงไปหน่อย เลยทำให้แว่นตาหนาเตอะของเขาตกลงมาใส่ฉัน
“ ฟะ...ฟ้า....... โห.......หล่อทะลุแว่นตกเลยวะ ”
ฉันตกอยู่ในภวังค์ นัยน์ตาของฉันและเขาสบเข้าด้วยกัน จะไม่ให้ตกตะลึงได้ไง ก็ในเมื่อจากผมที่ปัดข้างเรียบๆ ดันยุ่งนิดๆ เพราะ
หนังสือตกใส่ แว่นที่ใส่อยู่ก็ตกลงมาอยู่บนมือฉัน ทำให้ได้เห็นหน้าตาของเขาใกล้และชัดเหมือนหนังสามมิติได้ขนาดนี้
ใบหน้าเรียวยาวขาวใสไร้รูขุมขนจนผู้หญิงต้องอิจฉา ทำให้แก้มที่อมชมพูระเรื่อๆ นั้นเห็นชัดยิ่งขึ้น นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลทำให้ดูมีเสน่ห์หน้า
มอง จมูกยาวเป็นสัน ริมฝีปากเรียวบางอมชมพูน่าจูบนั้น ทำให้ฉันได้เลื่อนหน้าเข้าไปใกล้เขามากขึ้น
ใบหน้าของเราทั้งสองเริ่มเข้าใกล้เรื่อยๆฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฉันไม่ปฏิเสธแต่ริมฝีบางเรียวบางนั้นน่าจูบชะมัด อยู่ดีๆก่อนที่ฉันจะฝัน
ไปไกลนายเฉิ่มก็...
โป๊กก!!
“ ยะ...ยัยหื่น...ธะ...เธอจะทำอะไรของเธอน่ะ -_- ” เขาดีดหน้าผากฉัน แม้จะทำเป็นดุ แต่ใบหน้านั้นกับแดงไปถึงหูอย่างเห็นได้ชัด
“ ไอ้บ้า! ทำอะไรของนายเนี่ย เจ็บนะอีกอย่าง...ฉันก็ไม่ได้หื่นซะหน่อย ”คำพูดหลังฉันก็เริ่มทำเสียงอุ๊บอิบ -3-
“ -///- แว่นๆๆ แว่นฉันอยู่ไหนวะ ” คนตัวสูงพยายามหาแว่นของตัวเอง แต่ แว่นของเขาอยู่ที่มือฉัน ฉันเลยขโมยแว่นหมอนั้นมาใส่
“หานี้หรอนายเฉิ่ม @-@ แว่นใครว้า.....แบร่ :P ” ฉันวิ่งหนีหมอนั้นมา แล้วเขาก็มาวิ่งไล่จับฉันเพราะต้องการแว่นของเขาคืน...
ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันนะว่าจะขโมยแว่นฟ้าประทานมาใส่เล่นทำไม ฉันรู้แต่ว่า...ความรู้สึกฉันตอนนี้อยากเห็นใบหน้าของหมอนั้น
ให้นานที่สุดเก็บภาพตอนนี้ไว้นานที่สุดฉันอยากเป็นคนแรกที่ได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของนายเฉิ่มและอยากเป็นคนสุดท้ายเช่นเดียวกัน
หลังจากวันนั้นฉันก็ไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริงของนายเฉิ่มอีกเลย ปกปิดด้วยแว่นหนาๆนั้น กับผมปัดข้างเรียบๆของเขา แต่ก็ดีเหมือนกันนะเพราะว่าฉันจะได้ไม่หวั่นไหวจะได้รักแดนได้สุดหัวใจจริงๆโดยที่ฉันไม่ต้องลังเล
“ เฮ้อ ... สบายใจขึ้นเยอะ ”
“ สบายใจอะไรเหรอ ยัยหื่น ”
มาทำไมวะ ตายยากจัง -_- คนอุสาจะไม่คิดยังจะมาให้คิดอีก เดินหนีเลยดีมะ !
“ เปล๊า... ไม่มีอะไรอีกอย่างฉันมีชื่อค่ะ ไม่ต้องเรียกยัยหื่น ”
“ อ่าว ก็เธอหื่นจริงๆนี้น่า ”
“ อะ...ไอ้...ไอ้หล่อไม่ทะลุแว่นเอ้ย! ” อยู่ๆ ฉันก็เผลอพูดสิ่งที่คิดในใจออกมา
“ หะ ... ห๊ะ? O///O ”
“ ชิ... เออจริงสิ ใกล้วันวาเลนไทน์แล้ว นายมีคนที่อยากจะสารภาพรักหรือยังอะ ” ฉันถามขึ้นเพราะความอยากรู้อยากเห็น แต่ต้องเก็บ
อาการไว้ กลัวอีกฝ่ายรู้ว่าฉันก็แอบมีใจให้เขานิดๆ
“ มีสิ เธอคนนั้นเธอรู้จักดีเลยล่ะ ”
“ จะบ้าเหรอ ฉันจะไปรู้จักใครนอกจากนายอีกล่ะ เพื่อนผู้หญิงฉันก็ไม่มี ” แม้จะทำท่าทีว่าไม่มีอะไร แต่ในใจฉันทำไมมันเจ็บปวดจังนะ
“ เออ...น่า เดี๋ยวเธอก็รู้เองนั้นล่ะ ” ฟ้าประทานเดินจากไป ทิ้งไว้คำถามที่ยังไม่ได้คำตอบของฉัน ฉันจะไปรู้จักใครอีกวะนอกจากนายนะ
ฉันเดินกลับมาที่บ้าน พบกับน้ำที่กำลังดูหนังสุดโปรดอยู่อย่างเมามัน
“ กรี๊ดดดด! ตายแล้ว ฟินฝุดๆ >///< ”
“ น้ำ ฝนมีเรื่องจะปรึกษา...”
“ มีไรอะ น้ำกำลังดูหนังอยู่นะ ” ปากพูดแต่สายตากับจองแต่จอทีวี อึก... ไม่สนใจฉันเลยอะ T^T
“ เดี๋ยวก่อน ค่อยดู น้ำดูเรื่องนี้มา 20รอบแล้วนะ ”
“ เออๆ... มีไรอะ เรื่องแดนเหรอ ”
“ อืม...ก็มีเกี่ยวอยู่ คือว่าเรามีเพื่อนอยู่คนหนึ่งแล้วเราดันหวั่นไหวกับเขาอะ ทั้งที่เราชอบแดนอยู่แล้วอะ ทำไงดีน้ำ.....”
“ เอางี้ ฝนก็ลองบอกชอบแดนตอนวันวาเลนไทน์ก่อนดิ เพราะในกรณีของเพื่อนฝนแค่หวั่นไหวใช่ไหมล่ะ อาจจะแค่แพ้ความใกล้ชิดอะไร
อย่างเนี่ย ก็ลองดู”
“ ขอบใจ ไปดูหนังของน้ำต่อได้แล้วล่ะ ”
“ ชิ! มีแค่นี้เองเหรอเนี่ย ” น้ำบ่นพึมพำ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรมากนัก
และ แล้ววันนี้ก็มาถึง ตอนนี้ฉันยังไม่เห็นแดนเลย อยู่ไหนกันนะ...
“ กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!! หล่อโคตร ”
จู่ๆเสียงปริศนาก็ดังขึ้น จะไม่ตกใจเลย ถ้าคนกรี๊ดนั้นไม่ใช่แดนคนที่ฉันชอบ อะ...อะไรกันเนี่ย นี้แดนเป็นตุ๊ดหรอกเหรอ โอ้ย! อยากจะ
สะดุดขาตัวเองซักร้อยรอบ ฉันมองแดนด้วยความตกตะลึง แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะรู้ตัวว่ามีคนมองเลยหันมาทางฉัน
“ มองอะไรย่ะ ยัยชะนี เดี๋ยวแม่ปั๊ดตบคว่ำเลย แต่ตอนเนี่ย สุดหล่อคนนั้นสำคัญสุด กริ๊ดดดดๆๆๆ ” พูดเสร็จแดนก็เดินจากไป อย่าใช้คำว่า
เดินเลย เรียกว่าติดจรวดแล้ววิ่งไปหาสุดหล่ออะไรนั้นดีกว่า ท่าจะเหมาะสุด
ฉันได้แต่ยืนอึ้งอยู่ตรงนั้นนานสองนาน ว่าแต่สุดหล่ออะไรนั้นมีอยู่ในโรงเรียนเราด้วยเหรอ ไม่เห็นจะมีใครเลยที่เป็นจุดเด่น รวมทั้งคนที่
หล่อไม่ทะลุแว่นอย่างฟ้าประทานด้วย
“ ฝน! ฝน! ช่วยฉัน ด้วย ฉันโดนรุม! ” เสียงของฟ้าประทานดังขึ้นมาแต่ไกล ฉันวิ่งเข้าไปหาเสียงนั้นด้วยความรู้สึกเป็นห่วง
“ เฉิ่ม! อยู่ไหนของนายเนี่ย ” ฉันพูดขึ้นเพราะไม่เห็นคนที่แต่งตัวเฉิ่มๆ เชยๆอย่างทุกวัน
“ อยู่นี่! ” ฟ้าประทานตะโกนขึ้น
“ อ่าว...เฮ้ย!! ” ฉันรีบช่วยดึงเขาออกจากฝูงชนแล้ววิ่งหนีพวกนั้นมาที่หลังโรงเรียน
แฮ่ก...แฮ่ก...แฮ่ก...
ฉันและฟ้าประทานหอบหายใจด้วยความเหนื่อยพร้อมกัน รู้เหตุผลแล้วว่าทำไมว่าหมอนี่ถึงโดนรุม แต่งตัวนี้โคตรเท่เลยแม้จะอยู่ใน
ชุดนักเรียน ผมเผ้าที่ดูยุ่งนิดๆ จากการที่วิ่งหนีฝูงชนมา จากใบหน้าที่มีแว่นหนาเตอะ แต่ตอนนี้กลับมีเพียงแค่นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลเท่านั้นที่
เป็นจุดเด่นที่สุดบนใบหน้า
“ ขอบใจนะ ” ฟ้าประทานพูดขึ้น แม้จะหอบอยู่ก็ตาม
“ อืม ไม่เป็นไร แล้วทำไมถึงอยู่ในสภาพนี่ล่ะ ” ฉันถามขึ้นเพราะความสงสัย
“ ก็... เมื่อเช้าฉันตื่นสายมากเลยลืมหวีผมกับใส่แว่นมานะสิ ไม่คิดว่ามาอยู่ในสภาพนี้แล้วจะมีคนรุม ”
“ ก็แหงล่ะ จะไม่ให้คนรุมได้ไง ” ฉันชักสีหน้าใส่ หงุดหงิดชะมัด ที่หมอนี้เป็นจุดสนใจ ทั้งๆที่เมื่อก่อนมีเพียงฉันและเขาเท่านั้น
“ ทำไม หึงเหรอ ” ฟ้าประทานพูดขึ้น พร้อมกับยิ้มมุมปากนิดๆ เหมือนอยู่เหนือกว่า
“ ปะ...เปล่า จะหึงนายทำไมกัน ”
“ งั้นเหรอ แล้วเมื่อกี้ชักสีหน้าทำไม ” ฟ้าประทานเดินเข้ามาหาฉันเรื่อยๆ จนตอนนี้ หลังฉันติดกับมุมกำแพง มือข้างนึ่งของฟ้าประทาน
ค่อมฉันไว้หลวมๆ กันไม่ให้ฉันหนีไปไหน
“ จะทำอะไรน่ะ ”
“ นี่ ฉันเอาไอ้นี้มาให้ ” มืออีกข้างนึ่งที่ไม่ได้ค่อมฉันไว้ ยื้นมาตรงหน้าฉัน ในมือนั้นมีดอกกุหลาบสีแดงสดอยู่
ฉันรับมาแบบงงๆ เพราะไม่รู้เหตุผลว่าทำไม คนตัวสูงถึงได้เอามาให้ฉัน
“ อะไร เอามาให้ฉันทำไม ไม่เอาไปให้คนที่นายชอบเหรอ ” ฉันพูดอ้อมนิดหน่อยเพื่อจะได้ไม่รู้สึกหลงตัวเองมากเกินไป
“ ยัยบ้า! ผู้หญิงฉันรู้จักก็มีแต่เธอเท่านั้นและ จะให้ฉันไปชอบใครได้อีกล่ะ นอกจากเธอ” พอฟ้าประทานพูดจบใบหน้าของเราทั้งสองก็แดงขึ้นพร้อมกัน เมื่อทั้งสองสบตากัน ก็ยิ่งหน้าแดงขึ้นไปอีก
“ ฉะ...ฉัน คือฉัน เขิน......-////- ” ตอนนี้หน้าของฉันคงจะแดงเป็นลูกตำลึงแล้วล่ะมั้ง
“ เธอ ชอบฉันมั้งไหม ”
“.....ชอบ ” ฉันพูดเสียงเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน แต่คนตรงหน้าต้องได้ยินแน่ๆ เพราะตอนนี้ หน้าของฟ้าประทานได้แดงหนักกว่าเดิมอีก
“ มะ...ไม่เห็นจะได้ยินตรงไหนเลย ” คนตัวสูงแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน แต่ฉันก็ซื่อบื้อตอบออกไป
“ ก็บอกว่าชอบ! ไม่ได้ยินหรือไงล่ะ! เฮ้ย!! OxO ” ฉันพูดไม่ทันคิด ฉันรีบยกมือปิดปากอย่างรวดเร็ว กลัวว่าคนตรงหน้าจะได้รู้ความรู้สึกของฉันไปมากกว่านี้ เขินนะ -///-
“ เป็นแฟนกันนะ ฉันสัญญาว่าจะดูแลเธออย่างดี ” เขาพูดพร้อมกุมมือของฉันทั้งสองข้างเอาไว้
โอ้ชีวิตฉันชั่งอาภัพเกิดมาแล้วต้องอกหักจากตุ๊ด แต่ไม่ทันไรก็มีเทพบุตรสุดหล่อหมาตายควายตะลึ่งมาขอเป็นแฟน โอ้ย ฟินน ... ชีวิตนี้ไม่ขออะไรอีกแหละมันคุ้มละตายแล้วเกิดใหม่ยังไม่ได้เท่านี้เลย
“ อืม ถ้านายทิ้งฉันไป ฉันจะตัดตอนนายแล้วโยนให้เป็ดกินเลย ”
“ ฝันไปเถอะ มันมีวันนั้นหรอก ฮ่าๆๆ ” เขาสบตาฉันนิ่ง มองเข้ามาในดวงตาของฉัน เหมือนบอกผ่านความรู้สึกทั้งหมดที่มีผ่านมาทาง
สายตา ใบหน้าของเราทั้งสองเข้าใกล้กันเรื่อยๆ จนริมฝีปากของเราทั้งสองประกบกัน จูบที่เนินนานและหอมหวาน เหมือนกับขนมหวานที่ไม่เคยลองชิมที่ไหนมาก่อน
ใครจะไปคิดว่าคนที่เฉิ่มเชยอย่างหมอนี้จะกลายเป็นเทพบุตรสุดหล่อที่พระอินทร์ถีบตกลงมาให้ฉัน...ทำให้ฉันได้พบเขา และรักเขา
“ รักเธอนะ ” ฟ้าประทานกระซิบข้างหูฉันเบาๆ หลังจากถอนจูบอันหอมหวานนั้นเสร็จ
“.....” ฉันไม่พูดอะไรนอกจากกอดเขาเบาๆ ส่งผ่านความรู้สึกนี้ไปให้ฟ้าประทาน
( The End )
ติชมด้วยนะคะ