พูดถึงโจทย์ที่ได้รับ : ได้รับโจทย์ที่ท้าทายเลยที่เดียวค่ะ เพราะปกติแล้วไม่ได้เป็นคนแต่งหน้าสไตล์หวานเลยทำให้ค่อนข้างลำบากใจกับสีชมพูเล็กน้อย 55555 แต่ก็ถือว่าเป็นการเปลี่ยนลุกไปในตัวด้วยนะค่ะ โจทย์นี้เลยทำให้รู้สึกว่าตัวเองได้ลองอะไรใหม่ๆ ทำอะไรใหม่ๆ เปลี่ยนจากอะไรเดิมๆ เพื่อนๆนี่ทักกันว่าดูเด็กลงเลยค่ะ เลยเริ่มรู้สึกแอบปลื้มกับลุกใหม่นิดนึง ส่วนสถานที่ค่อนข้างหาที่ถ่ายลำบากสักหน่อยค่ะ เพราะคนแน่นมาก บวกกับสภาพอากาศไม่ค่อยเอื้ออำนำด้วยค่ะ กว่าจะหาที่ถูกใจถ่ายได้นี้ ต้องหาเป็นวันๆเลยค่ะ ยอมรับนะค่ะว่าเหนื่อย แต่ก็รู้สึกสนุกไปกับมันด้วยค่ะ

ให้อธิบายผลงานของคุณ : ผลงานชิ้นนี้ไปถ่ายที่Londonเลยค่ะ เพื่อนๆแนะนำมากันเยอะ เลยลองไปดูสักหน่อย ก็เลยเจอกับที่นี้แล้วก็ถูกใจกับมุมนี้เข้าพอดี ก็เลยถ่าย แต่โชคไม่ดีที่พอกำลังถ่ายมีหิมะตกลงมาซะได้ เล่นเอาต้องหยุดถ่ายกันกลางคัน แต่รอแล้วรอเล่าก็ไม่มีวี่แววว่าจะหยุดเลยจำเป็นต้องถ่ายต่อ ก็เลยได้ผลงานภาพนี้ออกมาค่ะ

ผลงานนี้อยากให้มีความรู้สึกธรรมชาติค่ะ แสดงถึงสภาพอากาศของความเย็น เลยไม่ได้แต่เติมหรือจัดเซ็ตฉากอะไรเท่าไหร่ค่ะ อยากให้มีความเป็นธรรมชาติค่ะ ที่ถ่ายกลางหิมะก็อยากจะ สื่อถึงความไม่ย่อท้อค่ะ แม้สภาพอากาศจะเป็นอย่างไรเราก็ไม่หวั่นค่ะ

ขอเม้านิสนึงค่ะ แหม อยากจะบอกว่า งานชิ้นนี้กว่าจะได้โลเกชั่นที่นี้ดิฉันต้องไปเต้นแร้งเต้นกาขอลองอ้อนวอนเพื่อนๆให้ช่วยกันออกความคิดเห็น แต่ละคนก็เล่นตัวเหลือเกิน (เต้นจบไป5เพลงถึงจะบอก) แถมตอนไปถึงสนามบินตรงจุดตรวจก็ดันแข็งขาอ่อน ล้มลุกไม่ขึ้นจนต้องให้พวกเพื่อนๆที่มาด้วยกันช่วยอีก เจ้าหน้าที่นี่ถึงกับหัวเราะลั่น เป็นอะไรที่อับอายมากค่ะ และมุมที่ถ่ายมานั้นกว่าจะได้ถ่ายนะค่ะ มันต้องต่อคิวถ่ายด้วยค่ะ และดันได้คิวสุดท้ายของวัน เพื่อนๆก็บ่นแล้วก็แยกย้ายไปเดินเที่ยว บอกว่าเดี๋ยวกลับมา ทิ้งดิฉันได้2ชม. แถมดิฉันนี้ก็เกิดปวดเข้าห้องน้ำ แต่ดันพลาดปล่อยตดออกมา คนที่ยื่นอยู่ข้างหน้าเหมือนจะได้กลิ่นเลยหันมามอง แต่เพื่องานดิฉันทนได้ค่ะ คิดดูค่ะ คงไม่มีใครลงทุนเหมือนดิฉันอีกแล้ว

พูดถึงโจทย์ที่ได้รับ : สำหรับเรื่องฤดูร้อนนั้น เป็นฤดูที่ฉันไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ฉันชอบฤดูหนาวมากกว่าน่ะค่ะ (หัวเราะ) แต่ก็โอเคนะคะ แต่ละฤดูก็จะมีความแตกต่างกันไป ทั้งสภาพอากาศ ทั้งความรู้สึกที่มีต่อสภาพอากาศ ส่วนเรื่องแต่งหน้าให้หวานนั้นไม่ค่อยเป็นปัญหาเท่าไหร่เพราะได้ลองแต่งดูบ้างแล้วในโจทย์แรกน่ะค่ะ แล้วก็สุดท้ายคือพรอพประกอบฉาก ฉันคิดว่าผู้จัดการประกวดมิกซ์ได้ดีมากเลยค่ะ การจะเอา street art และดอกไม้มาเชื่อมโยงกัน ฉันได้คิดอะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่สุดท้ายก็จบลงที่มงกุฏดอกไม้นี่แหละค่ะ ฉันคิดว่ามันสามารถเข้าได้กับทุกๆแฟชั่น หากใส่กับกระโปรงก็จะช่วยให้ดูหวานขึ้น แต่ถ้าใส่กับเสื้อยืดและกางเกงยีนส์ก็ทำให้ดูชิคขึ้นเช่นกัน ไม่ว่าจะใส่กับอะไรก็ดูเข้ากันได้ดีไปซะหมด ขอบคุณที่ให้โอกาสได้เข้ารอบสองแล้วก็ ถ้าได้ผ่านเข้ารอบ ฉันจะทำให้มันดียิ่งขึ้นนะคะ ^^

อธิบายผลงาน : ค่ะ สำหรับผลงานนี้ก็คือ Art & Fashion in summer นะคะ ก็ฉันคิดว่าทรงผมควรเป็นทรงผมรวบขึ้น เพราะมันจะทำให้เย็นสบาย ชุดที่ใส่ก็น่าจะเป็นกางเกงขายาวกับเสื้อยืดธรรมดา คือ การถ่ายกับงาน street art บนผนังนั้น ฉันอยากให้จุดดึงดูดสายตาอยู่ที่ตัวฉันมากกว่าน่ะค่ะ การใส่ชุดให้กลมกลืนกับผนังนั้นมันจะทำให้ดูไม่เด่นเลยในความเห็นส่วนตัวนะคะ แต่เรื่องชุดนั้นคือ ต้องขออภัยจริงๆนะคะ หากว่าชุดมันดูจะเล่นง่ายหรือไม่ลงทุนมากเกินไป แต่เท่าที่ฉันคิดในมุมมองส่วนตัวนั้น เวลาที่เห็นการถ่ายรูปหรืออะไรอย่างนี้ ชุดที่นำมาถ่ายจะดูหรู ดูแพง แต่ฉันอยากให้คนที่ได้เห็นผลงาน เห็นชุดของฉันให้ดูว่ามันทั้งเป็นสตีทอาร์ทและให้ความรู้สึกที่หาได้ทั่วไป จะแต่งตามก็ยังดูเท่ได้หรือดูสวยหวานได้น่ะค่ะ ฉันอยากให้พวกคุณเห็นความสวยหรูและอ่อนหวานในภาพแรก และเห็นความชิคกับความอาร์ทในภาพที่สองค่ะ ^^

พูดถึงโจทย์ที่ได้รับ : หลังจากได้อ่านโจทย์แล้ว สตั้น 3 วิเลยค่ะ 555 แบบคือมันยากนะสำหรับเรา- - ไหนจะต้องแต่งตัวอาร์ตๆ ถ่ายกับฉากที่เป็นภาพ art street อีกก แถมมมมยังฤดูหนาวด้วย โอ้วชีวิต 5555 คิดไปคิดมา ได้แบบนี้แหละค่ะ 55 และะ ปกติเป็นคนชอบให้ซิมส์แต่งหน้าโทนนํ้าตาลอันนี้โทนหวานๆ ชักมึนเข้าไปใหญ่เลยค่ะ แต่นี่ก็ทำดีที่สุดแล้ววว

ให้อธิบายผลงานของคุณ : ผลงานนี้ ฉันภูมิใจที่สุดเลยยย เสื้อที่เปอะสีได้ให้รู้ว่า การที่ถ่ายแบบกับภาพ street art ไม่ใช่ถ่ายๆอย่างเดียวแล้วก็เสร็จ นี่ฉันลงมือทำเองเลย มันจะได้สื่อถึงแนว art มากยิ่งขึ้น..

ผลงานนี้กว่าจะได้มานะค้ะ ชั้นไม่อยากจะเล่า แต่เล่าดีว่าอิอิ คือว่าตอนถ่ายแบบเนี่ยยย มีนางคนนึงมานินทาเรื่องการแต่งตัวของอิชั้นค่ะ มาว่าว่าลาว ชุดอะไรไม่รู้ หืมม ไม่ตบก็บุญละค่ะ นางอาจล้อเล่นแต่ไม่คิดถึงคนที่ฟังเลยยย และว่าจะถ่ายเสร็จนี่นะล่อไปทั้งวันเลยค่ะ เพราะมานางคนไหนไม่รู้ ยุ่งกับเรื่องเสื้อผ้า และมีปัญหาอื่นๆอีกมากมาย จนต้องเลทเวลาไปอีกนะ แต่ในที่สุดมันก็ออกมาได้ดี

"ตอนนี้ที่โตเกียวอากาศหนาว หิมะก็กำลังจะตกนะคะ เป็นช่วงฤดูหนาวค่ะ แต่โจทย์ที่ได้รับต้องเป็นฤดูฝน....
เอ่อ แล้วฉันจะไปหาฝนมาจากไหนล่ะ สงสัยคงต้องทำฝนเทียมขึ้นมาเอง เพราะงั้นฉากหลังจำเป็นต้องติดกำแพง
หรืออยู่ใกล้กำแพงให้มากที่สุด เพื่อให้เพื่อนๆของฉันที่ตามมาช่วย สามารถปีนกำแพงแล้วเทฝนเทียมลงมาได้
ไอฉันน่ะไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ แต่เพื่อนฉันเนี่ยสิ ถึงตัวไม่เปียก แต่พี่แกเล่นท่ายากขณะกำลังเทน้ำลงมาจากชั้นบน
เพื่อให้ได้ฝนที่สมจริงที่สุด คิดดูสิคะ พื้นที่ยืนบนกำแพงก็นิดเดียว ดีแค่ไหนที่พวกนางไม่หล่นลงมาทับหัวฉัน
ลงทุนกันขนาดนี้ สงสัยได้รางวัลงวดนี้ต้องพาพวกนางไปฉลองหน่อยแล้ว!"


"คัท! เดี๋ยวเอาเทปมาฟังอีกรอบนึง เผื่อตัดตรงไหนออกไป" มิยูกิเงยหน้าจากเครื่องบันทึกเสียงขึ้นมามองหน้าฉัน
ฉันยักไหล่ให้ก่อนจะหันไปมองพวกนางสองคนที่กำลังเก็บข้าวของเครื่องใช้เตรียมกลับบ้าน

"มากิ ทำตามที่พูดด้วยนะ เสร็จจากนี้อย่าลืมพาพวกฉันไปกินเนื้อย่างด้วย"
โซระตะโกนขณะกำลังเก็บถึงน้ำและกะละมังซึ่งเป็นอุปกรณ์สร้างฉากฝนตกก่อนหน้านี้

"รู้แล้วย่ะ เผลอๆ ฉันจะเลี้ยงอะไรที่มันแพงกว่าเนื้อย่างซะอีก ป่ะ กลับบ้านกัน!!"

ทั้งฉัน มิยูกิ โซระ และจินต่างรวมตัวกันเข้ามา กอดคอเรียงกันสี่คน แล้วมุ่งหน้าไปขึ้นรถ

"ยัยพวกนี้ มาเก็บถังน้ำกลับไปด้วยเลยนะ หนาวจะตายอยู่แล้วมาเล่นสาดน้ำอะไรกันป่านนี้!!!!!!"


หือ อะไรลอยมาโดนหัวฉัน!?

รู้แล้วเหยียบไว้เลยนะ กว่าจะได้มาซึ่งคอนเซ็ปต์เนี้ย ต้องแย่งชิงชุดกับพวกไม่เจียมบอดี้ เหนื่อยมากค่ะ ชุดสวยๆมันเหมาะกับคนสวยๆไม่ใช่อ่อแก แล้วจะให้พวกอกไข่ดาว แบนราบแข่งกับกระดานโต้คลื่นใส่มันจะรุ่งป่ะละ บางคนก็นะ เอวเนี้ยพอๆกับโอ่ง ถ้ามองไม่ดีนึกว่านางพกห่วงยางส่วนตัวมา ถถถถ แล้วแต่ละนางก็แลไม่ค่อยชอบฉันเลยอ่ะแก แต่ก็นะคนสวยมักโดนเพ่งเล็ง เป็นจุดสนใจ เลยโดนหมั่นไส้ธรรมดา แคร์ป่ะนี่ถาม ?? แต่บางทีก็รำคาญนะพวกเสียงนกเสียงกา อยากถามพวกนางดังๆว่า ตบป่ะจะได้จบ! แต่ก็นะแม่สอนมาว่า อย่าเอาเกลือไปแลกกับพิมเสน ถือซะว่าฟังเสียงเห่าเฉยๆคิดไรมาก