"คุณจะรู้ว่าคุณรัก ก็ต่อเมื่อคุณเลิกรักไปแล้ว"
- เอ็มมานูเอล
- เอ็มมานูเอล

"ถ้าคุณเคยดูหรือรู้จักภาพยนตร์เรื่อง Into The Wild ซึ่งเป็นเรื่องราวของ Christopher McCandless
ชายหนุ่มที่ทิ้งชีวิตที่เคยมี แล้วออกเดินทางเข้าป่าข้ามประเทศเพื่อค้นหาชีวิตใหม่ หรือว่าเรื่อง Paper Towns
เรื่องราวของ Margo Roth Spiegelman เด็กสาวที่ทิ้งชีวิตไฮสคูลแล้วหายตัวไปอย่างลึกลับเพื่อตามหาตัวตนของตัวเอง
เรื่อง Emmanuel ก็ตั้งอยู่บนโครงเรื่องแบบเดียวกัน โดยใช้ตัวเอ็มมานูเอลเป็นผู้ถ่ายทอดมุมมองต่างๆทั้งหมด
ซึ่งมันเป็นมุมมองความคิดที่เอ็มมานูเอลมีต่อเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นอยู่รอบตัว ซีรี่ย์เรื่องนี้เลยตั้งชื่อตรงตัวตามชื่อตัวละครเอก
การเดินเรื่องจะเดินเรื่องแบบเรื่อยๆเหมือนชีวิตคนๆหนึ่งที่ใช้ชีวิตธรรมดาเหมือนทุกๆวันและคอยสังเกตสิ่งต่างๆแบบคนนอก
แต่สิ่งที่เป็นแรงผลักดันของเอ็มมานูเอลคือความฝันที่จะทำในสิ่งที่รักและความต้องการที่จะหลุดออกจากกรอบชีวิตเก่า
ซึ่งในกรอบชีวิตเก่าจะเล่าถึงชีวิตวัยรุ่นธรรมดาๆที่เรียนมหาลัยและมีเรื่องของความรักมาเป็นตัวผูกเรื่อง
จริงๆมันเป็นไอเดียของคนที่ใช้ชีวิตคนเดียวและใช้เวลาไปกับการคิดเรื่องต่างๆกลับไปกลับมา เหมือนการมองเลข 9 กับเลข 6
มันไม่ใช่เรื่องราวของคนที่พยายามแหกกฏ หรือคิดนอกกรอบแบบหยาบคายหรือแข็งกระด้าง
แต่มันเป็นเรื่องของคนที่รู้จักทุกสิ่งทุกอย่างในกรอบที่ตัวเองอยู่ทั้งหมดแล้วและพยายามจะออกจากกรอบเดิมไปหาสิ่งใหม่
โดยสิ่งที่ถ่ายทอดผ่านความคิดของเอ็มมานูเอลจะออกเชิงจิตวิทยา เป็นเหมือนการเล่นเกมความคิดและการใช้คำพูดพลิกแพลง
ซึ่งสุดท้ายมันอาจจะไม่ได้จบแบบ Into The Wild หรือ Paper Towns
และแน่นอนว่าซีรี่ย์เรื่องนี้จะไม่ใช่แค่พระเอกเจอนางเอก มีเหตุการณ์ต่างๆแล้วจบด้วยการที่พระเอกนางเอกรักกัน
กรอบเรื่องมันกว้างกว่านั้นมาก มันมีเรื่องราวการผจญภัยและการตามหาชีวิตของคนๆหนึ่ง
มีเรื่องของความคิดความรู้สึกที่จะสะท้อนความจริงบางอย่างที่คุณมองข้ามไป ให้คุณได้ลองย้อนกลับมาคิดตาม
และผมคิดว่า สุดท้ายแล้วเอ็มมานูเอลจะเปิดมุมมองใหม่ให้คุณได้ลองสัมผัส
และสะท้อนให้คุณเห็นอีกโลกความคิดหนึ่งที่กลับด้านเหมือนกระจก"
- George Bedford
มาร่วมติดตามและค้นหาชีวิตไปกับเอ็มมานูเอลได้ที่
>>EMMANUEL<<
ชายหนุ่มที่ทิ้งชีวิตที่เคยมี แล้วออกเดินทางเข้าป่าข้ามประเทศเพื่อค้นหาชีวิตใหม่ หรือว่าเรื่อง Paper Towns
เรื่องราวของ Margo Roth Spiegelman เด็กสาวที่ทิ้งชีวิตไฮสคูลแล้วหายตัวไปอย่างลึกลับเพื่อตามหาตัวตนของตัวเอง
เรื่อง Emmanuel ก็ตั้งอยู่บนโครงเรื่องแบบเดียวกัน โดยใช้ตัวเอ็มมานูเอลเป็นผู้ถ่ายทอดมุมมองต่างๆทั้งหมด
ซึ่งมันเป็นมุมมองความคิดที่เอ็มมานูเอลมีต่อเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นอยู่รอบตัว ซีรี่ย์เรื่องนี้เลยตั้งชื่อตรงตัวตามชื่อตัวละครเอก
การเดินเรื่องจะเดินเรื่องแบบเรื่อยๆเหมือนชีวิตคนๆหนึ่งที่ใช้ชีวิตธรรมดาเหมือนทุกๆวันและคอยสังเกตสิ่งต่างๆแบบคนนอก
แต่สิ่งที่เป็นแรงผลักดันของเอ็มมานูเอลคือความฝันที่จะทำในสิ่งที่รักและความต้องการที่จะหลุดออกจากกรอบชีวิตเก่า
ซึ่งในกรอบชีวิตเก่าจะเล่าถึงชีวิตวัยรุ่นธรรมดาๆที่เรียนมหาลัยและมีเรื่องของความรักมาเป็นตัวผูกเรื่อง
จริงๆมันเป็นไอเดียของคนที่ใช้ชีวิตคนเดียวและใช้เวลาไปกับการคิดเรื่องต่างๆกลับไปกลับมา เหมือนการมองเลข 9 กับเลข 6
มันไม่ใช่เรื่องราวของคนที่พยายามแหกกฏ หรือคิดนอกกรอบแบบหยาบคายหรือแข็งกระด้าง
แต่มันเป็นเรื่องของคนที่รู้จักทุกสิ่งทุกอย่างในกรอบที่ตัวเองอยู่ทั้งหมดแล้วและพยายามจะออกจากกรอบเดิมไปหาสิ่งใหม่
โดยสิ่งที่ถ่ายทอดผ่านความคิดของเอ็มมานูเอลจะออกเชิงจิตวิทยา เป็นเหมือนการเล่นเกมความคิดและการใช้คำพูดพลิกแพลง
ซึ่งสุดท้ายมันอาจจะไม่ได้จบแบบ Into The Wild หรือ Paper Towns
และแน่นอนว่าซีรี่ย์เรื่องนี้จะไม่ใช่แค่พระเอกเจอนางเอก มีเหตุการณ์ต่างๆแล้วจบด้วยการที่พระเอกนางเอกรักกัน
กรอบเรื่องมันกว้างกว่านั้นมาก มันมีเรื่องราวการผจญภัยและการตามหาชีวิตของคนๆหนึ่ง
มีเรื่องของความคิดความรู้สึกที่จะสะท้อนความจริงบางอย่างที่คุณมองข้ามไป ให้คุณได้ลองย้อนกลับมาคิดตาม
และผมคิดว่า สุดท้ายแล้วเอ็มมานูเอลจะเปิดมุมมองใหม่ให้คุณได้ลองสัมผัส
และสะท้อนให้คุณเห็นอีกโลกความคิดหนึ่งที่กลับด้านเหมือนกระจก"
- George Bedford
มาร่วมติดตามและค้นหาชีวิตไปกับเอ็มมานูเอลได้ที่
>>EMMANUEL<<








GEORGE BEDFORD
GEMMA JANES
FROM
"EMMANUEL"
BY
AEYDROPDEAD
GEMMA JANES
FROM
"EMMANUEL"
BY
AEYDROPDEAD
ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ ซีรี่ย์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตั้งใจอยากจะทำให้จบจริงๆ
ขอบคุณทุกๆกำลังใจค่ะ

ขอบคุณทุกๆกำลังใจค่ะ
