ฮานส์


            เกือบ 4 เดือนแล้วที่ฉันไม่ได้ออกงานใหญ่ๆแบบนี้ แม้ 4 เดือนมันอาจจะเป็นแค่เวลาสั้นๆ แต่ฉันมีความสุขมากที่ได้ใช้ชีวิตแบบธรรมดาๆอยู่ที่ไทยกับผู้ชายคนนึง แต่สุดท้ายแแล้ว อย่างไรซะ ฉันก็มีเรื่องที่ต้องทำ และเดินออกมาจากจุดนั้น มันหมดเวลาพักของฉัน และต้องกลับมาทำหน้าที่ของตัวเองแล้ว

            Lamborghini Gallardo สุดรักของฉันที่แม้ตอนนี้ฉันจะไม่ได้ขับเองเคลื่อนเข้าสู่หน้างาน ฉันเพียงก้าวลงจากรถช่างภาพทุกคนก็รีบหันกล้องมาถ่ายกันแทบไม่ทัน เล่นเอานักแสดงสาวที่เป็นเป้าหมายอยู่ในตอนแรกหันมามองฉันตาเขียว แต่ช่วยไม่ได้ ฉันทำได้เพียงยิ้มทักทายเล็กน้อยให้เธอเท่านั้น

            ทุกคนรู้ดีเรื่องที่ฉันหายไปจากฮ่องกงเมื่อไม่กี่เดือนก่อน การกลับมารอบนี้พอจะพอให้พวกเค้าได้สนใจจะไปรื้อข่าวอะไรบ้าง ซึ่งก็ดี ฉันไม่ต้องเหนื่อยปล่อยข่าวเองมากนัก

            ระหว่างทางเดินเข้างานมีนักแสดงและผู้คนมากหน้าหลายตาเข้ามาทักทายฉัน แน่นอนว่าฉันชอบอะไรแบบนี้เป็นที่สุด ฉันรักการมีชื่อเสียง รักการที่ทุกคนให้ความสนใจ เพราะนั่นทำให้ฉันเข้าใกล้เป้าหมายที่ฉันตั้งไว้ได้มากขึ้น




            เทศกาลภาพยนต์ในปีนี้ถือว่าสนุกพอสมควร มีภาพยนต์ที่ฉันร่มแสดงด้วย 2-3 เรื่อง กว่าจะปิดกล้องไปได้แต่ละเรื่อง มันช่างเหนื่อยเหลือเกิน แต่ฉันก็มีความสนุขนะ


            ก่อนกลับฉันรับปากไว้แล้วว่าจะให้สัมภาษณ์กับสื่อ ฉันจึงเดินมาบริเวณให้สัมภาษณ์ นักข่าวเยอะเหมือนกันนะปีนี้

“ทำไมถึงเปลี่ยนชื่อเป็นฮานส์ล่ะคะ?” นักข่าวคนแรกเลือกคำถามที่เป็นอันดับ 1 ในตอนนี้เลย

“ฮานส์แค่คิดถึงชื่อเก่าน่ะค่ะ ฮานส์เกิดมาพร้อมชื่อนี้ โตมาพร้อมชื่อนี้ ชื่ออลิซฮานส์ก็กะใช้แค่ชั่วคราวอยู่แล้ว ไม่คิดด้วยซ้ำค่ะว่าจะใช้มาเกือบ 3 ปี” ฉันยกยิ้มให้นักข่าว

“มีข่าวว่าน้องอลิซเคยเข้าวงการมาด้วยชื่อฮานส์แล้ว แต่จู่ๆก็หายไป แล้วกลับมาเปรี้ยงอีกด้วยชื่ออลิซ ตอนนั้นที่หายไปเป็นเพราะอะไรครับ” ว่าแล้วคำถามนี้ต้องมา

“จริงๆ จากนี้ไปเรียกฮานส์เลยก็ได้นะคะ สำหรับคำถาม ตอนนั้นก็ไม่ได้หายไปไหนหรอกค่ะ แค่ตอนนั้นฮานส์ยังไม่รับงานเพิ่ม ต้องปรับตัวนิดหน่อยกับวงการนี้ เรื่องบางเรื่องฮานส์ก็ไม่คิดเลยว่าในวงการนี้มันมีแบบนี้ด้วย คือไม่คิดว่าจะเกิดกับตัวเองน่ะค่ะ เลยต้องปรับตัวนิดหน่อยแล้วกลับมาอีกทีด้วยชื่ออลิซเพราะเรียกง่ายน่ะค่ะ” ไบ้ให้แล้ว ไปคุ้ยข่าวกันเองนะคะ อยากรู้จริงเจ้าพ่อนักปิดข่าวในประเทศ จะสู้นักข่าวระดับนานาชาติไหวไหม

            นักข่าวสัมภาษณ์ฉันต่อไปเรื่อยๆกับคำถามซึ่งก็มักจะเป็นเรื่องงานมากกว่า จนกระทั่ง

“น้องฮานส์คะ” นักข่าวหญิงคนนึงตะโกนมาจากด้านหลังพยายามเรียกความสนใจจากฉันออกจากนักข่าวคนอื่นๆ ไม่รู้เพิ่งเคยสัมภาษณ์ภาคสนามหรือเปล่า ดูลุ้กลี้ลุกลน

“พี่ด้านหลังถามได้เลยค่ะ” ให้โอกาสหน่อยแล้วกัน

“มีภาพปล่อยออกมาจาก Twitter ในไทยตอนที่น้องฮานส์หายไปสองสามเดือนก่อน ที่เป็นรูปที่น้องฮานส์อยู่กับผู้ชายคนนึง ไม่ทราบว่าน้องฮานส์คบกับใครอยู่ใช่ไหมคะ” ฉันรู้แหละว่าต้องมีคนถาม แต่ไม่อยากจะตอบเลยสิให้ตาย

“ค่ะ เราคบกันประมาณ 3 เดือน ไม่ใช่คนในวงการอะไรหรอกค่ะ ฮานส์เองก็คบแค่สนุกๆ ไม่ได้จริงจังอะไร มีคนพาเที่ยวในไทยมันก็ดี และตอนนี้ไม่มีอะไรต่อกันแล้วค่ะ” ถ้าถามต่อจะร้องไห้มันตรงนี้แล้วนะ “ฮานส์ขอโทษนะคะ วันนี้ฮานส์ขอให้สัมภาษณ์เท่านี้นะคะ ฮานส์เหนื่อยแล้วจริงๆ”

ฉันยกยิ้มครั้งสุดท้าย แม้จริงๆข้างในจะเหนื่อยขนาดไหน

“ขอบคุณพี่ๆนะคะ และแฟนคลับทุกคนด้วย เร็วๆนี้ภาพยนต์ที่ฮานส์แสดงจะเข้าฉายแล้วอย่าลืมติดตามกันด้วยนะคะ ฮานส์ตั้งใจมากจริงๆ ขอบคุณค่ะ” ฉันได้แต่ทำใจนิ่งๆแล้วเดินออกจากตรงนั้นมาพร้อมบอดี้การ์ด

            ระเบิดลูกแรกถูกปล่อยไปแล้ว หวังว่าจะมีคนเริ่มตื่นตัวสักทีนะ

            ชีวิตฉันต่อจากนี้คงจะเจอกับเรื่องอันตรายอะไรอีกมาก แต่เอาเถอะ ฉันไม่มีอะไรจะเสีย ถ้าให้เลือกยืนอยู่ที่เดิม กับไปทำเรื่องสนุกๆให้สะใจเล่น อันหลังน่าเลือกกว่าเยอะ

            ไว้เจอกันที่ฮ่องกงนะคะ YI Channel