ภาพผีสิง
โจ้ เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากภาพถ่าย
คุณคงเคยได้ยินเรื่องภาพถ่ายติดวิญญาณมามากแล้ว ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจและชอบดูรูปภาพประเภทนี้ มันน่าทึ่ง น่ากลัวและน่าสยดสยองจริงๆ วันหนึ่งผมก็ได้ประสบพบเจอมันเข้ากับตัวเองมันยิ่งกว่าสยองอีกครับ เพราะผีในภาพมันตามผมกลับมาบ้านด้วย!
เรื่องนี้เริ่มต้นในวันที่ผมไปเที่ยวน้ำตกที่นครนายกกับเพื่อนๆ ผมเองเป็นต้นคิดและนัดแนะกับเพื่อนฝูงอีกเกือบสิบคนไปเที่ยว....พวกเราเรียนจบมัธยมปลายที่โรงเรียนเดียวกัน... สนิทกันมาก...มากจนไม่ต้องรอให้ถึงวันคืนสู่เหย้า เราก็นัดพบกันได้เป็นฝูง
พวกเราทั้งหญิงและชายออกเดินทางกันตั้งแต่เช้ามืด เพราะกะว่าจะไปเช้า-เย็นกลับ...วันนั้นผมขับรถตู้ไปเองด้วย ผมมีรถตู้ครับ บริการเพื่อนๆ จนถึงบ้านทุกคน นับว่าสะดวกสบายดีมากๆ พวกผู้หญิงทำอาหารปิกนิกเพียบพร้อม น้ำจืด น้ำหวาน น้ำขมมีครบ
ที่น้ำตกนั้นคนน้อย เพราะไม่ใช่วันหยุดสุดสัปดาห์ เราจึงสำเริงสำราญกันเต็มที่...พวกเราถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน ทั้งถ่ายจากมือถือและทั้งกล้องดิจิตอล ผมเพิ่งซื้อกล้องใหม่มาอันหนึ่ง ราคาหมื่นกว่าๆ กำลังเห่อครับ ยามบ่าย อากาศค่อนข้างอบอ้าว แต่เราเล่นน้ำกันจนค่อนข้างหนาว และเราก็นั่งอยู่ใต้ร่มไม้ครึ้ม ลมแรง แดดสวยใสเชียว
ช่วงหนึ่งที่เพื่อนๆ เริ่มเหนื่อย พักความโลดโผนโจนทะยานกันชั่วครู่ บางคนนอนผึ่งพุงจนเคลิ้มหลับ พวกผู้หญิงเริ่มจับกลุ่มคุยกันอย่างลืมโลก ผมปลีกตัวลัดเลาะไปตามแนวหินและร่มไม้ พร้อมกับหันกล้องถ่ายรูปตัวเองบ้าง ถ่ายวิวสวยๆ บ้าง
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมยืนพิงก้อนหินใหญ่ ด้านหลังเป็นกอไผ่ใบสวย เห็นน้ำตกอยู่ข้างๆ แอ่งน้ำตรงนั้นลึกแค่เข่า น้ำเย็นเฉียบ ผมหันกล้องเข้าหาตัวเองและกดชัตเตอร์ เสร็จแล้วก็กดดูภาพที่เพิ่งถ่ายเสร็จนี้ อือม์...ไม่หล่อแฮะ ลบดีกว่า! แต่เดี๋ยวก่อน...นั่นอะไรน่ะ?
ในภาพนั้น เห็นใบหน้าผมกำลังเก๊กหล่อ แต่มันดูขมึงทึงไปหน่อย นั่นไม่สำคัญ...ด้านหลังผมต่างหากที่น่าสนใจ! เยื้องไหล่ซ้ายของผม ลึกเข้าไปในดงไม้ มีใบหน้าของผู้หญิงผมยาวปรากฏขึ้น!
ผมหันขวับไปมองตรงจุดนั้น แต่ไม่เห็นใครเลย ที่ตรงนั้นว่างเปล่า ผมกลับมาจ้องดูในภาพ... มันมีอะไรบางอย่างที่บอกว่าผู้หญิงที่ปรากฏไม่ใช่คน! ลักษณะเธอเหมือนภาพโปรโมตหนังผีไม่มีผิด ผมยาวยุ่งเหยิง หน้าดำมอมแมมด้วยคราบเลอะเทอะ ซึ่งผมแน่ใจว่ามันคือเลือด! ดวงตาไร้แววของเธอเบิ่งค้าง ปากอ้าคล้ายกำลังคราง
มีแววของความเจ็บปวด หวาดกลัวสุดขีดและความตาย...ยิ่งดูยิ่งชัด!
ผมเผ่นไปให้เพื่อนๆ ดู พวกมันสติแตกกันกระจาย ไอ้ที่เมาก็หายเมา ที่ง่วงเหงาก็ตื่นโพลง พวกผู้หญิงลืมไปแล้วว่ากำลังปรึกษาปัญหาหัวใจกันอยู่ มันทำให้เราฮือฮามาก ถามหาที่มาที่ไปของผู้หญิงในรูปกันให้ควั่ก
ในที่สุดก็รู้จากแม่ค้าแถวๆ ปากทางว่า เมื่อไม่กี่เดือนมานี้มีผู้หญิงมาโดดน้ำตกตาย ท่าทางเป็นชาวบ้าน แต่มาจากไหนไม่รู้ จนป่านนี้ก็ยังหาญาติไม่พบ เธอมาตายคนเดียว เจ้าหน้าที่ห่อศพที่ยับเยินของเธอไป...
ผมกลับบ้านด้วยอาการขวัญหนีดีฝ่อ...เอาละซิ! เจอเข้ากับตัวเองแล้วทีนี้ เป็นไงล่ะ ผมไม่ได้ลบรูปนั้นทิ้ง แต่เอามาให้พ่อแม่และญาติพี่น้องดู เป็นที่ตื่นเต้นฮือฮากันไปทั่ว กล้องตัวนั้นผมเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าด้านปลายเตียง มันสงบนิ่งอยู่ในนั้นอย่างน่าพรั่นพรึง...เพราะมีรูปผมกับผีติดอยู่!
คืนหนึ่ง ผมได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ออกมาจากตู้เสื้อผ้า ทีแรกก็คิดว่าฝันไป แต่มันชัดมากเหมือนเธอนั่งคร่ำครวญอยู่ในตู้นั้นจริงๆ ผมผวาเลยครับ...รีบเปิดไฟแต่ไม่กล้าเปิดตู้
ในที่สุด ผมอัดรูปนั้นเก็บไว้ และลบภาพในกล้องทิ้ง หวังว่าอาถรรพณ์ของมันจะหมดไป แต่ผมคิดผิดครับ...เสียงร้องไห้คร่ำครวญยังคงมีอยู่ จนผมเอากล้องไปเก็บไว้ที่อื่น
คราวนี้เธอไม่ได้อยู่แค่ในตู้เสื้อผ้า แต่เพ่นพ่านไปทั่วบ้าน คนใช้ผมซึ่งตื่นแต่เช้ามืดยังเห็นผู้หญิงผมยาวแต่งชุดแบบชาวบ้านเดินช้าๆ อยู่ที่นั่นที่นี่...ผมกลัวจริงๆ ถึงใส่บาตรทำบุญไปให้ เธอก็ยังวนเวียนอยู่ใกล้ๆ เสมอ
เมื่อหมดปัญญาแล้ว ผมก็เริ่มพูดกับเธออย่างจริงจัง...พูดด้วยอารมณ์หงุดหงิดว่าตามผมมาทำไม? ที่นี่เป็นบ้านของผม อย่ามารบ กวนดีกว่า กลับไปซะ ผมสงสารแม่และหลานๆ ที่ต้องกลัวผี ใครก็ไม่รู้ที่ผมพาเข้าบ้านโดยไม่รู้ตัว ไม่น่าเชื่อว่าด้วยวิธีง่ายๆ แค่นี้เอง เรื่องสยองเรื่องนี้ก็ยุติลง ผมไม่รู้สึกว่ามีผีแปลกหน้าอยู่ในบ้านอีกเลยนับแต่นั้น
แม่บอกว่าเป็นเพราะจิตของผมที่โกรธจนไม่กลัว และบอกผีอย่างจริงจังให้ไปซะ! เวลาคุณเจอปัญหาแบบนี้ คุณลองใช้วิธีผมก็ได้ครับ ข้อสำคัญต้องจิตแข็ง...ได้ผลจริงๆ ครับ!
<a href="http://widget.sanook.com/view-widget/emoticon/?widget=893" target="_blank"><img border="0" src="http://widget.sanook.com/static_content/full/emo/8f173d0eaffc4b90c0c0361b8f37cc17_1203414736.gif" alt="คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ" ></a><br><br><a href="http://widget.sanook.com/">[ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย]</a>
ศาลาผีหลอก"ทองแดง" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากศาลาท่าน้ำ
สมัยหนุ่มๆ ผมเคยอยู่หลังวัดกระโจมทอง ธนบุรี บรรยากาศสงบเงียบตามแบบของบ้านสวนทั่วๆ ไป ตกกลางคืนยิ่งเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยว เสียงลมพัดลู่ไปตามยอดไม้ชวนให้วังเวงใจสิ้นดี!
ข้อสำคัญก็คือ ทำให้นึกถึงเรื่องผีๆ สางๆ อย่างช่วยไม่ได้ คนกลัวผีอย่างผมปอดกระเส่าน่าดู...แหม! เรื่องผีนี่ไม่เข้าใครออกใครนะครับ ขอบอก
ชาวบ้านที่จะออกไปทำงานก็ได้อาศัยรถสองแถว ที่มาสุดทางบริเวณลานหน้าวัดใกล้ๆ กับศาลาการเปรียญและเมรุเผาผี...ไปออกถนนจรัญสนิทวงศ์ 35 ระยะทางค่อนข้างไกลโข ขาไปไม่เท่าไหร่แต่ขากลับนี่ต้องแวะส่งผู้โดยสารตามรายทาง กว่าจะถึงหน้าวัดก็ปาเข้าไปตั้งครึ่งชั่วโมงกว่าแน่ะ
คนที่ต้องไปทำงานไกลๆ ถึงถนนราชวิถีอย่างผม ไหนจะต้องโหนรถเมล์สองต่อกว่าจะมาถึงปากซอยก็ตกค่ำแล้ว...สมัยนั้นยังไม่มีถนนสายใหม่บรมราชชนนีตัดผ่าน ให้รถราแล่นกันคึ่กๆ เหมือนทุกวันนี้นะครับ
ถึงแม้จะเจริญขึ้นก็จริง แต่มีพวกวัยรุ่นมาซิ่งรถกันสนั่น ชาวบ้านไม่เป็นอันหลับอันนอนกันล่ะ...ตำรวจมาดักจับได้ทีละ 20-30 คนเป็นประจำ
ข้างวัดมีคลองแคบๆ ค่อนข้างคดเคี้ยว ต้นไม้ร่มครึ้มแทบจะบดบังแสงแดดจนหมดสิ้น แต่ยังอุตส่าห์มีเรือหางยาวแล่นผ่าน ทะลุไปออกคลองบางกอกใหญ่ แต่ไม่ได้จอดที่ศาลาท่าน้ำของวัดหรอกครับ ผมเองก็ไม่เคยได้นั่งเรือสักที นอกจากตอนเช้าๆ เดินออกจากบ้านผ่านสวนกล้วยไม้ขนาดใหญ่ ข้ามสะพานเข้าเขตวัด มักจะเห็นเรือหางยางแล่นตะบึงจนน้ำกระจายผ่านไปบ่อยหน
บางวันกลับถึงบ้านเร็วหน่อย เจอะเจอกับการเผาศพที่เพิ่งจะเสร็จสิ้น แขกเหรื่อทยอยกันกลับ เอารถมาเองก็มี รอรถสองแถวก็มี ได้บรรยากาศน่ากลัวไปอีกแบบเหมือนกัน
เจ้าภาพยังตั้งวงเหล้ากันที่ศาลาท่าน้ำ อ้อยอิ่งอยู่จนมืดค่ำก็มี...บางทีมีคนรู้จักกันอยู่ก็ร้องเรียกให้ผมเข้าไปร่วมวงด้วย ขัดศรัทธาไม่ได้ก็แวะเข้าไปดื่ม 2-3 แก้วพอเป็นพิธี ก่อนจะเดินเลียบคลองไปขึ้นสะพานกลับบ้าน...โชคดีอย่างที่ผมไม่ได้เป็นนักเที่ยว ทำให้ไม่ต้องกลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ แถมรถราหายากอีกต่างหาก!
ว่าแต่คนที่กลับดึกๆ น่ะไม่กลัวผีมั่งหรือไง?
น่าแปลกตรงที่ลือว่าผีดุ แต่ไม่เคยมีใครถูกผีหลอกอย่างจังๆ สักที นอกจากเห็นเงาอะไรวูบๆ วาบๆ ซึ่งคิดว่าตัวเองตาฝาดหรือไม่ก็เกิดอุปาทานไปเอง เล่าให้ใครฟังเขาก็หาว่าเมาจนตาลายทั้งนั้นแหละครับ
มีอยู่รายชื่อพี่เสริม แกเล่าว่าเห็นใครนั่งชันเข่าอยู่ที่ศาลา สูบยาแดงวาบๆ แกเดินไปหันมองไปพลาง ตอนนั้นราวสามทุ่มกว่า...เอ๊ะ! ใครมานั่งสูบยาคนเดียวในที่เปลี่ยวๆ แบบนี้นะ? พอหันไปอีกทีก็ไม่เห็นเสียแล้ว ทั้งๆ ที่ไม่มีทางหลบไปไหนโดยแกไม่เห็นได้แน่ๆ เลย
ผีน่ะซี! พี่เสริมบอกตัวเอง แล้วก็โจนพรวดขึ้นสะพาน ไม่ตกน้ำตกท่าตายก็บุญแล้วนะ ผมว่า!
ในที่สุด ผมเองก็เจอดีเข้ากับตัวเองจังๆ
ตอนนั้นจำได้ว่าเปลี่ยนสัปเหร่อเป็นผู้หญิงพอดี...ไม่ใช่ใครอื่นหรอกครับ เขาว่าเป็นลูกสาวของสัปเหร่อคนเก่าน่ะแหละ สวยเสียด้วย พ่อแก่ตัวลงก็ให้ลูกสาวสืบอาชีพของตัวเองต่อไป พวกเราไม่เคยพบเห็นว่ามีสัปเหร่อผู้หญิงมาก่อน ก็เลยเห็นว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาดไปเอง
วันนั้นเงินเดือนออก ผมกับเพื่อนๆ ก็หาอะไรกินแถวซังฮี้ตั้งแต่เย็นจนราวสองทุ่มก็ขอตัว พวกเพื่อนๆ ก็เข้าใจว่าบ้านผมต้องเข้าสวนเปลี่ยวลึกล้ำ ดีไม่ดีจะไม่ทันรถสองแถวเที่ยวสุดท้ายซะด้วยซ้ำ
มอเตอร์ไซค์รับจ้างน่ะ ถ้าไม่คุ้นกันจริงๆ ก็ไม่อยากเข้าไป ไม่ต้องพูดถึงแท็กซี่ก็ได้...พอเข้าซอยพ้นตึกแถวกับบ้านเรือนคึกคัก มีแต่เรือกสวนเปล่าเปลี่ยวก็มักจะถอดใจ ...จอดรถดื้อๆ บอกว่าขอส่งแค่นี้ละกัน...คงกลัวทั้งคน กลัวทั้งผีน่ะสิครับ!
ปรากฏว่าผมทันรถสองแถวเที่ยวสุดท้ายพอดี...มีคนลงเป็นระยะๆ จนสุดทางที่เหลือแต่ผมคนเดียว
รถตีวงกลับไปแล้ว ทิ้งให้ผมเดินดุ่มๆ ผ่านเมรุเผาผีที่โดดเด่นอยู่ทางขวามือเพียงเดียวดาย...หมาเจ้ากรรมก็โก่งคอหอนโหยหวนเยือกเย็น เขาว่ามันหอบเพราะเห็นผีไม่ใช่หรือคุณ?
แสงสว่างจากเสาไฟฟ้าดูแน่นิ่ง สรรพสิ่งเงียบเชียบ ลมไม่พัด ยอดไม้ไม่เกิดเสียงซู่ซ่า ยกเว้นแต่เสียงหมาหอนแล้วก็ไม่มีเสียงอะไรอีก...ผมรีบก้าวยาวๆ ไปตามทางเดินเลียบคลอง มุ่งหน้าไปที่สะพาน...แต่แล้วก็ต้องชะงักงัน
เสียงเรือหางยาวดังมาจากด้านซ้ายมือ!
เอ...กลางค่ำกลางคืนแบบนี้ไม่เคยมีเรือแล่นนี่นา? ผมสงสัยจนต้องหันไปดูก็เห็นศาลาท่าน้ำตั้งโดดเด่นอยู่ในม่านตา หลังคากระเบื้องเก่าแก่ผุกร่อน...แต่มีเสียงร้องขึ้นว่า...มากินเหล้ากันก่อนสิเพื่อน! เล่นเอาสะดุ้งเฮือก จ้องมองให้แน่ใจก็เห็นภาพนั้นเข้าเต็มตา
คนกลุ่มหนึ่งกำลังล้อมวงกัน แต่หันมามองผมเป็นจุดเดียวพลางหัวเราะฮ่าๆๆ จนผมขนลุกซ่า...ใบหน้าดำเกรียม นัยน์ตาแดงจ้าเหมือนแสงไฟน่าสยดสยองสิ้นดี
ความมืดสาดพรึ่บเข้ามาเต็มหน้า ผมร้องเฮ้ย! เผ่นพรวดขึ้นสะพานแทบจะเหาะได้ วิ่งอ้าวไม่เหลียวหลังรวดเดียวจนถึงบ้าน หอบแฮ่กๆ ปิ่มว่าจะขาดใจ...ไม่ช้าผมก็มาเช่าห้องอยู่ใกล้ๆ ที่ทำงานเพราะไม่อยากโดนผีหลอกจนช็อกตายน่ะสิครับคุณ!
ภาพผีสิง และ ศาลาผีหลอก
greeferlay | #1 08-12-2010 - 11:11:44 | ||||
|
greeferlay | #2 08-12-2010 - 11:15:28 | ||||
|
|
sutthawan | #3 08-12-2010 - 12:03:08 | ||||
|
|
เกมส์sims | #4 08-12-2010 - 15:22:59 | ||
|
Galaxy-Gun | #5 10-01-2011 - 14:59:10 | ||||
|
คนเล่นซิมส์ | #6 30-01-2011 - 09:55:52 | ||||
|
|
aumlovethesim3 | #7 30-01-2011 - 11:26:41 | ||||
|
tongeye0002 | #8 30-01-2011 - 11:27:44 | ||||
|
- 1
ลงข้อความได้เฉพาะสมาชิก ต้องสมัครเป็นสมาชิกและ login เข้าสู่ระบบก่อนถึงจะสามารถลงความเห็นได้ |
ข้อมูลเมื่อ 13th November 2024 11:04
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล] |