โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ
Twlight Saga : Breaking Dawn(ภาค4)สปอย Part 1-3
DieciMo
#1
10-02-2011 - 02:47:15

#1 DieciMo  [ 10-02-2011 - 02:47:15 ]









สปอย#10 Part 1 #16 Part 2 #23 Part 3 100% คลิปหาได้แต่FanMadeคับ






#หนังทำเป็น 3 Part(เหมือนหนังสือ)









หนังจะเข้าฉายประมาณเดือนพฤศจิกายนนี้แหละคับ


quote :
ขอเสียงคนอยากดูช่วยคอมเม้นหน่อยคับ


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-05-09 06:10:51
inanity
goodfriends

DieciMo
#2
10-02-2011 - 03:48:53

#2 DieciMo  [ 10-02-2011 - 03:48:53 ]




ขอใช้หน่อยนะคับ







 488779


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-02-10 03:52:39

Kawaif
#3
11-02-2011 - 19:55:36

#3 Kawaif  [ 11-02-2011 - 19:55:36 ]




อยากดูเร็ว ๆ ><

DieciMo

DieciMo
#4
12-02-2011 - 01:02:09

#4 DieciMo  [ 12-02-2011 - 01:02:09 ]




รอยาว ๆ คับ


Luke Gulden
#5
12-02-2011 - 07:12:20

#5 Luke Gulden  [ 12-02-2011 - 07:12:20 ]






น่าสนุก



◎‿‿◎
izone1234
#6
12-02-2011 - 07:49:56

#6 izone1234  [ 12-02-2011 - 07:49:56 ]




อยากดู


DieciMo
#7
12-02-2011 - 08:23:45

#7 DieciMo  [ 12-02-2011 - 08:23:45 ]




ถ้าชอบก้+1ให้ด้วยนะคับแล้วเดี๋ยวจะหามาฝากเพิ่มนะคับ


Chanya
#8
12-02-2011 - 08:42:30

#8 Chanya  [ 12-02-2011 - 08:42:30 ]








นี้ไม่ใช่ตัวอย่างหนังจริงๆ

เหอะๆ อันนี้ Fanmade

เห็นนานละ


DieciMo
#9
12-02-2011 - 08:45:39

#9 DieciMo  [ 12-02-2011 - 08:45:39 ]




quote : Chanya

นี้ไม่ใช่ตัวอย่างหนังจริงๆ

เหอะๆ อันนี้ Fanmade

เห็นนานละ



ขอโทษทีคับไม่รู้คับ ไว้เดี๋ยวจะหามาใหม่(ช่วงนี้ขออ่านรีบอร์นก่อนนะคับมารอบหน้าจะเอาสปอยPast1มาฝาก)


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-02-12 08:47:58

DieciMo
#10
12-02-2011 - 11:07:09

#10 DieciMo  [ 12-02-2011 - 11:07:09 ]




กล่าวย้อนไปถึงคราวที่เอ็ดเวิร์ด และเบลล่ามาขออนุญาตชาร์ลีแต่งงานกัน ตอนนั้นเบลล่ารู้สึกถึงความหนักอึ้งของแหวนหมั้นที่นิ้ว วิตกกังวลไปหมดว่าจะพูดยังงไง ทั้งสองคนรอการกลับมาบ้านของชาร์ลีอย่างใจจดใจจ่อ จนกระทั่งชาร์ลีกลับมาถึงเห็นทั้งสองคนนั่งด้วยกันแบบมีพิรุจก็ชักเอะใจ พอเบลล่ากับเอ็ดเวิร์ดขอคุยด้วยก็ชักซีเรียสขึ้นมานิดๆ และยิ่งเมื่อทั้งสองคนมานั่งต่อหน้าหลังจากเอ็ดเวิร์ดบอกว่ามีข่าวดีจะบอก ชาร์ลีก็เริ่มคิดไปเองและโพล่งออกมาว่า "เบลล่าท้องหรือ" (ประมาณว่าคุณพ่อก็กลัวเรื่องความสัมพันธ์ของสอง คนนี้มาตั้งแต่ภาค 3 แล้ว เลยวิตกกังวลเรื่องนี้เอามาก) ได้ยินดังนั้นเบลล่าก็รีบปฏิเสธ จนในที่สุดเอ็ดเวิร์ดตัดสินใจเป็นฝ่ายบอกเสียเองว่าเขาได้ขอเบลล่าแต่งงาน และเธอก็ตกลง และก็ขอโทษที่เขาไม่ได้ขอชาร์ลีก่อนตามธรรมเนียม ดังนั้นพวกเขาอย่างจะขอคำอวยพรจากชาร์ลีสำหรับการแต่งงานครั้งนี้ (คล้ายๆกับการขออนุญาตนั่นแหละคับ)

พอ ได้ฟังดังนั้นชาร์ลีก็ถึงกับอึ้งไปชั่วขณะจนหน้าเปลี่ยนสีไปมา แต่พอตั้งสติได้ก็เป็นฝ่ายถามว่าทำไมถึงรีบร้อนกันนัก เอ็ดเวิร์ดเลยอ้างเรื่องที่ว่าพวกเขาทั้งสองคนต้องไปเรียนมหาวิทยาลัยด้วย กัน (ประหนึ่งว่าออกไปอยู่ด้วยกันจริงๆแล้วนะ) ก็เลยอยากทำอะไรๆให้มันถูกต้องเสียก่อน ชาร์ลีก็นิ่งคิดหาวิธีตั้งรับก่อนจะหัวเราะและบอกว่าคิดแล้วว่าสักวันเรื่อง นี้มันต้องมาถึง แต่งงาน โอเค แต่ง แต่... แต่ว่าเบลล่าจะต้องเป็นคนบอกแม่เอง (ประมาณว่าชาร์ ลีคิดว่านี่เป็นไม้ตายแล้วเชียว ก็เพราะเรเน่เคยแต่งงานกับชาร์ลีเมื่อครั้งยังเด็กมากๆ และก็ผิดหวัง หย่าร้างกันมาแล้ว เลยค่อนข้างจะแอนตี้เรื่องการแต่งงานเมื่ออายุน้อยอยู่มาก) แต่กลับผิดคาด เมื่อเรเน่เองกลับบอกว่า แม่รออยู่แล้ว เพราะแม่รู้ตั้งแต่ครั้งที่เบลล่ามาหาครั้งที่แล้ว (ครั้ง ที่เอ็ดเวิร์ดไปเฝ้าที่ ร.พ.) และเรเน่ก็อนุญาต (น่าสงสารคุณพ่อชาร์ลีจริงๆ คิดว่าแม่จะขัดขวาง แต่ดันพลิกโผ)

หลัง จากคืนวันก่อนแต่งงานที่เอ็ดเวิร์ดมาหาเบลล่า ทั้งสองคนก็ไม่ได้พบกันอีกตามธรรมเนียมที่เจ้าบ่าว-เจ้าสาวห้ามเจอกันก่อน แต่งงาน เช้าวันแต่งอลิซมารับเบลล่าไปบ้านคัลเลน แต่...ปิดตาเบลล่าเอาไปจนไปถึงห้องน้ำ จากนั้นก็จัดการขัดสีฉวีวันให้เบลล่า แล้วก็แต่งเนื้อแต่งตัวให้ โดยมีโรซาลีมาช่วยทำผมให้ด้วย อลิซพึงพอใจกับการเนรมิตเบลล่าเป็นเจ้าสาวที่งดงามมากๆ (แต่เบลล่าไม่ได้ส่องกระจกดูตัวเองเลยไม่รู้) พอเรเน่มาถึงก็มาหาเบลล่า น้ำตาคนเป็นแม่ก็ไหลด้วยความยินดี ชาร์ลีก็แต่งตัวด้วยชุดที่อลิซจัดหาให้ก็ดูหล่อเหลาเอาการไม่เบา ทั้งสองคนสวมกอดเบลล่าและให้ของขวัญกับลูกสาว ก่อนที่จะผละไปเมื่อเริ่มใกล้เวลางาน

เบล ล่ารู้สึกตื่นเต้นมากๆ พาลเอาหูตาลายหายใจไม่ออก ไม่มีแรง จนพ่อและอลิซต้องยืนขนาบข้าง และให้กำลังใจว่าเอ็ดเวิร์ดรออยู่ข้างล่าง ทั่วทั้งบ้านถูกเนรมิตให้งดงามสมกับเป็นสถานที่แต่งงานด้วยดอกไม้และริบบิ้น มากมาย เบลล่าพยายามมองหาคนที่ใจคิดถึงจนในที่สุดก็พบกับเอ็ดเวิร์ดที่สุดทางเดิน สู่พิธี และไม่อาจละสายตาจากเขาไปได้ ( แบบว่ารอวันนี้มานานมาก) เบลล่ามึนงงอีกครั้งด้วยรอยยิ้มละลายใจของเจ้าบ่าวตัวเอง...อิอิ ทั้งสองกล่าวตอบรับคำปฏิญาณที่ถูกขอให้บาทหลวงปรับเปลี่ยนให้นิดหน่อยจาก "จวบจนความตายจะมาพรากเราจากกัน" เป็น "ตราบนานเท่าที่เรายังมีชีวิตอยู่ด้วยกัน" และจูบกันปิดท้าย คราวนี้ล่ะสิที่เบลล่าของเราเอาอีกละ...เบลล่าประมาณว่าจูบแล้วเคลิ้มไม่ สนใจคนรอบข้าง แบบว่าจูบกันซะนาน จนเอ็ดเวิร์ดเป็นคนที่มีสติและหยุดการจูบลงซะก่อน ผู้ร่วมงานเลยได้โอกาสปรบมือเสียที

พอ งานเลี้ยงกลางคืนก็มีการให้เจ้าบ่าวก้มลงถอดสายรั้งถุงน่องของเจ้าสาวด้วย ปาก (เล่นเอาเบลล่าสยิว...ซะง้าน) เต้นรำเปิดฟลอร์ แล้วก็เต้นกับแทบทุกคนที่รู้จัก และรับคำอวยพรจากทุกคน นอกจากนั้นก็ตัดเค้กแจกจ่าย (แบบว่าจัดงานได้แบบรักษาขนบธรรมเนียมดีจัง) และเอ็ดเวิร์ดเองก็มีของขวัญสุดพิเศษมอบให้เบลล่า แต่ของขวัญชิ้นนี้สำหรับฝนซึ่งเป็นคนอ่านคนนึงไม่อยากให้เบลล่าได้รับเลย เชียว- ของขวัญชิ้นนั้นคือ.....เจคอบ

เอ็ด เวิร์ดเปิดโอกาสให้เจคอบและเบลล่าได้อยู่กันตามลำพังในมุมหนึ่งของสวน (มุมมืด ไม่มีใครรู้) เบลล่าก็แบบแหม...แสดงความห่วงใยซะและเบลล่าก็ได้พลั้งปาก ไปว่าจะไปฮันนีมูนกับเอ็ดเวิร์ดแบบเป็นการ ฮันนีมูนจริงๆ (แบบว่าว่าจะมีอะไรกัน) คราวนี้เกิดเรื่องเลย เจคอบก็เลือดขึ้นหน้าเลย หาว่าเบลล่าบ้าไปแล้วหรือไง แล้วเขย่าตัวเบลล่าซะเจ็บ เอ็ดเวิร์ดก็มาทันทีเลยค่ะ มาบอกให้ปล่อยเบลล่าซะ ประมาณว่าเกือบมีเรื่องกัน เจคอบแบบจะฆ่าเอ็ดเวิร์ดให้ได้ แต่ดีที่เพื่อนๆชาวหมาป่ามาแยกตัวเจคอบไปเสียก่อน ทุกอย่างเลยกลับเป็นปกติอีกครั้ง และเอ็ดเวิร์ดก็ยังคงใจดีเหมือนเดิม คิดจะเปิดโอกาสให้เบลล่าอีก แต่เบลล่าก็ยืนยันว่าไม่เป็นไร และเก็บกักความรู้สึกต่อเจคอบไว้ภายใน ทั้งสองกลับไปร่วมงานต่อ จนเมื่อถึงเวลาอลิซก็มาจัดแจงให้ทั้งสองคนไปฮันนีมูนในสถานที่ที่ไม่มีใคร ยอมบอกเบลล่าว่าเป็นที่ไหน

ใน ที่สุดทั้งสองคนก็มาถึงเกาะแห่งหนึ่ง - Isle Esme ชื่อ แม่เอ็ดเวิร์ด---ฟังแล้วก็รู้ว่าเป็นเกาะส่วนตัว เกาะนี้อยู่ในเขตร้อน กลางเกาะมีบ้านหลังโอ่โถงเชียว อิอิ... ถึงคราวที่อยู่ลำพังหลังแต่งงานจะมีเรื่องอะไรได้อีกนอกจาก.... อย่าเพิ่งคิดไปไกล ทั้งเอ็ดเวิร์ดและเบลล่าก็ยังกระดากอายนิดหน่อย เอ็ดเวิร์ดเรียกเบลล่าว่า "คุณนายคัลเลน"เล่นเอาเบลล่าถึงกับสะดุ้ง ประมาณว่ายังไม่คุ้นชิน คราวนี้ถึงการตัดสินใจในเรื่องของคนสองคนซะที เอ็ดเวิร์ดถามเบลล่าว่าอยากไปว่ายน้ำตอนดึกอย่างนี้กับเขามั้ย อากาศร้อนที่นี่ทำให้ตอนกลางคืนน้ำอุ่นดี ว่าแล้วเอ็ดเวิร์ดก็ให้เวลาเบลล่าตัดสินใจเอง ส่วนตัวเขาถอดเสื้อทิ้งไว้ที่พื้น แล้วเดินออกไปที่ชายหาด

คราว นี้ถึงตาเบลล่าแล้วสิ เกิดมาก็เพิ่งเคยรู้สึกอย่างนี้ ไม่รู้จะตัดสินใจทำอะไรดี เลยตัดสินใจอาบน้ำคลายเครียดเสียก่อน พอไปเปิดกระเป๋าก็เจอแต่เสื้อผ้าแบบเซ็กซี่ (อลิซจัดให้ ...เข้าใจทำนะเนี่ย) พออาบน้ำไปก็คิดไปจะเอาไงดี ถึงขั้นนั่งคิดในห้องน้ำอยู่นาน จนคิดว่าไม่ไหวแล้วล่ะ ถ้านั่งอยู่แบบนี้ไม่ไปสักทีถ้าเอ็ดเวิร์ดกลับเข้ามาเจอคงเสียใจและเจ็บปวด คิดได้อย่างนั้น เบลล่าก็ลุกเดินออกไปยังชายหาดทั้งๆที่นุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวนั่นแหละ...คงแบบคิดว่า เอาไงเอากันวะงานนี้

ที่ ชายหาดขาวสะอาดสะท้อนแสงจันทร์เบลลามองเห็นเอ็ดเวิร์ดยืนหันหลังให้อยู่ใน น้ำทะเล เงยหน้ามองดวงจันทร์ เสื้อผ้าส่วนที่เหลือที่เขาใส่ออกมาก็ถูกพาดอยู่ที่ต้นไม้ เบลล่าก็กลั้นใจถอดผ้าเช็ดตัว ค่อยๆย่องลงน้ำไปหาเอ็ดเวิร์ด จากนั้นอะไรๆก็เกิดขึ้น.....


รุ่ง เช้าเบลล่าตื่นมาอย่างมีความสุขต่างกับเอ็ดเวิร์ดที่รู้สึกผิด เนื่องด้วยตามเนื้อตัวของเบลล่าเต็มไปด้วยรอยเขียวช้ำ เบลล่ายืนยันว่าไม่ใช่อย่างนั้นเธอสบายดี แต่เอ็ดเวิร์ดก็ยังคงรู้สึกผิดอยู่ดี และบอกว่าจากนี้เขาจะไม่มีอะไรๆกับเบลล่าอีกจนกว่าเธอจะเปลี่ยนเป็นแวมไพร์เสียก่อน

เบล ล่าพยายามหลายต่อหลายวิธีที่จะทำให้เอ็ดเวิร์ดเปลี่ยนใจ แต่ก็ไม่เป็นผล ในขณะเดียวกันเอ็ดเวิร์ดก็พยายามหักเหความสนใจของเบลล่าโดยพาออกไปทำกิจกรรม กลางแจ้งทุกวันจนเบลล่ากลับมาแล้วเหนื่อยอ่อนหลับคาโต๊ะกินข้าวแทบทุกวัน ในระหว่างนั้นเบลล่าก็ฝันร้ายซ้ำไปซ้ำมาถี่ขึ้น ฝันถึงโวลตูรี ฝันว่าพวกนั้นจะฆ่าเด็กน้อยดวงตาสีเขียวสดใส เด็กน้อยแวมไพร์ที่นั่งอยู่บนกองซากศพของคนที่เบลล่ารู้จัก ทั้งเพื่อนฝูงและครอบครัว จนในที่สุดในวันหนึ่งที่เบลล่าฝันอีกครั้ง เบลล่าตื่นขึ้นมาด้วยน้ำตา เอ็ดเวิร์ดตกใจมากและต้องการให้เบลล่าเล่าให้ฟัง แต่ดันยังไม่ทันได้เล่าเบลล่าก็พาเอ็ดเวิร์ดเข้าสู่โหมดเกินหักห้ามใจ และในที่สุดเบลล่าก็ได้ในสิ่งที่ต้องการ..

จาก นั้นทั้งสองคนก็เริ่มเรียนรู้การอยู่ร่วมกันอย่างปลอดภัยในยามค่ำคืน (ไม่ต้องบอกว่าเรื่องไหน) และเมื่อคิดถึงความฝันในครั้งนั้น การที่เบลล่าร้องไห้ไม่ใช่เพราะมันเป็นฝันร้าย แต่สำหรับเธอมันคือฝันดี เบลล่าพร้อมจะปกป้องเด็กน้อยคนนั้น โดยไม่หันหลังให้เหมือนทุกครั้ง และในคืนหนึ่ง เบลล่าที่ช่วงนี้เริ่มเหนื่อยง่าย และนอนหลับมากขึ้น ตื่นมาในยามดึก และพบว่าเอ็ดเวิร์ดออกไปล่า เบลล่ารู้สึกร้อนจนนอนต่อไม่ได้ จึงตัดสินใจมาอบไก่กิน กินแล้วก็รู้สึกว่ารสชาติมันแปลก ลองชิมหลายคำก็ไม่อร่อยจึงเททิ้งทั้งตัว แล้วมาทิ้งตัวนอนในโซฟาในห้องดูทีวี โดยเปิดหน้าต่างเอาไว้ จนในที่สุดแสงแดดก็ส่องมาที่ตัว เบลล่าค่อยๆรู้สึกตัว แต่ความจริงแล้วสิ่งที่ทำให้ทำตื่นก็คือสัมผัสเย็นๆจากตัวเอ็ดเวิร์ดต่างหาก เอ็ดเวิร์ดขอโทษที่ทิ้งไปปล่อยให้เบลล่านอนร้อนๆอย่างนี้ คราวหน้าก่อนจะออกล่าอีกคงต้องติดแอร์เสียแล้ว แต่เบลล่ารู้สึกพะอืดพะอมจึงขอตัวไปอาเจียน เล่นเอาเอ็ดเวิร์ดตกใจ แต่เบลล่าก็บอกว่าอาหารคงเป็นพิษ

จาก นั้นเอ็ดเวิร์ดก็หาอะไรให้เบลล่ากินและมาดูทีวีกัน เบลล่าผล็อยหลับไป ตื่นมาอีกทีก็มีอาการเดิมอีก เอ็ดเวิร์ดเลยชวนไปหาหมอ แต่เบลล่าไม่ไป แล้วไปค้นหายาในกระเป๋า แต่สิ่งที่ปะทะสายตากลับทำให้เบลล่าต้องหยุดคิด เอ็ดเวิร์ดที่เมียงมองอยู่ถามว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า เบลล่าจึงถามกลับไปว่าเรามาฮันนีมูนที่นี่กี่วันแล้ว คำตอบที่ได้มาคือ 17 วัน นั่นเองที่ทำให้เบลล่าคิดได้ว่าเธอไม่น่าจะเจอกับอาการอาหารเป็นพิษแล้วล่ะ เมื่อเอ็ดเวิร์ดถามว่าเกิดอะไรขึ้น เบลล่าจึงบอกว่า เธอคิดว่าเธอท้องแล้ว และนั่นเองที่นำมาซึ่งความช็อคของทั้งสองฝ่าย

เอ็ด เวิร์ดนิ่งค้างไปเหมือนรูปปั้น ขณะที่เบลล่าคิดหาความเป็นไปได้ และในตอนนั้นเองที่โทรศัพท์มือถือของเอ็ดเวิร์ดดังขึ้น แต่เอ็ดเวิดยังคงนั่งในท่าเดิม จนในที่สุดเบลล่าก็รวบรวมเรี่ยวแรงไปควานหาโทรศัพท์ในตัวเอ็ดเวิร์ด และพบว่าอลิซโทรมา เบลล่าขอคุยกับคาลิสเซิล ซึ่งได้ข้อสรุปว่าเธอน่าจะท้องจริงๆ ในที่สุดเอ็ดเวิร์ดก็ค่อยๆดึงสติกลับมาได้ เขาขอพูดกับผู้เป็นพ่อด้วยความเคร่งเครียด และในที่สุดก็วางหูและบอกเบลล่าว่าเราต้องกลับบ้านกันแล้วล่ะ ไม่ต้องกลัวนะ คาลิซเซิลจะจัดการกับสิ่งนั้นเอง ว่าแล้วเอ็ดเวิร์ดก็รีบร้อนเก็บข้าวของอย่างบ้าคลั่ง พร้อมโทรศัพท์จองเที่ยวบินด่วน

ณ ตอนนั้นเองที่เบลล่าคิดได้ว่าเด็กในท้องคงไม่ปลอดภัยเสียแล้ว ภายในท้องนี้เป็นลูกของเธอกับคนที่เธอรัก เหตุใดเธอจะต้องยอมสูญเสียเขาไป ก่อนกลับแม่บ้านที่ดูเหมือนจะรู้ว่าเอ็ดเวิร์ดไม่ใช่มนุษย์ได้มาที่บ้าน และโต้เถียงบางอย่างกับเอ็ดเวิร์ดด้วยภาษาที่เบลล่าไม่สามารถเข้าใจได้ แต่ดูจากสีหน้าแล้วเอ็ดเวิร์ดคงเจ็บปวดอยู่ไม่น้อย เมื่อแม่บ้านกลับไป เอ็ดเวิร์ดก็เก็บของไปลงเรือ และในขณะนั้นเองเบลล่าก็เห็นโทรศัพท์มือถือที่เอ็ดเวิร์ดวางทิ้งไว้ เธอจึงอาศัยจังหวะนั้นตัดสินใจกดเบอร์ๆหนึ่งซึ่งเธอไม่เคยโทรหามาก่อน "โรซาลี นี่เบลล่านะ ขอร้องล่ะ เธอต้องช่วยฉันนะ"







ขอบคุณข้อมูลจาก : http://my.dek-d.com

คอมเม้นสิแล้วจะมาเพิ่มให้นะคับ


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-02-14 15:33:15

inanity
#11
12-02-2011 - 14:15:36

#11 inanity  [ 12-02-2011 - 14:15:36 ]




รอ ๆรอต่อไป


DieciMo
#12
13-02-2011 - 05:26:57

#12 DieciMo  [ 13-02-2011 - 05:26:57 ]




เอาเด็กน้อยลูกครึ่งแวมไพร์มาให้ดูกัน

เอ็ดเวิร์ด+เบลล่า = เรเนสเม่





panicha52
#13
13-02-2011 - 11:52:25

#13 panicha52  [ 13-02-2011 - 11:52:25 ]






มาดุูๆ อยากให้ตอนนีออกมามากเลย ถึงจะอ่านจบไปแล้วก็เถอะ น่าดูมากเลย


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-02-13 11:52:44

DieciMo
#14
13-02-2011 - 12:40:09

#14 DieciMo  [ 13-02-2011 - 12:40:09 ]




อิอิ ผมไม่ชอบอ่านอะแต่สปอยที่เอามาก็ต้องอ่านก่อนเอามาเพราะตัดคำพูดที่ไม่เกี่ยวกับหนังออก อยากดูมาก ๆ


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-02-13 12:41:48

DieciMo
#15
14-02-2011 - 15:34:44

#15 DieciMo  [ 14-02-2011 - 15:34:44 ]




สปอยPart 1 ครบ 100% แล้วคับ


DieciMo
#16
19-02-2011 - 16:43:38

#16 DieciMo  [ 19-02-2011 - 16:43:38 ]




มาแล้ว ๆ Part 2



หลังการฮันนีมูนของเอ็ดเวิร์ดและเบลล่าผ่านไป ชาร์ลีได้ส่งข่าวมาถึงบิลลี่ด้วยความโศกเศร้าข่าวที่มาถึงลาพุชมีอยู่ว่าเครื่องบินที่คู่แต่งงานใหม่เดินทางกลับประสบอุบัติเหตุและยังหาตัวไม่พบ แต่สำหรับเจคอบแล้วข่าวนี้นำมาซึ่งความสงสัยไม่ใช่ว่าเอ็ดเวิร์ดกลับมาบ้านแล้ว แต่ปกปิดไว้เพราะเขาทำมันพลาด เบลล่าได้ตายไปเสียแล้วหรืออย่างไรคิดดังนั้นความเคียดแค้นก็ยิ่งเพี่มพูนในหัวใจ

เจคอบออกวิ่งไปเรื่อยๆตามเสียงที่ได้ยิน เขาไปพบ Quil และ Claire คู่ imprinted ที่ชายหาด Quil ดูแล หยอกล้อ Claire ไปพลางพูดคุยกับเจคอบไปพลาง ในที่สุดก็มีเสียงเรียกจากฝูงให้มารวมตัวกัน เนื่องจากมีข่าวใหม่จากชาร์ลี

ข่าวที่ได้มาคือ เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาเอ็ดเวิร์ดและเบลล่าได้เดินทางกลับมาแล้ว แต่เบลล่าป่วยหนักและไม่สามารถเข้าเยี่ยมได้ ได้ยินดังนั้นเจคอบก็ยิ่งโกรธมากขึ้น เขาไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยินและต้องการไปให้เห็นกับตา เขาอยากฆ่าทุกคนที่ทำให้เบลล่าต้องเจ็บปวด อยากฆ่าเอ็ดเวิร์ดด้วยตัวของเขาเอง เจคอบไม่ฟังคำทัดทานของแซมและเพื่อนร่วมฝูงเขาเร่งฝีเท้าไปยังบ้านคัลเลน

เมื่อไปถึงเจคอบก็ได้พบเบลล่า ได้เห็นเธอในสภาพที่ทรุดโทรม ได้เห็นเอ็ดเวิร์ดในสภาพของคนที่หัวใจร้าวรอนราวถูกแผดเผาและนอกเหนือไปกว่านั้นเบลล่าในวันนี้เธอมาด้วยรูปลักษณ์ที่เขาคาดไม่ถึง บัดนี้หน้าท้องของเบลล่าโป่งพอง ใบหน้าซีดเซียวไร้สีเลือด แต่รอยยิ้มของเธอยังมีให้แก่เขา เบลล่าท้องแล้วและบางสิ่งที่อยู่ในท้องของเธอ เจ้าสัตว์ประหลาด สิ่งที่น่ารังเกียจนั้นกำลังจากพรากชีวิตไปจากเธอ

เอ็ดเวิร์ดพูดคุยกับเจคอบ พวกเขาถกเถียงกันว่าทำไมไม่กำจัดมันออกไปซะ รู้ทั้งรู้ว่าเบลล่าจะต้องตายเพราะมัน เอ็ดเวิร์ดยอมรับว่าใช่ เบลล่าอาจจะต้องตายเพราะสิ่งนั้น แต่เขาได้พยายามแล้วแต่เบลล่าไม่ฟังเขาเลย เจคอบได้เห็นความเจ็บปวดของเอ็ดเวิร์ด จากเดิมที่คิดจะฆ่าแวมไพร์หนุ่มให้ตายลงไปกับมือ เขาก็ไม่สามารถทำได้ นอกเหนือไปกว่านั้นเอ็ดเวิร์ดได้ขอร้องเขาให้ทำบางสิ่งให้กับเบลล่า

เอ็ดเวิร์ดรู้ว่าเบลล่าต้องการลูกมากแค่ไหน แต่สิ่งที่เขาให้เธอได้กับเป็นการสร้างสัตว์ประหลาด สร้างสิ่งที่น่ารังเกียจที่มีแต่จะสร้างความทรมานให้แก่เธอเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงขอให้เจคอบเป็นผู้ให้สิ่งนั้นกับเธอ(แบบว่ายอมให้มีลูกกะคนอื่นเลยทีเดียว)

เจคอบได้ฟังแล้วก็อึ้งไปในใจคิดวกวนไปมา เขาเคยคิดในแง่นั้นกับเบลล่า แต่ไม่ใช่ตอนนี้ เจคอบลังเลเป็นอย่างมากเมื่อเจคอบได้คุยกับเบลล่า ได้เห็นเธอลูบไล้หน้าท้องอย่างทนุถนอม เขาได้แต่รู้สึกเจ็บปวดและเข้าใจได้ถึงสิ่งที่เอ็ดเวิร์ดรู้สึก เจคอบพูดคุยกับเบลล่าพยายามโน้มน้าวเธอให้เปลี่ยนใจ แต่เบลล่าก็ไม่มีทีท่าที่จะยอมสูญเสียลูกของเธอ มีครั้งหลังที่เขาเกือบจะพูดในสิ่งที่เอ็ดเวิร์ดขอให้เขาทำ แต่เขาก็ทำไม่ได้เจคอบจึงตัดสินใจจากไปด้วยความร้าวราน

เจคอบวิ่งกับลาพุชโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ไม่สนแม้ใครจะมาเห็นเขาในรูปลักษณ์หมาป่า เขาได้แต่คิดวกวนราวคนบ้าและความคิดที่เชื่อมโยงเขาและฝูงก็เผยเรื่องราวไปสู่ชาวหมาป่าทุกๆคนและนั้นเองที่นำมาซึ่งความผิดพลาดอันใหญ่หลวง

แซมมีความเห็นว่าสิ่ง ที่อยู่ในท้องของเบลล่านั้นอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้คนได้ เขาตัดสินใจที่จะนำฝูงเข้าไปทำลายล้างสิ่งนั้นและนั่นคือ การทำลายเบลล่าเช่นเดียวกัน เจคอบพยายามขัดขืนและความพยายามนั้นนำมาซึ่งแรงผลักดันสู่สัญชาตญาณการเป็นจ่าฝู (สายเลือดของเจคอบเป็นสายเลือดของอัลฟ่า-ผู้นำฝูง)

เจคอบตัดสินใจลาจากฝูง เขามีอิสระเป็นของตัวเองและมุ่งหน้ากลับไปยังบ้านคัลเลนอย่างสุดฝีเท้าเพื่อไปเตือนเหล่าแวมไพร์ให้รู้ล่วงหน้า ระหว่างทางเขาได้ยินเสียงในหัว เสียงอันคุ้นเคยที่บอกให้เขาช้าลงหน่อยเจคอบค่อยๆชะลอฝีเท้าโดยไม่รู้ตัว จนผู้ติดตามมามาถึงตัวเขาคนนั้นคือ Seth (เซ็ธ-หมาป่าน้อยผู้มีใจรักในสมาชิกแวมไพร์ โดยเฉพาะเอ็ดเวิร์ด) พวกเขาทั้งสองเร่งรีบไปยังจุดหมายและเมื่อมาถึงที่นั่นเอ็ดเวิร์ดก็รอพวกเขาอยู่ก่อนแล้ว

เอ็ดเวิร์ดและครอบครัวรับรู้เรื่องราวทั้งหมด เอ็ดเวิร์ดฉุนเฉียวมากที่พวกแซมจะมาฆ่าเบลล่าและพวกเขาต่างรู้สึกขอบคุณเจคอบ คืนนั้นเจคอบและเซ็ธลาดตระเวนรอบๆ ขณะที่ครอบครัวคัลเลนก็เตรียมพร้อมและดูแลเบลล่าไปด้วย เนื่องจากในตอนนี้เบลล่าดูเหมือนจะแย่ลงในทุกขณะ สิ่งมีชีวิตในท้องของเธอดูเหมือนจะทำร้ายเธอมากขึ้น กระดูกซี่โครงของเธอเริ่มหัก(อันนี้อาจเล่าวกวนไปบ้างต้องขออภัย บางตอนอาจไม่เป็นไปตามสเต็ปของหนังสือ เอาแบบเท่าที่จำได้) คืนนั้นผ่านไปโดยไม่มีวี่แววของหมาป่ากลุ่มที่เหลือที่ดูเหมือน ณ บัดนี้ ฝูงหมาป่าจะถูกแยกเป็นสองฝูงเสียแล้ว เนื่องจากทางฝั่งเจคอบก็สามารถสื่อสารถึงกันได้แค่เขากับเซ็ธเท่านั้น

ในตอนเช้าแขกที่ไม่รับเชิญก็มาถึง Leah(ลีอาห์) พี่สาวของเซ็ธมา เธอบอกว่าเธอต้องการร่วมฝูงกับเจคอบ ในตอนแรกเจคอบก็รู้สึกระแวงกลัวจะเป็นแผนการที่แซมวางไว้(ลีอาห์กับเจคอบไม่ค่อยชอบหน้ากันมาแต่ไหนแต่ไร มิหนำซ้ำเธอยังเกลียดแวมไพร์เอามากๆ) แต่ลีอาห์ยืนยันว่าเธอต้องการมาเองจริงๆ เธอหนีมาตอนที่พวกแซมเข้าพบผู้อาวุโสในตอนเช้า เนื่องจากเธอเป็นห่วงน้องชายและเธอต้องการถอยห่างจากแซม(ประมาณว่ายิ่งใกล้กันยิ่งเจ็บลึก แถมเธอยังได้ยินได้รับรู้ทุกอย่างที่แซมรู้สึกด้วย) เจคอบยอมให้ลีอาห์เข้าร่วมกลุ่มและพวกเขาก็ผลัดเวรกันเฝ้ายามรอบๆ

ในระหว่างนั้นกระดูกของเบลล่าก็หักอีก แต่เธอก็ยังยืนยันจะรักษาเด็กเอาไว้ โดยมีโรซาลีคอยปกป้องเธอและลูก เบลล่าอาการแย่ลงเรื่อยๆ ร่างกายของเธอไม่รับสารอาหารใดๆและในวันหนึ่งเอ็ดเวิร์ดก็ได้ไอเดียจากความคิดของเจคอบที่ว่าลูกแวมไพร์จะต้องการกินอะไรได้เสียอีก นอกจาก เลือด

พวกเขาลองเอาเลือดให้เบลล่ากินและราวปาฏิหาริย์เบลล่ามีการตอบสนองที่ดีขึ้นในทันที ร่างกายของเธอมีเรี่ยวแรงมากขึ้น ผิวหนังจับสีเลือดมากขึ้นเช่นกัน นำมาซึ่งรอยยิ้มแห่งความหวังของเอ็ดเวิร์ดและในขณะเดียวกันเด็กในท้องก็แข็งแรงมากขึ้น

หลังการเฝ้าระวังภัยให้ครอบครัวคัลเลนหลายวัน ทางด้านแซมได้ส่งจาเร็ด พอล คิวล์ (Quil)และคอลลินมาเจรจาเพื่อขอให้เจคอบและพรรคพวกกลับบ้าน เจคอบยืนยันว่าสำหรับเขาแล้วหมดเรื่องราวทางนี้เมื่อไรก็คงจะไปตามทางของเขาและไม่สามารถกลับไปรวมกลุ่มได้อีก–หนึ่งฝูงไม่ สามารถมีจ่าฝูงได้ถึงสองคน ส่วนเซ็ธและลีอาห์เสร็จเรื่องเดมื่อไหร่ทั้งสองคงได้กลับไปหาแม่

ครอบครัวคัลเลนดีต่อเจคอบรวมถึงเซ็ธและลีอาห์มาก มากเสียจนเจคอบรู้สึกผิดที่เคยทำหยาบคายและคิดจะฆ่าพวกเขา อลิซที่รู้สึกปวดหัวเสมอเมื่อเธอพยายามจะมองอนาคตของเด็กในท้องเบลล่าได้บอกกับเจคอบว่ากลิ่นของเขาทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น(เจคอบเรียกอลิซว่า “ตัวเล็ก” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนิทสนม) แต่อย่างไรเสียเขาก็ยังคงไม่ชอบโรซาลีที่ดูเหมือนจะสนใจแค่สิ่งมีชีวิตในท้องเบลล่า โดยไม่สนใจว่าคนเป็นแม่จะมีชีวิตอยู่รอดต่อไปหรือไม่ เจคอบพยายามจัดหาลู่ทางให้เหล่าแวมไพร์ได้ออกล่าอีกครั้งหลังจากต้องอยู่ในบ้านอย่างระแวดระวัง

เด็กในท้องของเบลล่าเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและนั่นทำให้พวกเขาครุ่นคิดได้ว่าควรจะรีบเอาเด็กออกให้เร็วที่สุดในทันที ที่เด็กพร้อมซึ่งนับเวลาในการเติบโตแล้วเบลล่าน่าจะมีเวลาเหลืออีกแค่ 4 วัน และสี่วันนี้อาจจะเป็นสี่วันสุดท้ายที่เบลล่าจะมีชีวิตอยู่

ลีอาห์ขอบคุณเจคอบที่เขาให้เธออยู่ร่วมฝูงด้วยและได้พูดถึงการ imprinted ว่าเป็นการที่มนุษย์หมาป่าจะถ่ายทอดพันธุกรรมจากรุ่นสู่อีกรุ่นกับหญิงสาว ที่สามารถตอบสนองต่อการพัฒนายีนส์อันพิเศษของเขาได้ ในทางเดียวกันนี้เองหลักการนี้ได้สอดคล้องกับกรณีของเธอที่เธอมีลักษณะผิด ปกติของความเป็นหญิง แม้เธอและแซมจะรักกันมากแค่ไหนมาก่อน แต่ในเมื่อเธอไม่มีคุณลักษณะที่เหมาะสมกับเขา เขาก็ไม่มีทาง imprinted เธอ และหากเมื่อเกิดการ imprinted แล้ว สิ่งนี้ก็จะลึกซึ้งยิ่งกว่าความรักที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในทำนองเดียวกันหากเจคอบ imprinted ใครสักคนเขาก็จะลืมเบลล่าได้เอง

เจคอบหยุดการสนทนาเพียงเท่านั้น เขากลับไปยังบ้านคัลเลนและพบอลิซเปิดประตูออกมา เขาเห็นห้องข้างล่างที่ทุกคนมักจะอยู่รวมกันว่างเปล่า จึงถามว่าเกิดอะไรขึ้น กระดูกซี่โครงเบลล่าหักอีกแล้วหรอ อลิซจึงบอกว่าคราวนี้ไม่ใช่ซี่โครง แต่มันเป็นกระดูกเชิงกรานต่างหาก เบลล่ากลับลงมา เบลล่าทักเจคอบว่าดูเหนื่อยๆนะ เขายอมรับและคิดอยากจะพักเสียบ้าง ในระหว่างที่ทุกคนเงียบ จู่ๆเอ็ดเวิร์ดก็หันมาถามเบลล่าว่าพูดหรือคิดอะไรหรือเปล่า เบลล่าบอกว่าไม่และนั่นเองที่ทำให้เอ็ดเวิร์ดตั้งใจฟังมากขึ้นและพบว่าเสียงนั้นมาจากสิ่งมีชีวิตภายในท้องของเบลล่า

เอ็ดเวิร์ดว่า เด็กมีความสุขดี เบลล่าดีใจที่ได้ยินดังนั้น เธอบอกว่าแน่นอนที่ลูกจะต้องมีความสุข ทำไมลูกจะไม่รู้สึกปลอดภัย อบอุ่น และถูกรัก แม่รักลูกมากนะ EJ (Edward-Jacob ยังเอาชื่อเจคอบมาเอี่ยวอีก-ตอนนี้เบลล่ามั่นใจค่อนข้างมากว่าลูกของเธอเป็นผู้ชาย) โรซาลีถามว่ามีแผนอื่นมั้ยถ้าลูกไม่ใช่ผู้ชายล่ะ เบลล่าตอบว่าคิดไว้แล้วล่ะ ชื่อ Renesmee(Ruh-nez-may) แต่อย่างไรก็ก็ตามเบลล่าก็คิดว่าลูกของเธอเป็นผู้ชาย

เอ็ดเวิร์ดบอกเบลล่าว่าลูกรักเธอและจะทนุถนอมเธอ ในเวลานั้นเองเจคอบรู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยว รู้สึกเหมือนถูกหักหลัง เอ็ดเวิร์ดที่เคยเกลียดสิ่งที่อยู่ในท้องเบลล่ากลับมีทีท่าจะรักมันขึ้นมา เจคอบลุกขึ้น เขาต้องการหนีจากตรงนี้ไป เอ็ดเวิร์ดเห็นดังนั้นก็โยนกุญแจรถให้กับเขา

เจคอบขับรถไปเรื่อยๆ ผ่านเข้าสู่เมือง ไปถึงสวนสาธารณะ เขานั่งอยู่ตรงนั้นเฝ้ามองหาใครสักคนที่เขาน่าจะ imprinted เขาเฝ้าพิจารณาผู้หญิงคนแล้วคนเล่า แต่ก็ไม่มีความรู้สึกใดๆเลย ในที่สุดเขาก็กลับมายังบ้านคัลเลน และพบว่าเอ็ดเวิร์ดรอเขาอยู่ก่อนแล้ว เอ็ดเวิร์ดขอให้เจคอบพยายามควบคุมลีอาห์ไม่ให้มาโวยวายใส่เบลล่า และได้ขอร้องเขาให้อนุญาตให้ครอบครัวคัลเลนได้กระทำสิ่งที่นอกเหนือสนธิสัญญาเพื่อรักษาชีวิเบลล่าไว้

เจคอบบอกว่าแซมเป็นผู้ที่จะทำหน้าที่นี้ไม่ใช่เขา แต่เอ็ดเวิร์ดยืนยันว่าด้วยสายเลือดแล้วเจคอบเป็นเพียงผู้เดียวที่จะอนุญาตได้ เจคอบบอกว่าเขาขอเวลาก่อน เอ็ดเวิร์ดและเจคอบกลับเข้ามาหาเบลล่า เบลล่าขอโทษเจคอบ เจคอบมองเบลล่าและพบว่าสิ่งที่เขามองหาตลอดบ่ายอยู่ในตัวเธอ ถึงแม้พรุ่งนี้เธอจะเปลี่ยนเป็นคนอื่น แต่ยังมีความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป แล้วเจคอบก็ยอมรับคำขอนั้น เขายอมให้เอ็ดเวิร์ดเปลี่ยนเบลล่าเป็นแวมไพร์

เบลล่าถามเจคอบว่า วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง เจคอบจึงเล่าให้ฟัง สักพักเบลล่าก็เรียก “โรส” โร ซาลีหัวเราะในลำคอก่อนถามว่า “อีกแล้วหรอ” เบลล่าอธิบายว่าเธอดื่มไปได้สักสองแกลลอนในชั่วโมงที่ผ่านมา เอ็ดเวิร์ดและเจคอบหลีกให้โรซาลีประคองเบลล่าไปห้องน้ำ แต่เบลล่าขอเดินเอง ระหว่างเดินเบลล่าตบที่ท้องเบาพลางรำพันว่าเหลืออีกวันเดียวเท่านั้น จังหวะนั้นเองแก้วเลือดที่เบลล่าวางไว้เหมือนจะคว่ำ เบลล่าเอี้ยวตัวไปคว้ามัน และนำมาซึ่งเสียงฉีกขาดจากตัวเธอ

เบลล่า ร้อง และพร้อมจะล้มลงสู่พื้น โรซาลีรับร่างของเบลล่าไว้ก่อนจะฟาดพื้นและเอ็ดเวิร์ดก็เข่าไปช่วยด้วยเช่นกัน ดวงตาของเขากลอกไปมา ใบหน้าของเขาแสดงอาการตื่นตระหนกชัดเจน สักพักเบลล่าก็กรีดร้อง และสำลักเลือดสดๆออกมา

โรซาลีและเอ็ดเวิร์ดพาร่างของเบลล่าขึ้นสู่ชั้นบน เอ็ดเวิร์ดตะโกนใส่โรซาลีให้เอามอร์ฟีนมาให้ ขณะเดียวกันโรซาลีก็ให้อลิซโทรหาคาลิซเซิล ทุกอย่างดูสับสนไปหมด โรซาลีฉีกเสื้อผ้าเบลล่าออก เอ็ดเวิร์ดแทงเข็มเข้าที่แขนของเธอ

เจคอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น คำตอบที่ได้คือเด็กหายใจไม่ออก รกคงขาด เบลล่าได้ยินดังนั้นก็กรีดร้องให้เอาเด็กออกมา แต่เอ็ดเวิร์ดยังคงเรียกหามอร์ฟีน โรซาลีบอกว่าไม่มีเวลาแล้วเด็กกำลังจะตาย แล้วโรซาลีก็เสียการควบคุมตัวเอง เจคอบจึงจัดการเธอให้พ้นทาง เอ็ดเวิร์ดขอให้เจคอบช่วยทำ CPR ให้เบลล่า ส่วนเขาจะเอาเด็กออก และเด็กที่ออกมาก็เป็นผู้หญิง เบลล่าขอดูลูกของเธอ แล้วเธอก็สำลักเลือดออกมา เจคอบพยายามช่วยชีวิตเธอ ฝายปอดเธอ เขาไม่เข้าใจว่าเอ็ดเวิร์ดรออะไรอยู่

ในที่สุดเอ็ดเวิร์ดก็บอกให้เจคอบเอามือออก แล้วฉีดพิษของเขาลงสู่หัวใจเธอ แต่ดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดูเหมือนจะมีแค่เจคอบ เอ็ดเวิร์ด และร่างไร้วิญญาณของเบลล่าเท่านั้น และมีเพียงเอ็ดเวิร์ดที่พูดกับตัวเองว่าเบลล่ายังไม่ตาย เธอจะต้องหายดี เจคอบเดินออกจากห้อง เขารู้สึกสูญเสียทุกอย่าง เขาต้องการหนีไปให้พ้น แต่ดูเหมือนว่าเท้าของเขามันหนักเหลือเกิน เขานั่งลงที่ฐานบันได พยายามรวบรวมความแข็งแกร่งเพื่อที่จะออกไปให้พ้นประตูเสียที

โรซาลีนั่งบนโซฟา กำลังพึมพำพูดคุยกับบางสิ่งในห่อผ้าในอ้อมแขน เธอคงได้ยินเสียงเขาเดินลงมาแต่ทำเป็นไม่สนใจ เธอได้ในสิ่งที่ต้องการโดยไม่ต้องสนว่าเบลล่าจะมาทวงคืน โรซาลีเอาเลือดให้ดูด–เลือดมนุษย์

พละพลังกำลังของเจคอบกลับคืน มาพร้อมด้วยความเกลียดชัง เขาต้องการกำจัดมัน เขาจะฆ่ามัน จะฆ่าโรซาลี จะฆ่าทุกคนที่เข้ามาช่วยเหลือ แต่อาจเหลือไว้เพียงเอ็ดเวิร์ดที่จะอยู่อย่างสูญเสียทุกอย่างในชีวิต เจคอบตั้งท่าเตรียมเข้าขย้ำ ขณะที่โรซาลียกห่อผ้าขึ้น

มันมองข้ามไหล่โรซาลีมาที่เขา ดวงตาจับจ้องราวไม่ใช่ดวงตาของเด็กเกิดใหม่ ดวงตาสีช็อคโกแลตนมเช่นเดียวกับดวงตาของเบลล่า เจคอบหยุดชะงัก ความร้อนแผ่ซ่านไปทั่วตัว มันไม่ใช่ความร้อนที่แผดเผา แต่มันเป็นความร้อนอีกชนิดหนึ่งที่แปลกใหม่

ทุกอย่างในตัวเจคอบราวถูกปลดปล่อยไป มีเพียงเส้นใยระหว่างเขาและเด็กน้อยตรงหน้าที่ดึงดูดกันไว้อย่างแน่นหนา-Renesmee ข้างบนมีเสียงใหม่ดังขึ้น เสียงที่สามารถสัมผัสถึงตัวเจคอบในตอนนี้ได้ เสียงที่เป็นจังหวะเร่งรีบ เสียงของการเปลี่ยนแปลงหัวใจ





ขอบคุณ : http://my.dek-d.com/NIHONGO


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-02-20 03:31:53

DieciMo
#17
20-02-2011 - 03:32:45

#17 DieciMo  [ 20-02-2011 - 03:32:45 ]




Part 3 นี่วุ่นวายกว่าเดิมแน่คับ แล้วจะกลับมาพร้อมเบนซินและไฟแช็ค


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-02-20 05:55:49

LolipopS
#18
20-02-2011 - 22:27:15

#18 LolipopS  [ 20-02-2011 - 22:27:15 ]




เดี๋ยวมาดูนะจ๊ะ ^6^


DieciMo
#19
20-02-2011 - 22:55:50

#19 DieciMo  [ 20-02-2011 - 22:55:50 ]




quote : LolipopS

เดี๋ยวมาดูนะจ๊ะ ^6^


แล้วจะรีบมาต่อคับ


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-02-21 01:13:11

goodfriends
#20
24-02-2011 - 09:51:24

#20 goodfriends  [ 24-02-2011 - 09:51:24 ]




อยากดู ๆ

รออยู่ค่ะ...

กรี๊ด..ชอบทไวไลท์

ขอบคุณนะคะที่เอาแบ่งปันกัน


  • 1
  • 2

ลงข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ต้องสมัครเป็นสมาชิกและ login เข้าสู่ระบบก่อนถึงจะสามารถลงความเห็นได้
เข้าสู่ระบบสมัครสมาชิก



ข้อมูลเมื่อ 16th November 2024 21:20

โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ