พระพุทธเจ้าองค์แรกฃองโลก
คือสมเด็จองค์ปฐมที่วัดท่าซุง อุทัยธานี
แรกๆผมก็งงเมื่อได้ยินคำว่า "สมเด็จองค์ปฐม" ต่อมาก็เริ่มค้นหาข้อมูลว่า สมเด็จองค์ปฐมท่านคือใคร ก็ได้คำตอบมาว่า ท่านคือ พระพุทธเจ้าพระองค์แรก ซึ่งไม่ทราบว่าเราจะต้องย้อนกลับไปนานสักกี่เท่าไร ตามข้อมูลบอกว่า ในสมัยพระองค์ท่าน มนุษย์เรามีอายุ 8 หมื่นปีครับ ท่านออกบวชเมื่ออายุประมาณ 4 หมื่นปี จากนันใช้เวลาอีก 2 หมื่นไปในการบำเพ็ญเพียร จนบรรลุเป็นพระพุทธเจ้า และใช้เวลาอีก 2 หมื่นไปสั่งสอนพระธรรมจึงปรินิพพาน สำหรับพระนามของท่านนั้น คือ สมเด็จพระพุทธสิกขี ที่ 1 (เนื่องจากชื่อซ้ำกันถึง 5 พระองค์ จึงต้องใส่หมายเลขกำกับ)
ในเรื่องเล่าของหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง ผมอ่านพบตอนหนึ่งที่ท่านเคยเล่าเกี่ยวกับสมเด็จองค์ปฐมว่า วันหนึ่งท่านเห็นภาพพระพุทธเจ้าทั้งหลายยืนเข้าแถวกันพนมมือ และแสดงท่าทางเคารพอยู่ ปกติเวลาที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปไหน ท่านจะไม่ต้องก้มศรีษะ ถ้าคานบ้านนั้นต่ำ พอท่านเดินผ่าน คานนั้นก็จะสูงขึ้นเอง แต่นี่ทำไมพระพุทธเจ้าทั้งหลายมายืนพนมมือก้มศรีษะอยู่
ท่านหลวงพ่อฤาษี จึงถามหลวงพ่อปานว่า เป็นเพราะอะไร ก็ได้คำตอบว่า พระพุทธเจ้าทั้งหลายกำลังรอรับสมเด็จองค์ปฐม สักพักท่านก็เสด็จมา พระพุทธเจ้าทั้งหลายก็แสดงความเคารพนอบน้อมแด่ท่านสมเด็จองค์ปฐม
ว่ากันว่าเมื่อครั้งหลวงพ่อฤาษีเทศน์สั่งสอนลูกศิษย์ บ่อยครั้งหรือแทบจะทุกครั้งที่สมเด็จองค์ปฐมท่านจะดลใจให้เทศน์เรื่องนั้น เรื่องนี้ เพื่อเป็นการโปรดสัตว์ของท่านสมเด็จ...วันนี้ผมเลยขอนำธรรมะของท่านสมเด็จองค์ปฐมมาฝากกันครับ ผมได้มาจากท่านอาจารย์ที่นับถือ ท่านเป็นฆราวาส เป็นอุบาสิกกา ที่เคร่งครัดในธรรมและกรุณามีเมตตาแก่ผมมากครับ
พระธรรมของสมเด็จองค์ปฐม ละสักกายทิฐิ...ความไม่ประมาท
1. "ให้พิจารณาความไม่เที่ยงไว้เสมอๆ จักได้คลายความยึดมั่นถือมั่น ลงได้ด้วยประการทั้งปวง แม้จะละได้ยังไม่สนิท ก็บรรเทาสักกายทิฐิลงได้บ้างไม่มากก็น้อย"
2. "อย่าลืมคำว่า สักกายทิฐิ มีเป็นขั้นๆ ตั้งแต่อย่างหยาบ อย่างกลาง อย่างละเอียด คือตั้งแต่ปุถุชนมาสู่พระโสดาบัน - พระสกิทาคามี - พระอนาคามี - พระอรหันต์ ล้วนแต่ละสักกายทิฐิในระดับนั้นๆทั้งสิ้น"
3. "สาเหตุก็เนื่องจาก การเห็นทุกข์ในความไม่เที่ยง จากการเกิดเป้นทุกข์ แก่เป็นทุกข์ เจ็บเป็นทุกข์ พลัดพรากจากของรักของชอบใจเป็นทุกข์ ความโศกเศร้าเสียใจเป็นทุกข์ แล้วในที่สุดความตายเข้ามาถึงก็เป็นทุกข์ ต่างคนต่างปฏิบัติไป ก็เข้าสู่อริยสัจ ตามระดับจิตนั้นๆเห็น โดยความไม่เที่ยง - เป็นทุกข์ - เป็นโทษ - จึงพิจารณาสักกายทิฐิเพื่อปลดเปลื้องความยึดมั่นถือมั่นในทุกข์นั้นลงเสีย
4. "อย่าลืม ละที่จิต อย่างเดียวเท่านั้น ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า มีใจเป็นใหญ่ สำเร็จที่ใจ ถ้าหากจิตหรือใจดีเสียอย่างเดียว กาย วาจา ซึ่งเป็นบ่าวก็จักดีตามไปด้วย เดินมรรคด้วยจิต ทำให้ถูกทางแล้ว จักเข้าถึงมรรคผลนิพพานได้ง่าย
ใครอ่านได้บุญ
tree38 | #1 04-04-2011 - 22:10:11 | ||||
|
bogie-bogie | #2 04-04-2011 - 22:18:00 | ||||
|
Winsohm_98 | #3 04-04-2011 - 22:19:11 | ||
The Sniper Death | #4 04-04-2011 - 22:19:52 | ||||
booktiger | #5 04-04-2011 - 23:28:03 | ||||
|
|
bupachart | #6 05-04-2011 - 11:08:02 | ||||
|
panicha52 | #7 05-04-2011 - 11:20:38 | ||||
|
- 1
ลงข้อความได้เฉพาะสมาชิก ต้องสมัครเป็นสมาชิกและ login เข้าสู่ระบบก่อนถึงจะสามารถลงความเห็นได้ |
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล] |