โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ
บทความของ Jim Rossignol ต่อ the sims 3
nampa
#1
19-04-2011 - 15:47:17

#1 nampa  [ 19-04-2011 - 15:47:17 ]





ที่ผมเอามาลงเพราะมันให้แนวทางดีครับ ทำให้ชอบ thesims3 มากขึ้น และอยากให้คนอื่นรู้ว่ามันดีเเค่ไหน


มีบทความชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับธรรมชาติของเกม The Sims และอนาคตของวงการเกม
บท ความชิ้นนี้อยู่ในบริบทของการตระเตรียมการต้อนรับ The Sims 3 ซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดที่จะวางตลาดเดือนหน้า


(บางท่านอาจเคยอ่านมาเเล้วน่ะครับ เพราะตั้งเเต่ เดอะซิมส์3ภาคหลัก ออกอ่ะครับ)


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ข้อเสนอของบทความชิ้นนั้นคือ “เกม The Sims ก็คือละครน้ำเน่าอย่างหนึ่ง”
และด้วยข้อเท็จจริงที่ว่า เกม The Sims เป็นเกมฮิตติดชาร์ตขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์เกมคอมพิวเตอร์ ก็ทำให้ผู้เขียนสรุปต่อมาว่า แท้จริงแล้ว ผู้ที่คุมตลาดเกมคอมพิวเตอร์ก็คือพวก “แม่บ้าน ผู้หญิง และผู้ชายเป็นส่วนน้อย” ไม่ใช่ “ผู้ชายวัยรุ่น” ที่ชื่นชอบเกมที่ใช้เทคโนโลยีเพื่อผลักดันไปสู่จินตนาการที่กว้างไกลแต่ อย่างใด โดยยกตัวอย่างว่า Grand Theft Auto มียอดขายต่ำกว่า The Sims และ GTA ภาคใหม่ๆ ก็ต้องสอดไส้บทบาทพวกละครน้ำเน่าแบบเดียวกับ The Sims เช่น การเดต แซนต์บ๊อกมินิเกมต่างๆ เป็นต้น ด้วยแนวโน้มนี้ จะทำให้อุตสาหกรรมเกม จะโน้มเอียงไปสู่ความเป็นละครน้ำเน่ามากขึ้นในอนาคต

ข้อเขียนชิ้นนี้ มีข้อเสนอที่เจ้าของบล็อกไม่เห็นด้วยหลายประการ ซึ่งจะอธิบายรายประเด็นดังนี้

ประเด็นที่ 1 The Sims คือละครน้ำเน่า
เป็นความจริงที่ละครน้ำเน่าเหมือนกับ The Sims ตรงที่ทั้งสองคือการรวมตัวของการโต้ตอบทางสังคมต่างๆ ที่ลำดับเป็นขั้น เป็นเรื่องราว คนดูละครน้ำเน่าจะได้รับความพึงใจเฉกเช่นคนที่ดูตัวละครใน The Sims คุยกัน ทำหน้าประหลาด ตดใส่หน้า ฯลฯ นั่นคือความพึงใจในฐานะของผู้เฝ้ามองเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดอันจะเกิดขึ้น
แต่นั่นเป็นส่วนเล็กๆ ที่เหมือนกัน ส่วนใหญ่ของ The Sims และละครน้ำเน่านั้น แท้จริงไม่เหมือนกันเลย
สิ่งที่ผู้เขียนบทความมองข้ามไปคือ “การเล่น” ที่เป็นตัวคั้นระหว่างผู้เล่น และเกม The Sims ในขณะที่ละครน้ำเน่านั้น สิ่งที่คั้นกับผู้ชมคือ “การจ้องมอง” การมีการเล่นเป็นคัวกลางนี้เอง ที่ทำให้ธรรมชาติของสื่อสองสื่อแตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง การเล่นทำให้เกิดการโต้ตอบ ในขณะที่การจ้องมองไม่ทำให้เกิดการโต้ตอบแต่อย่างใด
คุณสมบัติการโต้ตอบ ทำให้ผู้เล่นมีอำนาจต่อรองเรื่องราวได้ในระดับหนึ่ง อำนาจต่อรองที่เกมได้เปิดช่องไว้นี่เองที่ผู้เล่นจะมีโอกาสแสดงอัตลักษณ์ ความเห็นของตนเองลงไปปะปนกับสิ่งที่เกมได้ตระเตรียมไว้แล้ว และจะได้ผลเป็นเรื่องราวชนิดหนึ่งที่ผนวกความเป็นผู้เล่นลงไป ในขณะที่ละครน้ำเน่านั้น ผู้ชมตกอยู่ในสภาวะจำยอมต่อเนื้อหาโดยสิ้นเชิง ผู้ชมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เช่น ต้องการเปิดเผยว่านางร้ายคนนี้ไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของครอบครัวมรดกเงินล้าน ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เป็นต้น

นอกจากนี้ ละครน้ำเน่ายังมีสิ่งที่เรียกว่า “เรื่องราว” ที่ชัดเจน เป็นเหตุเป็นผลที่นำไปสู่ตอนจบ แต่ The Sims นั้นยากที่จะกล่าวว่าจะสร้างเรื่องราวอะไรที่ชัดเจน แม้จะมีคนที่พยายามเอาตัวละครใน The Sims มาแสดงเป็นบทบาทต่างๆ แต่มันก็ช่วยไม่ได้ที่ตัวละครเหล่านั้น มันต้องหนีมาทำอาหารกิน มาขี้ มาอาบน้ำ โดยที่เราไม่ได้อนุญาต
ด้วยความแตกต่างเหล่านี้เองที่ทำให้ The Sims ไม่ใช่ละครน้ำเน่า

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ประเด็นที่ 2 The Sims ครองตลาดเพราะมีคุณสมบัติเป็นละครน้ำเน่า
เมื่อเราบอกว่า The Sims ไม่ใช่ละครน้ำเน่า คำกล่าวนี้ก็น่าจะผิดไปด้วย แต่เราน่ามาดูต่อว่า ทำไม The Sims ถึงครองตลาด
คำตอบสามารถสืบค้นไปยังผู้เป็นต้นธารแนวคิดการทำเกมนี้ขึ้นมา คือ Will Wright เขาให้ความหมายเบื้องต้นของเกมว่าเป็น “พื้นที่แห่งปัญหา” ทุก เกมจะมีอาณาเขตแห่งปัญหาที่แตกต่างกันไป
เกมต่อสู้ RPG จำพวก The World Ends With You, Final Fantasy ก็จะมีพื้นที่แห่งปัญหาคือการต่อสู้กับศัตรูชนิดต่างๆ การเลือกหาคนคุย เลือการกิจตำแหน่งแห่งที่ให้ถูกต้อง
ส่วนพวกลับสมองอย่าง Picross, Sodoku ก็จะมีพื้นที่แห่งปัญหาคือ การเติมช่องว่าง การใส่ตัวเลข เป็นต้น
The Sims เป็นผลมาจากการโฟกัสโดยตรงไปยังธรรมชาติของพื้นที่แห่งปัญหานั้น Wright มองว่าเกมส่วนใหญ่จะกำหนดพื้นที่แห่งปัญหาตายตัวไว้แล้ว เมื่อพื้นที่แห่งปัญหามีความตายตัว solution ของเกมก็ย่อมมีจำกัด แต่ถ้าเราเปิดพื้นที่แห่งปัญหาให้มีไม่จำกัด solution ของเกมก็จะมากขึ้น นี่เป็นผลให้เรามีเกมที่มีพื้นที่แห่งปัญหากว้างที่สุดในประวัติศาสตร์

The Sims มีพื้นที่แห่งปัญหาอะไรบ้าง? สิ่งนี้ย่อมไม่จำกัดอยู่แค่ ทำให้มีเงินเยอะ หรือทำให้มีครอบครัวมั่นคงชั่วลูกชั่วหลานเท่านั้น หลายคนอาจจะชอบเล่นเดี่ยว แล้วพยายามให้เป็นนักบิน นักท่องเที่ยว หรือสร้างครอบครัวมา แล้วยุให้แตกแยกทำร้ายกันจนฉิบหายทั้งบ้าน สร้างครอบครัวเอเลี่ยน แล้วทำอะไรประหลาดๆ สร้างครอบครัวเลสเบี้ยนที่คนนึงไปทำงาน อีกคนทำสวนอยู่บ้านมีความสุขก็เป็นไปได้ และการที่พื้นที่แห่งปัญหาเปิดออกแล้ว Solution ของเกม The Sims จึงเห็นได้ว่ามีหลากหลายนับไม่ถ้วน The Sims จึงไม่กำหนดว่าถึงจุดไหนคุณจะ “ชนะ” เกม เพราะมันก็แล้วแต่คนเล่นว่ากำหนดเป้าหมายว่าอะไร ซึ่งผู้ผลิตก็สุดจะมาหยั่งรู้ได้
การมีพื้นที่แห่งปัญหากว้างขวางเช่นนี้ ก็ย่อมมีผลเป็นว่า ทำให้เล่นได้หลายแนว ถูกใจคนหลายกลุ่ม นั่นก็คือเหตุที่ว่าทำไม The Sims ถึงขายดี

และการที่คนเขียนไปเทียบยอดขายกับ Grand Theft Auto ก็ดูตลกพิกล จริงอยู่ว่า GTA เดี๋ยวนี้ก็สามารถเลือกภารกิจได้หลายหลาย ทำอะไรได้หลายอย่างในโลกกว้าง นั่นหมายถึงการมีพื้นที่แห่งปัญหากว้างขวาง แต่ด้วยธรรมชาติของเกมที่มันให้ผู้เล่นเป็นโจรหมาจิ้งจอก เที่ยวไล่ทุบตีมนุษย์เดินดิน ไล่แทงไล่ฆ่าในที่รโหฐาน เพื่อให้เก็บเงินเล็กๆ น้อยๆ รวมทั้งไปทำธุระมาเฟียต่างๆ นานา ก็ย่อมทำให้คนหลายคนไม่สบายใจในไอเดียแบบนี้ การมียอดขาย 60 ล้านชุดทั่วโลก (ของแท้) ก็ต้องถือว่าเป็นบุญมากแล้ว เทียบกับ The Sims ที่มีเนื้อหาพอยอมรับได้มากกว่า แม้ว่ามันอาจจะเกี่ยวข้องกับการสร้างครอบครัวเมีย 4 คน เด็กเกเรเกตุง ปล่อยเด็กทารกให้ร้องไห้หิวนมจนตาย แต่ยังไงมันก็สบายใจกว่าการเล่นแทงคนเดินถนนขโมยเงินเป็นไหนๆ (ซึ่งก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าทำไม)

มีอีกข้อนึงที่เกี่ยวข้องกันที่ว่า The Sims เกี่ยวข้องอะไรที่ เกมส์ Down-to-earth แตกต่างจากเกมที่พวกฮาร์ตคอร์ชอบเล่นที่จะมีการใช้เทคโนโลยี เพื่อผลักจินตนาการให้กว้างไกลมากกว่า ข้อความนี้เป็นผลมาจากการที่ผู้เขียนบทความขาดความเข้าใจในเรื่อง พื้นที่ของปัญหา และอำนาจต่อรองของผู้เล่น The Sims สามารถเล่นให้ Down-to-earth ได้ แต่ trend การเล่นทั่วไป เขาจะไม่สร้างบ้านที่เป็น “แบบเดียว” กันกับบ้านที่ตัวเองมี พวกคนที่เล่นมักจะสร้างบ้านอย่างอื่น ที่เป็นบ้านในอุดมคติของตัวเอง เช่น บ้านขนาดใหญ่มโหฬาร สระว่ายน้ำใหญ่เท่าทะเลสาบ สวนสวยเหลือเชื่อ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่อาจเรียกได้ว่า Down-to-earth ได้เลย ผู้เล่นมีอำนาจต่อรอง ก็ย่อมทำให้เกมถูกยกระดับเป็นเรื่องจินตนาการตามผู้เล่น ยิ่งถ้าบวกกับธรรมชาติของเกมที่มีพื้นที่แห่งปัญหาที่กว้างขวางแล้ว ยิ่งทำให้เกม The Sims ต้องใช้จินตนาการมากในการเล่น

แล้วลองหันไปดูเกมของ “ฮาร์ตดอค์เกมเมอร์” บ้าง เป็นความจริงที่เกมเหล่านั้นมีจินตนาการก้าวไกล แต่การที่ส่วนใหญ่ของเกมเหล่านั้น มักเกี่ยวข้องกับการฆ่าปีศาจ ฆ่าคน ถือปืน ถือเคียวเกี่ยวข้าว และโดยเฉพาะอย่างเกม RPG ที่ดีที่สุดของปีที่แล้วคือ Fallout 3 (จากบริษัทเดียวกับที่ทำเกม Elder Scroll: Oblivion) ก็ยังอ้างอิงถึงการใช้ยาเสพติดเพื่อโด้พพลัง หรือการใช้บริการโสเพณี (ในเมืองวอชิงตันที่ถูกระเบิดนิวเคลียร์ถล่มแล้ว) ก็ยิ่งชวนให้สงสัยว่าจินตนาการจะไปไกลมากน้อยแค่ไหนกันแน่

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ประเด็นที่ 3 The Sims ครองตลาดในกลุ่มแม่บ้าน ผู้หญิงและผู้ชายที่เป็นส่วนน้อย (those bored people)
ผู้เขียนบทความมีความคิดทำนองว่า ละครน้ำเน่า (ซึ่งเราได้หักล้างไปแล้วว่ามันไม่เกี่ยว) ช้อปปิ้ง เป็นเรื่องของผู้หญิงเท่านั้น ส่วน “จินตนาการที่กว้างไกล” เทคโนโลยีสูง การยิงปืน ผู้หญิงใส่บีกินี เป็นเรื่องของผู้ชายเท่านั้น
ผู้คนปัจจุบันโดนสื่อรอบข้างรมรูหู ด้วยอุดมคติของกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเพศเฉพาะตายตัว จนผู้คนสมัยนี้แทบจะคิดอะไรให้มันเป็นธรรมดา เป็นกลางๆ ไม่ได้เสียแล้ว บริษัทเบียร์อยากจะเพิ่มยอดขายด้วยการออกโฆษณาว่า หากดื่มเครื่องดื่มของตนแล้วจะเป็นชายชาตรี บริษัทเครื่องสำอางอยากจะเพิ่มยอดขายด้วยการออกโฆษณาเช่นกัน ว่าถ้าเป็นผู้หญิงแล้วต้องมีเครื่องสำอาง แล้วสิ่งที่ประชาชนในโลกใบนี้ตอบสนองคือ การเชื่อโฆษณาเหล่านั้น แล้วยินยอมไปเพิ่มยอดขายให้เขา ไม่มีอะไรที่ทำให้ข้าพเจ้าจะรู้สึกหงุดหงิดได้เท่าสถานการณ์เช่นนี้อีกแล้ว
นี่ยังไม่นับรวมที่เจ้าของบทความนี้พยายามบอกว่า Animal Crossing ก็คือละครน้ำเน่าอีกอย่าง ซึ่งกรณีนี้ข้าพเจ้ารู้สึกไม่เห็นด้วยมากยิ่งกว่าการเอา The Sims ไปเทียบกับละครน้ำเน่าเสียอีก แต่เนื่องจากไม่อยากทำให้ยาวไป จึงไม่ขอกล่าวในประเด็นนี้
ส่วนในประเด็นหลักที่ว่า ในอนาคตจะมีเกมแบบ The Sims ออกมาเยอะขึ้น ข้าพเจ้าเห็นด้วยในเบื้องต้น
แต่ควรให้เหตุผลว่า เพราะเกมแบบนี้มันเป็นเกมที่มีพื้นที่แห่งปัญญากว้างขวาง ทำให้เข้าถึงคนได้ทุกกลุ่ม ไม่ใช่ให้เหตุผลว่ามันเป็นละครน้ำเน่าที่เอาใจแม่บ้าน ผู้หญิง และผู้ชายกลุ่มน้อย

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

http://www.a-random.net/wordpress/?tag=thesims


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-04-19 16:30:53
AdogawaConan
blue_topaz

beetle13
#2
19-04-2011 - 15:50:06

#2 beetle13  [ 19-04-2011 - 15:50:06 ]




โอย ลายตา
ช่วยสรุปให้ได้ไหม อ่านไม่ไหว

nampa

nampa
#3
19-04-2011 - 16:00:11

#3 nampa  [ 19-04-2011 - 16:00:11 ]





quote : beetle13

โอย ลายตา
ช่วยสรุปให้ได้ไหม อ่านไม่ไหว



ให้สรุปให้มันไม่เข้าใจถึงแก่นหรอกครับ
นี่ขนาด เน้นสีแดงให้เเล้วน่ะครับ


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-04-19 16:00:41

AdogawaConan
#4
19-04-2011 - 16:09:29

#4 AdogawaConan  [ 19-04-2011 - 16:09:29 ]






โห จากที่อ่านมา ทำให้ผมอยากกลับมาเล่นเดอะซิมส์อีกจังเลย (เพราะช่วงนี้รู้สึกห่างหายจากเดอะซิมส์ไปพักนึง)

เกมนี้ผมยอมรับว่าสุดยอดของเกมที่ไม่มีตอนจบของเกม (นอกจากตายหมดทั้งบ้านนะครับ) พอไปเล่นเกมอื่นอย่างพวก Second Life ที่มาในแนวเดียวกัน ก็รู้สึกไม่สนุกเท่าเดอะซิมส์จริงๆ เพราะเดอะซิมส์มันทำอะไรได้มากกว่าเกมธรรมดาทั่วไปทำได้จริงๆนะครับ

***เพิ่มเติม***
และสิ่งที่เกมอื่นๆทำไม่ได้ก็คือ เกมนี้มันสามารถตัดต่อวิดีโอได้ (ถึงแม้ซิมส์ 3 ตัวโพสท่าอาจจะยังไม่สมบูรณ์เท่าไหร่ และเกมอื่นๆก็เริ่มตัดต่อวิดีโอได้แล้ว (ก็ได้แนวคิดมาจากเดอะซิมส์นี่ละ)) แต่จากเท่าที่ดูมาหลายๆเกม ผมว่าเดอะซิมส์ เป็นเกมที่สามารถนำมาตัดต่อวิดีโอได้ดีที่สุดเลยนะครับ


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-04-19 16:11:55
nampa


I'll be back in The Sims 3 and The Sims 4
MicaFeresz
#5
19-04-2011 - 16:17:38

#5 MicaFeresz  [ 19-04-2011 - 16:17:38 ]





เห็นด้วย ซิมสืไม่ใช่แค่น้ำเน่า เราสามารถเล่นอะไรก้ได้ที่อยากทำ

nampa


เลิกเล่นบอร์ดTTS ตลอดกาลตลอดไป!
nampa
#6
19-04-2011 - 17:00:18

#6 nampa  [ 19-04-2011 - 17:00:18 ]





เข้ามาดันหน่อย ^^^^^^

ู^
^
^
^
ไปล่ะครับ

pariwatlp1

pariwatlp1
#7
21-04-2011 - 15:03:47

#7 pariwatlp1  [ 21-04-2011 - 15:03:47 ]




เห็นด้วยกับ #5 ค่ะ
มาดันนะคะ

nampa

tongeye0002
#8
21-04-2011 - 15:13:10

#8 tongeye0002  [ 21-04-2011 - 15:13:10 ]






ยาวเน้อ แต่ทนอ่าน


milkway
#9
21-04-2011 - 15:22:57

#9 milkway  [ 21-04-2011 - 15:22:57 ]




น้ำเน่าตรงไหนไม่ทราบ

จะเอาอะไรกับเกมนักหนา พวกเนี้ย

แค่ขอให้เล่นแล้วสนุกและมีความสุขก็พอใจละ ชีวิตนี้

ขืนมัวแต่จับผิดนั่นจับผิดนี่ก็เล่นไม่สนุกกันพอดี


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-04-21 15:23:14
nampa

blue_topaz
#10
21-04-2011 - 15:35:14

#10 blue_topaz  [ 21-04-2011 - 15:35:14 ]






เป็นบทความที่ดีนะครับ ^^"
เห็นด้วยกับทุกประเด็นที่เขามาชี้แจงพร้อมสอดแทรกแนวความคิดลงไปด้วย
ส่วนตัวจากที่เล่นเกมนี้มาเป็นเวลายาวนาน ผมคิดว่าเสน่ห์ของเกมนี้
คือการที่เราสามารถกำหนดเป้าหมายในชีวิตของซิมส์เราได้อย่างอิสระ
เมื่อลุล่วงเป้าหมายแล้วก็สามารถกำนดเป้าหมายต่อไปได้ เล่นได้ไม่มีวันจบ
สืยทอดรุ่นต่อรุ่นได้อย่างยาวนาน และยังสามารถ create สอดใส่จินตนาการในการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆได้ด้วย


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-04-21 15:35:58
nampa

bupachart
#11
24-04-2011 - 13:06:39

#11 bupachart  [ 24-04-2011 - 13:06:39 ]




เราว่าไม่ได้น้ำเน่านะมันเป็นศิลปะ มีความอิสระสูง สร้างจิตนาการดี


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-04-24 13:13:10
nampa

  • 1

ลงข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ต้องสมัครเป็นสมาชิกและ login เข้าสู่ระบบก่อนถึงจะสามารถลงความเห็นได้
เข้าสู่ระบบสมัครสมาชิก



โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ