โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ
สัก เจาะ กรีดผ่าลิ้น แฟชั่นอันตราย !!!
momoza123
#1
13-08-2011 - 12:18:25

#1 momoza123  [ 13-08-2011 - 12:18:25 ]









สัก เจาะ กรีดผ่าลิ้น แฟชั่นอันตราย




แฟชั่นการสัก การเจาะ การกรีดผิวหนัง และการผ่าลิ้น กำลังเป็นที่นิยมของวัยรุ่นและผู้ใหญ่บางกลุ่มอาจมีอันตรายได้ผู้ ที่มีโรคประจำตัวบางอย่างคือ โรคเลือดออกไม่หยุดที่เรียกว่าฮีโมฟีเลีย โรคลิ้นหัวใจพิการ โรคผิวหนังแพ้และพุพอง ผู้ที่มีประวัติแพ้เครื่องประดับ (แพ้โลหะนิกเกิล) หรือผู้ที่เกิดแผลเป็นนูนโตที่เรียกว่าคีลอยด์ง่าย ควรงดเว้นการทำตามแฟชั่นเหล่านี้ เพราะเสี่ยงต่อผลแทรกซ้อนสูง ถ้าหากใช้เครื่องมือที่ไม่สะอาด อาจเกิดการติดเชื้อโรคได้ เช่น เชื้อแบคทีเรีย ทำให้เป็นฝีหนอง โรคบาดทะยัก ไวรัสตับอักเสบ วัณโรคผิวหนัง ซิฟิลิส แม้กระทั่งโรคเอดส์ได้


พบว่าเข็มที่เผาไฟจนแดง ซึ่งเป็นอุปกรณ์ใช้สัก หรือเจาะ ก็ฆ่าเชื้อไวรัสตับอักเสบไม่ได้ ขณะนี้พบคนไทยเป็นโรคไวรัสตับอักเสบสูงมาก ทำให้พบอัตราตายจากมะเร็งตับสูงตามไปด้วย ดังนั้นการสักที่ไม่สะอาดอาจนำไปสู่การเกิดมะเร็งตับได้

การเจาะนิยม ทำที่ใบหู จมูก ปาก รวมถึงสะดือ เคยมีรายงานว่า วัยรุ่นที่นิยมไปเจาะจมูก จะทำให้เชื้อแบคทีเรียจากช่องจมูกซึ่งเป็นบริเวณที่สกปรกมากลอยไปติดที่ลิ้น หัวใจ ทำให้หัวใจอักเสบ หากมีก้อนเลือดก็อาจจะทำให้ก้อนเลือดและเชื้อโรคไปอุดตันหลอดเลือดในสมอง ทำให้เกิดฝีในสมอง มีอาการแขนขาอ่อนแรง

การสักการเจาะไม่ใช่ เรื่องแปลกใหม่ กระทำมาตั้งแต่ ๔,๐๐๐ ปีที่แล้ว แต่เป็นความเชื่อของแต่ละชุมชน ที่น่าเป็นห่วงคือปัจจุบันที่เราสักเจาะเพื่อแฟชั่น ซึ่งแน่นอนว่ามันจะเริ่มเสื่อม หรือคนที่สักเจาะเองอาจจะรู้สึกเบื่อ และเมื่อต้องการสมัครงานก็จะหันมาลบรอยสัก หรือเย็บปิดรอยเจาะ ซึ่งการแก้ไขดังกล่าวทำได้ยาก เสียเวลาและเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าการสักเจาะหลายเท่า ตัว

กรณี ของการสักนั้น อาจใช้รูปลอกติดแทนก็ได้ ซึ่งอยู่ได้นานถึง ๗ วัน หรือใช้การเพ้นต์สีแทนการสัก ส่วนกรณีการเจาะ อาจใช้ตุ้มหูวงแหวนชนิดหนีบ หรือตุ้มหูแม่เหล็กแทนก็ได้ สำหรับผู้ที่ต้องการเจาะหู ต้องแน่ใจเรื่องความสะอาดของเครื่องมือ ถ้าใช้ตุ้มหูที่ทำด้วยเงินสเตอร์ลิง หรือสแตนเลส จะลดอาการแพ้ลงได้ ตุ้มหูโลหะทั่วไป ทองขาว และเงินเยอรมนี มีส่วนผสมของนิกเกิล ซึ่งทำให้แพ้ได้

ระยะนี้เริ่มมีกระแสข่าวเข้ามาว่าวัยรุ่นมีวิธีการตกแต่งร่างกายแบบใหม่ ที่เพิ่มมาจากการสัก การเจาะหู เจาะจมูก เจาะสะดือ ก็คือการกรีดผิวหนังให้เป็นรอยแผลเป็นซึ่งเป็นวัยรุ่นตะวันตกและวัยรุ่นไทย บางคนเริ่มทำตามกระแสนี้บ้างแล้ว



การกรีดผิวหนังให้เป็นรอยแผลเป็น (scarification) ความหมายแต่ดั้งเดิมคือการใช้เข็มเล็กๆ จิ้มผิวหนังซ้ำกันหลายๆ ครั้ง เช่นเดียวกับการปลูกฝี แต่ขณะนี้วัยรุ่นกลับนำมาใช้เพื่อให้ผิวหนังเกิดแผลเป็นตามรูปร่างที่กำหนด ซึ่งจัดเป็นการเสริมความงามอย่างหนึ่ง

เทคนิคเสริมสวยโดยทำให้เกิด แผลที่ผิวหนังมีหลาย แบบ เช่น การใช้ความร้อน (นำเหล็กเผาไฟจนแดงนาบ ผิวหนัง) เรียกว่าการตีตรา เทคนิคนี้เดิมใช้กับสัตว์เลี้ยง ที่เป็นฝูงใหญ่ (เช่น วัว) เพื่อเป็นสัญลักษณ์ ปัจจุบันอาจใช้เครื่องจี้ไฟฟ้าหรือเลเซอร์ทำให้เป็นแผลได้

อีกวิธี ก็คือ การใช้มีดผ่าตัดกรีดผิวหนัง เรียกว่าการกรีด โดยกรีดลึกลงไป ๑-๖ นิ้ว คือ ลึกถึงชั้นหนังแท้ ผ่านไปหลายวันจะเกิดแผลเป็นตามรอยกรีด

มี ช่วงหนึ่งพบผู้ติดยาเสพติดที่มีรอยกรีดตนเองบริเวณที่ท้องแขนได้บ่อย ที่รุนแรงกว่านี้คือการแล่ผิวหนังออกมาเป็นชิ้นๆ รวมถึงการทำให้เกิดแผลเป็นโดยใช้น้ำกรดหรือด่างกัดผิวหนัง ใช้หัวเจียระไนเพชรหรือหัวสลักแก้วขัดผิวหนัง

วิธีเหล่านี้เริ่มแรก นิยมจำกัดเฉพาะกลุ่มผู้ที่ชอบทำให้ผู้อื่นเจ็บปวดและผู้ที่ชอบถูกทำให้เจ็บ ปวด และคนป่าบางเผ่า นอกจากนี้ก็มีผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตมักชอบสร้างแผลตามผิวหนังให้ตนเอง เรียกว่า โรคผิวหนัง ที่สร้างเอง ซึ่งจะมีแผลแปลกๆ ตามผิวหนังไม่เหมือนกับที่เกิดตามธรรมชาติ

ปัจจุบันมีการนำวิธีนี้ มาใช้ตามร้านเสริมสวย แต่ที่สหรัฐอเมริกามีบางรัฐถือว่าผิดกฎหมาย บางรัฐก็ยังไม่ห้าม แต่ถ้าใช้เครื่องมือแพทย์ (เช่น การใช้เครื่องจี้ไฟฟ้าหรือเลเซอร์) เพื่อทำให้เป็นแผลโดยผู้ทำให้ไม่ได้เป็นแพทย์จะถือว่าผิดกฎหมาย แต่ถ้าให้แพทย์ทำแพทย์ก็จะไม่ทำให้เพราะไม่จำเป็นและอาจเกิดผลเสีย

การทำให้เกิดแผลเป็นบางตำแหน่ง เช่น ที่กลางหน้าอกและหลัง แผลมักปูดโปนผิดปกติ ทำให้เป็นคีลอยด์ บางคนเป็นสิวเม็ดเดียวที่หน้าอกไปบีบแกะ ก็ยังเกิดคีลอยด์ก้อนโตขนาดผลมะนาวจนถึงผลส้มตามมาได้ การทำให้เกิดแผลนี้ผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่เป็นดังที่คิด แม้ผู้ที่ทำให้จะมีประสบการณ์เพียงใดเพราะถึงผู้ทำคนเดียวกัน กรีดแผลแบบเดียวกัน แต่รอยแผลเป็นของแต่ละคนจะต่างกัน และการแก้ไขรอยแผลเป็นก็ยากมาก เช่น ใช้การฉีดยาสตีรอยด์เข้าบริเวณแผล การฉายรังสี การจี้ด้วยความเย็นจัด การใช้แผ่นเจลปิด อย่างไรก็ดีแผลก็หายไม่สนิทซึ่งอาจมีผลกระทบตามมาภายหลังได้

นอกจาก การทำให้เกิดแผลเป็นแล้ว ขณะนี้มีกระแสแฟชั่นวัยรุ่นต่างประเทศ โดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกา คือการผ่าลิ้นสองแฉก (tongue bifurcation หรือ tongue splitting ) โดยการผ่าจากปลายลิ้นไปทางโคนลิ้น ซึ่งนอกจากทำให้ดูแปลกแล้ว ยังเชื่อว่าช่วยเพิ่มรสชาติการจูบ และบางคนสามารถกระดกลิ้นทั้งสองแฉกนี้ไปคนละทางกันก็ได้ การผ่าลิ้นเช่นนี้ถือว่าผิดกฎหมายในบางรัฐของสหรัฐอเมริกา และห้ามทหารทำ ศัลยแพทย์ก็ไม่รับทำด้วยจึงต้องแอบทำกันเอง ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อแทรกซ้อนและบางรายที่ฉีดยาชากันเอง ก็อาจแพ้ยาชาถึงเสียชีวิตได้

แฟชั่นเหล่านี้เป็นเพียงกระแสนิยม มาแล้วก็จากไป พบเสมอว่าผู้ที่ไปสัก เจาะ กรีด ผ่า ไม่นานก็เบื่อรูปรอยเหล่านั้น จะลบออกก็เสียค่าใช้จ่ายสูงและทำได้ยากมาก และก็มักลบออกไม่หมด ที่ทำงานหลายแห่งก็ไม่ต้อนรับคนที่มีรอยเหล่านี้ บางคนจะไปสมัครเป็นทหารก็ต้องมาลบรอยสักและเย็บปิดรอยเจาะหู แม้แต่ที่อาบน้ำสาธารณะหลายแห่งในญี่ปุ่นก็ไม่ให้คนมีรอยสักรอยเจาะใช้ บริการ














แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-08-13 12:24:49
k_kop


SV
dawqes
#2
13-08-2011 - 12:20:12

#2 dawqes  [ 13-08-2011 - 12:20:12 ]




น่ากลัวอะ แต่เท่โคต !!


Leonie CluB GiRl ZaA
#3
Leonie CluB GiRl ZaA
13-08-2011 - 12:22:29

#3 Leonie CluB GiRl ZaA  [ 13-08-2011 - 12:22:29 ]






โค๊ะ น่ากลัวอ้ะ



คิดถึง
momoza123
#4
13-08-2011 - 12:27:02

#4 momoza123  [ 13-08-2011 - 12:27:02 ]





#2 ขอบคุณนะคะ น่ากลัวมากเลยค่ะ
#3 ขอบคุณนะคะ ใช่คะ น่ากลัวเนอะ หลอนเลยอ่ะ
#5 ขอบคุณนะคะ จะไม่มีวันทำเลยหล่ะคะ ธรรมดาดีแล้ว แบบในรูป สยอง
#6 ขอบคุณนะคะ สยองใช่มั้ยพลอย อิอิ
#7 ขอบคุณนะคะ น่าทำตรงไหนเนี้ย คิดแล้วสยองค่ะ



แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-08-13 17:34:34


SV
BAYKANTIKA
#5
13-08-2011 - 12:28:30

#5 BAYKANTIKA  [ 13-08-2011 - 12:28:30 ]





ไม่คิดจะทำเลย อิอิ โหดร้าย !


ploy58
#6
13-08-2011 - 12:32:00

#6 ploy58  [ 13-08-2011 - 12:32:00 ]






โมจัง น่ากลัวอ่ะ


gang0258
#7
13-08-2011 - 14:42:09

#7 gang0258  [ 13-08-2011 - 14:42:09 ]





โหดดดดด แต่น่าทำนะ (อ้าว)


patzy123
#8
14-08-2011 - 14:22:24

#8 patzy123  [ 14-08-2011 - 14:22:24 ]





แว้กกกก!!!!!! ซิปลิ้น



monajung1827
#9
14-08-2011 - 14:24:53

#9 monajung1827  [ 14-08-2011 - 14:24:53 ]






เท่ อ๊ะ แต่น่ากลัวไปนิดนึง ต้องทำแบบ T.Mills สิ ระเบิดหู


The bloody
#10
14-08-2011 - 14:30:10

#10 The bloody  [ 14-08-2011 - 14:30:10 ]




น่า กลัว อ้ะ


prince-bas
#11
14-08-2011 - 14:38:00

#11 prince-bas  [ 14-08-2011 - 14:38:00 ]




แหวะ ยี๊ ห๊า ว๊าก อ๊าก อุ๊ย น่ากลัวมากๆๆเลย


panglove
#12
14-08-2011 - 18:48:26

#12 panglove  [ 14-08-2011 - 18:48:26 ]





น่ากลัวอ่ะ ขนาดเจาะหู เรายังไม่กล้าเลย TT'


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-08-14 18:48:50

Winsohm_98
#13
14-08-2011 - 18:51:09

#13 Winsohm_98  [ 14-08-2011 - 18:51:09 ]





ว๊าก!!



ผมกลับมาแล้ว... ว่าแต่ มันเล่นยังไงนะครับ ลืม 55
lovemiku
#14
14-08-2011 - 18:53:50

#14 lovemiku  [ 14-08-2011 - 18:53:50 ]






ไม่เอาอะ กลัวเหมือนมีอะไรอยู่ในปากตลอดเวลา รำคาญ


The Witch
#15
14-08-2011 - 18:54:07

#15 The Witch  [ 14-08-2011 - 18:54:07 ]




เาะหูเป็นไรไหมค่ะ

quote :
น่ากลัวอ่ะ ขนาดเจาะหู เรายังไม่กล้าเลย TT'


จริงๆเหรอค่ะ



sunshineka
#16
15-08-2011 - 18:58:00

#16 sunshineka  [ 15-08-2011 - 18:58:00 ]




โห ช่างกล้าทำกันจริงๆ


nitiwat
#17
15-08-2011 - 18:58:42

#17 nitiwat  [ 15-08-2011 - 18:58:42 ]







ladylollipop17
#18
19-08-2011 - 19:57:47

#18 ladylollipop17  [ 19-08-2011 - 19:57:47 ]




แล้วกินยังไง


  • 1

ลงข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ต้องสมัครเป็นสมาชิกและ login เข้าสู่ระบบก่อนถึงจะสามารถลงความเห็นได้
เข้าสู่ระบบสมัครสมาชิก



ข้อมูลเมื่อ 13th November 2024 04:51

โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ