โรคขี้เกียจ แล โรคชิว
โรคขี้เกียจ
เป็นโรคร้ายแรงที่น่ากลัวมาก
มันมักมาหาท่านได้ทุกเมื่อเชื่อยาม
*
แน่นอนตอนนี้เรายังไม่สามารถค้นพบวิธีรักษาได้
มันอาจทำให้ชีวิตฉิบหาย
ในขณะเดียวกันอาจทำให้นึกอะไรได้หลายสิ่ง
*
ตามที่เขาว่ากันว่า ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา
ไอโรคขี้เกียจเนี่ยแหละ มันจะเป็นตัวขับดันหนึ่ง
ให้เราได้หลั่งน้ำตาเร็วขึ้น
ซึ่งก็จะทำให้คิดได้หลังจากนั้น
*
นอกจากนี้ มันยังเป็นโรคที่ประหลาดเหลือล้ำ
ที่ผู้คนที่เป็นโรคนี้นั้น หาได้ใส่ใจในการรักษามันไม่
กลับปล่อยให้เป็นเรื้อรังอยู่อย่างนั้น
นานวันเข้า ก็อย่างที่เค้าเรียกกัน
ทำให้เกิดดินพอกหางหมู หางหมา ก็ว่าไป
*
แต่แม้จะรักษาหายแล้ว มันก็มิได้หายขาด
กลับมาเป็นๆหาย อยู่อย่างนั้น
นานๆทีก็อาจจะเป็น ดั่งโรคหวัด นั้นแล
*
อนึ่งโรคขี้เกียจนี้ ได้แตกแขนงสาขาของโรค
เกิดเป็นโรคที่คล้ายคลึงกันจะว่าไปดั่งลูกหลานของโรคนี้
.
ชาวเราวัยสมัยใหม่ เค้าเรียกขานกันเก๋ไก๋ว่า
.
.
โรค ชิว
.
โรคนี้แพร่กระจายไปยังหมู่มวลชาวมหาวิทยาลัยทุกหัวระแหง
ส่งผลให้การงานล่าช้า
ไม่เป็นอันทำอันใด
ผู้ที่เป็นโรคนี้นั้น วันหนึ่งๆมักนั่งจับเจ่าไม่เป็นสาระ
ปล่อยการงานให้ว่างเว้น
ใกล้ถึงวันเส้นตายสุดท้ายค่อยทำ
*
ผลข้างเคียงของโรคชิวนี้ ก็มีมากหรือน้อย
ก็แล้วแต่ละคนจะเป็นกัน
.
อนึ่ง แม้ว่าโรคนี้จะมีภัยร้ายน่ากลัวมากมาย
แต่โรคชิวก็มีผลดีต่อชีวิตชาวเราเช่นกัน
เพราะมันทำให้ได้พัก คิด
ใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนมิตรสหาย ถกกันเรื่องต่างๆนานา
.
แต่ทั้งนี้ต้องรักษาให้ทันการณ์
มิฉะนั้น ก็ต้องหลั่งน้ำตา เฉกเช่นโรคขี้เกียจเช่นเดียวกันนั้นแล
เป็นโรคร้ายแรงที่น่ากลัวมาก
มันมักมาหาท่านได้ทุกเมื่อเชื่อยาม
*
แน่นอนตอนนี้เรายังไม่สามารถค้นพบวิธีรักษาได้
มันอาจทำให้ชีวิตฉิบหาย
ในขณะเดียวกันอาจทำให้นึกอะไรได้หลายสิ่ง
*
ตามที่เขาว่ากันว่า ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา
ไอโรคขี้เกียจเนี่ยแหละ มันจะเป็นตัวขับดันหนึ่ง
ให้เราได้หลั่งน้ำตาเร็วขึ้น
ซึ่งก็จะทำให้คิดได้หลังจากนั้น
*
นอกจากนี้ มันยังเป็นโรคที่ประหลาดเหลือล้ำ
ที่ผู้คนที่เป็นโรคนี้นั้น หาได้ใส่ใจในการรักษามันไม่
กลับปล่อยให้เป็นเรื้อรังอยู่อย่างนั้น
นานวันเข้า ก็อย่างที่เค้าเรียกกัน
ทำให้เกิดดินพอกหางหมู หางหมา ก็ว่าไป
*
แต่แม้จะรักษาหายแล้ว มันก็มิได้หายขาด
กลับมาเป็นๆหาย อยู่อย่างนั้น
นานๆทีก็อาจจะเป็น ดั่งโรคหวัด นั้นแล
*
อนึ่งโรคขี้เกียจนี้ ได้แตกแขนงสาขาของโรค
เกิดเป็นโรคที่คล้ายคลึงกันจะว่าไปดั่งลูกหลานของโรคนี้
.
ชาวเราวัยสมัยใหม่ เค้าเรียกขานกันเก๋ไก๋ว่า
.
.
โรค ชิว
.
โรคนี้แพร่กระจายไปยังหมู่มวลชาวมหาวิทยาลัยทุกหัวระแหง
ส่งผลให้การงานล่าช้า
ไม่เป็นอันทำอันใด
ผู้ที่เป็นโรคนี้นั้น วันหนึ่งๆมักนั่งจับเจ่าไม่เป็นสาระ
ปล่อยการงานให้ว่างเว้น
ใกล้ถึงวันเส้นตายสุดท้ายค่อยทำ
*
ผลข้างเคียงของโรคชิวนี้ ก็มีมากหรือน้อย
ก็แล้วแต่ละคนจะเป็นกัน
.
อนึ่ง แม้ว่าโรคนี้จะมีภัยร้ายน่ากลัวมากมาย
แต่โรคชิวก็มีผลดีต่อชีวิตชาวเราเช่นกัน
เพราะมันทำให้ได้พัก คิด
ใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนมิตรสหาย ถกกันเรื่องต่างๆนานา
.
แต่ทั้งนี้ต้องรักษาให้ทันการณ์
มิฉะนั้น ก็ต้องหลั่งน้ำตา เฉกเช่นโรคขี้เกียจเช่นเดียวกันนั้นแล
เครดิท http://uwaki.exteen.com/20070819/entry
เป็นโรคขี้เกียจทำไงดี!!!!!!!!! เป็นเหมือน จ.ข.ก.ท คนนี้เลย
quote : สัญญาว่าจะรักกัน
คือ ผมอายุ 20 ปี แล้ว เรียนมหาลัย ชีวิตกำลังไปได้ดี เสียอย่างเดียว
เป็นโรค ขี้เกียจ ครับ เสียหมดเลย ชีวิต รู้สึกว่าชีวิตไม่มีอะไรดีเลย
อยากตั้งใจเรียนก็ ทำไม่ได้ อยากตั้งใจทำงานก็ทำไม่ได้
คือรู้สึกแบบว่า ถ้าความขี้เกียจเข้าสิงเมื่อไร จะหมดแรงทันที สมองคิดอะไรไม่ออก
เหนื่อย หอบ ทั้งๆที่ยังไม่เริ่มลงมือทำ ร่างกายอ่อนแอเป็นพิเศษ แบบว่าเหมือนคนป่วยไกล้ตาย
อาการหนักลุกจากเตียงไม่ขึ้น อย่างไรอย่างนั้นเลย
แต่พอให้มาทำสิ่งที่ชอบ ให้มาเล่นคอม ให้ไปซื้อขนมกิน อะไรอย่างนี้รู้สึกแรงดีเป็นพิเศษ ไม่เหนื่อย ไม่เมื่อย แต่อย่างใด
ใครเป็นคนขยัน ใครเอาชนะความขี้เกียจได้ แนะนำผมทีสิ จะทำไงถึงขับไล่ความขี้เกียจออกไปได้
ตอนนี้ผมแย่แล้วเนี่ย แค่นึกจะทำงาน มีอาการตัวร้อนคล้ายจะเป็นไข้เฉยเลย -*- หมดแรง อ่อนแรงทันที
ผมอาการหนักไปไหมเนี่ย
เครดิท http://topicstock.pantip.com/siam/topicstock/2011/01/F10189436/F10189436.html
ป.ล @_@ ใครเป็นโรคนี้บ้าง @_@ เข้ามาดูกันตรึมแต่ไม่เม้นหมายฟามว่าไงฟะ สงใสเป็นโรคขี้เกียจเม้น