โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ
มาเล่าเรื่องสยองกันเถอะ
Keawza
#1
03-10-2011 - 18:54:14

#1 Keawza  [ 03-10-2011 - 18:54:14 ]




โอ้โน่
เรารอฟังเรื่องของพวกคุณอยู่น้า
อยากรู้จังจะน่ากลัวมากแค่ไหน
มาดูกัน


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-10-03 18:54:59

marrlody191
#2
03-10-2011 - 18:58:26

#2 marrlody191  [ 03-10-2011 - 18:58:26 ]





มีอยู่วันนึง มีคนๆนึงเดินมา เดินเข้ามา ! แล้วก็เดินเข้ามา !!! แล้วก็ออกไป จบ .


Keawza
#3
03-10-2011 - 19:10:26

#3 Keawza  [ 03-10-2011 - 19:10:26 ]




โหน่ากลัวมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่า (ประชดน้า)


palmy มานิตา
#4
palmy มานิตา
03-10-2011 - 19:22:16

#4 palmy มานิตา  [ 03-10-2011 - 19:22:16 ]




เรื่องนี้เกิด ขึ้นที่ค่าย วชิราวุธ จังหวัดชลบุรี วันที่ 17 พฤศจิกายน 2545 เป็นการเข้าค่ายครั้งแรกของพวกระดับชั้นป.6 เริ่มเหตุการแปลกๆโดยมีลมแรงที่เกิดขึ้นบริเวณ ทางเข้าหน้าค่ายวชิฯ พวกดิฉันและเพื่อนๆทุกคนก็ต่างไม่คิดอะไร และเมื่อเข้าไปถึงที่พักของแต่ละกอง จากนั้นมีลมพัดแรงมากขึ้น ในขณะนั้นฉันเห็นผู้หญิงคนหนึ่งใส่เสื้อสีดำทั้งชุด ลากยาวถึงปลายท้าวเลยทีเดียว ผมยาวดำเข้มถึงก้น เดินวนไปวนมาตรงหน้าเต๊นของเพื่อนๆกองที่ 3 ซึ่งอยู่ติดกับ "จอมปลวก"ในขณะนั้นผู้หญิงคนนั้นก็ได้หายไปในพริบตา แต่ที่น่าแปลกใจที่สุดคือเธอคนนั้นได้หายไปในจอมปลวกที่เต๊นที่ 3 ดิฉันและเพื่อนๆทุกคนตกใจไปตามๆกันและฉันถามเพื่อนว่า ได้เห็นเหมือนกันหรือเปล่า เพื่อนๆทุกคนอึ้ง และพยักหน้าพร้อมกัน จากนั้นก็ได้มีเสียงร้องของหญิงสาวที่ร้องสนั่นตรงข้างหลังเต๊น ตรงที่ไกล้ๆกับที่ๆหญิงคนนั้นได้เดินเข้าไป เพื่อนๆของฉันรวมฉันด้วยก็ได้เดินไปพร้อมกัน สรุปว่าเห็นเพื่อนที่อยู่กองที่3 นั่งร้องไห้อยู่พวกดิฉันก็ได้ถามว่า"+++เป็นไรอะ'เพื่อนของฉันตอบว่าผู้หญิง คนหนึ่งเข้ามาขู่ว่าจะมาเอาชีวิตของฉัน จากนั้นฉันก็ได้ถามอีกว่า"คนที่+++เห็น น่ะแต่งตัวยังไง' เพื่อนของฉันตอบว่า"เค้าใส่ชุดสีดำเป็นผ้าผืนยาวลากถึงปลายท้าว ผมดำถึงก้น และหน้าของเขาดูเหมือนว่าเพิ่งจะร้องไห้มาอย่างนั้นแหละ" ฉันกับเพื่อนที่เหลือตกใจและรีบวิ่งไปหาอาจารย์ที่กองใหญ่ และเล่าเรื่องทั้งหมดให้อาจารย์ฟัง อาจารย์ก็บอกว่าให้ไปขอโทษขอโพยเค้าพวกเราอาจจะไปรบกวนเค้าก้ได้ กลับไปก็ทำบุญให้เขาด้วยนะ ..พอตกกลางคืนที่2เป็นคืนสุดท้ายที่ฉันจะต้องนอนมันเกิดเหตุการณ์แปลกๆอีก คือมีลมพัดแรงและฝนตกอย่างหนักแต่ฝนที่ตกนั้นเป็นเพียงเม็ดเล็กๆเท่านั้นเอง พอรุ่งเช้าก้มีแม่ครัวที่ค่ายเล่าให้ฟังว่า'มีหญิงสาวคนหนึ่งมาเข้าค่ายที่ นี่แล้วใส่ชุดแฟนซีสีดำทั้งชุด โดนอาจารย์ทางโรงเรียนข่มขืนแล้วฆ่าทิ้งที่ค่ายตรงจอมปลวก ศพของเด็กสาวคนนั้นน่ากลัวและชอบปรากฏให้เห็นเป็นประจำ บางทีเขาก็มานั่งร้องไห้ข้างจอมปลวก เขาไม่ได้มาหลอกหรือมาทำอะไรหรอก เพียงแค่ทำบุญให้เขาก็พอนะจ๊ะ" "

เครดิต http://xfile.mwake.net/story/266/%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%96%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B9%8C.html



รูปโปร -..- เพราะรักจึงทำร้ายหรอกน้าาหนุ่มกัซ 5555
tunchanok204
#5
03-10-2011 - 21:13:39

#5 tunchanok204  [ 03-10-2011 - 21:13:39 ]






bubpawan
#6
03-10-2011 - 23:35:46

#6 bubpawan  [ 03-10-2011 - 23:35:46 ]





เรื่องของเราไม่ได้สยองอะไรแค่แบ่งปันว่าเคยโดนเหมือนกัน
คือตอนนั้นเรายังเด็กอะประมาณ5ปีได้มั้ง วันนั้นเป็นงานศพตาเราพอดีเขาจัดกันที่วัด
แล้วที่วัดมีหอระฆังอ่านะเราด้วยความที่ยังเด็กแล้วก็ซนเที่ยววิ่งไล่จับกับเพื่อนๆบนหอระฆัง(เขาเก็บกระดูกคนเฒ่าคนแก่นะ)
แล้วเราวิ่งๆขึ้นบันไดเราเหยียบพลาดขั้นบันไดพลาดเลยตกลงมาจากชั้นสองของหอระฆังหัวหัวลงนี้โม่งลงพื้นเลยแบบ(ปักดินอะนะ555แต่หัวไม่แตกไม่มีเลือดออกแต่อยา่งใดแค่กะโหลกมันบวมมากขนาดว่าบวมมมมมมม มากอะ)แต่ในอาการสะลึมสะลือเราก็พยายามลืมตาว่าเกิดอะไรขึ้นโอ้ววว
เห็นเลยทางออกประตูทางแรกเห็นตายืนมองอยู่เหมือนจะเอาเราไปอยู่ด้วย และอีกทางของประตูเาเห็นวิญญาณมากมายต่อแถวมายืนมองเราอะแล้ววิญญาณคนแรกนั้นถ่ายรูปเราด้วย เราไม่รู้เหมือนกันว่าเขาถ่ายทำไมแต่พอพี่มาเจอเรานอนอยู่ก็เลยพาไปที่พ่อแม่ก็เลยนอนกินน้ำเกลือไปหลายคืน 555+ หลังจากนั้นเราก็ไปถามเพื่อนที่อยู่บนหอระฆังว่าเห็นตอนเราตกลงมาไหม เขาก็บอกว่าเขามีคนมาพลักเราลงไป(อาจเป็นเพราะเราไปรบกวนเขามั้ง)จากนั้นอาการปวดหัวอาเจียนเรามันกำเริ่มบ่อยมากจากเมื่อก่อนที่ยังไม่ตกระฆังมันไม่เคยมีอาการเลยประสบการณ์อะ เตือนๆว่าอย่าซนเกินดีนะที่ตกลงมาไม่ตาย เหอะๆ

ปล.ยาวไปหน่อยทนอ่านนะ อุบัติเหตุแปลกๆ ที่สุดในโลก55555 เกิดขึ้นกับเราเองจำจนวันตายอะ
ดิท_________-
รูป หัวตอนตก

มันไม่ขรุขระขนาดนั้นนะแค่บวมปรัมาณนั้น


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-10-03 23:40:02


โย้วววววววว
deathless
#7
04-10-2011 - 14:03:44

#7 deathless  [ 04-10-2011 - 14:03:44 ]





palmy มานิตา
#8
palmy มานิตา
04-10-2011 - 16:55:33

#8 palmy มานิตา  [ 04-10-2011 - 16:55:33 ]




^
^^
^^^
เสียวอ่ะตกใจมากๆ



รูปโปร -..- เพราะรักจึงทำร้ายหรอกน้าาหนุ่มกัซ 5555
stang_wonderland
#9
04-10-2011 - 17:13:44

#9 stang_wonderland  [ 04-10-2011 - 17:13:44 ]






SolSica
#10
04-10-2011 - 17:33:01

#10 SolSica  [ 04-10-2011 - 17:33:01 ]





มีอยู่วันนึง มีเด็กคนได้รับลิงค์แปลกๆ จึงคลิกเข้าไป เจอผีหลอก (ช่วยนั้นนิยมกัน)
และเด็กคนนั้นก็ช็อคตายในที่สุด และ วิญญาณดวงนั้นก็วนเวียนเรื่อยมา

จบแล้ว !




base
#11
11-10-2011 - 13:37:37

#11 base  [ 11-10-2011 - 13:37:37 ]




10 เรื่องสยองขวัญ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่


เรื่องที่ 1: ป๊อก ป๊อก ครืด

เรื่องผีอันดับหนึ่งของ มหาลัย... ระยะเวลาที่เกิดเหตุการณ์ไม่ทราบแน่ชัดแต่สถานที่เกิดคือ หอหญิง ในสมัยที่มหาลัย ยังเป็นที่รกร้างอยู่มาก

ถนนยังเป็นลูกรัง ถนนหน้าฝนเป็นโคลน รถไปมาลำบาก ตอนกลางคืนมืด ไม่มีแสงไฟ เรื่องเกิดกับ นักศึกษาสาว คู่หนึ่งอาศัยอยู่ที่ประมาณ ชั้น 2 หรือ 3 ของหอ

ช่วงนั้นเป็นช่วงสอบ นักศึกษาต่างกำลังอ่านหนังสือกันอยู่ นักศึกษาหญิงคนหนึ่งไม่สบาย อ่านหนังสือในห้องตอนหัวค่ำแล้ว รูมเมทชวนไปทานข้าว
แต่เพราะเป็นไข้อยู่จึงไปไม่ไหว อยากพักผ่อน พอเมทคนนั้นเห็นเพื่อนไม่สบาย ด้วยความเป็นห่วง จึงบอกว่าเดี๋ยวไปทานข้าวเองก็ได้ แล้วจะห่อข้าวมาฝากเพื่อนคนที่ไม่สบายก็บอกว่า ยังไงฝาก ซื้อลาดหน้า (หรือซักอย่างที่เป็นเส้นๆ) มาให้ทีละกัน กินแล้วจะได้กินยาเมท คนนั้นก็บอกว่าได้ๆ เดี๋ยวจะรีบไปรีบกลับ

หลังจากที่เพื่อนออกไปจากห้อง คนที่ไม่สบายก็นั่งอ่านหนังสือต่อ อ่านได้ซักพักก็ไม่ไหว เพราะไข้ขึ้น จึงนอนรอ ต่อมามีความรู้สึกว่านานมากแล้ว เพื่อนทำไมยังไม่กลับมาซะที
ตกดึก ฝนเริ่มตก นักศึกษาคนนั้นก็ตื่นขึ้นมาอ่านหนังสือต่อ ในใจเป็นห่วงเพื่อนเพราะออกไปนานมากยังไม่กลับ

ซักพักนักศึกษาคนนั้นได้ยินเสียงเบาๆ ดังจากชั้นล่าง จากทางบันได ”ป๊อก…………ป๊อก………ป๊อก………ป๊อก…….” เสียงนั้นดังเป็นระยะๆ ใกล้เข้ามา จากทางบันได ดังขึ้นเรื่อยๆ เสียงเหมือนคนกำลังแบกของหนักบางอย่างขึ้นมา

”ป๊อก…………ป๊อก………ป๊อก………ป๊อก…….”

และเสียงนั้นก็ดังมาจนถึงชั้นที่ห้องนักศึกษาหญิงคนนั้นอยู่ แล้วเสียงก็เปลี่ยนไป “ครื……..ด……..ครื………..ด…….ค..รื…ด” เสียงเหมือนคนกำลังลากอะไรซักอย่างใกล้ เข้ามาเรื่อย จนมาหยุดอยู่ที่หน้าห้อง

“ครื……..ด……..ครื………..ด…….ค..รื…ด”

นักศึกษาหญิงเริ่มเอะใจ และมองไปทางประตู ในใจนึกว่าเพื่อนกลับมาแล้ว แต่ยังเงียบ อึดใจนึง ก็มีเสียงเคาะห้อง


“ก๊อก ก๊อก ก๊อก”

แล้วเงียบไป นักศึกษาสะดุ้งสุดตัว คิดว่าไม่ใช่เพื่อนแน่แล้ว ถ้างั้นทำไมไม่เปิดเข้ามาเลย จึงเดินไปเปิดประตู ตรงลูกบิดประตูมีถุงใส่ห่อลาดหน้าแขวนอยู่ พอ เห็นห่อลาดหน้า ก็งง แล้วเพื่อนอยู่ไหน ทำไมไม่กลับมา หรือติดฝนเลยฝากคนอื่นเอามาให้ แต่ทำไมต้องเอามาแขวนไม่รอเจอกันก่อน จะได้รู้ว่าเป็นใคร แล้วทำไมเดินเร็วจัง มีแต่ รอยเปียกน้ำเป็นทางจากบันได….คิดต่างๆนา แต่แล้วก็แกะห่อลาดหน้าออกทานเสร็จก็ทานยาตาม ได้ซักพักก็ม่อยหลับไป

รุ่งเช้า…………….มีคนมาเคาะห้องบอกว่าเพื่อนตายแล้ว นักศึกษาหญิงคนนั้นถูกฆ่าข่มขืนตรงพงหญ้าข้างทาง คาดว่าเหตุเกิดประมาณหัวค่ำ ลักษณะศพ สภาพแขนและ ขาทั้งสองข้างหักอาจเกิดจากการที่คนร้ายเอาท่อนไม้ทุบตีเพื่อไม่ให้หนี

นักศึกษาหญิงที่ตายกำลังเดินทางกลับจากตลาด (ไม่แน่ใจว่าเป็นฝายหินหรือตลาดต้นพยอม) หลังจากทานข้าวเสร็จทุกทีจะไปกับเพื่อน แต่เพื่อนไม่สบายจึงไปคนเดียว โดย เพื่อนฝากซื้อข้าวห่อคนร้ายอาจเห็นว่าเป็นคนเดียวจึงลงมือ

แล้วลาดหน้าเมื่อคืนล่ะ? ไม่มีใครรู้คำตอบแน่ชัด แต่จากที่ฟังกันมาคือหลังจากที่ตายไปแล้ว ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนเพราะว่าไม่สบาย และยังหิว จึงนำห่อลาดหน้าที่ซื้อมาฝาก
แต่จะไปส่งยังไง แขนหัก ขาหักหมดแล้ว….

ลักษณะที่เขาเล่ามาคือพื่อนคนนั้นใช้ปากคาบถุงแล้วใช้คางเกยพาตัวเองมาจนถึงหอพักแล้วใช้คางเกยบันไดลากตัวเอง ขึ้นมา เป็นเสียง “ป๊อก ป๊อก” เสียง “ครืด” ที่ได้ยินคือเสียงลากตัวเองจากบันได มาจนถึงหน้าห้องปรากฎเป็นรอยเปียกน้ำยาวติดต่อกัน

หลังจากส่งห่อลาดหน้าให้ได้แล้วก็หมดห่วง ตอนแรกทุกคนไม่เชื่อที่นักศึกษาคนนั้นเล่าแต่หลังจากที่นักศึกษาที่พักอยู่ข้างๆ ห้องยืนยันว่าในคืนนั้นได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังยกของหนักและลากของหนักจากข้างล่าง ขึ้นมาแล้วทุกคนต่างเชื่อสนิทใจ
เรื่องที่ 1: ป๊อก ป๊อก ครืด

เรื่องผีอันดับหนึ่งของ มหาลัย... ระยะเวลาที่เกิดเหตุการณ์ไม่ทราบแน่ชัดแต่สถานที่เกิดคือ หอหญิง ในสมัยที่มหาลัย ยังเป็นที่รกร้างอยู่มาก

ถนนยังเป็นลูกรัง ถนนหน้าฝนเป็นโคลน รถไปมาลำบาก ตอนกลางคืนมืด ไม่มีแสงไฟ เรื่องเกิดกับ นักศึกษาสาว คู่หนึ่งอาศัยอยู่ที่ประมาณ ชั้น 2 หรือ 3 ของหอ

ช่วงนั้นเป็นช่วงสอบ นักศึกษาต่างกำลังอ่านหนังสือกันอยู่ นักศึกษาหญิงคนหนึ่งไม่สบาย อ่านหนังสือในห้องตอนหัวค่ำแล้ว รูมเมทชวนไปทานข้าว
แต่เพราะเป็นไข้อยู่จึงไปไม่ไหว อยากพักผ่อน พอเมทคนนั้นเห็นเพื่อนไม่สบาย ด้วยความเป็นห่วง จึงบอกว่าเดี๋ยวไปทานข้าวเองก็ได้ แล้วจะห่อข้าวมาฝากเพื่อนคนที่ไม่สบายก็บอกว่า ยังไงฝาก ซื้อลาดหน้า (หรือซักอย่างที่เป็นเส้นๆ) มาให้ทีละกัน กินแล้วจะได้กินยาเมท คนนั้นก็บอกว่าได้ๆ เดี๋ยวจะรีบไปรีบกลับ

หลังจากที่เพื่อนออกไปจากห้อง คนที่ไม่สบายก็นั่งอ่านหนังสือต่อ อ่านได้ซักพักก็ไม่ไหว เพราะไข้ขึ้น จึงนอนรอ ต่อมามีความรู้สึกว่านานมากแล้ว เพื่อนทำไมยังไม่กลับมาซะที
ตกดึก ฝนเริ่มตก นักศึกษาคนนั้นก็ตื่นขึ้นมาอ่านหนังสือต่อ ในใจเป็นห่วงเพื่อนเพราะออกไปนานมากยังไม่กลับ

ซักพักนักศึกษาคนนั้นได้ยินเสียงเบาๆ ดังจากชั้นล่าง จากทางบันได ”ป๊อก…………ป๊อก………ป๊อก………ป๊อก…….” เสียงนั้นดังเป็นระยะๆ ใกล้เข้ามา จากทางบันได ดังขึ้นเรื่อยๆ เสียงเหมือนคนกำลังแบกของหนักบางอย่างขึ้นมา

”ป๊อก…………ป๊อก………ป๊อก………ป๊อก…….”

และเสียงนั้นก็ดังมาจนถึงชั้นที่ห้องนักศึกษาหญิงคนนั้นอยู่ แล้วเสียงก็เปลี่ยนไป “ครื……..ด……..ครื………..ด…….ค..รื…ด” เสียงเหมือนคนกำลังลากอะไรซักอย่างใกล้ เข้ามาเรื่อย จนมาหยุดอยู่ที่หน้าห้อง

“ครื……..ด……..ครื………..ด…….ค..รื…ด”

นักศึกษาหญิงเริ่มเอะใจ และมองไปทางประตู ในใจนึกว่าเพื่อนกลับมาแล้ว แต่ยังเงียบ อึดใจนึง ก็มีเสียงเคาะห้อง


“ก๊อก ก๊อก ก๊อก”

แล้วเงียบไป นักศึกษาสะดุ้งสุดตัว คิดว่าไม่ใช่เพื่อนแน่แล้ว ถ้างั้นทำไมไม่เปิดเข้ามาเลย จึงเดินไปเปิดประตู ตรงลูกบิดประตูมีถุงใส่ห่อลาดหน้าแขวนอยู่ พอ เห็นห่อลาดหน้า ก็งง แล้วเพื่อนอยู่ไหน ทำไมไม่กลับมา หรือติดฝนเลยฝากคนอื่นเอามาให้ แต่ทำไมต้องเอามาแขวนไม่รอเจอกันก่อน จะได้รู้ว่าเป็นใคร แล้วทำไมเดินเร็วจัง มีแต่ รอยเปียกน้ำเป็นทางจากบันได….คิดต่างๆนา แต่แล้วก็แกะห่อลาดหน้าออกทานเสร็จก็ทานยาตาม ได้ซักพักก็ม่อยหลับไป

รุ่งเช้า…………….มีคนมาเคาะห้องบอกว่าเพื่อนตายแล้ว นักศึกษาหญิงคนนั้นถูกฆ่าข่มขืนตรงพงหญ้าข้างทาง คาดว่าเหตุเกิดประมาณหัวค่ำ ลักษณะศพ สภาพแขนและ ขาทั้งสองข้างหักอาจเกิดจากการที่คนร้ายเอาท่อนไม้ทุบตีเพื่อไม่ให้หนี

นักศึกษาหญิงที่ตายกำลังเดินทางกลับจากตลาด (ไม่แน่ใจว่าเป็นฝายหินหรือตลาดต้นพยอม) หลังจากทานข้าวเสร็จทุกทีจะไปกับเพื่อน แต่เพื่อนไม่สบายจึงไปคนเดียว โดย เพื่อนฝากซื้อข้าวห่อคนร้ายอาจเห็นว่าเป็นคนเดียวจึงลงมือ

แล้วลาดหน้าเมื่อคืนล่ะ? ไม่มีใครรู้คำตอบแน่ชัด แต่จากที่ฟังกันมาคือหลังจากที่ตายไปแล้ว ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนเพราะว่าไม่สบาย และยังหิว จึงนำห่อลาดหน้าที่ซื้อมาฝาก
แต่จะไปส่งยังไง แขนหัก ขาหักหมดแล้ว….

ลักษณะที่เขาเล่ามาคือพื่อนคนนั้นใช้ปากคาบถุงแล้วใช้คางเกยพาตัวเองมาจนถึงหอพักแล้วใช้คางเกยบันไดลากตัวเอง ขึ้นมา เป็นเสียง “ป๊อก ป๊อก” เสียง “ครืด” ที่ได้ยินคือเสียงลากตัวเองจากบันได มาจนถึงหน้าห้องปรากฎเป็นรอยเปียกน้ำยาวติดต่อกัน

หลังจากส่งห่อลาดหน้าให้ได้แล้วก็หมดห่วง ตอนแรกทุกคนไม่เชื่อที่นักศึกษาคนนั้นเล่าแต่หลังจากที่นักศึกษาที่พักอยู่ข้างๆ ห้องยืนยันว่าในคืนนั้นได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังยกของหนักและลากของหนักจากข้างล่าง ขึ้นมาแล้วทุกคนต่างเชื่อสนิทใจ

เรื่องที่ 2: เปรตหอนาฬิกา

อันเนื่องจากเคยเป็นป่าช้าและลานประหารเก่ามาก่อน ทำให้เรื่องเล่า เรื่องผีทั้งเก่าและใหม่มีมากมาย เรื่องนี้อยู่ที่หอนาฬิกาใหญ่ ตรงสี่แยกจากประตูหลังมอตรงนั้นจะเป็นวง เวียนสี่แยก ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้เป็นคณะวิศวะ ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้เป็นคณะศึกษาและโรงเรียนสาธิต ฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือเป็นหอชาย และฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือเป็นหอหญิง

เล่ากันว่าตรงหอนาฬิกา กลางวงเวียน มีเปรต หากไปลองของอาจโดนดีได้ วิธีการลองดีคือ ตอนเที่ยงคืนให้ไปวนรถทวนเข็มที่หอนาฬิกา สามรอบ (วงเวียนจะ เวียนรถตามเข็ม) เล่ากันว่า ผู้ที่ลองทำอย่างนั้น ไม่เคยมีใครวนรถทวนเข็มได้ครบสามรอบซักคน ผู้มีประสบการณ์เล่าว่าในขณะที่วนรถอยู่นั้น จะรู้สึกได้ถึงลมที่เย็นผิดปกติ

แต่วนไปสองรอบก็ไม่เกิดอะไรขึ้น มาเกิดตอนที่จะครบรอบที่สามจู่ๆ ก็มีเสาสองต้นตั้งขวางถนนอยู่ ทำให้ต้องหักรถหลบ รถล้มบ้าง แฉลบบ้างไปตามๆ กันใครอยากรู้ก็ลองดู

อีกกรณีหนึ่งมีข่าวอยู่บ่อยๆ ว่านักศึกษาที่พักอยู่ในหอพักชายและหญิงฝั่งที่ติดกับหอนาฬิกา มักได้ยินเสียงแหลมๆ เล็ก ดังมาจากทางหอนาฬิกา สอบถามแล้วคืนนั้น เด็กสาธิต ไม่มีการทำกิจกรรมและคณะวิศวะไม่มีกิจกรรม หรือการก่อสร้างใดๆ และที่สำคัญ บางห้องได้ยินบางห้องไม่ได้ยินทั้งที่อยู่ติดกัน? เป็นเพียงเรื่องเล่า

เรื่องที่ 3: ห้องสีชมพู

เรื่องนี้เกิดที่หอหญิง เป็นเรื่องของนักศึกษาหญิงที่เข้ามาพักในหอในแล้วได้เสียกับผู้ชาย เกิดพลาดตั้งครรภ์ขึ้นมา รู้ตัวเอาตอนท้องได้ 4 เดือนแล้วแต่มันยังไม่ป่องออกมา จึงปิดเงียบไม่ให้ใครรู้แม้แต่เมท

ทำยังไงถึงจะเอาออกได้ พลาดไปแล้วแต่ไม่อยากเสียอนาคต ไม่มีเงินทำแท้ง แฟนไม่รับผิดชอบ ตัดสินใจเอาออกเองในห้องพักโดยเลือกตอนช่วงที่เพื่อนไม่อยู่ ทำเองคนเดียว โดยไม่ทราบวิธีการ ปรากฎว่าผลร้ายกว่าที่คิดนักศึกษาคนนั้นตกเลือดตายในห้องเพื่อนมาพบศพตอนเย็น เห็นรอยเลือดกระจัดกระจาย ติดฝาผนังบ้างก็มี

หลังจากจัดการเรื่องศพเรียบร้อยแล้ว (รวมถึงทำความสะอาดห้อง)

เมทของคนตายก็ย้ายไปอยู่ที่อื่น แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดเห็นรอยเลือดสีจางๆ ติดอยู่ที่ผนังสีขาวก็เลยให้คนเอาสีขาวมาทาทับ วันรุ่งขึ้นเปิดเข้าไปทำความสะอาดรอย เลือดยังมีอยู่เหมือนเดิม ไม่ว่าจะทำยังไงทั้งขัด ทั้งถู หรือทาสีใหม่ รอยเลือดนี้ก็ยังไม่หายไป

จนสุดท้ายทางหอพักจึงต้องนำสีชมพูไปทาทั้งห้องเพื่อไม่ให้เห็นรอยเลือด กลายเป็นห้องสีชมพูตั้งแต่นั้นมา

ปัจจุบันเป็นห้องเก็บของที่ปิดตาย เคยมีแม่บ้านเข้าไปทำความสะอาดที่ห้องนี้ แล้วออกจากห้องไม่ได้ เพราะลูกบิดถูกล๊อค (ทั้งที่ตัวล๊อคอยู่ในห้อง) ลองไปเยี่ยมชมดูได้ครับ

หนึ่งความพลาดพลั้งที่ไม่มีอะไรแก้ไขได้

เรื่องที่ 4: ห้องน้ำคณะสังคม

ที่ห้องน้ำคณะสังคมศาสตร์ ที่เก่าๆ หน่อยลองไปหาดูเอาเอง ลักษณะห้องน้ำคือประตูอยู่ตรงกลาง เข้าไปแล้วโถฉี่จะอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนอ่างล้างหน้ากับกระจกส่องหน้า จะอยู่ทางขวา

รุ่นพี่ที่อยู่คณะสังคมเคยเล่าว่าเคยมีคนเล่าให้ฟังว่า(ฟังเขามาอีกต่อหนึ่ง) ตอนกลางคืนช่วงใกล้สอบไปอ่านหนังสือที่คณะสังคม แล้วปวดฉี่เลยไปฉี่ที่ห้องน้ำนี้ ลุกไปเข้าห้องน้ำคนเดียว คนอื่นๆ ก็นั่งอ่านหน้งสืออยู่ คนไปฉี่ก็เข้าไปฉี่ธรรมดา

ห้องน้ำมีโถฉี่สองอัน อันแรกติดประตูอันที่สองอยู่ด้านขวา ข้างในไปอีก เขาบอกว่าตอนจะฉี่ ก็จะฉี่ที่โถแรกเพราะใกล้กว่า แต่ไม่รู้นึกยังไงเลยเดินเลยไปฉี่ที่โถข้างใน ตอนฉี่ก็ ยังไม่มีอะไรแต่ตอนฉี่เสร็จแล้วมองออกไปที่กระจก ภาพในกระจกสะท้อนเห็นกำลังมีคนยืนฉี่อยู่ที่โถฉี่อันแรก! (หันหลังให้) นึกว่าตาฝาดเพราะหันไปดูก็ไม่มีอะไร

แต่พอไปดูในกระจก ก็เห็นเหมือนเดิม? คืนนั้นเลยไม่ได้อ่านหนังสือกันพอดี พวกขี้เหล้าทั้งหลายที่ชอบไปกินแถวนั้นก็ระวังหน่อยละกัน

เรื่องที่ 5: ถนนขึ้นดอยสุเทพ

สมัยนั้นเวลากลางคืนดอยสุเทพยังไม่ปิดความนิยม(ที่ไม่ค่อยดีเท่าไร) อย่างหนึ่งก็คือเวลาเมาๆ นักศึกษาทั้งหลายมักจะขับรถขึ้นดอยกันขึ้นไปดูเชียงใหม่ทั้งเมือง ตอนกลางคืนมันสวยดี (แต่ดันขับรถตอนเมา ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง)

วันหนึ่ง นักศึกษาจากคณะวิศวะสองคนเพิ่งเลิกจากกังสดาล(แต่ก่อนร้านนี้ฮิตครับ) ครึ้มๆ ขึ้นมาก็เลยขับรถเลยจากทางเข้า กะขึ้นดอยไปชมเมืองเล่น คนขับก็ขับไปข้างหลังคน ซ้อนก็นั่งไป เมาๆ ขึ้นมาคนซ้อนก็เลยหลับ(สมัยก่อนแปดสิบเปอร์เซ็นต์นักศึกษาขับแมงกะไซค์ไม่ใช่รถยนต์อย่างทุกวันนี้)

ซักพักหนึ่งคนซ้อนก็ตื่น กำลังเข้าโค้งพอดี เห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนโบกรถอยู่ข้างทาง แต่คนขับก็ขับเลยผ่านไป ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษจัด ก็เลยถามคนขับว่า “ทำไม mungไม่ จอดรถลงไปถามหน่อยล่ะ เผื่อเขามีปัญหาอะไร?”

คนขับ “gu ไม่จอดด้วยหรอก คนนี้เขารอโบกทุกโค้งเลย เจอมาหลายโค้งแล้ว เดี๋ยวโค้งหน้า mung กะ gu ก็เจอเขาอีกแหละ...”

เรื่องที่ 6: วงเวียนธรณี

วงเวียนธรณี - ต้องขอโทษคนที่ผ่านทางนี้เป็นประจำ(ผมด้วย) จุดนี้มีเรื่องเยอะจริงๆ นานมาแล้วมีนักศึกษาสองคนกินเหล้าเมากันมา พอมาถึงข้างตึกธรณีคนขี่มองไปทาง ข้างตึกอังกฤษ

เห็นคนหัวขาดยืนอยู่ ตกใจจึงหยุดรถขยี้ตาดูอีกทีแล้วสะกิดถามเพื่อนๆ บอกไม่เห็นอะไร มองอีกทีก็ไม่มีแล้ว หันกลับมาข้างหน้ามีลวดเส้นเล็กๆขึงอยู่ระดับคอห่างออกไปเมตร เดียว ถ้าไม่หยุดรถคง!.....

เรื่องที่ 7: ก๊อกน้ำนิติเวช

อาคารเรียนรวมแพทย์ มีคนไปอ่านหนังสือกันสองคน พอดึกๆ ก็ไปซื้อไก่ทอดมากินเสร็จแล้วก็หาที่ล้างมือเจอก๊อกน้ำข้างตึก ก็ไปล้างมือที่นั่น ตอนที่ล้างอยู่เพื่อนอีกคนก็ทำหน้าตกใจมากแต่ยังไม่พูดอะไร

คนที่ทำหน้าตกใจรีบจูงมือเพื่อนกลับมาใต้ตึก แล้วถามว่ารู้มั้ยเมื่อกี้เห็นอะไร อีกคนบอกไม่รู้ คนนั้นจึงบอกว่าเห็นผมของอีกคนซึ่งผมยาวชี้ขึ้นมากระจุกหนึ่งเหมือนมีคนจับขึ้น มา รู้ทีหลังว่าตรงนั้นเป็นที่ล้างศพ!

เรื่องที่ 8: ห้องแลปฟิสิกส์

แลปฟิสิกส์ – อันนี้ฟังเค้าเล่ามาอีกทีเป็นเรื่องนานมาแล้ว เรื่องมีว่าเมื่อก่อนตอนที่ตึกเก้าชั้นวิดยายังไม่ได้สร้างแลปฟิสิกส์ของเด็กปี 1 ก็ยังทำที่แลปเก่า (น่าจะ เป็นตึกฟิสิกส์) แลปคราวนั้นเป็นแลปเรื่องแสง

คนที่เคยเรียนคงรู้ว่าห้องจะมืดเพราะปิดไฟและเป็นแลปมืดจริงๆ เพราะทำช่วงค่ำ นักศึกษาหญิงคนนึงก็เข้าห้องแลปแต่พาร์ทเนอร์แลปยังไม่มา คนอื่นๆ ก็มากันแล้ว เตรียมอุปกรณ์เสร็จเพื่อนก็มา แต่ก้มหน้าก้มตา ไม่พูดไม่จา ถามว่าเป็นอะไรก็ไม่ตอบ
เหลือบเห็นที่คอมีรอยแผลเป็นทางยาว เธอจับไหล่เพื่อนถามว่าไปโดนอะไรมาเพื่อนเงยหน้าขึ้นมาแล้วหัวหลุดกลิ้งไปกับพื้น ผู้หญิงร้อง กรี้ดแล้ววิ่งออกมาสลบตรงระเบียง

ฟื้นมามียามกับรุ่นพี่สองสามคน ถามว่าไม่รู้เหรอว่าวันนี้แลปงด เพราะเมื่อเช้ามีนักศึกษาในเซค รถคว่ำตาย เพื่อนเลยไปงานศพช่วงค่ำกันหมด สอบถามชื่อได้ความว่าคือพาร์ท เนอร์แลปของเธอนั่นเอง! ส่วนคนที่เจอในห้องแลปทุกคนล้วนแต่ไร้ชีวิต

เรื่องที่ 9: ทางเดินคณะวิศวะ

ทางเดินคณะวิดวะ มีคนสี่คนเข้าไปเล่นผีถ้วยแก้วตรงทางเดินยาวตรงข้ามหอ 5 ชาย วันนั้นฝนตกด้วย มีผีผู้ชายเข้ามา พอถามว่าชื่ออะไร ไม่ตอบถามว่ามาคนเดียวใช่รึไม่ใช่

ก็ตอบว่าไม่ใช่จึงถามต่อว่ามากันเท่าไหร่ เค้าก็ตอบว่าเก้า (ไปเลข 9)

คนเล่นรู้สึกกลัวขึ้นมาจึงเชิญออก แล้วรีบกลับมาที่หอ มีเพื่อนถามว่าไปไหนกันมา ก็บอกว่าไปเล่นผีถ้วยแก้วในคณะวิดวะเพื่อนก็ว่า อ๋อที่ยืนมุงเยอะๆ ตรงทางเดินน่ะนะ

เรื่องที่ 10: หอผู้ป่วย ห้องพิเศษ

เรื่องนี้เกิดขึ้นในหอผู้ป่วยใน ห้องพิเศษ มีนักศึกษาชายมาเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ซึ่งรักษาอยู่ในโรงพยาบาล คณะแพทย์ คุยกันจนเพลิน นึกขึ้นได้ว่าดึกมากแล้ว จึงขอลากลับ

เวลา 4 ทุ่มของวอร์ดนี้ โดยเฉพาะแผนกห้องพิเศษ ช่างเงียบสงัดนัก นศ. คิด เขาไม่เคยเจอบรรยากาศแบบนี้มาก่อน…

เขาเดินผ่านห้องผู้ป่วยอื่นมาเรื่อยๆ เพื่อเดินไปขึ้นลิฟท์ซึ่งอยู่ที่สุดทางเดินอันยาวนี้ พยาบาลที่เคาท์เตอร์ก็ไม่อยู่ เนื่องจากต้องไปดูแลผู้ป่วยห้องต่างๆ…. เขาไม่เห็นใครคนอื่นเลย

เขาเดินไปได้กลางทาง ก็มีผู้ชายคนหนึ่ง ใส่ชุดสีกากี ดูเหมือนเจ้าหน้าที่ส่งเอกสารทั่วๆ ไป เดินเข้ามาในวอร์ดผ่านประตูซึ่งเปิดอยู่…. พยาบาลคงเรียกเขามาเอา specimen ไปส่งห้อง LAB กระมัง…. นศ. คิดในใจ

ทันใดนั้นเอง นศ. ขนลุกซู่ โดยไม่รู้ตัว ชายคนดังกล่าวที่กำลังเดินใกล้เข้ามานั้น ไหล่และมือของเขานิ่งมาก ไม่มีการขยับหรือแกว่ง ตามจังหวะการเดินเลย…. เหมือนว่าเขาไม่ได้เดินมา….!! เขาเหมือนลอย… เข้ามา มากกว่า

ในใจของ นศ. รู้สึกถึงความกลัวที่สุดในชีวิต แต่เขาก็ยังเดินต่อไปข้างหน้า ขณะที่ชายเสื้อสีกากีดังกล่าวก็…ใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

จังหวะที่ทั้งสองสวนผ่านกันนั้น (ห่างกันไม่ถึง 2 เมตร) นศ. สังเกตเห็นว่าชายคนนั้นลอยอยู่จริงๆ …!! ปลายนิ้วเท้าสองข้างของเขา ชี้ลงไปที่พื้น หน้าก้มต่ำ ผมเขายาวเล็กน้อยปิดบังหน้าตาไว้ นศ. ถึงกับขนลุกเกรียวทั้งตัวและสัมผัสได้ถึงความเย็น

หลังจากเดินผ่านชายเสื้อกากีมาแล้ว นศ. ก็หันกลับไปมองชายคนนั้น ซึ่งเขาเองก็เหมือนจะรู้ตัว…. ชายคนดังกล่าวหยุดอยู่นิ่ง แล้วค่อยๆ หันหน้าซึ่งมีผมเผ้ารุงรัง ผิวสีเทาๆ มายัง นศ. แล้ว ยิ้ม แหยะๆ ให้

ไม่ต้องคิดอะไรอีกแล้ว…. นศ. รีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมาจากวอร์ด แล้วไม่หันหลังกลับไปดูอีกเลย


แล้วงานนี้หลอนได้ใจมั้ย



HNY น้าาาาาาาา
จอมโจร_ไร้นาม
#12
จอมโจร_ไร้นาม
11-10-2011 - 15:42:50

#12 จอมโจร_ไร้นาม  [ 11-10-2011 - 15:42:50 ]





มหาลัยรามคำแหง
เรื่องที่1 ผีตึกวิทย์
(2544) มีเรื่องนึงดังมากฟังมาจากรุ่นพี่อีกที คือมี นศ.คณะวิทยาศาสตร์คนนึง ทะเลาะกับแฟน เลยประชดแฟนโดยการกระโดดตึก จากชั้น4ของตึกวิทยาศาสตร์เก่า ถ้าบางคนไม่เคยผ่านตึกนั้นตอนโพล้เพล้คงไม่รู้ว่าน่ากลัวแค่ไหน ยิ่งมีข่าวนี้เข้ามาด้วย ช่วงนั้นเด็กที่อ่านหนังสือแถววนั้นหายหมดครับ เพราะมียามเห็น นศ.สาวยืนอยู่บนดาดฟ้าตึก แล้วโดดลงมาประจำ บ้างก็เห็นเธอยืนยิ้มริมทางทั้งที่เสื้อเปื้อนเลือด ไม่ทราบว่าตอนนี้เธอยังอยู่หรือปล่าว วาน นศ.ที่เรียนบริเวณนั้นช่วยไปดูให้ทีนะครับ

ตึกนั้นคลาสสิคมากอยู่แล้วครับ
มี นศ.คณะนิติมาโดดที่ตึกนั้นเสียชีวิต น่ากลัวจริงๆ

2. นักศึกษาตายในลิฟท์ห้องสมุด
รหัสแก่ ๆอาจจะเคยได้ยินมาบ้างแล้ว
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น
ปี 42 หรือ 44 ไม่แน่ใจ
วันที่มหาวิทยาลัย ปิดยาว ช่วงปีใหม่
วันที่ 31 ธันวาคม 1-2-3-4 (ติดเสาร์-อาทิตย์)
เปิดเรียนวันจันทร์
คือวันที่ 31ธค.ในห้องสมุด
วันนั้น ยามเห็นว่า ไม่มีคนแล้ว เลยปิดห้องสมุดโดยไม่ได้ตรวจตราความเรียบร้อย
ปิดสวิสไฟหมดเลย โดยไม่รู้เลยว่า มีนักศึกษา ติดอยู่ในลิฟท์ 5คน
เรื่องนี้ รู้กันอีกที วันที่เปิดเรียน คือวันจันทร์ ที่5 เปิดห้องสมุดมา
มีนักศึกษา ตายอยู่ในลิฟท์ 5คน น่าสงสารมากเลย
เรื่องนี้ เค้าปิดข่าวนะคะ แต่ ถ้าใครเรียนตอนนั้น จะเห็นว่า เค้าเอาพวงหรีดมาวางหน้าห้องสมุดด้วยอ่ะ
ใครที่ขึ้นลิฟท์ ห้องสมุดคนเดียว ระวังหน่อยนะครับ

3. ผีห้องกิจกรรม
เอาต่อด้วยเรื่องผีที่ตึกกิจกรรมละกันนะครับ เกิดขึ้นในชมรมเก่าแก่ชมรมนึงของราม เมื่อก่อนชมรมนี้พอทำกิจกรรมของชมรมเสร็จ หน้าที่เก็บกวาดห้องจะเป็นของเด็กที่เพิ่งเข้าชมรมใหม่ๆ วันนั้นรู้สึกจะเหลือนศ.หญิงเข้าใหม่แค่2คนทำความสะอาด เมื่อก่อน ตึกกิจกรรมปิดเวลา19.00น.นะครับ 2คนนี้ก็ทำถึงประมาณ6โมงครึ่ง อีกครึ่งชม.ตึกจะปิด เลยรีบทำกัน นศ.1อยู่ๆก็เอ่ยขึ้นมาว่า "เธอๆ เธอเชื่อเรื่องผีรึปล่าว" นศ.2ได้ยินดังนั้น จึงตอบว่า"เออสิวะ ไม่เชื่อได้ไง เขาว่ากันว่าชมรมของเราอ่ะ เฮี้ยนจะตาย" นศ.1ได้ยินดังนั้น ก็ทำหน้าเซ็งๆแล้วบอกว่า"ถ้ามีจริงก็มาให้เห็นเถอะ จะขอหวยซะให้เข็ด" สิ้นคำพูดนั้น นศ.1ก็ได้ยินเสียงกระดิ่งข้อเท้า แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ คิดว่าหูแว่ว สักพัก ขณะที่นศ.1กำลังทำความสะอาดชฎาสวมหัวอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงกระดิ่งแถวเท้าตัวเอง เลยก้มลงไปดู ก็เห็น เท้ายาวๆใส่กระดิ่งข้อเท้าอยู่ข้างหลังตัวเอง(มองลอดหว่างขา) ก็ตกใจ แต่ก็ยังกลั้นใจหันไปมอง แต่ก็ไม่พบสิ่งใด ในห้องนั้นมีแค่เธอกับเพื่อนแค่2คนเท่านั้้น แต่ก็กลั้นใจ คิดว่าตาคงฝาด รีบกลับดีกว่า ชักไม่ค่อยดีแล้วเธอก็หันกลับมาตรงที่วางชฎา เพื่อดูความเรียบร้อยอีกรอบ แล้วเธอก็เห็น หัวของชายแก่สวมชฎาซึ่งมีแค่หัว หันมายิ้มมาให้เธอ เท่านั้นแหละเธอก็กรี๊ดแล้วก็สลบไป ข่าวบางกระแสว่าเธอเลิกเรียนแล้วกลับไปอยู่บ้าน บางกระแสบอกเธอช้อคจนเสียสติไป บางกระแสบอกว่าเธอเป็นเจ้าหญิงนิทรา หลับไม่ตื่นเพราะว่าโดนดึงวิญญาณไป...


สิ่งที่ไม่ควรกระทำ

1.ไปนั่งที่สระรามเวลาตั้งแต่3ทุ่มเป็นต้นไป โดยหันหลังให้เสาธง แล้วนับเสาไฟ วนตามเข็มนะครับ นับเรื่อยๆ ว่ากันว่าพอถึงรอบที่3จะมีเสาเกินมี1ต้น คือต้นที่มีคนยืนพิงอยู่ ลองโบกมือให้เขาดู เผื่องานเข้า

2.เดินผ่านตึกวิทยาศาสตร์เก่า แล้วยืนอยู่บนฟุตบาทถนนฝั่งเดียวกะตึก หันหลังให้ตึกแล้วแหงนหน้าขึ้นไปจนเห็นดาดฟ้า ว่ากันว่าจะเห็นคนที่โดดตึกยืนอยู่

3.เวลาขึ้นลิฟท์ตึกSBB ลองมองแถวหว่างขาดู เผื่อมีขาคนโผล่มาอยู่ข้างหลัง

4.ห้องน้ำชายชั้น4ตึกกิจกรรม พอเข้าไปนั่ง ลองผิวปากเพลงธรณีกรรแสงดู พอหยุกผิว จะได้ยินเสียงผิวปากต่อจากห้องข้างๆ

5.เวลาไปดูเกรดที่ตึกนิติตอนเย็น ลองจุดเทียนดูเกรด ว่ากันว่าจะมีคนมาดูเกรดเป็นเพื่อนอีกเพียบ

6.เวลาเดินผ่านรามตอนกลางคืน ลองสังเกตดู จะมีนศ.บางคนอ่านหนังสือในมุมมืดของตึก(มองเห็นด้วยรึ)


ยังมีอีกเยอะครับ ส่วนมากจะเป็นหอพักแถวๆรามมากกว่า เจอผีอิสลามกันเยอะ

สำหรับผมเองยังไม่เคยเจอนะเพราะอยู่ใน ม. ไม่เคยเกินหกโมงเย็นซักทีแต่ก็ฟังมาจากรุ่นพี่หลายเรื่องนะ ทั้งผีห้องน้ำ ผีห้องดนตรีไทย เยอะแยะมากมาย
_________________



หลอนเหมือนกันนะเนี่ย ดีนะที่ปี1ไม่มีเรียนภาคค่ำ

ป.ล ผมก็เคยติดลิฟท์เกือบชั่วโมง ดีนะที่ไม่ใช่ห้องสมุด


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-10-11 15:55:25

lovemiku
#13
11-10-2011 - 16:08:13

#13 lovemiku  [ 11-10-2011 - 16:08:13 ]






เป็นเรื่องที่ครูคนนึงของโรงเรียนเคยเจอ(หลายปีแล้ว ก็จำไม่ค่อยจะได้)

พวกเพื่อนครูและครูไปเที่ยวกัน แล้วมีคืนนึง(ยังไม่ถึงที่หมายนะ)ไปเติมน้ำมันที่ปั้มที่นึง
แล้วครูรู้สึกอยากทำธุระ(หนัก)ส่วนตัว ครูก็หาห้องในปั้มไม่เจอ ก็เลยลองไปหาดูอีกที
เจอห้องน้ำข้างๆปั้ม ตรงนั้นไม่มีไฟ ออกร้างๆด้วย แล้วครูก็เปิดประตูห้องน้ำ เจอ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.


ขี้!!!!!!!!!!(เพื่อนมันแต่งตอนท้าย)

ตอนนั้นครูบอกว่าเดี๋ยวมาเล่าต่อ แต่ครูย้ายโรงเรียน
เจ้าเพื่อนบ้า


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-10-11 16:10:11

จอมโจร_ไร้นาม
#14
จอมโจร_ไร้นาม
11-10-2011 - 16:27:35

#14 จอมโจร_ไร้นาม  [ 11-10-2011 - 16:27:35 ]




quote :

10 เรื่องสยองขวัญ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่


เรื่องที่ 1: ป๊อก ป๊อก ครืด

เรื่องผีอันดับหนึ่งของ มหาลัย... ระยะเวลาที่เกิดเหตุการณ์ไม่ทราบแน่ชัดแต่สถานที่เกิดคือ หอหญิง ในสมัยที่มหาลัย ยังเป็นที่รกร้างอยู่มาก

ถนนยังเป็นลูกรัง ถนนหน้าฝนเป็นโคลน รถไปมาลำบาก ตอนกลางคืนมืด ไม่มีแสงไฟ เรื่องเกิดกับ นักศึกษาสาว คู่หนึ่งอาศัยอยู่ที่ประมาณ ชั้น 2 หรือ 3 ของหอ

ช่วงนั้นเป็นช่วงสอบ นักศึกษาต่างกำลังอ่านหนังสือกันอยู่ นักศึกษาหญิงคนหนึ่งไม่สบาย อ่านหนังสือในห้องตอนหัวค่ำแล้ว รูมเมทชวนไปทานข้าว
แต่เพราะเป็นไข้อยู่จึงไปไม่ไหว อยากพักผ่อน พอเมทคนนั้นเห็นเพื่อนไม่สบาย ด้วยความเป็นห่วง จึงบอกว่าเดี๋ยวไปทานข้าวเองก็ได้ แล้วจะห่อข้าวมาฝากเพื่อนคนที่ไม่สบายก็บอกว่า ยังไงฝาก ซื้อลาดหน้า (หรือซักอย่างที่เป็นเส้นๆ)

ผัดไทครับ ดูในหนังอ่ะเป็นผัดไท


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-10-11 16:28:30

jobsu1
#15
11-10-2011 - 16:57:02

#15 jobsu1  [ 11-10-2011 - 16:57:02 ]




เราจะมีเรื่องให้ฟัง เราได้จดหมายฉบับมันเขียนว่า
ดีจัง)สวัสดีฉันคือ Teresa Fidalgo. วันนี้ฉันตายครบ 26 ปี, ถ้าคุณไม่ส่งมันต่อไ ป 20 คน ฉันจะไ ปนอนข้างคุณ คืนนี้และตลอดไ ป! ถ้าคุณไม่เชื่อมันหาชื่อฉันในกูเกิ้ลแล้วคุณจะเห็น 'big man ting'
5555+


p-o-o
#16
11-10-2011 - 17:08:12

#16 p-o-o  [ 11-10-2011 - 17:08:12 ]






อยากจะ ให้เล่าจริงเหรอ ? อันนี้ไปเจอมาจากเว็บนึงนะ

คำว่า จขกท.หรือเรา นี้ ไม่ใช่ปอนะ หรือ คนตั้งกระทู้นี้นะ จขกท.นี้คือคนที่เล่าเรื่องนี้แหละ

คิดว่าหลายคนคงเห็นเราโพสกระทู้นะ เยอะเหมือนกัน
แต่ภายนอกอาจจะคิดว่าเราดูชิลๆ แฮป...ๆดี แต่ไม่ใช่ล่ะ
เราเป็นคนมีซิกเซ็นส์ ซึ่งมันแบบว่า .......


หลายคนอาจจะไม่เชื่อ แต่ควรใช้วิจารณญาณมาก่อนนะคะ

มันเริ่มตั้งแต่เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เราได้ไปเที่ยวที่บ้านน้า จ.นครปฐม
แล้ววันนั้นเป็นวันที่แม่กับน้าทำบุญบ้านพอดี ก็มีพระมาเทศน์ พรมน้ำมนต์ฯลฯ
พระท่านบอกว่า ถ้าอยากให้ธุรกิจการค้าขายรุ่งเรืองดี ควรเอาพวกของคาวหวาน
ไปให้กับพวกสัมภเวสีที่อยู่รอบๆบริเวณนี้ ตอนนั้นเราไปขี่จักรยาน มันร้อนมาก
เลยขับมาจอดอยู่ตรงหน้าบ้าน แล้วเผอิญว่าตรงนั้นมีของคาวหวานของสัมภเวสีอยู่
เรามองไม่เห็น เตะถาดคว่ำ ข้าว ของหวาน ระเนระนาดหมด ตอนนั้นตกใจอยู่
เลยรีบเก็บๆๆมาใส่ถาดไว้ที่เดิม ยกมือไหว้ เดินเข้าไปบ้านไปหน้าตาเฉย ไม่ได้บอกพ่อแม่หรือใครๆเลย


เรามีเรื่องเล่าอีกเยอะเลย แต่ขอดูก่อนว่าจะมีใครอยากให้เราเล่าต่อมั้ย

เราเจอสิ่งที่ไม่ใช่คนเดินร่อนเต็มไปหมด จนถึงวันนี้ ตอนนี้ก็ยังเห็น


CD : `เดอะปลวกซิมโฟนี่.?` จากเว็บ ? (ขอไม่บอกนะ )



ไม่เล่นบอร์ดนี้แล้วน้อออ
จอมโจร_ไร้นาม
#17
จอมโจร_ไร้นาม
11-10-2011 - 19:05:05

#17 จอมโจร_ไร้นาม  [ 11-10-2011 - 19:05:05 ]




^
^
^
อยากสิครับ ถ้าเป็นเรื่องจริง


p-o-o
#18
11-10-2011 - 19:55:48

#18 p-o-o  [ 11-10-2011 - 19:55:48 ]






quote : จอมโจร_ไร้นาม

^
^
^
อยากสิครับ ถ้าเป็นเรื่องจริง


นั่นเรื่องจริงนะคะ 100 เปอร์เซ็น จากผู้มีซิกเซนต์ล้วนๆ



ไม่เล่นบอร์ดนี้แล้วน้อออ
numnungsims
#19
11-10-2011 - 20:13:46

#19 numnungsims  [ 11-10-2011 - 20:13:46 ]








ยินดีต้อนรับ
  • 1

ลงข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ต้องสมัครเป็นสมาชิกและ login เข้าสู่ระบบก่อนถึงจะสามารถลงความเห็นได้
เข้าสู่ระบบสมัครสมาชิก



ข้อมูลเมื่อ 20th November 2024 10:03

โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ