ลองนึกภาพว่า ถ้าน้ำท่วมบ้านเราขึ้นมา ไฟฟ้าไม่มี น้ำก็ไม่ไหล โทรศัพท์ก็สัญญาณหายจะทำยังไง!!!
คงมี 2 อย่างที่พึ่งได้ก็คือ ตัวเอง...และความช่วยจากโลกภายนอก
แต่ 3 สิ่งที่จำเป็น ทั้งไฟฟ้า น้ำ อาหาร มันไม่ใช่จะขนฝ่าน้ำมาหาเราง่ายๆ นะสิ แต่ด้วยภูมิปัญญาไทยนี่แหละ ที่แก้ปัญหานี้ได้ และนี่คือ 7 เทคโนโลยีและสิ่งประดิษฐ์สุดยอดที่จะช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งกระทรวงวิทยาศาสตร์โดยความช่วยเหลือของหน่วยงานต่างๆ เป็นผู้คิดค้นขึ้น และส่งไปช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยที่กำลังเดือดร้อน มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
อันดับที่ 7 ข้าวกระป๋องและแกงสำเร็จรูป
เป็นเทคโนโลยีของกรมวิทยาศาสตร์บริการ ในการผลิตอาหารบรรจุลงภาชนะปิดสนิทพร้อมรับประทาน ซึ่งจะผ่านกระบวนการสเตอร์ริไลซ์ใช้อุณหภูมิสูงมากกว่า 100 องศาเซลเซียส ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ ร่วมกับเทคนิคพิเศษ ไม่ใช่แค่การนำข้าวสุกหรืออาหารสุกไปบรรจุกระป๋องแล้วฆ่าเชื้อ สามารถเก็บไว้ได้นาน 8-12 เดือน เมื่อเปิดกระป๋องรับประทาน ข้าวจะมีลักษณะ สี กลิ่น รส และเนื้อสัมผัสใกล้เคียงกับข้าวสวยที่หุงสุกโดยวิธีปกติ ส่วนการเก็บนั้นถ้าเก็บที่อุณหภูมิห้อง (20-30 องศาเซลเซส) สามารถอยู่ได้นาน 1 ปี
อันดับ 6 มุ้งนาโนกันยุง
บ้านใครไม่เคยน้ำท่วม ไม่มีวันรู้ซึ้งถึงความกวนมึนโฮของยุง!!! สิ่งประดิษฐ์อันดับที่ 6 นี้จะมาช่วยขจัดปัญหานั้นได้ภายใน 6 นาที!!
มุ้งนาโนฆ่ายุงนี้เป็นสิ่งประดิษฐ์ของ ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) ซึ่งผสมสาร "เดลตาเมธริน" (Deltamethrin) สารสังเคราะห์เลียนแบบสารในกลุ่ม "ไพเรธรอยด์" (Pyretroid) สารสกัดธรรมชาติจากดอกดาวเรืองและเก๊กฮวย ซึ่งเป็นสารที่ได้รับการแนะนำให้ใช้จากองค์การอนามัยโลก (WHO)
เมื่อตัวรับ (Receptor) ที่ปลายขาของยุง ได้รับสารดังกล่าวจากการชนหรือสัมผัสกับมุ้งที่ผสมสาร จะทำให้ยุงบินช้าลงและตายใน 6 นาที แต่คนและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมไม่มีตัวรับสารดังกล่าว จึงไม่ได้รับอันตราย และสามารถทนการซักล้างได้มากกว่า 30 ครั้ง
ตายจริง ตายเรียบ! ไบก้อนชิดซ้าย!
อันดับที่ 5 โลชั่นกันยุงนาโน
เป็นผลงานของศูนย์นาโนเทค โดยโลชั่นนี้มีส่วนประกอบจากสมุนไพรที่มีฤทธิ์ไล่ยุง 3 ชนิด คือ น้ำมันตะไคร้หอม น้ำมันแมงลัก และน้ำมันหญ้าแฝก พร้อมทั้งใช้เทคโนโลยีนาโนอีมัลชั่นห่อหุ้มตัวยาดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้น คือเมื่อทาแล้วจะมีฤทธิ์ยาวนาน 5 ชั่วโมง ต่างจากยากันยุงทั่วไปที่มีฤทธิ์แค่ 1 ชั่วโมง ที่สำคัญยังสามารถใช้ในเด็กเล็กและทารกได้โดยไม่มีผลข้างเคียง
อันดับ 4 ส้วมกระดาษฉุกเฉิน
เป็นสิ่งประดิษฐ์ทำด้วยวัสดุกระดาษลูกฟูก สำหรับแก้ปัญหาความไม่สะดวกในการใช้ห้องสุขาขับถ่ายในภาวะน้ำท่วม ไม่มีน้ำประปาใช้
ส้วมกระดาษนี้ใช้ง่าย ทนทาน น้ำหนักเบา ราคาถูก แข็งแรง รองรับน้ำหนักกดทับได้ถึง 100 กิโลกรัม เมื่อใช้งานจะต้องมีถุงพลาสติกเป็นส่วนประกอบโดยใส่ไว้ด้านใน เพื่อรองรับของเสียจากร่างกาย ใช้เสร็จแล้วก็เก็บถุงพลาสติกไปทิ้ง เปลี่ยนถุงใหม่ พับได้ด้วยนะเออร์
อันดับ 3 อุปกรณ์ชารจ์โทรศัพท์มือถือแบบพกพา
จากปัญหาอุทกภัยทำให้กระแสไฟฟ้าในพื้นที่ถูกตัดเป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้การติดต่อสื่อสารเป็นไปได้อย่างลำบาก โทรศัพท์มือถือเมื่อแบตหมดก็ไม่สามารถชาร์จได้ สวทช. โดยเนคเทค จึงได้ลงพื้นที่เผยแพร่ความรู้แก่ผู้ประสบภัย เรื่องการนำแบตเตอรี่ 12 โวลท์จากรถยนต์มาประยุกต์ใช้ชาร์จมือถือ
อันดับ 2 รถสื่อสารฉุกเฉิน
เมื่อเกิดภัยพิบัติ ระบบการสื่อสารในพื้นที่มักจะถูกตัดขาด เนื่องจากไม่มีกระแสไฟฟ้า นี่คือปัญหาสำคัญอันดับต้นๆ เลยทีเดียว เพราะการช่วยเหลือจะทันท่วงทีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการติดต่อประสานงานระหว่างคนในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ แม้กระทั่งญาติพี่น้องของผู้ประสบภัยก็คงอยากจะติดต่อเพื่อรู้ความเป็นไป
เนคเทคจึงพัฒนารถสื่อสารฉุกเฉินขึ้น ซึ่งเป็นรถยนต์ที่สามารถเคลื่อนย้ายทางอากาศโดยเฮลิคอปเตอร์ได้ ความสามารถลุยน้ำได้ลึกสุดถึง 70 เซนติเมตร สามารถวิ่งที่ลาดชันด้วยมุมสูงสุด 40 องศา มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและปั่นไฟติดตั้ง ตลอดจนอุปกรณ์แปลงและสำรองไฟในตัวเอง รวม ถึงระบบสื่อสารที่รองรับการเชื่อมชุมสายโทรศัพท์ ทั้งระบบอนาล็อกและดิตอลแบบมีสายและไร้สาย และมีระบบคอมพิวเตอร์พกพาที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้อีกด้วย นับว่าเป็นรถยนต์มหัศจรรย์ ทรานส์ฟอร์มเมอร์ของจริง
อันดับ 1 ข้าวทนน้ำท่วม
จะไม่ยกให้เป็นอันดับ 1 คงไม่ได้ เพราะใน 6 ข้อที่ผ่านมานั้นเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเหลือบรรเทาทุกข์เฉพาะหน้า แต่อันดับ 1 นี้คือการฟื้นฟูหลังน้ำลด ซึ่งก็คือการพัฒนาพันธุ์ข้าวที่จะทำให้ชาวนาผู้เลี้ยงปากท้องคนทั้งประเทศ 'รอดพ้น' จากภัยน้ำท่วมได้อย่างแท้จริง เพราะภัยที่โหดร้ายที่สุดของน้ำท่วมก็คือ...ความเสียหายที่ตามมาหลังน้ำลดแล้ว
"พันธุ์ข้าวหอมชลสิทธิ์" คือผลงานของ ไบโอเทค หรือศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ พันธุ์ข้าวดังกล่าวว่าเป็นข้าวสายพันธุ์ใหม่ มีคุณสมบัติพิเศษคือทนน้ำท่วมฉับพลันได้นาน 2 สัปดาห์ สามารถเจริญเติบโตได้ดี โดยไม่จำกัดความลึกของระดับน้ำ อีกทั้งเป็นข้าวที่ไม่ไวแสง สามารถเพาะปลูกได้ตลอดทั้งปี โดยในอนาคตจะพัฒนาต่อให้ทนเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ศัตรูตัวฉกาจในนาข้าวเพิ่มเติมด้วย
เห็นแบบนี้แล้วก็ภูมิใจ คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก
ยังไงก็อย่าเป็นนักอ่านเงานะคะ อ่านแล้ว ก็ คอมเม้นกันด้วยว่าเป็น เช่นไร
Credit : Dek-D payonyoung