ประวัติเถ้าแก่น้อย
เนื่องจากว่าเราไปดูคลิปใน you tube มาแล้วเจอตัวอย่างหนังวัยรุ่นพันล้านมา
แล้วมันเป็นหนังจำลองเรื่องราวของเถ้าอก่น้อยค่ะเลยไปหามาให้อ่านกัน(ยาวมากนะคะ)
นักธุรกิจหนุ่มในวัย 23 ต๊อบ-อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ ใครจะคิดว่า จากเด็กที่ชอบเล่นเกมส์ออนไลน์ เรียนหนังสือไม่เก่ง ถูกประณามเป็นเด็กไม่เอาถ่าน จะกลายเป็นเจ้าของธุรกิจสาหร่ายทอดร้อยล้านภายใต้ชื่อ “เถ้าแก่น้อย”
เชื่อเหลือเกินมีคนจำนวนไม่น้อยที่เข้าใจว่าเจ้าของธุรกิจ”เถ้าแก่น้อย” คงต้องเป็นคนอายุมาก หรือไม่ก็เป็นอาเสี่ยรุ่นดึกไปเลย แต่ที่ไหนได้เจ้าของธุรกิจเถ้าแก่น้อยกลับกลายเป็นเด็กหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงจนแวดวงธุรกิจต่างต้องจับตามองอย่างไม่กระพริบตา แม้หนุ่มน้อยคนนี้จะเป็นคนที่เรียนหนังสือไม่เก่ง กลับชอบการอ่านประวัติของนักธุรกิจชั้นนำ อาทิ ธนินท์ เจียรวนนท์ เจริญ สิริวัฒนภักดี ตัน ภาสกรนที โดนัลด์ ทรัมป์ บิล เกตต์ สตีฟ จ้อบส์ ต่างเป็นต้นแบบในการทำธุรกิจของผู้ก่อตั้งเถ้าแก่น้อย
บุคคลเหล่านี้จึงเปรียบเสมือนไฟส่องทางทำให้ได้้นำเคล็ดลับดีๆ มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน แล้วยังนำไปพัฒนาในการบริหารธุรกิจของเถ้าแก่น้อยจนเป็นที่รู้จักในอุตสาหกรรมบ้านเรา วันนี้ ทีมงาน WhO? ถือเป็นโอกาสอันดีที่ได้มาสัมภาษณ์คุณต๊อบ-อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ ผู้ก่อต้ังบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู้ด แอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด จ.นนทบุรี เมื่อทีมงานไปถึงคุณต๊อบหนุ่มหน้าใสอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสแลคสีดำ ได้ออกมานั่งพูดคุยกันอย่างเป็นกันเองแบบเขินๆ ก็ตาม
คุณต๊อบ เล่าว่า สมัยก่อนเรียนชั้นมัธยมไม่ค่อยตั้งใจเรียนเท่าไหร่ เรียกได้ว่าเกเรเหมือด็กวัยรุ่น หนีเรียนโดยจะปีนข้ามรั้วของโรงเรียนออกมา ทำให้ครูต่างพูดกันว่า เด็กคนนี้แสบ ยิ่งเรียนชั้น ม.5- ม.6 จะโดดเรียนบ่อยครั้งมาก สาเหตุที่โดดเรียนก็ไปเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ออนไลน์ ใครจะรู้ว่าการเล่นเกมส์ในวันนั้นจะเป็นทางเดินของธุรกิจนี้ก็ได้ แล้วการโดดเรียนก็จะไปเล่นเกมส์คนเดียว ไม่มีใครเข้าใจ อาจารย์และเพื่อนต่างก็ไม่เข้าใจว่าเรากำลังทำอะไรอยู่
การเล่นเกมส์ออนไลน์เมื่อประมาณ 7 ปีที่ผ่านมา ในบ้านเรายังไม่แพร่หลาย แต่ที่อเมริกาเขาเล่นกันอย่างแพร่หลาย โดยรู้จักจากพี่ชาย(ณัชชัชพงศ์) แนะนำให้เกมส์ออนไลน์ที่อเมริกาเล่นกันอย่างแพร่หลายมาก ในที่สุดก็ได้เล่นกับพี่ชาย เล่นจนเป็นคนรวยที่สุดในเกมส์ ระหว่างที่เล่นเกมส์ออนไลน์กับคนอเมริกัน เขาเห็นว่าเล่นเกมส์เก่งมาก เล่นจนรวยที่สุดในเกมส์ ชาวอเมริกันจึงแนะนำว่าเกมส์ที่เล่นน่าจะนำมาขายได้จริง
“ผมโชคดีที่ได้เข้าไปแชทกับเจ้าของเซิร์ฟเวอร์โดยบังเอิญ คือ เราเข้าไปเสนอความคิดเห็นว่า ทำไมในเกมส์ถึงไม่มีแบบนั้น ไม่ทำแบบนี้ พอดีว่าเขาถูกใจเลยติดต่อให้ทำงานด้วย โดยรับงานเป็นจ๊อบๆ ทำหน้าที่คิดส่ิงแปลกๆ มาเสนอ ตอนนั้นได้ค่าแรงเดือนละสองสามแสนบาท เมื่อมีรายได้แบบนี้ผมก็ชอบเพราะเล่นเกมส์แล้วยังได้เงินด้วย พอถึง ม.6 ผมก็จบอย่างทุลักทุเลมาก ครูทั้งหลายจะรู้จักผมในฐานะของเด็กไม่เอาถ่าน เรียนไม่ได้เรื่อง ชอบเล่นแต่เกมส์คอมพิวเตอร์ออนไลน์ จนมีอาจารย์ท่านหนึ่งพูดกับผมว่า จบไปแล้วจะทำอะไรกิน” เสียงค่อนขอดจากครูทำให้มีแรงที่จะต้องสร้างธุรกิจของตัวเองให้ได้
ต่อมาเข้าเรียนปี 1 ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กระแสเกมส์ออนไลน์ก็เริ่มเสื่อมความนิยม ย้อนกลับมามองตัวเองว่าจากที่เคยมีรายได้เดือนเป็นแสน จึงเริ่มคิดที่จะหาอะไรทำ แต่ยังไม่คิดทำธุรกิจ คิดหาสินค้าซื้อมาขายไปเช่น ซีดี เครื่องเล่นซีดี ผลตอบรับก็ไม่ดี จนมาวันหนึ่งได้คุยกับคุณพ่อ(วรเศษฐ์) ที่ท่านเคยทำธุรกิจก่อสร้าง ท่านก็แนะนำว่า ลองทำอะไรที่เกี่ยวกับอาหารก็น่าสนใจ
โชคดีมีวันหนึ่งได้ไปเดินงานในเมืองทองธานี บังเอิญมีการเปิดบูทขายเกาลัดที่ผลิตจากเครื่องจักรคั่ว พอได้กินแล้วรู้สึกว่าอร่อยดี ประกอบกับเราเองเป็นคนชอบกินเกาลัดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงได้มาปรึกษากับที่บ้านว่าอยากจะทำ พ่อเลยแนะนำให้ไปเดินดูเกาลัดที่เยาวราช เชื่อไหมว่าเดินซื้อเกาลัดตั้งแต่ต้นซอยยันท้ายซอยแล้วได้ถามอาแปะที่ยืนคั่วเกาลัดยังไง ทำไมถึงต้องนำเกาลัดมาแช่น้ำ ได้คำตอบว่าเกาลัดที่ลอยขึ้นมาแสดงว่าเป็นเกาลัดที่ใช้ไม่ได้ ในที่สุดก็ได้คำตอบการคั่วเกาลัดถึงต้นทุน รู้แหล่งทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์น่าที่จะลองทำธุรกิจนี้ เถ้าแก่น้อยตัวจริง ให้ข้อคิดเอาไว้ว่า “คนเราจะทำธุรกิจอะไรที่ไม่รู้จะต้องกล้าที่จะถามอย่าไปอายกับความรู้ กลยุทธ์ในการประสบความสำเร็จของผมไม่ยาก คือ หนึ่งถาม สองถาม สามก็ถามอีกแหละ”
สำหรับสาหร่ายทอดภายใต้ยี่ห้อ“เถ้าแก่น้อย” เป็นการได้มาด้วยความบังเอิญที่วันหนึ่งก่อนเขาจะออกจากบ้านเพื่อนำรูปแบบแฟรนไชส์ไปเสนอห้างๆ หนึี่ง พอดีคุณพ่อนั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าวคุยโทรศัพท์อยู่กับเพื่อนเขา แล้วก็พูดแซวว่าลูกชายจะไปเป็นเถ้าแก่น้อยแล้ว ระหว่างที่นั่งเสนองานอยู่นั้น ทางห้างถามว่าคุณมีช่ือร้านหรือยัง ความใหม่ในธุรกิจจึงยังไม่ทันคิดช่วงนั้นตายแล้ว เขาจะไล่กลับหรือเปล่า แว๊บแรกคิดถึงคำพูดของพ่อขึ้นมาทันทีว่า “ร้านเถ้าแก่น้อยเกาลัดครับ” นำ้เสียงบ่งบอกถึงความภูมิใจกับไหวพริบที่่มีอยู่ในตัว
ระหว่างที่เล่าถึงที่มาในการทำธุรกิจแฟรนไชส์ เริ่มจากห้างแห่งหนึ่งวันแรกที่ขายขาดทุน 500 บาท วันที่สองขาดทุนพันบาท ขาดทุนแบบนี้อยู่สองเดือน จากเงินที่เล่นเกมส์มาก็เริ่มหดหายไปเรื่อยๆแต่ใจยังสู้ไม่ถอย ก็เลยไปเปิดอีก 1 สาขายิ่งขาดทุนหนักกว่าเก่า พอคิดที่จะเลิกทำโชคดีมีห้างสรรพสินค้าโลตัสมาติดต่อแล้วบอกว่าเกาลัดคุณที่ผลิตมากับเครื่องจักรน่าจะลองไปขายในห้างเขา จากที่คิดจะเลิกก็มองว่าเป็นโอกาส เลยลองไปเปิดวันแรกขายได้ 5,000 กว่าบาท เชื่อไหมว่าไฟที่กำลังจะมอดกลับลุกโชนขึ้นมาเป็นกำลังใจ
จึงเริ่มคิดว่า อาจเป็นเพราะทำเล ทำให้ไปหาหนังสือเกี่ยวกับที่ตั้ง ฮวงจุ้ย มาศึกษา คำตอบที่ได้คือ ทำเลที่ดีที่สุดของห้างต้องอยู่ทางซ้ายของประตูทางออกเสมอเพราะมีคนเดินเข้าออกหมุนเวียนตลอด อีกคำตอบที่ได้หากทำสินค้าให้ประสบความสำเร็จมี 3 อย่างเหมือนกัน คือ หนึ่งโลเกชั่น สองโลเกชั่น สามก็โลเกชั่น เป็นที่มาขยายแฟรนไชส์ออกไปกว่า 30 สาขา
พอมีหน้าร้านเหลือที่ว่างน่าจะนำสินค้าตัวอื่นมาขายเพื่อให้เกิดรายได้โดยนำสินค้าของประเทศจีนมาขาย เช่น ลูกพลับแห้ง ลำไยอบแห้ง ซึ่งก็ขายได้ในระดับหนึ่ง กระทั่งวันหนึ่งขับรถไปรับเพื่อนที่มหาวิทยาลัย (เราสวนทันควันว่าใช่แฟนไหมเจ้าตัวยังยืนยันว่าเป็นเพื่อน คำว่าเพื่อนสนิทก็ตอบไม่เต็มปาก ก่อนตอบเอาใจสาวๆ ว่าวันนี้ยังโสด) โดยเพื่อนคนนี้ได้ซื้อสาหร่ายทอดมากินบนรถได้ขอเขากินบ้าง ก็เลยรู้สึกว่าชอบอร่อยดี วันหลังไปรับก็ขอให้เขาซื้อมาฝากอีก จากนั้นได้นำไปให้คนในครอบครัวกินกัน ทุกคนก็ฝากซื้อกัน
ในที่สุดได้นำสาหร่ายทอดนี้มาขายหน้าร้านเกาลัด ผลตอบรับที่ดีกว่ายอดขายเกาลัดซึ่งเป็นสินค้าหลักในบางสาขา จากนั้นเห็นว่ามีอนาคต มีความคิดแบบพ่อค้าที่จะพัฒนาสินค้าสาหร่ายทอดต่อยอดธุรกิจออกไป เรียกว่าไฟลุกโชนอยู่ในใจ จึงเริ่มนำสินค้าตัวอย่างไปเสนอให้กับร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ที่คิดว่าเหมาะกับสินค้าและกลุ่มลูกค้า แต่ต้องผิดหวังเพราะเขาบอกกลับมาว่า สินค้ายังต้องพัฒนาอีกหลายๆด้าน เพราะสินค้าอยู่ในถุงพลาสติกใสๆ จะเก็บไว้ได้ไม่นาน จนศึกษาปรับปรุงพัฒนาหีบห่อใหม่ แล้วนำไปเสนออีกครั้งทางเซเว่นฯก็ทำท่าเหมือนไม่สนใจเพียงบอกให้ฝากสินค้าเอาไว้ แต่พอช่วงเช้าเสนอไปกลับมาช่วงบ่ายโทรศัพท์ดังตื้ดๆ (ทำท่ารับโทรศัพท์แบบจริงจัง) ปรากฎว่าทางเซเวนโทรมาบอกว่าทางเราสนใจสินค้าคุณมากเลย พร้อมจะขายกับเราไหม 3,000 สาขา ตอนนั้นบอกตามตรงได้เลยว่าโรงงานผลิตยังไม่มีสาหร่ายก็ทอดอยู่หลังบ้านมีคนงานอยู่ 6 คนรวมตัวเอง
วันนั้นคิดว่าเป็นโอกาสใจที่แฟ๊บๆ ก็ฟูขึ้นมาอีกรอบ สมองคิดเลยว่าจะต้องใช้เครื่องจักร คนทำอีกเท่าไหร่ คำตอบที่ตอบกลับไป “พร้อมครับ” ทางเซเว่นฯ ให้เวลาสองเดือนพร้อมก็ส่งสินค้าได้ จุดนี้เองจึงได้สร้างโรงงานขึ้นมาด้วยการตัดสินใจขายแฟรนไชส์เกาลัดทิ้ง เพื่อนำเงินมาเป็นทุนหมุนเวียนในการผลิตสาหร่ายทอด บอกตรงๆ ว่าเวลานั้นเป็นการตัดสินใจที่ยากว่าจะหยุดธุรกิจอย่างหนึ่งแล้วมาทำอีกอย่างหนึ่งไม่ง่ายเลย สิ่งสำคัญเราต้องให้กว่ารับ ให้มากกว่ารับในบางครั้งการทำธุรกิจต้องไม่ทำแค่นี้พรุ่งนี้ แต่ต้องมองไปถึงเจ็ดแปดเก้า ทำทุกอย่างให้ผู้บริโภคได้ชิมสินค้าว่าถูกใจไหม
ความสำเร็จจากการทำธุรกิจเกาลัดคนเดียวนึกว่าตัวเองเก่ง หลงตัวเองในที่สุดก็เกิดการผิดพลาด นี่เป็นคำยอมรับจากเถ้าแก้น้อย ก่อนอธิบายถึงการดูแลพนักงานกว่า 600 คนว่า เราต้องรับฟังความคิดเห็นจากพนักงานทุกคนที่จบปริญญาตรี ปริญญาโท แล้วเอาเหตุผลเราเป็นหลักแล้วเราจะจ้างเขามาทำไม ดังนั้น เราต้องรับฟังความเห็นแล้วนำมากลั่นกรองอีกครั้งก่อนสรุป สุดท้ายเราตัดสินใจอะไรไปแล้วเกิดความผิดพลาดเราก็จะต้องเป็นภาวะผู้นำที่ดีในการกล้าที่จะยอมรับความผิดนั้นๆ ชีวิตก่อนหน้านี้ไม่ได้ค่อยไปไหนเพราะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกน้อง แต่วันนี้พอมีเวลาว่างก็จะเดินทางไปเที่ยวบ้าง
ใครอยากทำธุรกิจแบบเถ้าแก่น้อยได้นั้น “อย่างแรกต้องเริ่มต่้นจากความคิดก่อน ผมทำอะไรใหม่ๆ โชคดีที่ผมมักเป็นคนที่คิดว่า ถ้าทำไม่สำเร็จแล้วจะทำยังไง แต่ผมจะคิดเสมอว่า ถ้าทำสำเร็จแล้วต้องทำอะไรต่อ แล้วถ้าคุณกล้าที่จะเดินในโลกธุรกิจแล้ว ต้องยอมรับให้ได้ว่าต้องมีปัญหา ต้องมีอุปสรรค หรือทางตัน ก็ขอให้มองปัญหาเป็นบทเรียนที่สอนเรา ให้คิดเสียว่า เมื่อมีประตูหนึ่งปิด ก็ต้องมีประตูหนึ่งเปิดมันจะไม่มีทางตันหรอก สำคัญมากคนเราผิดพลาดได้เสียเงินเสียทองได้ แต่ขออย่างเดียวไม่หมดกำลังใจ เพราะถ้าหมดกำลังใจก็เหมือนคนตายที่ทำอะไรไม่ได้ กำลังใจเท่านั้นที่จะพาไปสู่ความสำเร็จได้”
จาก คลิ๊ก
ตัวอย่างหนัง
เพลงประกอบ