สารบัญ
ตอนจบโดเรม่อนของโดจิน เรปนี้
ความเป็นมาของ โดราเอม่อน ตอนจบ
พล็อตเรื่อง โดราเอม่อนตอนจบนั้น ตามที่ได้ทราบกันดีนั้น คือมีที่มาจากฟิกชั่น ที่ถูกเผยแพร่ผ่านทางอินเทอร์เน็ต
ทั้งในรูปแบบ แฟนฟิคชั่น ข่าวลือ หรือ เมล์ลูกโซ่ โดย พล็อตนั้นก็มีหลายหลาย ส่วนมากที่พบจะเกี่ยวกับ ความตาย, ความฝัน, อุบัติเหตุ
ซึ่งที่พบเห็นบ่อย ก็จะมีอยู่ใน 3 รูปแบบ คือ
- โนบิตะ เป็นคนสร้างโดราเอม่อน
- โนบิตะ ป่วยเป็นโรคร้ายแรง
- เรื่องทั้งหมดของโดราเอม่อน เป็นเรื่องที่โนบิตะฝันไปเอง
ซึ่งที่ยังหลงเหลือในปัจจุบัน คือพล็อตแรก โนบิตะเป็นคนสร้างโดราเอม่อน และ โนบิตะป่วยเป็นโรคร้ายแรง+ฝันเรื่องโดราเอม่อนไปเอง
แต่อย่างไรก็ดี โดราเอม่อนตอนจบทุกแบบนั้น ล้วนแต่เป็นเพียงเสียงเล่าอ้าง และไม่มีหลักฐานใดๆอย่างชัดเจน
จริงแล้วนั้นโดราเอม่อนนั้นเคยจบไปแล้วหนึ่งครั้ง ในจะเป็นตอนสุดท้ายของรวมเล่ม ที่ 6 ชื่อตอนว่า ลาก่อนโดราเอม่อน
แต่สุดท้ายแล้ว เนื่องด้วยเหตุผลหลายประการ ทั้งแฟนๆ และ อ.ฟุจิโกะผู้เขียน โดราเอม่อนก็จึงได้กลับมาใหม่อีกครั้ง
-------------------------------------------------------
ที่มาของโดจินชิ โดราเอม่อน ตอนจบ
การ์ตูนชุดนี้เป็นงานโดจินชิ (การ์ตูนทำมือ) ที่วาดโดย อ.ทะจิม่า ยาสุเอะ (Tajima Yasue) ในชื่อกลุ่ม ว่า GA-FAKE COTERIE
โดยใช้โครงเรื่องจากฟิกชั่นเกี่ยวกับตอนจบของโดราเอม่อน ที่แพร่กระจายตามเมล์ลูกโซ่ (หรือที่บ้านเราเรียกกันว่า Forward Mail)
ซึ่งเริ่มวางขายครั้งแรกในงาน Comic Market ฤดูร้อน ครั้งที่ 68 ช่วงวันที่ 12-13 สิงหาคม 2548
และหลังจากนั้น ในงาน Comic Market ครั้งต่อมา (C69) ฤดูหนาว ช่วงวันที่ 29-30 ธันวาคม 2548
ผลงานชิ้นนี้ก็ได้รับความสนใจจากแฟนๆโดราเอม่อน จนเริ่มมีการเผยแพร่ผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นที่กว้างขวาง
และปัจจุบันก็ยังมีผู้ให้ความสนใจ จนหนังสือขาดตลาด และต้องพิมพ์ซ้ำอีกครั้ง
ข้อมูลอ้างอิง : เว็บเมล่อนบุ๊ค - สั่งซื้อโดจินชิ โดราเอม่อน ตอนจบ
http://www.melonbooks.co.jp/tsuhan/system/list.php?RATED=0&AUTHOR_FULL=%C5%C4%C5%E8%A1%A6T%A1%A6%B0%C2%B7%C3
จุดประสงค์ของ อ.ทะจิม่า ยาสุเอะ ผู้เขียน
โดจินชิเล่มนี้ ได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อเป็นที่ระลึกในการสร้างอนิเมฉบับหนังโรง (โนบิตะกับพีสุเกะ 2006)
โดย อ.ทะจิม่า ยาสุเอะ ได้เขียนคอมเมนต์ พูดถึงการเขียนการ์ตูนชุดนี้ไว้ที่หลังปกว่า
ความคิดเห็นจากผู้เขียน
ตั้งแต่ที่ผมจำความได้
ก็พบว่ามีโดราเอม่อนอยู่เคียงข้างของผมแล้ว
หนังสือเล่มแรกที่เอาตังค่าขนมซื้อ จำได้ว่าเป็นเล่มพิเศษ
กับสงครามแย่งต้นฉบับ
ของโคโรโคโร่คอมมิค และ บอนบอนคอมมิค
ในทุกๆหน้าร้อนอันแสนยาวนาน
ผมกับเพื่อนก็มักจะรอคอยงานใหม่อย่างตื่นเต้นเสมอ
และคิดว่าซักวันหนึ่งผมต้องเขียนงานการ์ตูนที่ดีอย่างนั้นให้ได้บ้าง
และตอนนี้ผมก็แปลกใจตัวเองเหมือนกัน
ที่ได้วาดต้นฉบับที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ออกมาได้
ผลงานชิ้นนี้ก็ขอมอบเป็นที่ระลึก
ให้กับงานอนิเมชั่นตอนใหม่ของโดราเอม่อนที่กำลังจะเข้าฉาย
ในฐานะที่ผมเป็นแฟนโดราเอม่อนคนหนึ่ง
ทะจิม่า T ยาสุเอะ
***** อ่านจากขวาไปซ้ายแบบญี่ปุ่นนะค่ะ *****
จขทก.น้ำตาไหลตอนจบเลยล่ะค่ะ แม้ว่าจะไม่ใช่ของแท้ของฟูจิโกะ แต่ก็น้ำตาไหลเลยล่ะค่ะ
เรื่องราว
วันหนึ่ง โนบิตะกลับบ้านมาหาโดเรม่อนตามปกติ และขอความช่วยเหลือ แต่โดเรม่อนกลับไม่ขยับ แน่ตึงและล้มลง โดเรมีก็มาสายไป เพราะโดเรมีคำนวณแล้วว่าแบตโดเรมอนน่าจะใกล้หมดแล้วเลยเดินทางมา ซึ่งก็ได้รับข่าวว่า ตำรวจกาลเวลาจะทำการปิดช่องทางไทม์แมชชีนเนื่องจากการเดินทางย้อนเวลาส่งผลให้อนาคตเกิดความปั่นป่วน โดเรมีจึงนำแบตมาเปลี่ยนให้ซึ่งแบตที่โดเรมีมาเปลี่ยนสามารถใช้งานได้อีก 60 ปี แต่โดเรมีคาดการณ์ผิด มาตอนที่โดเรมอนแบตหมดแล้ว ซึ่งหากเปลี่ยนแบตตอนที่ยังไม่หมดความทรงจำของโดเรมอนจะถูกแบ็คอัพไว้ได้ แต่เมื่อแบตหมด หากเปลี่ยนแบตใหม่ความทรงจำจะสูญหาย วิธีที่ไม่ให้โดเรมอนความทรงจำสูญหายคือการนำกลับไปเปลี่ยนแบตที่โลกอนาคต แต่ถ้าเอาไปแล้วจะไม่สามารถใช้ไทม์แมชชีนได้อีก เนื่องจากตำรวจกาลเวลาจะปิดอุโมงค์ไทม์แมชชีน โนบีตะจึงตัดสินใจไม่เปลี่ยนแบตแล้วให้โดเรมีกลับ
ในปี 2010 โนบิตะโตเป็นผู้ใหญ่ ตั้งแต่วันนั้น โนบิตะก็เปลี่ยนแปลงและเรียนหนังสืออย่างหนัก และก็ไม่เคยร้องไห้อีก และเขาอยู่โดยไม่มีโดเรมอนโนบิตะบอกชิซูกะ และ เพื่อนๆ ทั้งหลายว่า โดเรมอนต้องกลับไปยังอนาคตและไม่สามารถมา พบเพื่อน ๆ ทั้งหลายได้อีกแล้วชิซูกะประทับใจในตัวโนบิตะที่มีความเปลี่ยนแปลง และต่างจากเมื่อ 10 ปีก่อนอย่างสิ้นเชิงและทั้งสองก็รักกัน แล้วแต่งงานกัน โนบิตะเป็นนักวิทยาศาสตร์และทำห้องของเขาเป็นห้องทดลอง และเขาก็ได้ตั้งใจทำงานอย่างหนักในงานของเขาและห้ามไม่ให้ชิซูกะ เข้ามายังห้องทดลอง และแล้ววันหนึ่งโนบิตะก็เรียกให้ชิซูกะเข้ามายังห้องทดลอง และมันเป็นครั้งแรกที่ชิซูกะเข้ามายังห้องของสามีของเธอในขณะที่เธอเข้ามายังห้อง เธอถึงกับอึ้งจนพูดอะไรไม่ออกเธอเห็นโดเรมอนเพื่อนเก่าของเธอที่เคยเล่นด้วยกัน ในตอนที่ยังเป็นเด็กโดเรมอนไม่ขยับ และ เหมือนกับกำลังหลับ “ดูนี่! ชิซูกะผมจะเสียบปลั๊กแล้วนะ”โนบิตะเปิดสวิตช์หลัก บนตัวของโดเรมอน โดเรมอนค่อย ๆ ลืมตาขึ้นเป็นเป็นช่วงที่ ทำให้เข้าใจได้ว่าใครเป็นผู้ที่คิดค้นโดเรมอนขึ้นมาซึ่งก็คือโนบิตะนั่นเอง เขาเรียนอย่างหนัก เพื่อที่ว่าจะได้พบ และพูดคุย กับโดเรมอนเพื่อนรักของเขา ที่มารู้จักกัน แล้วก็จากไป
โนบิตะเป็นผู้หนื่งที่ได้สร้างโดเรมอนขึ้นมาเขาคิดค้นโปรแกรม และโครงสร้างทั้งหลาย สำหรับหุ่นยนต์โดเรมอน โนบิตะและชิซูกะร้องไห้อย่างเงียบ ๆ โดเรมอนก็ลืมตาขี้น และก็พูดว่า “โนบิตะ นายทำการบ้านเสร็จแล้วหรือ” มันเหมือนกับมี ก้อนเมฆสีขาวก้อนเดิม อยู่บนท้องฟ้าช่างเหมือนกับเวลาแห่งความทรงจำในอดีต ที่พวกเขามีร่วมกัน
ตอนจบ น้ำตาไหลเลยค่ะ
Credit : http://fwmail.teenee.com/etc/217.html
ตอนจบโดเรม่อนของโดจิน เรปนี้
ความเป็นมาของ โดราเอม่อน ตอนจบ
พล็อตเรื่อง โดราเอม่อนตอนจบนั้น ตามที่ได้ทราบกันดีนั้น คือมีที่มาจากฟิกชั่น ที่ถูกเผยแพร่ผ่านทางอินเทอร์เน็ต
ทั้งในรูปแบบ แฟนฟิคชั่น ข่าวลือ หรือ เมล์ลูกโซ่ โดย พล็อตนั้นก็มีหลายหลาย ส่วนมากที่พบจะเกี่ยวกับ ความตาย, ความฝัน, อุบัติเหตุ
ซึ่งที่พบเห็นบ่อย ก็จะมีอยู่ใน 3 รูปแบบ คือ
- โนบิตะ เป็นคนสร้างโดราเอม่อน
- โนบิตะ ป่วยเป็นโรคร้ายแรง
- เรื่องทั้งหมดของโดราเอม่อน เป็นเรื่องที่โนบิตะฝันไปเอง
ซึ่งที่ยังหลงเหลือในปัจจุบัน คือพล็อตแรก โนบิตะเป็นคนสร้างโดราเอม่อน และ โนบิตะป่วยเป็นโรคร้ายแรง+ฝันเรื่องโดราเอม่อนไปเอง
แต่อย่างไรก็ดี โดราเอม่อนตอนจบทุกแบบนั้น ล้วนแต่เป็นเพียงเสียงเล่าอ้าง และไม่มีหลักฐานใดๆอย่างชัดเจน
จริงแล้วนั้นโดราเอม่อนนั้นเคยจบไปแล้วหนึ่งครั้ง ในจะเป็นตอนสุดท้ายของรวมเล่ม ที่ 6 ชื่อตอนว่า ลาก่อนโดราเอม่อน
แต่สุดท้ายแล้ว เนื่องด้วยเหตุผลหลายประการ ทั้งแฟนๆ และ อ.ฟุจิโกะผู้เขียน โดราเอม่อนก็จึงได้กลับมาใหม่อีกครั้ง
-------------------------------------------------------
ที่มาของโดจินชิ โดราเอม่อน ตอนจบ
การ์ตูนชุดนี้เป็นงานโดจินชิ (การ์ตูนทำมือ) ที่วาดโดย อ.ทะจิม่า ยาสุเอะ (Tajima Yasue) ในชื่อกลุ่ม ว่า GA-FAKE COTERIE
โดยใช้โครงเรื่องจากฟิกชั่นเกี่ยวกับตอนจบของโดราเอม่อน ที่แพร่กระจายตามเมล์ลูกโซ่ (หรือที่บ้านเราเรียกกันว่า Forward Mail)
ซึ่งเริ่มวางขายครั้งแรกในงาน Comic Market ฤดูร้อน ครั้งที่ 68 ช่วงวันที่ 12-13 สิงหาคม 2548
และหลังจากนั้น ในงาน Comic Market ครั้งต่อมา (C69) ฤดูหนาว ช่วงวันที่ 29-30 ธันวาคม 2548
ผลงานชิ้นนี้ก็ได้รับความสนใจจากแฟนๆโดราเอม่อน จนเริ่มมีการเผยแพร่ผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นที่กว้างขวาง
และปัจจุบันก็ยังมีผู้ให้ความสนใจ จนหนังสือขาดตลาด และต้องพิมพ์ซ้ำอีกครั้ง
ข้อมูลอ้างอิง : เว็บเมล่อนบุ๊ค - สั่งซื้อโดจินชิ โดราเอม่อน ตอนจบ
http://www.melonbooks.co.jp/tsuhan/system/list.php?RATED=0&AUTHOR_FULL=%C5%C4%C5%E8%A1%A6T%A1%A6%B0%C2%B7%C3
จุดประสงค์ของ อ.ทะจิม่า ยาสุเอะ ผู้เขียน
โดจินชิเล่มนี้ ได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อเป็นที่ระลึกในการสร้างอนิเมฉบับหนังโรง (โนบิตะกับพีสุเกะ 2006)
โดย อ.ทะจิม่า ยาสุเอะ ได้เขียนคอมเมนต์ พูดถึงการเขียนการ์ตูนชุดนี้ไว้ที่หลังปกว่า
ความคิดเห็นจากผู้เขียน
ตั้งแต่ที่ผมจำความได้
ก็พบว่ามีโดราเอม่อนอยู่เคียงข้างของผมแล้ว
หนังสือเล่มแรกที่เอาตังค่าขนมซื้อ จำได้ว่าเป็นเล่มพิเศษ
กับสงครามแย่งต้นฉบับ
ของโคโรโคโร่คอมมิค และ บอนบอนคอมมิค
ในทุกๆหน้าร้อนอันแสนยาวนาน
ผมกับเพื่อนก็มักจะรอคอยงานใหม่อย่างตื่นเต้นเสมอ
และคิดว่าซักวันหนึ่งผมต้องเขียนงานการ์ตูนที่ดีอย่างนั้นให้ได้บ้าง
และตอนนี้ผมก็แปลกใจตัวเองเหมือนกัน
ที่ได้วาดต้นฉบับที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ออกมาได้
ผลงานชิ้นนี้ก็ขอมอบเป็นที่ระลึก
ให้กับงานอนิเมชั่นตอนใหม่ของโดราเอม่อนที่กำลังจะเข้าฉาย
ในฐานะที่ผมเป็นแฟนโดราเอม่อนคนหนึ่ง
ทะจิม่า T ยาสุเอะ
***** อ่านจากขวาไปซ้ายแบบญี่ปุ่นนะค่ะ *****
จขทก.น้ำตาไหลตอนจบเลยล่ะค่ะ แม้ว่าจะไม่ใช่ของแท้ของฟูจิโกะ แต่ก็น้ำตาไหลเลยล่ะค่ะ
เรื่องราว
วันหนึ่ง โนบิตะกลับบ้านมาหาโดเรม่อนตามปกติ และขอความช่วยเหลือ แต่โดเรม่อนกลับไม่ขยับ แน่ตึงและล้มลง โดเรมีก็มาสายไป เพราะโดเรมีคำนวณแล้วว่าแบตโดเรมอนน่าจะใกล้หมดแล้วเลยเดินทางมา ซึ่งก็ได้รับข่าวว่า ตำรวจกาลเวลาจะทำการปิดช่องทางไทม์แมชชีนเนื่องจากการเดินทางย้อนเวลาส่งผลให้อนาคตเกิดความปั่นป่วน โดเรมีจึงนำแบตมาเปลี่ยนให้ซึ่งแบตที่โดเรมีมาเปลี่ยนสามารถใช้งานได้อีก 60 ปี แต่โดเรมีคาดการณ์ผิด มาตอนที่โดเรมอนแบตหมดแล้ว ซึ่งหากเปลี่ยนแบตตอนที่ยังไม่หมดความทรงจำของโดเรมอนจะถูกแบ็คอัพไว้ได้ แต่เมื่อแบตหมด หากเปลี่ยนแบตใหม่ความทรงจำจะสูญหาย วิธีที่ไม่ให้โดเรมอนความทรงจำสูญหายคือการนำกลับไปเปลี่ยนแบตที่โลกอนาคต แต่ถ้าเอาไปแล้วจะไม่สามารถใช้ไทม์แมชชีนได้อีก เนื่องจากตำรวจกาลเวลาจะปิดอุโมงค์ไทม์แมชชีน โนบีตะจึงตัดสินใจไม่เปลี่ยนแบตแล้วให้โดเรมีกลับ
ในปี 2010 โนบิตะโตเป็นผู้ใหญ่ ตั้งแต่วันนั้น โนบิตะก็เปลี่ยนแปลงและเรียนหนังสืออย่างหนัก และก็ไม่เคยร้องไห้อีก และเขาอยู่โดยไม่มีโดเรมอนโนบิตะบอกชิซูกะ และ เพื่อนๆ ทั้งหลายว่า โดเรมอนต้องกลับไปยังอนาคตและไม่สามารถมา พบเพื่อน ๆ ทั้งหลายได้อีกแล้วชิซูกะประทับใจในตัวโนบิตะที่มีความเปลี่ยนแปลง และต่างจากเมื่อ 10 ปีก่อนอย่างสิ้นเชิงและทั้งสองก็รักกัน แล้วแต่งงานกัน โนบิตะเป็นนักวิทยาศาสตร์และทำห้องของเขาเป็นห้องทดลอง และเขาก็ได้ตั้งใจทำงานอย่างหนักในงานของเขาและห้ามไม่ให้ชิซูกะ เข้ามายังห้องทดลอง และแล้ววันหนึ่งโนบิตะก็เรียกให้ชิซูกะเข้ามายังห้องทดลอง และมันเป็นครั้งแรกที่ชิซูกะเข้ามายังห้องของสามีของเธอในขณะที่เธอเข้ามายังห้อง เธอถึงกับอึ้งจนพูดอะไรไม่ออกเธอเห็นโดเรมอนเพื่อนเก่าของเธอที่เคยเล่นด้วยกัน ในตอนที่ยังเป็นเด็กโดเรมอนไม่ขยับ และ เหมือนกับกำลังหลับ “ดูนี่! ชิซูกะผมจะเสียบปลั๊กแล้วนะ”โนบิตะเปิดสวิตช์หลัก บนตัวของโดเรมอน โดเรมอนค่อย ๆ ลืมตาขึ้นเป็นเป็นช่วงที่ ทำให้เข้าใจได้ว่าใครเป็นผู้ที่คิดค้นโดเรมอนขึ้นมาซึ่งก็คือโนบิตะนั่นเอง เขาเรียนอย่างหนัก เพื่อที่ว่าจะได้พบ และพูดคุย กับโดเรมอนเพื่อนรักของเขา ที่มารู้จักกัน แล้วก็จากไป
โนบิตะเป็นผู้หนื่งที่ได้สร้างโดเรมอนขึ้นมาเขาคิดค้นโปรแกรม และโครงสร้างทั้งหลาย สำหรับหุ่นยนต์โดเรมอน โนบิตะและชิซูกะร้องไห้อย่างเงียบ ๆ โดเรมอนก็ลืมตาขี้น และก็พูดว่า “โนบิตะ นายทำการบ้านเสร็จแล้วหรือ” มันเหมือนกับมี ก้อนเมฆสีขาวก้อนเดิม อยู่บนท้องฟ้าช่างเหมือนกับเวลาแห่งความทรงจำในอดีต ที่พวกเขามีร่วมกัน
ตอนจบ น้ำตาไหลเลยค่ะ
Credit : http://fwmail.teenee.com/etc/217.html