โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ
T^T เรื่องเล่าจากบ้านพักคนชรา เรื่องราวสะเทือนใจของแม่เฒ่าวัย 91 ปี
Nutsume
#1
20-11-2011 - 19:15:23

#1 Nutsume  [ 20-11-2011 - 19:15:23 ]





เปิดฟังไปด้วย



แม่เฒ่ามีลูกชายสองคนและหญิงหนึ่งคน 60 ปีที่ผ่านมาครอบครัวแม่เฒ่าจัดอยู่ในระดับผู้มีอันจะกินของจังหวัด สามีของแม่เฒ่ามีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ก่อร้างสร้างตัวจากกรรมกรกินค่าแรงรายวัน โดยแม่เฒ่ารับจ้างทอผ้า อยู่ในโรงงงานแห่งหนึ่ง อดออมสะสมจนฐานะดีขึ้น สามารถสร้างหลักฐานจนมีที่ดินบ้านช่องสมฐานะ แต่สามีก็ยังทำงานหนักไม่ยอมพักหวังจะฟูมฟักลูก 3 คน ให้อยู่อุ่นกินอิ่มโดยไม่ต้องลำบาก ช่วงนั้นแม่เฒ่า เลิกท้อผ้าแล้วอยู่บ้านเลี้ยงลูก 3 คนที่อยู่ในวัยซวนไล่เรียงตามลำดับ เช้าวันหนึ่งเมื่อลูกชายคนโตอายุได้ 6 ขวบ สามีของแม่เฒ่าก็หลับไปไม่ตื่นมาร่ำลา หมอที่โรงพยาบาลบอกว่าสามีตับแข็งตายทั้ง ๆ ที่ไม่เคยแตะเหล้าซักหยด แม่เฒ่าเปลี่ยนสภาพบ้านพักเปิดเป็นร้านค้าโชห่วยขายของ สารพัดชนิดอดทนอดออมเลี้ยงลูกทั้ง 3 คน ให้ร่ำเรียนจนจบปริญญา ครอบครัวอบอุ่นพี่น้องรักใคร่กันดี ไม่มีเค้าลางว่าจะแตกหัก ดั่งหนึ่งคนละสายเลือด
ลูกชายคนโตแต่งงานไปกับลูกสาวเจ้าของร้านขายทองในตลาด ในชีวิตของแม่เฒ่าไม่เคยมีความสุขครั้งไหน เหมือนวันที่ลูกชายแต่งงาน สมบัติที่มีแม่เฒ่าจัดแบ่งเป็นสามส่วนให้ลูกชายคนโต เปิดร้านขายทองตามที่สะใภ้ต้องการ ปีต่อมาลูกคนที่สองแต่งสาวเข้าบ้านอีกคน แม่เฒ่ายกบ้านและที่ดินที่เปิดร้านขายของสองคูหาสามชั้นให้เป็นสมบัติของลูก ด้วยความยินดีโดยที่แม่เฒ่าขอสิทธิ์แค่อยู่อาศัย



สองปีถัดมาลูกสาวคนสุดท้องแต่งกับข้าราชการระดับหัวหน้ากองในจังหวัด แม่เฒ่ายกที่ดินและเงินสดก้อนสุดท้ายของแม่เฒ่า รับขวัญลูกเขยด้วยความปรีดา สัตว์โลกทั้งหลายล้วนเวียนว่ายก่อเกิดเพื่อมาชดใช้กรรมเก่า สะใภ้คนที่สองเริ่มจุดประกายแห่งการแตกหัก ตั้งแต่แต่งเข้าบ้านไม่เคยแม้แต่เสียบปลั๊กหม้อหุงข้าว แม่เฒ่ากลายเป็นทาสในเรือนซักผ้าทำกับข้าว จัดสำรับคับค้อนตั้งโต๊ะคอยท่าสองผัวเมียกินก่อนจนอิ่ม แม่เฒ่าจึงมีโอกาสได้กินของเหลือก่อนจะ เก็บกวาดถ้วยชามไปล้าง กวาดเช็ดบ้านช่องเรียบร้อยแล้วจึงได้พักผ่อนด้วยการ เดินออกไปคุยกับเพื่อนบ้าน
ในวัยไล่เลี่ยกัน สะใภ้สองเข้มงวดแม้แต่ของสดทุกชนิดที่ซื้อมาทำกับข้าว ต้องถามราคาแล้วยกไปชั่งน้ำหนักราคาสินค้ากับเงินทอน ที่เหลือต้องตรงกับเงินที่ให้ไปตลาด แต่แม่เฒ่าก็ไม่เคยเก็บมาเป็นอารมณ์ แล้ววันหนึ่งสะใภ้สองก็จัดระเบียบการกินใหม่หล่อนไปสั่งผูกปิ่นโต เพื่อกินกันแค่สองผัวเมียแล้วสั่งให้ผัว จ่ายเงินให้แม่เฒ่าแค่วันล่ะยี่สิบบาท ไปหากินเอาเองด้วยเหตุผลโง่ ๆ คือต้องการประหยัด แต่ลึก ๆในใจไม่ต้องการให้แม่ผัวเม้นส่วนเกิน แม่เฒ่าคิดเอาเองว่าลูก ๆ คงไม่อยากให้แม่เหนื่อย จึงน้อมรับประกาศิตลูกสะใภ้ด้วยดุษฏี สองสามวันต่อมาแม่เฒ่าก็ลืมสิ้นเพราะความรักลูก

หลายครั้งที่แม่เฒ่าคิดถึงลูกชายคนโตที่เปิดร้านขายทองในตลาด แม่เฒ่าจะเจียดเงินที่เก็บออมไว้ซื้อผลไม้ที่ลูกชอบติดมือไปด้วย แต่ทุกครั้งที่แม่เฒ่าเดินเข้าไปในบ้านสะใภ้ใหญ่จะมองอย่างเหยียด ๆแล้วเดินหนีเข้าห้องแอร์ปิดประตูนอนดูโทรทัศน์ สั่งคนใช้ให้คอยสอดส่องเดินตามแม่เฒ่าเธอกลัวแม่ผัวขโมยของในบ้าน จะคุยกับลูกชายนั่นก็ออกอาการไม่ว่างถามคำตอบคำเหมือนหนามตำโดนโคนลิ้นจนอ้า ปากลำบากลำบน อึดอัดแม่เกรงใจเมีย แกล้งถอดสร้อยคอทองคำเส้นโตที่ห้อยแขวนพระเครื่องราคาแพงในกรอบทองฝังเพชร พวงใหญ่ ขึ้นมาส่องทีละองค์ด้วยความเลื่อมใสและไม่แม้แต่จะชายตามองแม่เฒ่าที่นั่ง ซึมอยู่ข้างตู้ทองอย่างเดียวดาย เก้ ๆ กัง ๆ อยู่พักใหญ่ก็เดินออกจากบ้านลูกชายคนโตอย่างเหงา ๆ โดยมีคนใช้ของลูกหิ้วถุงผลไม้ตามมายัดคืนใส่มือ

ระหว่างทางก็แวะทักทายคนรู้จักเพื่อรักษามารยาท แต่ในใจของแม่เฒ่ามันวังเวงจนจำไม่ได้ว่าพูดคุยกับใครไปบ้างระหว่างทาง ลูกสาวคนเล็กที่แม่เฒ่าทั้งรักทั้งหวงนั่นแทบไม่ต้องพูดถึง เธอยื่นคำขาดกับแม่เฒ่าตั้งแต่ครั้งแรกที่ไปเยี่ยม ว่าถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องไปหาเพราะบ้านเธอมีแขก ที่เป็นลูกน้องของผัวและพ่อค้าวานิช เข้าพบผัวของเธอเพื่อขออำนวยความสะดวกในทางธุรกิจบ่อย ๆ และผัวของหล่อนก็ค่อนข้างเจ้ายศเจ้าอย่างถ้าแม่เฒ่ารักลูกก็ควรจะต้องรักษา เกียรติรักษาหน้าตาของผัวลูกด้วย แม่เฒ่าไม่เข้าใจว่าการรักษาหน้าตาของลูกเขยนั้นต้องทำอย่างไร แม่เฒ่ายังเคยปลื้มกับคำชมของเพื่อนบ้าน เขาว่าแม่เฒ่าวาสนาดีลูกเขยเป็นเจ้าคนนายคน แม่เฒ่าก็ได้แต่แอบปลื้มทั้ง ๆ ที่ไม่เข้าใจว่าทำไมการเป็นเจ้าคนนายคน จึงเหมือนกำแพงชนชั้นปิดกั้นระหว่างความเป็นแม่ลูก จนหนักหนาสาหัสขนาดนั้น


ร้านสะดวกซื้อและห้างสรรพสินค้าขนาดยักษ์ โผล่ขึ้นมารายรอบร้านค้าของลูกชายคนที่สอง
กระทบธุรกิจของสองผัวเมียจนทรวดเซ ของขายไม่ได้มากเหมือนเก่า ที่เอาอะไรมาวางก็ขายหมด
ปัญหา และวิกฤติการเงินในบ้านส่งสัญญาณถึงขาลง สองผัวเมียเริ่มมีงกันบ่อยครั้ง และแทบทุกครั้ง ลูกสะใภ้ก็จะฉวยโอกาสด่ากระทบแม่ผัวเป็นของแถมโดยไม่มีเหตุผลโดยที่ลูกชายก็ ไม่ออกอาการปกป้องแม่เฒ่า
แต่อย่างใด...


12 มิถุนายน 2530 ประมาณ 3 ทุ่มของคืนโลกาวินาศ ท้องฟ้ามืดครึ้มไปด้วยพยับเมฆสลับกับเสียงฟ้าร้องดังกึกก้องเป็นระยะ ๆ ครู่ใหญ่ ๆ ต่อมาสายฝนจึงโปรยปรายชุ่มฉ่ำน้ำนองไปทั่วเมือง ลูกชายลูกสะใภ้ออกไปกินข้าวนอกบ้าน ยังไม่กลับปล่อยแม่เฒ่าเฝ้าร้านค้าคนเดียว แม่เฒ่าจำได้ว่าวัยรุ่นสองคนขี่รถเครื่องฝ่าสายฝนมาจอดหน้าร้าน ขอซื้อเบียร์หนึ่งขวด แม่เฒ่ารับเงินแล้วเดินเข้าไปเก็บในลิ้นชักโดยไม่ระแวงว่า สองวัยรุ่นแอบยกลังใส่บุหรี่ที่ลูกชายสั่งมายังไม่แกะกล่อง ช่วยกันแบกขึ้นรถขี่หายไปกับความมืด


ก่อนสี่ทุ่มเล็กน้อยสองผัวเมียจึงขับรถกลับเข้าถึงบ้าน ช่วยกันเก็บของเข้าร้าน วางของทุกชิ้นเข้าที่ ๆ เคยวางเมื่อไม่เห็นลังบุหรี่จึงหันไปตะโกนถามแม่เฒ่า ที่กำลังจุดธูปไหว้รูปสามีบนหิ้ง เพียงคำตอบที่ แม่เฒ่าตอบว่าไม่เห็นก่อนปักธูปลงกระถางเสียงสบถด้วยคำหยาบของลูกชายก็ดัง สวนสนั่นบ้าน ครู่เดียวทั้งลูกสะใภ้กับลูกชาย ก็สลับปากจิกหัวด่าแม่ กึกก้องประสานเสียงกับสายลมนอกบ้าน ก่อนที่ทั้งคู่จะขับรถไปโรงพักแจ้งจับแม่ลักทรัพย์


ตำรวจพาแม่เฒ่าไปนั่งอยู่หน้าโต๊ะร้อยเวร แม่เฒ่าให้การไม่รู้ด้วยซื่อบริสุทธิ์ โดยไม่ตัดพ้อต่อว่าลูกชาย แม้แต่คำเดียว กว่าชั่วโมงในห้องแอร์เย็นเฉียบ แต่ในอกในใจของร้อยเวรหนุ่มร้อนรุ่มเหมือนถูก ไฟนรกแผดเผา ที่ต้องวิงวอนสองผัวเมียให้เห็นบาปบุญคุณโทษ แต่สองผัวเมียกลับโยนภาระตอกย้ำ ให้ตำรวจอบรมแม่เฒ่า ก่อนที่จะสะบัดก้นกลับไปบ้าน โดยไม่ใส่ใจแม่เฒ่าที่เปียกฝนนั่งสั่นสะท้าน ด้วยความหนาวเหน็บ สายฝนยงสาดซัดกระหน่ำหนักเหมือนฟ้าแตก ตำรวจยศนายดาบขับรถร้อยเวร มาส่งแม่เฒ่าที่บ้านบ้านซึ่งประตูเหล็กถูกปิดสนิท





แม่เฒ่าลงจากรถเดินฝ่าฝนถึงหน้าบ้าน แล้วแม่เฒ่าก็ตกใจสุดขีดกับภาพเบื้องหน้าที่พื้นหน้าบ้าน เสื้อผ้าเก่า ๆ ยัดแน่นอยู่ในถุง ถูกโยนออกมากองเรี่ยราดเหมือนขยะ บนกองเสื้อผ้าของแม่เฒ่า กระถางธูปและรูปถ่ายของสามีแตกกระจายเกลื่อนกราด หยาดฝนสาดซัดรูปถ่ายขาวดำของสามีจนเปียกปอนขาดวิ่น แม่เฒ่าก้มลงหยิบรูปของสามีมากอดแนบอก น้ำตาแห่งความรันทดทะลักล้นปนน้ำฝน ปวดร้าวเหมือนถูกฟ้าผ่าเข้ากลางใจ แม่เฒ่ากอดรูปนั้นไว้เหมือนจะปกป้องจากสายฝนสุดชีวิต สองเท้าออกก้าวช้า ๆ เหมือนร่างไร้วิญญาณเข้าตลาดไปหยุดนิ่งอยู่หน้าร้านขาย ทองของลูกชายคนโตเหมือนเป็นการบอกลาแล้วลัดเลาะฝ่าความมืดและสายฝน ไปยืนอยู่หน้าบ้านลูกสาวคนเล็กเก็บภาพแห่งความรักความทรงจำสุดท้ายเป็นครู่ ใหญ่ จึงเดินจากไปท่ามกลางเสียงกึกก้องของฟ้าร้องระงม สลับกับเสียงฟ้าผ่าแน่นหนักเป็นระยะ ดั่งเจ้ากรรมนายเวรกำลังเร่งรีบกรีดนิ้วกัปนาทบรรเลงเพลงกรรมในอดีตชาติ ติดตามมาทวงคืนให้แม่เฒ่าต้องชดใช้อย่างบอบช้ำยับเยิน


รถกระบะเก่า ๆ คันนั้นวิ่งฝ่าสายฝนมาจอดสงบนิ่งอยู่หน้ากุฏิพระของสมภารเจ้าวัดตอนตีสามเศษ ๆ คนขับรถพบแม่เฒ่าเดินโซซัดโซเซอยู่ข้างถนนเปล่าเปลี่ยวเดียวดาย ด้วยใจเมตตา เมื่อแม่เฒ่าต้องการมาที่นี่ จึงขับรถมาส่งด้วยความสังเวช แม่เฒ่ามักคุ้นกับสมภารวัดนี้มานานแล้วตั้งแต่เจ้า อาวาสองค์เก่ายังอยู่ แล้วนาทีสุดท้ายของการตัดสินใจครั้งใหญ่ของชีวิต จึงไม่มีที่ไหนอบอุ่นให้พึ่งพิง เหมือนร่มเงาฉัตรแก้ว กงธรรมแห่งรัตนทั้งสาม ฟ้าเริ่มขมุกมัวใกล้ค่ำลงทุกขณะ ผมจำเป็นต้องบอกลาท่านสมภารและแม่เฒ่าเจ้าของเรื่องราวน่าสลด นับแต่นาทีแรกที่แม่เฒ่ามาถึงที่นี่จนวันนี้ แม่เฒ่าไม่เคยออกไปนอกวัดเหมือนๆ กับทีทรพีทั้งสามคนก็ ไม่เคยออกติดตามถามหา จะรู้หรือไม่ก็แล้วแต่ว่าแม่ซมซานมาอยู่วัด แต่ก็ไม่เคยปรากฏแม้แต่เงาของสามเนรคุณ ผมลากลับออกมาทั้งที่น้ำตานองหน้า


และนี่คือประโยคสุดท้ายที่แม่เฒ่าเอ่ยก่อนผมลากลับ..

"แม่ จำลูกได้ทุกอย่างตั้งแต่เกิดจนโต จะทุกข์จะสุขก็คือลูกของแม่ แม่ให้โดยไม่เคยวาดหวังจะได้จากลูกทุกคน เป็นการตอบแทน ลูกเอ๋ย...เมื่อลูกยังเป็นทารกทุกครั้งที่แนบอกดูดดื่มน้ำนมจากเต้า สองมือน้อย ๆ ของเจ้าไขว่คว้าอยู่ไหว ๆ วันนี้แม่สิ้นแรงแทบสิ้นใจจะมีมือของลูกคนไหน เอื้อมมาปิดตาให้แม่ก่อนสิ้นลม....."



เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 20 กว่าปีก่อน ถึงแม้ว่านี่อาจจะเป็นสิ่งที่ไม่สามารถแก้ไขได้แล้ว แต่หวังว่าเรื่องนี้จะเป็นบทเรียนที่ดีให้กับทุกๆคนนะครับ

วันแม่นี้อย่าลืมไปดูแลแม่กันนะครับทุกๆคน
รวมถึงทุกๆวันด้วยอย่าเอาแต่เล่นเน็ตล่ะ


ซ้ำขออภัย
ขอบคุณ http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2242927 ที่ให้เราให้อ่าน


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-11-21 18:40:03
อุจิวะ มาดาระ โทบิ
lovedog
biology_wawa
เจนนี่จ๊า
ipond
jineframolly
l3๏fang
P-PRAEW

timelove
#2
20-11-2011 - 19:18:48

#2 timelove  [ 20-11-2011 - 19:18:48 ]






Isuperkang
#3
20-11-2011 - 19:29:42

#3 Isuperkang  [ 20-11-2011 - 19:29:42 ]






อุจิวะ มาดาระ โทบิ
#4
อุจิวะ มาดาระ โทบิ
20-11-2011 - 19:48:29

#4 อุจิวะ มาดาระ โทบิ  [ 20-11-2011 - 19:48:29 ]









คิดถึงวันเวลาเก่าๆวันแรกที่เข้ามาที่นี่มีความสุขมา...
jai_yenyendi
#5
20-11-2011 - 20:01:08

#5 jai_yenyendi  [ 20-11-2011 - 20:01:08 ]






ladyzaza
#6
21-11-2011 - 09:20:37

#6 ladyzaza  [ 21-11-2011 - 09:20:37 ]





ToT



ARTPOP
61575458
#7
21-11-2011 - 09:28:45

#7 61575458  [ 21-11-2011 - 09:28:45 ]







เจ๋งอะ ไม่ได้เข้านาน!!
Palzheimer
#8
21-11-2011 - 09:31:20

#8 Palzheimer  [ 21-11-2011 - 09:31:20 ]




 1159928


Noosom3344
#9
21-11-2011 - 09:36:48

#9 Noosom3344  [ 21-11-2011 - 09:36:48 ]




ซึ้งกินใจมากๆเลยค่ะ


ปังปอนแบม
#10
ปังปอนแบม
21-11-2011 - 09:37:12

#10 ปังปอนแบม  [ 21-11-2011 - 09:37:12 ]







TT



ไม่ได้เล่นอีกล่ะ T_T
paopao tanasin
#11
21-11-2011 - 09:37:38

#11 paopao tanasin  [ 21-11-2011 - 09:37:38 ]









Comeback
Nano_Sung
#12
21-11-2011 - 09:37:56

#12 Nano_Sung  [ 21-11-2011 - 09:37:56 ]






lovedog
#13
21-11-2011 - 09:40:48

#13 lovedog  [ 21-11-2011 - 09:40:48 ]




ขอบคุณค่ะ ที่เอามาให้อ่าน


ppim0241
#14
21-11-2011 - 09:42:26

#14 ppim0241  [ 21-11-2011 - 09:42:26 ]






Eurnjung
#15
21-11-2011 - 18:00:04

#15 Eurnjung  [ 21-11-2011 - 18:00:04 ]








กลับมาแล้วววว อ๊าก
tatarza243
#16
21-11-2011 - 18:06:23

#16 tatarza243  [ 21-11-2011 - 18:06:23 ]







kidsjobey
#17
21-11-2011 - 18:11:22

#17 kidsjobey  [ 21-11-2011 - 18:11:22 ]






P-PRAEW
#18
21-11-2011 - 18:11:46

#18 P-PRAEW  [ 21-11-2011 - 18:11:46 ]




เดี๋ยวนี้คนเรามันเป็นอะไรกันนน แม่ตัวเองยังดูแลไม่ได้ชาติก็อย่าเกิดมาเป็นคนดีกว่า!!
คนเนรคุณอยู่ไปก็รกสังคมเปล่าๆ พวกหนักแผ่นดิน (อ่านแล้วขึ้นจริงๆ!!)


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-11-21 18:12:03
alicza
ZhongQsx

alicza
#19
21-11-2011 - 18:13:16

#19 alicza  [ 21-11-2011 - 18:13:16 ]





ไอ้ลูกทรพีมึงไม่เจริญหรอก มึงทำกับแม่ผู้มีบุญคุณขนาดนี้

ขออภัยอินไปหน่อย.

น่าสงสารแม่เฒ่าจังเลยค่ะ


alicza
#20
21-11-2011 - 18:14:32

#20 alicza  [ 21-11-2011 - 18:14:32 ]





quote : P-PRAEW

เดี๋ยวนี้คนเรามันเป็นอะไรกันนน แม่ตัวเองยังดูแลไม่ได้ชาติก็อย่าเกิดมาเป็นคนดีกว่า!!
คนเนรคุณอยู่ไปก็รกสังคมเปล่าๆ พวกหนักแผ่นดิน (อ่านแล้วขึ้นจริงๆ!!)


ถูกต้องที่สุด+1เลย


  • 1
  • 2

ลงข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ต้องสมัครเป็นสมาชิกและ login เข้าสู่ระบบก่อนถึงจะสามารถลงความเห็นได้
เข้าสู่ระบบสมัครสมาชิก



ข้อมูลเมื่อ 21st November 2024 15:22

โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ