โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ
เคล็ด(ไม่)ลับ ฉบับ ผิวสวย หน้าใส ขาวผ่อง เป็นยองใย เม้นทุกวัน
หลินลี่ นะคะ
#1
หลินลี่ นะคะ
24-11-2011 - 21:10:40

#1 หลินลี่ นะคะ  [ 24-11-2011 - 21:10:40 ]




อยู่ใกล้ๆเธอรู้สึกดี
อยู่กับใครทำไมมันไม่เหมือนกัน
อยู่กับเธอแล้วโลกสดใสมากไปกว่านั้น
อยู่ใกล้ๆเธอ มันอุ่นใจ
อยู่คนเดียวทำไมมันไม่เหมือนกัน
อยู่กับเธอแล้วฤดูหนาวไม่เคยยาวนาน
เมื่อฉันได้รักเธอ
(เพลง:ฤดูหนาวไม่เคยยาวนาน By โรส สิรินทิพย์)



ฤดูหนาวแล้วนะค่ะทุกๆคนผิวคงจะแตกแน่ๆเลย(เป็นแล้วค่ะ)
ก็เลยนำความรู้มาฝากค่ะ

ผิวหยาบกร้าน
การที่ผิวบางคนหยาบกร้าน เพราะ ลมหนาวจึงขาดความชุ่มชื่น อย่าลืมทาโลชั่นหรือครีมบำรุงผิวเป็นประจำด้วยนะ

ผิวนุ่มชุ่มชื่น
ก็มีวิธี ดังนี้
1.ปอกเปลือกมันฝรั่งแล้วล้างจึงนำมาบดและคั้นน้ำ
2.ผสมกับน้ำมะนาวในอัตรา 1:1 สามารถใช้น้ำเปล่าแทนได้
3.พอกหน้าแล้วคุมด้วยผ้าขนหนูบางทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วล้างออก

เครดิต หนังสือ"เคล็ดลับหุ่นสวยหน้าใส"



แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-11-25 22:49:38

ahachamp
#2
24-11-2011 - 21:15:16

#2 ahachamp  [ 24-11-2011 - 21:15:16 ]






หลินลี่ นะคะ

หลินลี่ นะคะ
#3
หลินลี่ นะคะ
24-11-2011 - 21:18:32

#3 หลินลี่ นะคะ  [ 24-11-2011 - 21:18:32 ]




ผิวหน้าชุ่มชื่น
มะเขือเทศ
สรรพคุณ รักษาผิว ลบรอยเ...่ยวย่น ของใบหน้า เพิ่มความ ชุ่มชื่นให้กับผิวหน้า
วิธีใช้ นำมะเขือเทศสดที่ล้างน้ำสะอาดแล้ว มาปั่นให้ละเอียด นำน้ำมะเขือเทศมาล้างหน้า หรือจะใช้วิธีนำมะเขือเทศมาฝานเป็นชิ้นบางๆแปะไว้บนใบหน้าก่อนนอน ทิ้งไว้สักครู่ค่อยเอาออก ล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด ใบหน้าจะนุ่มนวล สดชื่น ทำเป็นประจำ ใบหน้าจะดูอ่อนกว่าวัย

เครดิต http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=eewet&date=11-09-2006&group=5&gblog=5



ใบหน้านวลเนียน
ว่านหางจระเข้
สรรพคุณ ช่วยให้
วิธีใช้ นำว่านหางจระเข้มาล้างน้ำให้สะอาด ปอกเปลือกเอาแต่สุ้นใสๆมาล้างน้ำ หั่นให้ละเอียดและปั่นรวมกัน ใส่ไข่ไก่ลงไป 1 ฟอง ปั่นให้เป็นครีมเหนียวและข้น เสร็จแล้วนำมาพอกหน้าที่ทำความสะอาด ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำเป็นประจำ ผิวหน้าจะนวลเนียนใสสะอาด

เครดิต http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=eewet&date=11-09-2006&group=5&gblog=10

ใบหน้าชุ่มชื่นผ่องใส
แตงกวา
สรรพคุณ ทำให้ใบหน้าชุ่มชื่น ผ่องใส
วิธีใช้ นำแตงกวามาล้างน้ำให้สะอาด นำไปปั่นให้ละเอียด (โดยไม่ต้องปอกเปลือก) แล้วทาพอกให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้สักครู่แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำทุกวัน วันละครั้ง ผิวหน้าจะชุ่มชื่น ผ่องใสเป็นยองใย

เครดิต http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=eewet&date=11-09-2006&group=5&gblog=9


ครีมบำรุงผิว(สูตรธรรมชาติ)
แครอท
สรรพคุณ ครีมบำรุงผิวอย่างดี ทำให้ผิวหน้าสดชื่น แจ่มใส ลดความ หยาบกร้านลงได้
วิธีใช้ นำหัวแครอทมาล้างให้สะอาด หั่นให้ละเอียดแล้วนำไปปั่น หลังจากนั้น คั้นเอาแต่น้ำ นำน้ำที่ได้มาผสมกับน้ำมะนาวและน้ำผึ้งแท้ คนให้เข้ากัน เสร็จแล้วให้พอกหน้า ทิ้งไว้สัก 20 นาที ใช้น้ำสะอาดล้างออก

เครดิต http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=eewet&date=11-09-2006&group=5&gblog=3

ลดสิว จุดด่างดำ
หอมแดง
สรรพคุณ แก้สิว ลบรอยด่างดำ
วิธีใช้ นำหอมแดงมาฝานเป็นแว่นบางๆ ใช้ทาบริเวณที่เป็นสิวและรอยด่างดำ ทาเป็นประจำทุกวัน หลังทำความสะอาดใบหน้าแล้ว ไม่นานสิวและรอยด่างดำจะหายไปในที่สุด

เครดิต http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=eewet&date=11-09-2006&group=5&gblog=4






-๐ Hunny___Moon ๐-
punrinrada
puod_pond

หลินลี่ นะคะ
#4
หลินลี่ นะคะ
24-11-2011 - 21:20:24

#4 หลินลี่ นะคะ  [ 24-11-2011 - 21:20:24 ]




โหวตกระทู้หรือให้ดาวหรือเห็นด้วย
ด้วยก็ได้นะจ๊ะ


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-11-24 21:44:34

หลินลี่ นะคะ
#5
หลินลี่ นะคะ
24-11-2011 - 21:25:32

#5 หลินลี่ นะคะ  [ 24-11-2011 - 21:25:32 ]




ขิง อาหารเพื่อสุขภาพเข้าหน้าหนาวมาสักระยะหนึ่งแล้ว เป็นอย่างไรกันบ้าง หนาวนี้เรียมตัวดูแลสุขภาพกันดีหรือเปล่า เพราะว่าปีนี้ดูท่าว่าจะเป็นปีที่หนาวกว่าปีที่ผ่านมามากทีเดียว ซึ่งถ้าไม่ดูแลสุขภาพอย่างใกล้ชิดแล้วล่ะก็ อาจจะทำให้ร่างกายเสียสมดุล และเกิดอาการเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นก็ได้ วันนี้เรามีคำแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับการรักษาสมดุลของร่างกายในหน้าหนาวนี้มาบอกกันค่ะ แต่จะเป็นวิธีการรักษาสุขภาพแบบการแพทย์แผนไทยนะคะ

ซึ่งในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงนี้ ตามทฤษฏีของไทยบอกว่า "จะทำให้ธาตุลมของร่างกายอ่อนแอ และ อาจะเป็นเหตุให้ร่างกายคุณป่วย เป็นโรคไข้หวัด การย่อยอาหารไม่ดี มีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ" ดังนั้น การเสริมอาหารโดยใช้สมุนไพรที่มีรสเผ็ดร้อน เพื่อช่วยปรับธาตุลมให้กลับคืนเข้ามาสู่สมดุล และมีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น



"ขิง สมุนไพรอันเผ็ดร้อน"

เพื่อเป็นแนวทางการป้องกันก่อนที่จะเกิดโรคภัยไข้เจ็บ สมุนไพรที่มีรสเผ็ดร้อนหลายชนิด โดยเฉพาะ "ขิง" จัดเป็นสมุนไพรรสเผ็ดร้อน ที่หลายคนรู้จัก และรับประทานกันมาเป็นเวลานาน สามารถประกอบอาหารได้หลายอย่าง ในประเทศอินเดียใช้ขิง ในการบำบัดรักษาสุขภาพมานานกว่า 2,000 ปีแล้ว ในสรรพคุณของขิงจะมีสารออกฤทธิ์สำคัญคือ "จิงเจอรอล" "โชกอร" ใช้ช่วยบรรเทาอาการ ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ บางตำรา มารดาที่ให้นมบุตร

ให้รับประทานขิงมาก ๆ สารสำคัญ จากขิงสามารถผ่านไปยังน้ำนม ช่วยทำให้ทารกไม่มีอาการปวดท้อง นอกจากนั้น ในกรณีที่ท้องเสีย ให้ลดอาหารที่มีกาก อาหารแข็ง และการดื่มน้ำขิงจะช่วยทำให้การ อักเสบ ที่เกิดจากพิษของเชื้อโรคลดลงช่วยขับเชื้อโรค ดังนั้น หากว่าอาการท้องเสียมีความรุนแรง ควรรีบ ไปพบแพทย์จะดีกว่า ส่วนผู้ที่เจ็บป่วย เป็นหวัด หรือ ปวดศรีษะ การรับประทาน ขิงสด ๆ จะช่วย ได้ดีมาก สรรพคุณของขิง ยังมีอีกมากมาย เช่น ขิงยังช่วยแก้อาการคลื่นไส้ อาเจียน เวลาที่อาหารเป็นพิษ มีอาการ คลื่นไส้



"อาหารที่ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น"

ให้คุณหยุดอาหาร และ พยายามขับของเสียให้หมด แล้วดื่มน้ำขิง ซึ่งจะช่วยลดอาการ คลื่นไส้ อาเจียน โดยอาจนำขิงสดมาคั้นน้ำ ด้วยเครื่องปั่นที่แยกกาก แล้วนำน้ำขิงสด 1 - 2 ช้อนชา มาผสมน้ำผึ้งเจือน้ำอุ่น และเติมเกลือเล็กน้อย จะทำให้รสดีขึ้น ช่วยแก้อาการอาเจียนได้เป็นอย่างดี ส่วนเมนูอาหารสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับขิงนั้น อาหารราคาไม่แพงและไม่ควรปฏิเสธ เช่น ไก่ผัดขิง ไก่ต้มขิง ปลาเก๋าทอดต้มขิง วิธีทำก็ง่าย คือแค่คุณทอดปลาเก๋า ให้เหลืองสุก ใส่น้ำต้มแล้ว ใส่ขิงซอย ลงไป ปรุงรสเค็มใส่มะนาวหรือบ๊วยดอง จะออกรสเปรี้ยวแกมเผ็ด เหมาะที่จะซดน้ำแกงร้อน ๆ

หรือทำปลา ต้มส้มใส่ขิงปรุงด้วยน้ำมะขามก็ได้ สำหรับเมนูตอนเช้า โดยเฉพาะโจ๊กให้ใส่ขิงเยอะ ๆ จะยิ่งช่วยให้คุณสบายท้อง หรือทำปลาต้มส้ม ใส่ขิงปรุงรสด้วยน้ำมะขาม ก็ได้ สำหรับเมนูตอนเช้า โดยเฉพาะโจ๊กให้ใส่ขิงเยอะ ๆ จะยิ่งช่วยคุณสบายท้องได้ตลอดวัน อาหารว่าง เลือกรับประทาน (อย่าง) เมี่ยงคำ ที่นอกจากจะมีส่วนประกอบสมุนไพรหลายชนิด เช่นใบพลู หอมแดง มะพร้าวคั่ว และขิงได้ทั้งประโยชน์และความอร่อย ที่สำคัญทานเท่าไรก็ไม่อ้วนแน่นอน นอกจากนี้ การเลือกดื่มน้ำขิงร้อน ๆ โดยนำขิงแก่มาต้มใส่น้ำตาลเล็กน้อยดื่มจะทำให้คุณรู้สึกอบอุ่น ป้องกันอาการหวัดได้ดี ลองนำไปใช้ดูนะคะ เพื่อหน้าหนาวนี้ จะได้เที่ยวกันอย่างมีความสุข ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บเข้ามาเป็นอุปสรรคของความสุขค่ะ.

เครดิต http://variety.teenee.com/foodforbrain/1175.html




punrinrada

หลินลี่ นะคะ
#6
หลินลี่ นะคะ
24-11-2011 - 21:33:42

#6 หลินลี่ นะคะ  [ 24-11-2011 - 21:33:42 ]




หนาวนี้...ระวังผื่นผิวหนังอักเสบ
ปัญหาผื่นผิวหนังอักเสบบริเวณที่มีต่อมไขมันหนาแน่น หรือบริเวณทีโซน ซึ่งเรียกว่าผื่นอักเสบบริเวณผิวมันมักเป็นเรื้อรัง พบได้ที่ใบหน้า บริเวณหัวคิ้ว สองข้างจมูก ไรผม คาง อาจพบได้ที่ทรวงอกและแผ่นหลัง รวมถึงที่บริเวณศีรษะ

ลักษณะเป็นรังแคซึ่งมีลักษณะเป็นสะเก็ดบาง ๆ ลอกเป็นขุยสีขาว มีอาการคันร่วมด้วย หากเป็นมากจะทำให้หนังศีรษะลอกเป็นขุย แสบ แดง คัน ข้างบนมีสะเก็ดขาวหรือเหลืองเป็นมันทั่วศีรษะ โรคนี้พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง พบได้ทั้งปีทุกฤดูกาล

ทั้งนี้ นพ.พรเลิศ ตรีทศเดช แพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านผิวพรรณจากแพนคลินิก กล่าวว่า หากมีผื่นอักเสบ บวมแดงควรปรึกษาแพทย์ หากมีรังแคควรใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของซิลิเนียมซัลไฟด์และซิงค์ ไพริไทนอล (Selenium sulfide and Zinc pyrithione) หรือใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของยาต้านเชื้อรา ชนิดคีโตโคนาโซน สระทุกวันหรือวันเว้นวัน การใช้แชมพูประเภทนี้ควรทิ้งไว้ 5-10 นาทีจึงล้างออก เมื่อดีขึ้นแล้วลดการใช้ลงเป็น 2 ครั้งต่อสัปดาห์สักระยะหนึ่ง

โรคนี้ป้องกันได้โดยการหลีกเลี่ยงการรบกวนผิว หลีกเลี่ยงแสงแดด ใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดเป็นประจำ ร่วมกับการทาครีมบำรุงผิว หรือรับประทานอีฟนิ่ง พริมโรส ออยล์ เพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของผิว ซึ่งมีกรดไขมันชนิดแกมม่า ไลโนเลนิก แอสิด หรือจีแอลเอ (GLA)

อย่างไรก็ตาม หากมีการดูแลสุขภาพที่ดี ผิวแข็งแรง หลีกเลี่ยงสิ่งรบกวนผิว ทำจิตใจให้ผ่องใส ไม่เครียด ก็จะเป็นการป้องกันการเกิดผื่นผิวหนังอักเสบบริเวณผิวมันได้อีกทางหนึ่ง

เครดิต http://health.kapook.com/view19303.html


punrinrada

praewaiean
#7
24-11-2011 - 21:58:52

#7 praewaiean  [ 24-11-2011 - 21:58:52 ]







ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคะน้องหลิน



เข้ามาแอบส่องอยู่เรื่อยๆ ยังไม่หายไปไหนนะ ^*^
หลินลี่ นะคะ
#8
หลินลี่ นะคะ
24-11-2011 - 23:31:09

#8 หลินลี่ นะคะ  [ 24-11-2011 - 23:31:09 ]




ค่ะพี่แพร


หลินลี่ นะคะ
#9
หลินลี่ นะคะ
24-11-2011 - 23:49:25

#9 หลินลี่ นะคะ  [ 24-11-2011 - 23:49:25 ]




ผิวแห้งจากเครื่องปรับอากาศ
ฤดูหนาวหลายๆคนก็เปิดแอร์ทั้งวัน(หลินด้วย)ผิวจะแห้งนะ
ก็ควร วางต้นไม่ใบหญ้าไว้เพื่อเพิ่ม"ความชื้น"และทาผิวด้วยโลชั่นหรือฉีดด้วยน้ำแร่บ่อยๆ
*ถ้าผิวแห้งจะเกิดอาการคัน ห้ามเกาเด็ดขาด

ผ่อนคลายความเครียด
ทุกคนคงเครียดกับงาน ควรจัดปาร์ตี้เล็กๆน้อยๆ(ที่โรงเรียน สำหรับนักเรียน)เพื่อผ่อนคลาย ดังนี้
1.จัดกลุ่มกับเพื่อน
2.ซื้อน้ำผลไม้ ผลไม้(หลีกเลี่ยงน้ำอัดลม)
3.เปิดเพลงคลอเบาๆ แนว คลาสสิก แจ๊ส ฯลฯ
*อาจจะเปิดเพลงมันๆแล้วแดนซ์กระจายเลย

เครดิต หนังสือ"สวยที่ใจ ใสที่(ใบ)หน้า"(อ่านแล้วสรุป)


conanaipui
#10
25-11-2011 - 10:55:11

#10 conanaipui  [ 25-11-2011 - 10:55:11 ]






ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆค่ะ



ฟื้นคืนชีพแร้วววว
หลินลี่ นะคะ
#11
หลินลี่ นะคะ
25-11-2011 - 18:15:34

#11 หลินลี่ นะคะ  [ 25-11-2011 - 18:15:34 ]






-๐ Hunny___Moon ๐-
#12
-๐ Hunny___Moon ๐-
25-11-2011 - 18:26:03

#12 -๐ Hunny___Moon ๐-  [ 25-11-2011 - 18:26:03 ]





ให้ดาวแล้วนะคะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆค่ะ


aumlovethesim3
#13
25-11-2011 - 18:36:12

#13 aumlovethesim3  [ 25-11-2011 - 18:36:12 ]






ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆมีประโยชน์นะคะ


punrinrada
#14
25-11-2011 - 18:39:47

#14 punrinrada  [ 25-11-2011 - 18:39:47 ]




ขอบคุณข้อมูลดีๆมากค่า


142954455
#15
25-11-2011 - 18:45:07

#15 142954455  [ 25-11-2011 - 18:45:07 ]






มีวิธีต่างๆมากมายเลย



Iмagination is more important †han kиowledge :D
หลินลี่ นะคะ
#16
หลินลี่ นะคะ
25-11-2011 - 22:40:52

#16 หลินลี่ นะคะ  [ 25-11-2011 - 22:40:52 ]




การดูแลผิวหน้าแบบง่าย ๆ ที่บ้าน

เอนไซม์มะละกอผลัดผิว

การใช้เอนไซม์จากมะละกอช่วยเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวหน้า การพอกมะละกอบดละเอียดบนผิวหน้าในระหว่างอบไอน้ำจะช่วยทำให้หน้าขาว ใส ยิ่งขึ้น
การเตรียมก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร นำมะละกอสุกมาบดละเอียด ในขณะที่เตรียมน้ำเดือดเพื่ออบไอน้ำผิวหน้าเมื่อน้ำพร้อมแล้ว ให้ทามะละกอสุกบนใบหน้า โดยหลีกเลี่ยงรอบดวงตา ต่อจากนั้นจึงอังหน้ากับชามอ่างภายใต้ผ้าขนหนูตามวิธีการอบไอน้ำผิวหน้าได้เลย

โทนเนอร์น้ำผลไม้

หลังจากล้างหน้าแล้ว ตามขั้นตอนจะต้องเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์อีกครั้งเพื่อกระชับรูขุมขน และปรับสภาพ pH ของผิวหน้า หากเบื่อใช้โทนเนอร์ที่มีขายตามท้องตลาด ผักและผลไม้นั้นมีวิตามินและเอนไซม์ซึ่งช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนเสมอกันทั่วใบหน้าและช่วยขัดผิวได้

วิธีการทำก็ไม่ได้ยากเช่นกัน ให้นำผลไม้ที่ชอบ โดยอาจเลือกจากสรรพคุณของผลไม้ นำผลไม้มาประมาณ 50 กรัมต่อครั้ง ล้าง เช็ดให้แห้ง ปอกเปลือก แล้วปั่นด้วยเครื่องปั่นหรือบดให้ละเอียด เติมน้ำกลั่นบริสุทธิ์ลงไปประมาณ 25 มิลลิตร ทิ้งไว้สักครู่หนึ่ง แล้วจึงใช้ผ้าขาวบางกรองแยกกากออกไป เก็บแต่น้ำไว้ใช้

ข้อควรระวังคือ ต้องทำความสะอาดผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการทำโทนเนอร์น้ำผลไม้ ไม่ว่าจะเป็นชาม เครื่องปั่น มีด ผ้าขาวบาง หรือแม้กระทั่งมือตัวเองให้สะอาด มิเช่นนั้นโทนเนอร์น้ำผลไม้ที่ได้ แทนที่จะช่วยทำความสะอาดผิวอาจจะทำให้ผิวเกิดความระคายเคืองเนื่องจากสิ่งสกปรกตกค้างจากภาชนะเหล่านั้น

สรรพคุณของผลไม้แต่ละประเภท

1. ว่านหางจระเข้ บำรุงผิว สำหรับทุกสภาพผิว
2. แตงกวา ปรับสภาพผิว เหมาะสำหรับผิวมัน
3. ฝรั่ง ขัดผิว มีส่วนผสมของกรด AHA
4. ตะไคร้ ทำความสะอาดผิว สำหรับทุกสภาพผิว
5. สับปะรด ขัดผิว มีส่วนผสมของ AHA
6. มะขาม ขัดผิว ช่วยให้ผิวขาว เหมาะสำหรับผิวมัน

ไพล และ ผงลูกจันทน์เทศ ขัดผิว

ส่วนผสมประกอบด้วย ไพลสด 1 ช้อนโต๊ะ และ
ผงลูกจันทน์เทศ 1 ช้อนชา
ตัวขัดผิวนี้มีส่วนผสมของไพล ซึ่งคนไทยถือว่าเป็นยาครอบจักรวาลสำหรับผิว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นและบำรุงผิว เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว เมื่อขัดเสร็จแล้วผิวจะมีกลิ่นเผ็ดร้อนนิดๆ
ล้างไพลให้สะอาด เช็ดให้แห้ง ปอกเปลือก ปั่นด้วยเครื่องปั่น จากนั้นเทผงลูกจันทน์เทศลงไป คลุกเคล้าจนเข้ากัน ทาลงบนใบหน้าและขัดเบาๆจนทั่วหน้า ล้างออกด้วยน้ำอุ่น

น้ำผึ้ง และ แตงกวา ขัดผิว

ส่วนผสมประกอบไปด้วย น้ำผึ้ง 8 ออนซ์
น้ำมะนาวคั้น 10 หยด
แตงกวา ฝานเป็นแผ่นบางๆ
น้ำผึ้งทำให้ผิวนุ่มขึ้น ช่วยลดความระคายเคืองของผิว และบรรเทาอาการอักเสบ ในขณะเดียวกันน้ำมะนาวช่วยในกระบวนการผลัดผิว
ล้างหน้าให้สะอาด ผสมน้ำผึ้งกับน้ำมะนาวเข้าด้วยกัน ทาลงบนใบหน้าแล้วนวด 15 นาที หลังจากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดออก
เมื่อเสร็จขั้นตอนแรกแล้วให้วางแผ่นแตงกวาบนใบหน้าและลำคอ แตงกวาจะช่วยดูดซับสิ่งสกปรกที่ตกค้างออก ช่วยให้ผิวเย็นและตึง และเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออก เช็ดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆอีกครั้ง

ขมิ้นพอกผิว

ส่วนผสมประกอบด้วย ขมิ้นสด 10 กรัม
ถั่วเหลือง 15 กรัม
ขมิ้นเป็นสมุนไพรที่คนไทยรู้จักมีกคุ้นเป็นอย่างดีมีสรรพคุณลดอาการอักเสบและสมานผิว ส่วนถั่วเหลืองมีเอสโตรเจน โปรเจสเตอโรน และไฟโตเอสโตรเจน ที่ช่วยทำให้ผิวขาวและนุ่มขึ้น
วิธีการเตรียม ให้นำขมิ้นมาล้างและปอกเปลือกออกปั่นให้ละเอียด หากเป็นสมัยปู่ยาตาทวดเราใช้ครกกับสากบดซึ่งกินเวลานานเกินไป ไม่ทันใจสาวสมัยใหม่ ปัจจุบันใช้เครื่องปั่นจะสะดวกกว่า
เมื่อปั่นขมิ้นเสร็จแล้วให้พักไว้ นำถั่วเหลืองไปล้างโดยแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที ปั่นแล้วนำมาผสมกับขมิ้นคลุกเคล้าให้เข้ากัน ทาทิ้งไว้บนใบหน้าประมาณ 10 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น

คืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวด้วยกล้วย

ส่วนผสมประกอบด้วย กล้วยสุก ผลขนาดกลาง 2 ผล
Wheat germ oil ½ ช้อนชา
น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา
น้ำมันหอมระเหยกลิ่นดอกมะลิ 2 หยด
ตัวพอกหน้านี้อุดมไปด้วยวิตามิน เหมาะสำหรับฟื้นฟูสภาพผิว และทำให้ผิวสดชื่นหลังจากวันอันเหนื่อยล้า กล้วยอุดมไปด้วยวิตามินเอและโพแทสเซียม ส่วนน้ำมันหอมระเหยกลิ่นดอกมะลิ ช่วยปรับสภาพผิว ลดเลือนรอบแผลเป็น และน้ำผึ้ง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและบำรุงผิว
ปั่นกล้วยแล้วใส่ส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดลงไปคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน เมื่อเตรียมตัวพอกเสร็จแล้ว ล้างหน้าให้สะอาด เช็ดด้วนโทนเนอร์ จากนั้นจึงทาตัว พอกลงบนใบหน้า ทิ้งไว้ 20 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่นและเช็ดด้วยโทนเนอร์อีกครั้งเพื่อกำจัดตัวพอกที่ตกค้างอยู่ออกให้หมด

น้ำผึ้งและส้มกระชับผิวหน้า

ส่วนผสมประกอบไปด้วย ส้มหรือส้มจีน 1 ชิ้น
น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา
น้ำมันหอมระเหยดอกลาเวนเดอร์ 1 หยด
เป็นตัวพอกหน้าที่ช่วยให้ผิวนุ่มและสดใสขึ้น ทำให้ผิวหน้าเต่งตึง เป็นตัวพอกหน้าที่อ่อนโยนต่อผิวสามารถทำได้บ่อยครั้ง เพื่อปรับปรุงสภาพผิวและช่วยให้จุดด่างดำจางลง
บิส้มให้น้ำส้มออกมา ถูส้มให้ทั่วใบหน้า กรดผลไม้ในส้มช่วยทำความสะอาดผิวและเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว เมื่อทั่วแล้วให้ใช้ฟองน้ำหรือผ้าชุบน้ำเปียกหมาดๆเช็ดออกเบาๆ
เมื่อเสร้จขั้นตอนแรกแล้ว ผสมน้ำผึ้งเข้ากับน้ำมันหอมระเหยดอกลาเวนเดอร์ และทาลงบนใบหน้า นวดเบาๆทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น

กล้วยและอะโวคาโดพอกหน้าสำหรับผิวแห้ง

ส่วนผสมประกอบไปด้วย กล้วยสุกผลเล็ก 1 ผล
อะโวคาโดสุกผลเล็ก 1 ผล
โยเกิร์ตเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันวิตามินอี 2 หยด
ผลลัพธ์ที่ได้จาก treatment นี้ คือ หน้าลื่น เรียบเนียน และมีกลิ่นหอม
บดกล้วยและอะโวคาโดเข้าด้วยกันจนข้นและมีสีเขียวผสมโยเกิร์ตและน้ำมันวิตามินอีลงไป แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน
เมื่อเตรียมตัวพอกเสร็จแล้ว ล้างหน้าและอบไอน้ำผิวหน้าเพื่อให้รูขุมขนเปิด หลังจากนั้นจึงทาตัวพอกลงบนใบหน้านวดและทิ้งไว้ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น

ทีนี้คุณก็มีสูตรขัด พอกครบถ้วน อีกทั้งเป็นสูตรที่ไม่ยากเย็นอีกต่างหาก สุดท้ายหน้าจะใสหรือไม่ก็ขึ้นอยู่ที่ว่าจะมีเวลาในการทำ treatment อย่างสม่ำเสมอหรือไม่ การดูแลผิวพรรณด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติแบบนี้ ต้องอาศัยเวลาและความอดทนค่ะ แต่รับรองได้ว่าผลที่ได้คุ้มค่าแน่นอนต่อการรอคอ

เครดิต http://www.formumandme.com/article.php?a=670


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2011-11-25 22:44:42

หลินลี่ นะคะ
#17
หลินลี่ นะคะ
25-11-2011 - 23:01:36

#17 หลินลี่ นะคะ  [ 25-11-2011 - 23:01:36 ]




เมนู"ไข่"

ไข่ตุ๋นนมสด
เครื่องปรุง
ไข่ไก่ 3 ฟอง
ต้นหอมซอย
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
น้ำปลา
พริกไทยป่นเล็กน้อย
หอมแดงซอย 1 - 2 หัว
น้ำสะอาด 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
นมสด 3 - 4 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
นำไข่มาตอกใส่ภาชนะทนความร้อน และตีไข่ให้ฟู จึงใส่ซีอิ๊วขาว น้ำปลา พริกไทยป่น หอมแดงซอย น้ำสะอาด และนมสด จากนั้นตีให้เข้ากัน โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย แล้วจึงนำใส่ลังถึง ใส่น้ำลงในลังถึงไปพอประมาณ เมื่อน้ำเดือด จึงนำถ้วยไข่ตุ๋นที่เตรียมไว้วางลงแล้วปิดฝาให้สนิท นึ่งต่อประมาณ 10 - 15 นาที ใช้ช้อนส้อมจิ้มดู ถ้าไข่ไม่ติดช้อนแสดงว่าสุกดีแล้ว

เครดิต http://board.palungjit.com/f80/%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B9%8B%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%94-32478.html

ไข่ตุ๋นทรงเครื่อง

เครื่องปรุง - ส่วนผสม
1. ไข่ไก่ 2 ฟอง
2. หมูสับ หรือ ไก่สับ
3. เห็ดหอม
4. แครอท
5. ต้นหอม
6. พริกไทย
7. ซีอิ๊วขาว
8. น้ำซุปผัก

ลงมือเข้าครัว
1. หั่นแครอทให้เป็นลูกเต๋า จากนั้นนำไปลวกให้นิ่มเล็กน้อย ส่วนเห็ดหอมก็หั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆ
2. ตั้งน้ำให้เดือด ก่อนที่จะหันมาปรุงส่วนผสมของไข่ตุ๋น โดยเริ่มจากการตอกไข่ใส่ชาม คนให้ไข่แตก แต่อย่าคนจนเกิดฟองมากเกินไป มิเช่นนนั้นจะทำให้หน้าไข่ตุ๋นของเรากลายเป็นผิวดวงจันทร์ได้
3. จากนั้นใส่แครอทลวก เห็ดหอม เนื้อหมูสับ หรือไก่สับ ตามด้วยน้ำซุปผักเพื่อเพิ่มความหวาน ตามด้วยซีอิ๊วขาว และต้อนหอมซอย
4. นำตะแกรงที่ใช้สำหรับหม้อนึ่งวางลงไป จากนั้น ยกชามไข่ตุ๋นที่ปรุงรสเรียบร้อยแล้วตามลงไป ปิดฝา จากนั้นก็หรี่ไฟให้เบา ประมาณ 15 นาที
5. เช็คว่าด้านในสุกหรือยัง โดยการใช้ไม้จิ้มฟัน จิ้มลงไป ถ้าไม่มีเนื้อไข่ติดขึ้นมากับไม้ แสดงว่าสุกพร้อมเสิร์ฟค่ะ

เครดิต http://board.palungjit.com/f80/%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B9%8B%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87-125269.html

เมนูไข่เจียว
ส่วนผสมเมนูไข่เจียว
ไข่ 3 ฟอง
น้ำปลาและน้ำตาลเล็กน้อยสำหรับปรุงรส
น้ำมันพืช 2 ช้อนชา
ซอสหอยนางรมตราแม็กกี้
หมูสับ
วิธีทำอาหาร เมนูไข่เจียว
1.ตอกไข่ ใส่ภาชนะ ตามด้วยซอสหอยนางรมตราแม็กกี้ หมูสับ ตีพอส่วนผสมเข้ากันดี
2.ใส่น้ำมันพืชลงกระทะพอร้อนนำส่วนผสมลงทอดไฟปานกลางพอสุกเหลืองทั้งสองด้านไข่

เครดิต http://mookfood.com/kaiall/kaijiew.asp

เมนูไข่ยัดไส้
ส่วนผสมเมนูไข่ยัดไส้
หมูสับ 150 กรัม
ไข่ไก่ 2 ฟอง
หัวหอมใหญ่หั่นเต๋า ½ ถ้วย
แครอทหั่นเต๋า ½ ถ้วย
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
มะเขือเทศ 1 ลูก
ต้นหอม 1 ต้น
น้ำมันสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ
ผักชี 1 ต้น น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำอาหาร เมนูไข่ยัดไส้
1.ปลอกเปลือกหัวหอมใหญ่ตัดก้านผักชีและรากต้นหอมนำผักต่างๆ ไปล้างน้ำให้สะอาดนำหัวหอมใหญ่
และแครอทมาหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆผ่ามะเขือเทศเป็น 4 ส่วน
ควักไส้ออกแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ส่วนผักชีและต้นหอมนำมาซอยให้ละเอียด พักไว้
2. ตอกไข่ใส่ชาม ตีให้ขึ้นฟูแล้วใส่ซีอิ้วขาวลงไปประมาณ ½ ช้อนชาจากนั้น เปิดเตาที่ไฟ
ปานกลางค่อนข้างแรงตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไปประมาณ 1 ช้อนชากลิ้งน้ำมันให้ทั่วกระทะ
รอจนกระทะร้อนก็เทไข่ที่ตีเอาไว้ลงไป รีบกลิ้งไข่ให้กระจายทั่วกระทะ
3. รอจนไข่สุก จะสังเกตเห็นว่าขอบไข่เริ่มล่อนออกจากกระทะ ก็ตักไข่ขึ้นมาพักไว้ในจาน
4 . ผัดให้เครื่องต่างๆ เข้ากัน พอหมูเริ่มสุกก็ใส่แครอทลงไป ผัดไปเรื่อยจนแครอทเริ่มสุกก็
ใส่มะเขือเทศลงไปผัดซักพักจนมะเขือเทศเริ่มนิ่มจึงใส ผักชีและต้นหอมซอยลงไป ผัดเครื่องทั้งหมดให้เข้ากันแล้วเปิดเตาทันที
6. นำเครื่องที่ผัดไว้ ใส่ลงไปบนไข่ที่ทอดไว้ พับขอบทั้ง 4 ด้านของไข่เข้ามาหากัน
เอาจานอีกใบหนึ่งมาครอบแล้วพลิกจานขึ้น
7. ตกแต่งด้วยผักชีและพริกหั่นฝอย จากนั้นก็ยกเสริฟได้เลยค่ะ

เครดิต http://mookfood.com/kaiall/kaiyadsai.asp


yonwara123
#18
09-12-2011 - 23:16:28

#18 yonwara123  [ 09-12-2011 - 23:16:28 ]





ขอบคุณค่ะ ดันด้วยๆ


SUZYJOY
#19
09-12-2011 - 23:29:29

#19 SUZYJOY  [ 09-12-2011 - 23:29:29 ]





quote : หลินลี่ นะคะ

ผิวหน้าชุ่มชื่น

ลดสิว จุดด่างดำ
หอมแดง
สรรพคุณ แก้สิว ลบรอยด่างดำ
วิธีใช้ นำหอมแดงมาฝานเป็นแว่นบางๆ ใช้ทาบริเวณที่เป็นสิวและรอยด่างดำ ทาเป็นประจำทุกวัน หลังทำความสะอาดใบหน้าแล้ว ไม่นานสิวและรอยด่างดำจะหายไปในที่สุด

เครดิต http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=eewet&date=11-09-2006&group=5&gblog=4





กำลังเจอปัญหานี้เลยขอบคุณจ้า



sing for you
puod_pond
#20
09-12-2011 - 23:37:22

#20 puod_pond  [ 09-12-2011 - 23:37:22 ]






มีประโยชน์ทั้งนั้นเลย ขอบคุณนะคะ

ไม่เคยใช้สักวิธี อยากจะลองแต่ก็ขี้เกียจจัง


  • 1
  • 2

ลงข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ต้องสมัครเป็นสมาชิกและ login เข้าสู่ระบบก่อนถึงจะสามารถลงความเห็นได้
เข้าสู่ระบบสมัครสมาชิก



ข้อมูลเมื่อ 12th November 2024 09:11

โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ