"เพราะสิ่งที่เสียไปบางอย่าง มันไม่อาจที่จะเรียกคืนกลับมาได้"
.....ได้มีการสัมภาษณ์นักโทษข่มขืนในคุกว่า "เค้าดูเหยื่อจากอะไร" และนี่คือคำสัมภาษณ์ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
อย่างแรกที่เค้าดู คือ ทรงผม เค้ามักจะตามผู้หญิงที่มีผมหางม้า ผมมวย ผมเปีย หรือ ผมทรงไหนก็ได้ที่สามารถดึงหรือกระชากได้ง่ายๆ
เค้ามักจะตามผู้หญิงที่มีผมยาว แต่หญิงผมสั้นมักจะไม่ค่อยเป็นเป้าหมาย
อันดับสองที่เค้าดูคือ เสื้อผ้า
เค้ามักจะหาผู้หญิงที่สวมใส่เสื้อผ้าที่ถอดออกง่ายๆ แต่ว่าเสื้อผ้าที่เค้ามองหาก็เป็นเสื้อผ้าแทบทุกแบบน่ะแหล่ะ เพราะว่าเค้ามีกรรไกรและเครื่องมือที่
สามารถตัดเสื้อผ้าออกได้ง่าย
อันดับที่ 3
เค้าจะมองหาผู้หญิงที่กำลังใช้โทรศัพท์มือถือ หรือกำลังทำกิจกรรมอื่นๆขณะเดิน เพราะว่าผู้หญิงเหล่านั้นจะไม่ทันระวังตัว และพวกเค้าสามารถ
เข้าไปใช้กำลังได้ง่ายๆ เวลาที่เหมาะสมในการเข้าไปทำร้ายและข่มขืน คือ ในตอนช่วงเช้าประมาณตี 5 ถึง 8.30 น.
ส่วนสถานที่ที่ผู้หญิงจะถูกทำร้ายได้ง่าย
อันดับแรกคือ ที่ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าอันดับสองคือลานจอดรถหรือโรงรถของบริษัท
อันดับสาม คือ ห้องน้ำสาธารณะ สิ่งที่คนเหล่านี้จะทำคือ เข้าไปกระชากผู้หญิงคนนั้น และใช้กำลังดึงเธอไปยังอีกที่หนึ่งที่พวกเค้าจะไม่ต้องกลัวว่า
เค้าจะถูกจับได้ ประมาณ 2 เปอร์เซนต์บอกว่าพวกเค้าใช้อาวุธด้วยเพราะการข่มขืนมีโทษจำคุก 3 - 5 ปีการข่มขืนและมีอาวุธมีโทษจำคุก 15 -20 ปี
และถ้าผู้หญิงคนนั้นต่อสู้ เค้าก็จะเกิดการไม่พอใจ เพราะว่ามันจะต้องใช้เวลามากขึ้น และมันเป็นการเสียเวลานักโทษคนหนึ่งกล่าวว่า
เค้าจะไม่ยุ่งกับผู้หญิงที่ถือร่มหรือ สิ่งอะไรก็ตามที่สามารถต่อสู้ได้จากที่ห่างๆกุญแจไม่เป็นอุปสรรคเพราะในการที่คุณจะใช้นั้นจะต้องเข้าไป
ใกล้ ๆ ดังนั้นการใช้กุญแจในการป้องกันตัว จึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับคนเหล่านี้ มีการป้องกันตัวหลายแบบที่พวกเค้าแนะนำคือ
ถ้ามีใครซักคนเดินตามหลังคุณบนถนนหรือที่โรงจอดรถ หรือในลิฟต์ให้มองหน้าเค้า และถามคำถามอะไรก็ได้ เช่น
ตอนนี้กี่โมงแล้ว หรือสร้างสนทนาสั้นๆ อะไรก็ได้ และตอนนั้นคุณจะสามารถเห็นสีหน้าพวกเค้าและสามารถ ที่จะเห็นปฏิกิริยาทั้งหมด
และคุณก็จะรอดพ้นจากการเป็นเป้าหมาย ถ้ามีคนมาข้างหน้าคุณเอามือของคุณมาไว้ข้างหน้าและตะโกนอะไรก็ได้
คนเหล่านั้นจะปล่อยเป้าหมายไว้คนเดียวทันทีถ้าเหยื่อตะโกนหรือแสดงกิริยาว่าพวกเธอไม่กลัวที่จะต่อสู้และพวก
เขาก็จะมองหาเป้าหมายใหม่ที่ง่ายกว่าเดิม แต่ถ้าคุณมีสเปรย์พริกไทย ตะโกนออกไปว่าชั้นมีสเปรย์พริกไทย และโชว์ให้มันดู
ถ้ามีใครกระชากคุณคุณจะไม่สามารถใช้กำลังในการต่อสู้ได้เลยแต่คุณสามารถเอาชนะมันได้ด้วยปัญญา ถ้าเค้ากระชากข้อมือของคุณ
กลับมือของคุณก็จะเปลี่ยนทิศทางบิดข้อมือคุณคือและดึงแขนคุณออกไปมันยากที่จะจับข้อมือที่บิดอยู่ให้ไปในทางนั้น
และคนที่ปองร้ายคุณก็จะเสียหลักและคุณก็จะเสียหลักถอยหลังออกมาและคุณก็สามารถใช้แรงผลักนั้น เขกมะเหงกไปที่หน้าผาก
หรือจมูก หรือฟันของคนร้ายได้แต่ถ้าคุณถูกกระชากข้อมือจากข้างหลังให้หยิกคนร้ายตรงใต้แขนระหว่างรักแร้และข้อศอกหรือตรงบริเวณ
เนื้อส่วนใน มีผู้หญิงคนหนึ่งกล่าวว่าเธอได้ลองใช้วิธีนี้กับผู้ชายคนหนึ่งที่ต้องการจะข่มขืนเธอเธอหยิกจนเนื้อฉีกและจนถึงบริเวณกล้ามเนื้อของชาย
คนนั้นและชายคนนั้นเลยต้องไปหาหมอเย็บแผลหลังจากการหยิกหรือตีแล้ว เป้าหมายต่อไปคือ ต้นขา (ไข่)มันเป็นสิ่งที่แน่นอนว่า ถ้าคุณไปตบ
บริเวณนั้นของผู้ชายจะสร้างความเจ็บปวดเป็นอย่างมากคุณอาจจะติดว่าถ้าคุณทำอย่างนั้น คุณจะทำให้เค้าโกรธขึ้นมาและทำร้ายคุณมากกว่าเดิม
แต่นักโทษให้สัมภาษณ์ว่าพวกเค้าต้องการผู้หญิงที่ไม่ก่อปัญหามากมายเริ่มสร้างปัญหาซะและพวกเค้าก็จะไปจากคุณ แต่ถ้าเมื่อชายคนนั้นวางมือ
บนคุณ ให้กระชากนิ้วเค้า 2 นิ้ว และหักไปในทางตรงข้ามให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และมันจะสร้างความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
ผู้สอนได้ลองทำกับชั้นโดยไม่ได้ทำให้เจ็บมากและชั้นก็ถึงกับเข่าอ่อน และทุบบอกให้หยุด แต่สิ่งเหล่านี้ต้องมีการนำไปใช้อย่างเหมาะสม
ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมด้วยพาใครซักคนไปกับคุณถ้าเป็นไปได้ถ้าเห็นใครบางคนมีพฤติกรรมแปลก ๆ ให้ระวังตัว มีสติให้มั่น
คุณอาจจะรู้สึกว่าคุณเหมือนคนโง่ในช่วงนั้น แต่คุณจะยิ่งแย่กว่านั้นถ้าชายคนนั้นเป็นปัญหาจริง ๆ
กรุณาส่งข้อความนี้ไปให้ผู้หญิงทุกคนที่คุณรู้จัก
มันจะได้เป็นการช่วยเหลือเธอได้ "สิ่งนี้" คือคำกล่าวของ นักโทษชาย
Credit:FW Mail