เข้าได้ทุกคน 
ตั้งกระทู้ใหม่ 
หน้าสมาชิก
9 ความหมายของคนสร้างจดหมายลูกโซ่
= 1.ผู้ทำร้ายจิตของผู้อื่น
2.ผู้ก่อกวน ทั้งใจ (จิตใจ) ทั้งกาย (ต้องมานั้งลบ)
3.ผู้ที่เห็นแก่ความสนุกของตัวเอง
4.ผู้ที่ทำอะไรดีดีไม่ทำ
5.ผู้ที่ทำบาปทางอ้อม
6.ผู้ที่พูดอะไรสอนอะไรไม่รูู้จักทำ
7.ผู้ที่ลองของ (คนที่เขียนเกี่ยวกับผีๆ และชีวิตอะนะ)
8.ผู้ที่ผีหรือสิ่งที่ถูกลบหลู่จะมาเอาคืน
9.ผู้ที่จะเจอในสิ่งที่ตัวเองเขียน
สาธุถ้าใครสร้างจดหมายลูกโซ่อีก
ขอให้เจอกับ 3 ข้อ สุดท้าย
เออถ้าพูดกระทบไป อย่า ว่าเราน่ะ
(โดยเฉพาะคนที่เขียนจดหมายลูกโซ่หนะ)
ส่วนคนที่เขียนต่อเพราะ กลัวก็ไม่เป็นไรน่ะ
ขอให้มันกลับไปถึงคนสร้างเถอะ
หยุดเถอะน่ะ จ. ลูกโซ่ หนะ OK สงสารคนอื่นน่ะ
จดหมายลูกโซ่นั้นถือว่าเป็นอุปทานอย่างหนึ่ง โดยผู้เริ่มต้นอาศัยความกลัวของผู้ที่ได้รับจดหมายให้ต้องเขียนจดหมายไปยังเพื่อนฝูงหรือคนที่รู้จัก
โดยมีลักษณะในเชิงข่มขู่ว่าหากไม่ทำตามนั้นอาจจะประสบกับหายนะบางอย่างพร้อมยกตัวอย่างคนที่ประสบเหตุแล้ว หรือหากทำตามนั้นแล้วจะ
ถูกล็อตเตอร์รี่รางวัลที่ 1 หรือได้ลาภก่อนใหญ่เพื่อเป็นการตอบสนองความโลภของผู้ที่ได้รับจดหมายนั้น ทั้ง ๆ ที่หากพิจารณาถึงความเป็นจริง
แล้ว หากจะให้ทุกคนที่อยู่ในวงจรของจดหมายลูกโซ่นี้ถูกรางวัลที่ 1 สมมุติแค่ให้เขียนแล้วส่งแค่ 20 ฉบับ กว่าคนรุ่นแรกจะถูกรางวัลที่ 1 ครบ
ทุกคน จะต้องใช้เวลา 10 เดือน หรือรุ่นที่ 2 ซึ่งจะแตกออกไปอีกเป็น 400 ฉบับ จะต้องใช้เวลาอีก 16 ปี 4 เดือน แล้วต้องรอจนคนรุ่นแรกถูก
รางวัลที่ 1 หมดทุกรายก่อน แล้วรอบ 3 จะประมาณ 8,000 ฉบับ ต้องใช้เวลาอีก 333 ปี 2 เดือน แล้วต้องรอให้จดหมายลูกโซ่รอบ 2 ถูกล็อตเตอร์รี่รางวัลที่ 1 ถูกหวยตามลำดับเสียก่อนด้วย
นี่ผู้เขียนได้เขียนถึงความเป็นไปได้ว่าถ้าทุกคนกลัวจดหมายลูกโซ่แล้วทำตามนั้นพร้อมกันหมดจะเกิดอะไรขึ้น เพื่อที่จะชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้
ว่าจะเกิดขึ้นตามนั้นจริงได้มากน้อยเพียงใด นี่ยกตัวอย่างว่าเขียนแค่ 20 ฉบับ ถ้าลองว่าเปลี่ยนจาก 20 ฉบับเป็น 30 - 501 ฉบับดูว่าจะต้องใช้
เวลากี่ปีถึงคนรุ่น 3 ที่ได้รับจดหมายจะถูกหวยรางวัลที่ 1 ครบหมดทุกคน จดหมายลูกโซ่จึงเป็นปัญหาอย่างหนึ่งของสังคมไทย เพราะเราเองต้อง
ยอมรับว่าฟังอะไรต่อมิอะไรมาก็เชื่อหรือเกิดความกลัวขึ้น แล้วทำอะไรไปด้วยความกลัวแล้วไม่ทันฉุกคิดหรือเฉลียวใจว่ามันจะมีโอกาสเป็นไปได้
หรือไม่อย่างไร
เรื่องที่ควรสนใจกลับไม่สนใจ เพราะหลายคนต้องการความสบายนั่นก็ส่วนหนึ่ง การเขียนจดหมายลูกโซ่ส่งให้เพื่อนแล้วจะถูกรางวัลที่ 1 โดย
เขียนเพียง 20 ฉบับเท่านั้นถือว่าลงทุนน้อยได้ผลประโยชน์งดงาม ได้ลาภมาอย่างสบาย ๆ เป็นที่น่าเย้ายวนสำหรับผู้ที่มีความโลภ แล้วถ้าให้
พิจารณาอีกแง่มุมหนึ่ง สมมุติว่าคนไทยมีคนทุกคน 65 ล้านคน อ่านออกเขียนได้หมดทุกคนแล้วทุกคนเชื่องมงายในจดหมายลูกโซ่กันทุกคน
ยกตัวอย่าง 20 ฉบับต่อคน จะเขียนเพียง 6 รุ่นเท่านั้นจดหมายลูกโซ่นี้จะมีอยู่ในทุกคนทั่วประเทศแล้ว แล้วรุ่นที่ 6 จะต้องรอต่อจากรุ่นที่ 5 อีก
2,666,666 ปี 8 เดือน จึงจะถูกหวยรางวัลที่ 1 กันหมดทั้งประเทศ
หากเราทั้งหลายคิดกันสักนิดจะเห็นภาพอย่างที่ผู้เขียนอธิบายมา นี่ยังไม่นับภาระที่ไปรษณีย์จะต้องทำงานหนักโดยไม่จำเป็น หรือหากเกิด hoax
ขึ้นกับระบบ Online แล้วทุกคนต่างก็ส่ง e-mail hoax กันหมดอะไรจะเกิดขึ้นกับระบบ mail server ของ internet บ้าง แต่ในความเป็นจริงมัน
ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะถ้ามันเป็นเช่นนั้นจริง Internet คงล่มไปแล้ว แต่แน่นอนว่าผู้เขียนจะเขียนเพื่อสะท้อนให้เห็นปัญหาจดหมายลูกโซ่เท่านั้น
ว่าความน่าจะเป็นสูงสุดจะเป็นอย่างไรได้บ้าง เพราะก็มีไม่น้อยที่เชื่อในจดหมายลูกโซ่ ไม่เว้นผู้เขียนเอง เขีรยนจดหมายถึงเพื่อนจนแทบจะจำเนื้อ
ความในจดหมายได้เลย แม้แต่ตอนนี้ซึ่งผ่านมาแล้วเกือบ 20 ปี ยังจำได้เลยว่าสิ่งที่เขียนถึงเพื่อนจะเกี่ยวข้องกับวัดบางโคนม ต่อจากนั้นผู้เขียนก็
ถูกเพื่อนตำหนิ เพราะเพื่อน ๆ จำลายมืออันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของผู้เขียนได้ แต่ตอนนั้นผู้เขียนยังไร้ปัญญาอยุ่ จึงไม่ได้เฉลียวใจว่ามันจะเกิด
อะไรขึ้น เมื่อไม่เฉลียวใจด้วยความโง่เขลาเบาปัญญาของผู้เขียนเอง ปัญญาไม่เกิดแต่ปัญหาเกิดขึ้นแทนตามที่ผู้เขียนเล่ามานั่นเอง
ดังนั้นหากเราตั้งมั่นอยู่กับการปฏิบัติตามหลักพุทธศาสนา แล้วรู้จักใช้ปฏิจจสมุปบาทคิดก่อนทำสักนิด ปัญหาที่จะเกิดก็จะไม่เกิดขึ้น ฉะนั้นการที่
ใครก็ตามสอนให้เชื่อตนแล้วต้องเชื่อโดยไม่ให้เขาได้คิดก่อนจึงมีผลเสียมากกว่าผลดี แล้วผลเสียที่เกิดขึ้นบางทีผลลัพธ์ที่ได้อาจจะเป็นอย่างที่ผู้
เขียนอธิบายมาแล้วก็ได้ ปฏิจจสมุปบาทจึงมีความหมายเป็นนัยยะอีกอย่างว่า คิดให้รอบคอบก่อนที่จะลงมือทำ คิดเสียก่อนว่าทำไปแล้วอะไรเกิดขึ้นหรือถ้าไม่ทำจะเป็นอย่างไร คือถ้าอธิบายภาษาธรรม คือทำนั้นเป็นเหตุส่วนปัจจัยนั้นเป็นผล หรือทำอะไรแล้วได้อะไร
ถัดไปไม่รู้จบนั่นเอง
จดหมายลูกโซ่ เป็นจดหมายที่ทำให้คนอ่านต้องปวดหัว วิงเวียนศรีษะ และหวาดกลัว หลอน จิตเสื่อม เพราะในเนื้อหานั้นเต็มไปด้วยความชั่วร้าย
ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความชั่วร้ายของคำสาป ความชั่วร้ายของคนส่ง ความชั่วร้ายของคนแต่ง ความฉลาดที่มีไม่เพียงพอต่อมนุษย์ของคนเชื่อ
ฯลฯ ซึ่งเป็นจดหมายที่ทำให้บอร์ดรก ดูไม่สวยงามตา และเป็นข้อความที่น่าเบื่อที่สุด ( รองจากข้อความโฆษณา ) มีผู้ประสงค์ร้ายหลายคนที่กะจะ
ล้างสมอง ทำให้ผู้คนที่อ่านหวาดกลัว และไม่กล้าฝืนคำสั่ง เพราะถ้าฝืนก็จะเจอดีแน่ !!! เพราะฉะนั้น หากท่านใดได้อ่านบทความนี้แล้ว จงส่งต่อไป
อีก 0 บทความ 0 หน้าพูดคุย และต้องอัพโหลดรูปอีกจำนวน 0 รูป 0 เพลง และลบ 0 บทความ ภายในเวลา 6,000 ปี มิฉะนั้นคุณจะต้องตกส้วมตาย
, โดนรถบดถนนทับ , โดนโอตาคุข่มขืน , โดนแทงคาที่ , โดน ฯลฯ ตาย แต่หากคุณทำตาม คุณก็จะกลายเป็นคนบ้า , เสียสติ , ความฉลาดหลัก
แหลมไม่เพียงพอ , ได้พักที่ศรีทันย่าฟรีพร้อมแพ็คเก็จมากมาย และอื่นๆ อีกมากมาย
จดหมายลูกโซ่ เดิมนั้นอยู่ในรูปจดหมายที่เขียนด้วยกระดาษ ซึ่งภายในมีข้อความระบุให้ส่งจดหมายไปยังผู้รับรายต่อไป หรือในบางกรณีก็ให้ทำ
สำเนาเพื่อส่งต่อไปยังผู้รับตามจำนวนที่ระบุไว้ชัดเจน ซึ่งหากหลงเชื่อปฏิบติไปตามนั้นจะเป็นเหตุให้จดหมายถูกแพร่กระจายออกไปไม่รู้จบ ปัจจุบัน
นี้ จดหมายลูกโซ่ได้พัฒนาไปสู่การส่งข้อความผ่านทาง อีเมล หรือทาง เว็บบอร์ด เป็นต้น ซึ่งข้อความที่มักพบเห็นได้แก่ การแจ้งเตือนปัญหาไวรัส
หรือแจ้งเตือนว่าผู้ให้บริการฟรีอีเมล์จะทำการเก็บค่าบริการ หรืออ้างว่าการส่งต่อนั้นจะก่อให้เกิดการบริจาคทางการกุศล เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็น
ข้อมูลที่เขียนขึ้นโดยมิได้อิงอยูบนข้อเท็จจริงแต่อย่างใด...
เพราะฉะนั้นอย่าหลงเข้าใจผิดนะคะ
, โดนแทงคาที่ , โดน ฯลฯ 
โดน บ่อยมากเลย 
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก