Cradit:ภาคินัย
...ทันที่ที่เสียงกระดิ่งตรงประตูดัง ”กิ่งเกด” ที่กำลังวุ่นวายอยู่กับการใส่เสื้อผ้าโชว์หุ่นก็รีบวางมือแล้วเดินมาต้อนรับลูกค้าหน้าร้านอย่างรวดเร็ว
“สวัสดีค่ะคุณหญิงพี่...แหม หายหน้าไปนานเลยนะคะพักนี้” กิ่งเกดไหว้คุณหญิงพี่อย่างนอบน้อม ก่อนจะสังเกตเห็นผู้หญิงแต่งตัวดีอีกสองคนยืนอยู่ข้างหลังคุณหญิงพี่ กิ่งเกดหันไปไหว้ทั้งสองรับไหว้อย่างไว้ตัว
“พอดีคุณหญิงพี่ไปดึงหน้าที่ปารีสมาน่ะค่ะ...อ้อ! วันนี้คุณหญิงพี่พาเพื่อนมาด้วย กะว่าจะมาหาชุดผ้าไหมสักชุดเอาไปใส่ในงานเลี้ยงของท่านนายกน่ะค่ะ” กิ่งเกดยิ้มอย่างเสแสร้งก่อนจะสังเกตใบหน้าของคุณหญิงพี่ที่ยัง “เหี่ยว” เหมือนเดิม รุ่นนี้ต้องถลกหนังหัวออกถึงจะทำหน้าเด้งอย่างสาวๆได้ กิ่งเกดคิดในใจ
“เลือกตามสบายนะคะคุณหญิงพี่ ออร์เดอร์เพิ่งเข้ามาเมื่อเช้านี้เองค่ะ” คุณหญิงพี่พยักหน้ารับรู้แล้วหันไปพูดกับเพื่อนที่มาด้วย
“นี่เธอ...ชุดที่นี่น่ะ ฉันรับประกันว่าซื้อไปแล้วไม่ซ้ำกับใครแน่นอน เพราะเขาตัดแบบละตัวจ้ะ” คุณหญิงพี่เดินไปอีกทางพร้อมกับเพื่อนอีกคน ส่วนอีกคนหนึ่งเดินออกมาทางตู้โชว์เครื่องประดับเงินที่ส่องแสงประกายสวยงามยามกระทบกับแสงไฟในตู้โชว์ กิ่งเกดเดินไปหลังร้านแล้วออกมาพร้อมแก้วน้ำส้มคั้นสามแก้ว
“น้ำส้มค่ะ คุณหญิงพี่” กิ่งเกดส่งแก้วน้ำให้คุณหญิงพี่กับเพื่อนอีกคนที่กำลังเลือกดูเสื้อผ้าไหมตีนจกของศรีสัชนาลัยอย่างสนุกสนาน
“ส้มสายน้ำผึ้งจากไร่ที่เชียงใหม่เลยนะคะ คุณน้องคั้นเองกับมือ” ทันทีที่กิ่งเกดพูดจบ คุณหญิงพี่ก็ยกแก้วน้ำส้มขึ้นมาดื่มแล้วทำหน้าพอใจ
“หวานกำลังดีนะคะ คุณหญิงพี่เห็นที่มันเป็นขวดๆข้างทางแล้วรับไม่ได้เลยค่ะ กลัวทานไปแล้วท้องเสีย”
เพื่อนคุณหญิงพี่พยักหน้าเห็นด้วย กิ่งเกดยิ้มแหยๆ
...ก็นี่แหละน้ำส้มขวดละสิบบาทหน้าปากซอย ใครจะลงทุนคั้นน้ำส้มสายน้ำผึ้งล่ะ แพงจะตาย...
“คุณน้องขา ตัวนี้สวยจังเลยค่ะ” คุณหญิงพี่หยิบเสื้อผ้าไหมสีทองที่ชายเสื้อปักด้วยตีนจกสีทองขึ้นมาทาบกับตัว แล้วหันไปมองกระจกเงาบานใหญ่ข้างๆ เผยให้เห็นจิ้งจกตัวหนึ่งที่ทาปากสีแดงสดกำลังลองเสื้อ...คุณหญิงพี่นั่นเอง
“อ๋อ...ตัวนี้สั่งตัดพิเศษเลยค่ะคุณหญิงพี่ นี่คุณน้องกำลังคิดอยู่ว่าใครจะเหมาะกับเสื้อสุดหรูตัวนี้ จนคุณน้องเห็นคุณหญิงพี่ทาบกับตัวเมื่อกี้ถึงได้รู้ว่าเสื้อตัวนี้ไม่ควรค่าแก่ใครนอกจาก...คุณหญิงพี่ค่ะ...”
...ตอแหลเก่งโดยกำเนิด...
“จริงเหรอคะคุณน้อง ถ้าอย่างนั้นคุณหญิงพี่ขอลองหน่อยนะคะ”
“เชิญเลยค่ะคุณหญิงพี่ ตามสบายเลยนะคะ” คุณหญิงพี่รีบเดินไปที่ห้องลองเสื้อโดยมีเพื่อนเดินตามไปติดๆ กิ่งเกดหยิบถาดที่มีแก้วน้ำส้มเหลืออีกหนึ่งใบ เดินตรงไปที่เพื่อนคุณหญิงพี่อีกคน
“น้ำส้มค่ะ” กิ่งเกดหยิบแก้วน้ำส้มส่งให้เธอที่กำลังจ้องกระเป๋าถือใบเก๋ที่ทำจากเงินแท้ๆสลักรูปช้างในป่าหิมพานต์อยู่ เธอหันมารับแก้วน้ำส้มแล้วยิ้มน้อยๆให้กิ่งเกด
“ขอบใจจ้ะ” กิ่งเกดสังเกตเห็นเธอสนใจเครื่องเงินเป็นพิเศษเลยเริ่มสาธยายคุณภาพเครื่องเงินในร้านเกินจริง เพื่อยั่วยวนให้เธอซื้อกลับไปสักชิ้นให้ได้
“เครื่องเงินของร้านเราเป็นเงินแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์นะคะ สั่งทำพิเศษจากทางเหนือ คุณพี่สังเกตไหมคะว่ารูปแบบของร้านเราจะดูเก๋ไก๋กว่าร้านอื่น เพราะร้านเรามีออร์เดอร์มาจากฝรั่งเศสอยู่บ่อยๆ”
...อย่าไปที่ฝั่งลาวล่ะ เจอแบบนี้เป็นเบือ...
เธอดูสนอกสนใจมากกว่าเก่าจนกิ่งเกดตัวสั่นระริกๆเหมือนโดนน้ำมนต์ แต่ไม่ใช่...ที่กิ่งเกดสั่นเพราะเธอกำลังจะขายของได้ แม่คุณคงไม่รู้ว่าของในตู้นี้เก่าเก็บข้ามชาติมานานเหลือเกิน แต่กิ่งเกดกำลังจะโละมันได้แล้ว
“คุณพี่สนใจชิ้นไหนคะ เดี๋ยวคุณน้องลดให้พิเศษ” กิ่งเกดพยายามโน้มน้าวใจ
“ถ้าอย่างนั้นคุณพี่ขอดูชิ้นนั้นหน่อยซิคะ” เธอชี้มือไปที่เข็มขัดเงินเส้นโต ที่หัวเข็มขัดประดับด้วยทับทิมทำเป็นรูปนกยูงกำลังรำแพนหาง ตรงจะงอยปากประดับด้วยพลอยสีแดงสดเม็ดโต กิ่งเกดหยิบชิ้นนั้นออกมาให้เธอดู
“คุณพี่ตาถึงนะคะ อันนี้สวยมากค่ะ”
เธอหยิบขึ้นมาดูอย่างถี่ถ้วนแล้วเอาลองคาดเอวของเธอดู กิ่งเกดสังเกตว่าเธอคงพอใจมากดูจากแววตาที่จ้องอย่างไม่กระพริบ มือเธอลูบคลำเหมือนอยากเป็นเจ้าของมันเต็มทน
“เท่าไหร่คะ คุณน้อง” เธอถาม
“คุณน้องลดให้คุณพี่พิเศษเลยค่ะ หมื่นสอง”
“อะไรนะคะ” เธอทำตาโตเป็นไข่ไดโนเสาร์
“หมื่นสองค่ะ” กิ่งเกดย้ำ
เธอดูหน้าเสียเล็กน้อยแล้วค่อยๆวางเข็มขัดเส้นนั้นลง กิ่งเกดเห็นไม่ได้การณ์รีบโน้มน้าวต่ออย่างทันท่วงที
“คุณน้องลดให้อีกก็ได้ค่ะ ลดแบบลืมทุนเลยนะคะ หมื่นถ้วนๆค่ะ”
“ค่อยคุยกันได้หน่อย งั้นคุณพี่เอาเส้นนี้ค่ะ”
กิ่งเกดดีใจรีบหยิบกล่องผ้ากำมะหยี่สีแดงใบเขื่องขึ้นมาแล้วม้วนข็มขัดงินให้ได้รูป ก่อนบรรจงจัดใส่ในกล่องให้ดูสวยงามสมราคาหนึ่งหมื่นบาท
...กิ่งเกดหัวเราะในใจ ต้นทุนแค่ห้าพันสอง...
“อุ๊ย! สร้อยเส้นนั้นเก๋จังนะคะ” เธอชี้ไปที่สร้อยเงินถักเป็นเปียเส้นยาวตรงจี้เป็นลูกตุ้มสามลูกที่ประดับด้วยไพลินสีสด
“เส้นนี้คุณน้องเห็นว่าคงไม่ได้ค่ะ”
“ทำไมล่ะค่ะ คุณน้อง”
“เส้นนี้ มีคุณหญิงพจมึน ชินกับวัดจองไว้แล้วค่ะ”
เธอทำหน้าเสียดายสุดขีดตามแผนที่กิ่งเกดวางแผนไว้เป๊ะ กิ่งเกดแกล้งทำหน้าเห็นใจแล้วหยิบสร้อยเส้นนั้นขึ้นมาวางล่อตาล่อใจยิ่งขึ้นไปอีก
“คุณพี่อยากได้มากเหรอคะ”
“ค่ะ คุณน้อง คุณพี่อยากได้มาก” เธฮเสียงอ่อย คงอยากได้จริงๆ
“ถ้าอย่างนั้นคุณน้องจะขายให้คุณพี่ก่อนแล้วกันนะคะ เดี๋ยวค่อยบอกคุณหญิงพจมึนว่าของมีตำหนิ แต่จริงๆไม่มีนะคะ นี่คุณน้องเห็นว่าคุณพี่อยากได้มากแล้วคุณพี่ก็มากับคุณหญิงพี่คนสำคัญของร้านด้วย คุณน้องถึงยอมนะคะเนี่ยะ”
เธอดีใจรีบคว้าสร้อยไปลองกับกระจก แล้วทำหน้าพึงพอใจอย่างมาก กิ่งเกดแอบยิ้มขายได้อีกชิ้น วันนี้รับเละ
“เท่าไหร่คะคุณน้อง”
“สองหมื่นห้า ต่อไม่ได้นะคะ ถ้าคุณพี่ต่อน้องจะเก็บไว้ให้คุณหญิงพจมึน” กิ่งเกดขู่
“แหม...ไม่ต่อหรอกค่ะคุณน้อง ตกลงคุณพี่รับเส้นนี้ด้วย”
กิ่งเกดหยิบกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินใบโตขึ้นมาแล้วหยิบสร้อยเส้นนั้นวางอย่างสวยงามในกล่อง ก่อนจะหยิบถุงกระดาษสีดำมีตัวอักษรสีเงินว่า “กิ่งเกดผ้าไหมไทย” ขึ้นและค่อยๆวางกล่องกำมะหยี่สีแดงวางลงไปก่อนแล้วตามด้วยกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงิน
“สรุปแล้วเท่าไหร่คะคุณน้อง” เธอถามแล้วหยิบกระเป๋าเงินขึ้นมา
“สามหมื่นห้าพันบาทค่ะ คุณพี่จะสะดวกจ่ายเป็นเงินสดหรือบัตรเครดิตดีคะ”
“บัตรเครดิตค่ะ”
เธอเปิดกระเป๋าเงินแล้วล้วงหาอะไรบางอย่าง กิ่งเกดชะเง้อมองอย่างสนอกสนใจ พอเธอหันมากิ่งเกดก็ยิ้มหวานสุดชีวิตเท่าที่ความสามารถของเธอพึงมี
“คุณน้องคะ คุณพี่ลืมเอาบัตรเครดิตมา เงินสดก็ไม่พอด้วย”
“อ้าว” กิ่งเกดหน้าเสีย
“เอายังไงดีล่ะ เอ่อ...เพื่อนของคุณพี่อยู่ที่ไหนคะ” เธอถามพร้อมชะเง้อมองหา
“ลองเสื้ออยู่หลังร้านค่ะ จะให้คุณน้องไปตามไหมคะ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะคุณน้อง เดี๋ยวคุณพี่โทรเข้าไปเองดีกว่า” พอเธอพูดจบก็ยกโทรศัพท์ยี่ห้อดังขึ้นมากดปุ่มอย่างชำนาญ
“นี่เธอ ฉันซื้อของไปสามหมื่นห้าแต่ลืมเอาบัตรเครดิตมา ก็เมื่อวานไปซื้อเครื่องเพชรมาน่ะสิ แล้วคงลืมไว้ในกระเป๋าอีกใบ ยังไงจ่ายให้ฉันก่อนแล้วกัน ออ...เดี๋ยวฉันต้องกลับก่อนนะ ลูกพิณเลิกเรียนเปียโนตอนบ่ายสองต้องรีบไปรับ โอเค โอเค บาย” เธอวางโทรศัพท์แล้วหันมาทางกิ่งเกด
“เดี๋ยวเพื่อนคุณพี่จ่ายให้ก่อน ไม่มีปัญหานะคะ”
“ได้เลยค่ะคุณพี่” กิ่งเกดพูดพร้อมยื่นถุงใส่ของให้ เธอรับไปแล้วส่งนามบัตรมาให้กิ่งเกด กิ่งเกดรับไว้อย่างนอบน้อม
“วันหลังคุณพี่จะมาอุดหนุนใหม่ มีอะไรก็โทรหาคุณพี่ได้นะคะ” เธอบอกลาแล้วเดินออกไป กิ่งเกดหยิบนามบัตรขึ้นดูแล้วทำตาโต
“หม่อมราชวงศ์วิลิศมาหรา เลิศหรูอลังการสรวงสวรรค์ โห! ไฮโซนี่นา น่าจะโก่งราคาอีกหน่อย ลูกค้าคนสำคัญอย่างนี้” กิ่งเกดบ่นเบาๆจังหวะเดียวกับคุณหญิงพี่เดินคุยกับเพื่อนออกมาจากทางหลังร้าน กิ่งเกดรีบเดินเข้าไปหา
“ว่าไงคะคุณหญิงพี่ ชอบไหมคะ”
“ชอบน่ะชอบคุณน้อง แต่คุณหญิงพี่ว่ามันไม่เหมาะกับรูปร่างของคุณหญิงพี่เลยค่ะ”
...โถ่เอ๊ย! อีจิ้งจก ไม่ซื้อก็บอกมาเถอะ แต่ก็ยังดีที่ขายของได้ตั้งสามหมื่นห้าวันนี้...
“งั้นคุณหญิงพี่ขอตัวกลับก่อนนะคะ วันหลังจะมาอุดหนุนใหม่”
คุณหญิงพี่กับเพื่อนกำลังจะเดินออกไป กิ่งเกดนึกได้รีบวิ่งตาม
“เดี๋ยวค่ะ คุณหญิงพี่ คุณหญิงพี่ลืมอะไรหรือเปล่าค่ะ” กิ่งเกดแกล้งยิ้ม
“เปล่านี่คะ”
...อีจิ้งจกแกล้งลืมงั้นเหรอ...
“ก็เพื่อนคุณหญิงพี่บอกว่าให้คุณหญิงพี่จ่ายค่าของให้ก่อนไงคะ”
“เพื่อน” คุณหญิงพี่ทำหน้าสงสัยแล้วหันมองเพื่อนที่ยืนข้างๆ
“ก็นี่ไงคะเพื่อนคุณหญิงพี่”
“ไม่ใช่คนนี้ค่ะ อีกคน” กิ่งเกดเริ่มใจไม่ดี
“คุณหญิงพี่มากันแค่สองคนนะคะ อีกคนหนึ่งไม่ใช่เพื่อนคุณหญิงพี่ค่ะ”
“หา”
กิ่งเกดเห็นห้องหมุนติ้วๆเป็นวงกลมก่อนจะคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ตามนามบัตรที่เธอให้ไว้อย่างร้อนรน แล้วพอกิ่งเกดได้ยินเสียงตอบรับ กิ่งเกดก็ทรุดลงกับพื้นทันที ปล่อยให้เสียงในโทรศัพท์ดังซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า
...หมายเลขที่ท่านเรียกยังไม่เปิดให้บริการ...
..............................................................จบ