เส้นเลือดสีขาว ความโชคดีบนความโชคร้ายแห่งชีวิต
โดย ทีมวิชาการ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) 20 มีนาคม 2549 09:31 น.
ประสบการณ์ หนทางผ่าฟันชีวิตของใครบางคน อาจเป็นเสมือนต้นแบบให้ใครต่อใครอีกหลายคนได้ เหมือนเช่นเหตุการณ์ในอดีตของ...ณิชชารีย์ เดชส่งจรัส “โบ” นิสิตชั้นปีที่ 4 สาขาวรรณกรรมสำหรับเด็ก คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ได้ถ่ายทอดเรื่องราวในช่วงวัยเด็กเป็นสารนิพนธ์เพื่อส่งอาจารย์ก่อนจบการศึกษา เรื่องราวเหล่านี้เป็นเรื่องจริง ถูกบอกเล่าเป็นตัวหนังสือ ใช้ชื่อว่า “เส้นเลือดสีขาว”
โบ เล่าเสียงสดใสว่า ในวัยอายุ 13 เคยป่วยเป็นโรคมะเร็งในเม็ดเลือด จากการรักษาตัว ดูแลตัวเอง ได้รับกำลังใจทุกรูปแบบ ทำให้โบหายจากโรคร้ายนี้ ด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูกจากน้องสาว หนังสือเล่มนี้จะเป็นเหมือนเพื่อนให้กับคนที่มีปัญหาในรูปแบบต่างๆ ได้มีกำลังใจในการสู้ชีวิต โดยเฉพาะคนที่ป่วยเป็นโรคต่างๆ อยู่ในขณะนี้
วรรณกรรมเรื่องนี้ เจ้าของผลงานต้องการให้เป็นวรรณกรรมสำหรับวัยรุ่น เพื่อสื่อถึงวัยรุ่นทุกคนเป็นการให้ความเข้าใจและเข้าถึงชีวิตว่าในวัย 13 นั้นมันอาจเกิดอะไรขึ้นได้กับชีวิตของเราก็ได้ บางคนอาจเกิดอุบัติเหตุในชีวิต ต้องอยู่โรงพยาบาลนานๆ และต้องหยุดเรียน ประสบการณ์ของโบ เธอจึงอยากถ่ายทอดแบ่งปันให้วัยรุ่นคนอื่นได้รับรู้
หากย้อนกลับไป โบบอกว่ามันผ่านมา 9 ปีแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดซึ่งทำให้ผ่านพ้นช่วงเวลานั้นมาได้ คือ “กำลังใจ” จากครอบครัว คุณหมอ
“การมีชีวิตอยู่ของวัยรุ่นทุกคน หากมีโอกาสเรียนและมีโอกาสทำในสิ่งที่ดีๆ ให้ทำเถอะเพราะคุณมีโอกาส ยังมีวัยรุ่นอีกจำนวนมากที่เขาไม่มีโอกาสเช่นคุณ บางคนป่วยหรือไม่มีเงินที่จะเรียน เขาไม่มีโอกาสเช่นคุณ ดังนั้นเมื่อเรามีร่างกายที่สมบูรณ์ มีหน้าที่เรียนหนังสือก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เชื่อฟังคุณพ่อคุณแม่ เพราะช่วงเวลาที่คุณมีโอกาสและยังมีชีวิต คุณต้องใช้โอกาสของคุณให้เต็มที่ เพราะเราไม่รู้เลยว่าวันหนึ่งไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต”
รูปแบบการถ่ายทอดเรื่องราว เธอเลือกการเขียนไดอารี่เป็นสื่อ บอกเล่าเหตุการณ์แต่ละวันว่ามีอะไรผ่านเข้ามาในชีวิต การเขียนไดอารี่ถือเป็นเหตุการณ์ที่จะเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นได้
ภาษาหรือเรื่องราวที่นำเสนอง่ายต่อความเข้าใจ เข้าถึงอารมณ์ได้ง่าย หากใครได้ผลงานชิ้นนี้ของเธอ หรือฟังเธออ่านให้ฟัง รับรองว่าคุณจะน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“ตอนนั้นต้องหยุดเรียนประมาณ 1 ปีกว่า กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.3 แต่โบใช้วิธีเรียนหนังสือที่บ้าน ทางโรงเรียนเซ็นต์โยเซบบางนาเข้าใจและให้โอกาส เมื่อถึงเวลาก็ไปสอบ จากนั้นก็สามารถกลับไปเรียนที่โรงเรียนได้ในชั้น ม.4 – ม.6 จากนั้นก็เลือกสอบเข้ามหาวิทยาลัยในสาขาวรรณกรรมสำหรับเด็ก คณะมนุษยศาสตร์ที่ มศว”
ช่วงที่อยู่โรงพยาบาล โบต้องอยู่ในห้องปลอดเชื้อ เธอต้องอยู่คนเดียว แม้กระทั่งพ่อแม่ก็ห้ามเข้าไป โบมีหนังสือเป็นเพื่อน ตอนนั้นหนังสือวัยรุ่นที่พูดถึงเรื่องมะเร็งในเม็ดเลือดยังไม่มี มีแต่หนังสือที่พูดถึงมะเร็งในวัยผู้ใหญ่ ถ้าตอนนั้นมีหนังสือที่เหมือนกับเรื่องราวที่เธอถ่ายทอดในขณะนี้ จะเป็นเรื่องใกล้กับตัวเธอมาก โบ..บอกว่าคงดีไม่น้อย แต่อย่างไรก็ตามเธอได้หนังสือเรื่องอื่นๆ เป็นเพื่อนในตอนนั้น
“จากการที่ป่วยเป็นมะเร็งในเม็ดเลือด และต้องปลูกไขกระดูก ทำให้ได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ ตลอดเวลา เหมือนเป็นความโชคดีบนความโชคร้ายที่เราเป็นโรคนี้ หลังจากนั้นโบได้เป็นกรณีตัวอย่างให้กับนักศึกษาแพทย์ที่ร.พ.ศิริราช เมื่อเรียนอยู่ปี 4 ได้นำประสบการณ์เกี่ยวกับการป่วย มาสร้างเป็นผลงานวรรณกรรมของตัวเอง”
จะเห็นว่าเธอมีมุมมองในชีวิต ไม่มองอะไรแค่ด้านเดียว ยิ่งอยู่ใกล้ๆ เห็นได้ถึงความสงบ เยือกเย็นและดูมีสติ ภายในตัวเธอ ทุกวันนี้แม้โบจะใช้ชีวิตเหมือนเพื่อนๆ คนอื่นได้ แต่บางกิจกรรมเธอก็ต้องหลีกเลี่ยง ยังต้องดูแลและเฝ้าระมัดระวังตัวเอง อย่างมีสติไม่พลั้งเผลอในการใช้ชีวิต
อีกประโยคที่สะดุดใจเมื่อได้เปิดผลงานของโบ“อดทน อดกลั้น โรคนั้นจะหาย”
ประโยคนี้เป็นของน้องสาว เขาเขียนจดหมายและแต่งคำขวัญมาให้อย่างสม่ำเสมอ เพราะตอนที่นอนอยู่ที่โรงพยาบาลมีแต่พ่อแม่ที่หมออนุญาตให้เยี่ยมได้เท่านั้น
นอกจากจดหมายและคำพูดในจดหมายทุกๆ คำพูดของน้องสาวแล้วสิ่งที่โบได้รับจากน้องสาวคือ “ไขกระดูก” ซึ่งมีความจำเป็นมากสำหรับผู้ป่วยอย่างโบ
โบเชื่อว่า...ทุกๆ คนที่ประสบเหตุการณ์อย่างเธอ สามารถผ่านพ้นทุกอย่างได้ หากมีความอดทน อดกลั้น โรคนั้นจะหาย ทั้งนี้ต้องมีสติ เชื่อมั่นและศรัทธาด้วย
ผลงานเส้นเลือดสีขาว ได้รับรางวัลสารนิพนธ์ดีเด่น รางวัลวินนี่เดอะบุ๊ก ซึ่ง ดร.ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ให้การสนับสนุนในส่วนของรางวัล อีกทั้งยังได้รับการทาบทาบจากสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง จัดพิมพ์เป็นหนังสือสำหรับวัยรุ่น ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการส่งต้นฉบับให้สำหรับพิมพ์แห่งนั้นได้อ่าน
กระผมส่งเสริมให้ซื้อของแท้ครับ (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บข้างล่างครับ) ^_^
ตอนนี้อ่านได้ครึ่งเล่ม ดราม่ามาก T_T คงเข้ากับชีวิตใครบางคนนะครับแต่สำหรับผมมันโดนมากกกก !!
http://www.se-ed.com/eshop/Products/Detail.aspx?No=9789740476047
http://www.nanmeebooks.com/book/online_cat1_detail.php?bid=1877&isbn=0476-04-7
เมื่อท่านได้อ่านจบแล้วมาเล่าให้ฟังด้วยนะครับว่ารู้สึกยังไง
โปรโมท หนังสือดีจ้า
goodmen123 | #1 05-04-2012 - 13:06:10 | ||
|
noiymark | #2 05-04-2012 - 14:46:45 | ||
|
- 1
ลงข้อความได้เฉพาะสมาชิก ต้องสมัครเป็นสมาชิกและ login เข้าสู่ระบบก่อนถึงจะสามารถลงความเห็นได้ |
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล] |