ตอนที่ 1 บุญคุณ ต้องทดแทน
เสียงส้นสูงกระทบพื้นดังกึกกักมาตามทาง ก่อนท่อนขาอันเรียวยาวซึ่งโผล่พ้นมาจากเครื่องบิน เดินตรงมา ที่สนามบินสุวรรณภูมิ แล้วหยุดฝีเท้าลงตรงหน้ารถแท็กซี่ ที่จอดรออยู่หน้าสนามบินอยู่แล้ว
"นี่คุณ จะยืนสวยอีกนานไหมเนี่ย ถ้าไม่ขึ้นผมจะได้ไปทำมาหากินกับคนอื่นมั้ง"
เสียงชายแก่ ผิวสี มีหนวดหนา ยาว หน้าตาแบบโจรใต้ ตะโกนถามฉัน ขณะที่ฉันกำลังหยุดคิดอะไรบางอย่าง
"ไปสิลุง อืม... ไปพัทยา ฉันไม่ได้ไปนานแล้ว อืม...นั่นแหละตามนั้นแหละ พัทยา"
ฉันพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เพราะไม่ได้มาเที่ยวทะเลนานแล้ว เพราะมาเมืองไทยทีไรก็อยู่แต่กรุงเทพ น่าเบื่อจะตายชัก!!! และเมื่อฉันพูดจบลง ลุงแกก็ โวยวายขึ้นมาทำท่าอย่างกะบ้านตัวเองถูกไฟไหม้
"โอ๊ยนี้ยายหนู ลุงไม่ไปหรอนะพัทยาน่ะ ขี้เกียจ!!!"
"ก็ได้ หนูไปขึ้นคันอื่นก็ได้ ไม่ง้อ ลูกเมียลุง คงไม่อยากได้เงินค่าแท็กซี่ไปพัทยา ขาไปทีเดียวได้ตั้ง 50000 หรอกนะ น่าเสียดายแทน"
ฉันพูดพร้อมกับทำท่าจะลงรถ แล้วทำหน้าร่าเริง สดใสๆ
"นี่ๆ หนูๆ ลุงไปส่งก็ได้นะ ว่าแต่จริงๆนะ 50000 น่ะ แล้วรู้ได้ไงว่า เมีย กับลูกลุงต้องการใช้เงิน"
ตาลุงนั่น สงสัยจะเดือดร้อนเงินจริงๆสินะเนี่ย ที่ฉันรู้ว่าแกมีลูกเมีย แล้วกำลังต้องการใช้เงินน่ะหรอ ดูไม่ยากหรอกไหวพริบของฉันมันดีเริ่ดฮ่าๆ
ก็บนรถลุงแกมีรูปถ่ายวางตั้งข้างหน้าซะเป็นแถว มีรูปที่แกถ่ายคู่กับผู้หญิงอายุพอๆกับแก เดาๆได้ว่าต้องเป็นเมียแก แล้วไอ้ผู้ชายหนุ่มๆใส่ชุดกราวน์ (พิมพ์ถูกป่าวเนี่ย!!) แล้วใส่ถุงมือสีขาว ก็เดาได้อย่างเดียวคือกำลังเรียนหมออยู่ชัวร์ ถ้าเป็นหมอแล้วนะ พ่อคงไม่ต้องนั่งหลังขดหลังแข็ง ขับแท็กซี่หรอก แล้วสถานที่ถ่ายน่ะหรอ น่าจะเป็นร้านอาหารของเมีย แกเพราะเมียแกใส่ผ้ากันเปื้อน เพราะถ้าแกเป็นลูกจ้างร้านนี้นะ แกคงไม่ลากคนทั้งครอบครัวมาถ่ายรูปตรงนี้หรอก จริงมะ
แล้วสภาพร้านมันเก่าๆ โล่งๆ เหมือนไม่มีคน เดาได้อย่างเดาคือกำลังต้องการใช่เงินชัวร์
"เถอะน่าลุง หนูรู้แล้วกัน สรุปไปส่งใช่ไหม? งั้นพาไปเลยนะคะ "
ฉันลองพูดหยอดๆไป ถามให้ชัวร์อีกที
"แล้วหนูเพิ่งกลับมาจากประเทศอะไรเนี่ย?"
ลุงแกเริ่มซักถามประวัติฉันล่ะ
"อ่อ... หนูเพิ่งกลับมาจากอังกฤษน่ะค่ะ"
ฉันตอบตามมารยาท ใช่ไหมล่ะ
"แล้วหนูไปทำอะไรที่นั้น แล้วเวลาว่างๆหนูทำอะไรหรอ แล้วหนูไม่ชอบอะไรหรอ... #@!($+_* บลาๆๆ"
แล้วลุงแกก็ถามเป็นชุด อย่างกับแกเก็บกดไว้นานไม่ได้คุยกับคนมาเป็นปีอย่างเนี่ย!!! ฉันเลยรีบตอบ ตัดประโยคคำถามของแกซะก่อน
"อ่อ หนูไป เรียน ที่นั่น แล้วก็ทำงาน เป็นดีไซเนอร์ที่นั่นน่ะค่ะ ส่วนเวลาว่าง ก็ ชอบ ยิงปืน ฝึกยูโดเพิ่งได้แชมป์มาค่ะ เวลาว่างๆก็ไปแข่ง ตอนนี้ก็เริ่มหัดเรียนรู้เกี่ยวกับนักสืบแล้วค่ะ และก็สุดท้าย หนูไม่ชอบคน ถามมาก คนน่ารำคาญ จู้จี้ อย่างนี้น่ะค่ะ"
"..."
ลุงแกเงียบกริบ อย่างที่ฉันคาดไว้จริงๆ จากนั้นแกก็เริ่ม ขับรถออกจากสนามบินอย่างรวดเร็ว (ความจริงแล้วต้องออกตั้งนานแล้วไม่ใช่หรอ?)
2ชั่วโมง ต่อมา
"ว้าว!!
มองเห็นทะเลแล้ว โหๆ ลุงๆจอดๆ จอดตรงนี้แหละ"
แล้วฉันก็กล่าวขอบคุณพร้อม จ่ายเช็ค ให้ 30000 ส่วนที่เหลือก็จ่ายสดให้แกแล้วก็ลงจากรถ ส่วนกระเป๋า ฉันให้แกเอาวางไว้ แล้วโทรให้คนโรงแรมที่ฉันเข้าพักมารอเอากระเป๋าไว้อยู่แล้ว
" หนูๆลุงถามอะไรหน่อยสิ ทำไมหนูถึงช่วยลุงล่ะ "
ลุงถามด้วยความสงสัย ฉันจึงตอบความจริง
"ลูกชายลุงเคยช่วยหนูไว้ ไม่ให้หนูโดนรถชน เมื่อปีก่อน ถ้าวันนั้นลูกชายลูกไม่หนูไว้ หนูคงไม่อยู่ที่นี่ ตอนนั้นลูกชายลุงกำลังเข้าเรียนหมอใหม่ๆน่ะค่ะ ก็เลยกลายเป็นเพื่อนกัน แล้วหนูก็รู้ว่าเขาลำบากเพื่อลุง และป้า อยากให้ป้ากับลุงสบายน่ะค่ะ ส่วนเงินอีก 3 ล้าน หนูโอนเข้าบัญชี ให้ ลุง ป้า แล้วก็ ลูกลุงแล้วนะคะ คนละล้าน ถือว่าเป็นทุนการศึกษาของลูกลุงรึกันค่ะ"
พอฉันบอกความจริงเท่านั้นแหละ ลุงแก น้ำตาไหลพรากออกมาเลย... ทำฉันเกือบจะกลั้นน้ำตาไม่ไหว และลุงแกก็กล่าวขอบคุณแล้วลาฉันไป
"โชคดีนะคะคุณลุง...ฉันกล่าวลาตามหลังรถไป
"
*ปล. สงสัยใช่ไหม ทำไมเจอแก โดยบังเอิญ แล้วรู้บัญชี ครอบครัวแกได้ไง
ก็ฉันมีไหวพริบดีนิค่ะ ฮ่าๆๆ
ไม่ยากหรอก็โทรไปศูนย์รถแท็กซี่ บอกชื่อแกที่ศูนย์ไป ว่าอยากได้แกขับรถให้ ส่วนรู้ได้ไงว่ารู้บัญชีแกได้ไง ก็ใช้ ทักษะ ส่วนตัวชนิดพิเศษ สอดแนม กับลูกชายแกว่า พวก เขายังไม่มีบัญชี ฉันจึงวางแผน เปิดบัญชีให้แก โดย ที่ให้เจ้าหน้าที่ธนาคารทำเป็นบแกว่าครอบครัว เขาเป็นครอบครัวที่โชคดีจากการชิงโชค ต่างๆ แล้วเปิดบัญชีให้ไว้คนละ 30000 เมื่อปีก่อน เรื่องก็เป็นอย่างนี้แหละ
แอบฝากMV ซักนิดค่ะ