เรื่องสั้น รองเท้าอาถรรพ์...ระวังอาจเป็นรองเท้าคุณ
คำแนะนำในการอ่าน:อ่านให้จบเรื่อง
ผมเป็นคนไม่เชื่อเรื่องผีเท่าไหร่(แถมชอบโครงกระดูกอีกต่างหาก) แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ผมเปลี่ยนไป !!!
เมื่อไม่นานมานี้ผมได้พายัยต๊อง...เอ๊ย น้องหญิงไปซื้อรองเท้า(ถูกบังคับ) ไปลองดูที่ตลาดหน้าศาลากลางจังหวัด
ที่ตลาดนี้จะมีสินค้ามากมายมาขาย ที่เด็ดสุดเห็นจะเป็นรองเท้าที่มีให้เลือกหลายร้าน
บังเอิญน้องหญิงสะดุดตาเข้ากับรองเท้าสีแดงของผู้หญิงคู่หนึ่ง สีบาดตา(ราคาบาดกระเป๋า)มาก น้องแกเลยตรงดิ่งเข้าไปซื้อทันที
ใกล้ๆกันนั้นมีรองเท้าผู้ชายสีดำ-ขาว สุดเท่ห์ วางไม่ห่างกันมากนัก ผมก็ชอบและซื้อบ้าง
ที่แปลกกว่ารองเท้าทั่วไปคือ รองเท้า 2 คู่นี้ไม่ได้วางอยู่บนชั้นแต่วางอยู่ที่พื้น ซึ่งเจ้าของร้านเองก็ทำหน้าแปลกใจว่ารองเท้า 2 คู่นี้มีด้วยหรือ?
ผมรู้สึกตะหงิดใจแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้บอกห้ามไป(ห้ามไม่ทันน้องแกเร็วมาก) หลังจากซื้อมาผมสังเกตเห็นรอยดำๆ ติดที่รองเท้า เพียงคิดแค่ว่าเป็นรอยตำหนิธรรมดาเท่านั้น
หลังจากซื้อมาน้อง กับ ผมก็ลองใส่ทันที จากนั้นก็ไปช็อปปิ้งต่อ
พอกลับมาที่บ้านประมาณตีหนึ่งกว่าๆ ผมกับน้องเดินเข้าซอยซึ่งอยู่ใกล้ๆกับร้านที่ซื้อรองเท้า เพราะเป็นทางผ่านกลับบ้านพอดี
ระหว่างทางเห็นรถจักรยานยนต์คันหนึ่งสภาพเสียหายยับเยิน ที่ข้างๆกันนั้นพบเศษกระจกและรอยเลือดเป็นทางยาวไปหลายเมตร
ผมเลยถามพนักงานร้าน 7eleven แถวนั้นดู พนักงานก็เล่าเรื่องราวว่า
"เมื่อตอนประมาณ 6 โมงเย็น มีชายหญิงคู่หนึ่งขี่จักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันมาบังเอิญมารถบรรทุกซึ่งคนขับน่าจะเมาสุรามาวิ่งฉวัดเฉวียน
แล้วมาชนท้ายรถจักรยานยนต์ของคู่หนุ่มสาวนั้น ทำให้รถเสียหลักล้มลง โชคร้ายที่ร่างของชายหญิงทั้งคู่ล้มไปในเส้นทางรถบรรทุก
ทำให้ล้อรถมหึมาบดทับร่างของทั้ง 2 คน...มีรอยถูกลากเป็นทางยาวจากเลือดแดงฉาน...เศษชิ้นเนื้อหลุดกระเด็น...
เป็นเหตุที่สร้างความอกสั่นขวัญผวาให้แก่ผู้เห็นเหตุการณ์ "
น้องและผมจินตนาการณ์ถึงภาพของเหตุการณ์ได้ จนขนลุกไปทั้งตัว
พนักงานกล่าวจบ พร้อมกับพูดเปรยๆว่า "ขณะนั้นทางตำรวจเก็บชิ้นส่วนของผู้ตายไปเกือบครบแล้ว ขาดแต่เพียงรองเท้าของทั้งคู่ที่หายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่รู้ว่าหายไปได้อย่างไร"
ผมกับน้องจึงรีบเดินกลับให้พ้นสถานที่ที่น่ากลัวนั้น และเพื่อให้ถึงบ้านเร็วที่สุด
แต่อีกเพียงไม่กี่สิบเมตรที่จะถึงบ้าน น้องผมกลับหยุดเดินแล้วหันมามองกับผม ทำหน้าเบ้ปิดจมูกแล้วพูดว่า
หญิง"พี่ตดเหรอ"
ผม"จะบ้าเหรอ ใครจะมาตดในเวลาแบบนี้"
จากนั้นผมก็ได้กลิ่นเหม็นตุๆ ลอยมาจากเบื้องล่าง!!...
ผมกับน้องมองดูที่รองเท้าของแต่ละคน...ทันใดนั้นก็ฉุดคิดขึ้นได้ว่ารองเท้าที่ซื้อมานี้อาจเป็นของสองหนุ่มสาวที่เสียชีวิตไปก็ได้!!...
ผมและน้องเข่าอ่อนทรุดลงที่พื้น... 'ไม่น่าเชื่อว่ารองเท้าที่ซื้อมากลับเป็นของคนตายซะนี่' ผมคิดในใจ
ยังไม่ทันได้คิดต่อพวกเรายิ่งหวาดผวาขึ้นที่เมื่อนั่งลงแล้วกลับได้กลิ่นเหม็นยิ่งกว่าเดิม แสดงว่าสาเหตุมาจากรองเท้านั่นเอง...
น้องหญิงน้ำตาคลอเตรียมจะร้องให้ ผมผู้เป็นพี่จึงตัดสินใจสลัดทิ้งซึ่งความกลัว แล้วปลอบน้องว่า
ผม"อย่ากลัวไปเลยหญิง อีกเดี๋ยวก็ถึงบ้านแล้ว พอถึงบ้านเราค่อยคิดหาวิธีนำรองเท้านี้ไปให้เจ้าของเค้าคืน"
น้องหญิงเริ่มใจชื้นขึ้นและกลั้นน้ำตาไว้ได้ในที่สุด
จากนั้นผมพยายามประคองน้องลุกขึ้น ทั้งๆที่มีกลิ่นเหม็นคลุ้งโชยมาตลอด
หลังจากลุกขึ้นแล้วพวกเราก็พร้อมใจกันเดินต่อไปให้ถึงบ้าน...
แต่ทันใดนั้น!!
เหตุการณ์ยังไม่จบสิ้น!!
ผมก้าวขาไม่ออก!!
ผมลองพยายามก้าวขาอีกครั้ง น้องผมเห็นอาการแปลกๆของพี่เริ่มกลัวทันที
หญิง"พี่!?...พี่เป็นอะไรไปคะ"
ผม"พี่ไม่เป็นไรหรอก แต่รู้สึกว่าขาพี่จะก้าวไม่ออกน่ะ"
หญิง"!!... หรือว่ารองเท้าคู่นั้นมันฉุดพี่ไว้...มันจะไม่ให้พวกเราไปไหน...มัน...มัน...มันจะฆ่าเราแน่!!"
พูดจบน้องหญิงก็ร้องให้ทันที
ผมไม่รู้จะทำอย่างไรได้แต่กลั้นใจนั่งลงอีกครั้ง กลิ่นที่เหม็นตลบก็ยังมารบกวน
ผมพยายามจะดูที่รองเท้าให้ชัดๆ และพยายามดึงให้หลุดจากรองเท้าอาถรรพ์นั้น
ขาผมเริ่มชาและไร้เรี่ยวแรง ผมพยายาม...พยายาม...
จนในที่สุดก็ดึงรองเท้าออกมาจากพื้นได้สำเร็จ!!
พวกเราก้มไปดูที่พื้นรองเท้าของตัวเอง แต่สิ่งที่เห็นกลับทำให้ผมและน้องขนลุก!!
มัน...มัน...!!
.........
..........
..........
ผมตะโกนลั่น!! "อ๊าก...กูเหยียบหมากฝรั่ง!!!!!"
หญิงกรี๊ดลั่น!! "อี๊...หนูเหยียบขี้หมา!!!!"
จบดีกว่า เหอๆ