quote :
ก่อนร้องเพลงนะครับ ทานน้ำธรรมดาๆ ไม่เย็นไม่ร้อนก็จะดีนะครับ
และพยายามจับโทนเสียงตัวเองดูว่าเหมาะกับการร้องเพลงแนวไหน
อย่างผมเนี่ย ยอมรับเลยว่าตามจริงเสียงผมเหมาะกับเพลงช้าๆเสียงใหญ่ๆนุ่มๆ
เช่น ปีเตอร์คอป พลพล พวกเนี้ยอ่ะครับ
แต่ถ้าเราไม่ชอบแนวนั้น ก็ต้องหมั่นฝึก และพยายามเปลี่ยนโทนเสียงเวลาร้องเพลงเอานะครับ
แล้วเชื่อไหม ว่าถ้าเราปรับได้เมื่อไร เสียงเราจะเพราะว่าพวกเสียงโทนนั้นแต่กำเนิดซะอีก
เพราะมันจะมิกซ์กันอย่างลงตัว
และการฝึกเปลี่ยนโทนเสียง ห้ามเร่งนะครับ ยิ่งเร่งยิ่งเสีย
ให้ยึดหลักช้าๆได้พร้าเล่มงามนะครับ ค่อยๆเปลี่ยนและจับโทนของตัวเองไปเรื่อยๆ
และพยายามอย่าเพิ่งฝึกสำรอกหรือแหกปาก ให้ปรับได้ก่อนแล้วค่อยฝึกก็ไม่สายครับ
เพราะมันจะต้องใช้พลังเยอะใช่เล่นเลย
และพยายามจับโทนเสียงตัวเองดูว่าเหมาะกับการร้องเพลงแนวไหน
อย่างผมเนี่ย ยอมรับเลยว่าตามจริงเสียงผมเหมาะกับเพลงช้าๆเสียงใหญ่ๆนุ่มๆ
เช่น ปีเตอร์คอป พลพล พวกเนี้ยอ่ะครับ
แต่ถ้าเราไม่ชอบแนวนั้น ก็ต้องหมั่นฝึก และพยายามเปลี่ยนโทนเสียงเวลาร้องเพลงเอานะครับ
แล้วเชื่อไหม ว่าถ้าเราปรับได้เมื่อไร เสียงเราจะเพราะว่าพวกเสียงโทนนั้นแต่กำเนิดซะอีก
เพราะมันจะมิกซ์กันอย่างลงตัว
และการฝึกเปลี่ยนโทนเสียง ห้ามเร่งนะครับ ยิ่งเร่งยิ่งเสีย
ให้ยึดหลักช้าๆได้พร้าเล่มงามนะครับ ค่อยๆเปลี่ยนและจับโทนของตัวเองไปเรื่อยๆ
และพยายามอย่าเพิ่งฝึกสำรอกหรือแหกปาก ให้ปรับได้ก่อนแล้วค่อยฝึกก็ไม่สายครับ
เพราะมันจะต้องใช้พลังเยอะใช่เล่นเลย
การสำรอกเสียง
1. ถ้าจะฝึก ก็หาเสียงการร้องในดวงใจมาสักวงนึงก่อน แล้วก็ค่อยๆร้องตามไปเรื่อยๆนะครับ ไม่ต้องเอาเนื้อเหมือนก็ได้ ร้องไปเรื่อยๆ ไม่จพเป็นต้องร้องให้จบ สมมติ ฝึก BMTH เพลง Pray For Plagues ก็ฝึกตอนขึ้นต้นแค่คำว่า Fly คำเดียวก่อนครับ
2. การร้องสำรอกส่วนใหญ่ที่ผมเห็นเพื่อนๆ ของผมพยายามทำ ส่วนใหญ่จะใจร้อน แล้วไปเค้นเสียงจากลำคอ จนทำให้คอพังก็มีหลายคน ที่อยากจะบอกก็คือ ต้องใจเย็นครับ เพราะพวกนักร้องอาชีพ เค้าฝึกมากันเป็นปี กว่าจะได้ขนาดนั้น เช่น แน็ป Retrospect ผมว่าอย่างต่ำเลยก็ ปีนึง แล้วยิ่งพวกนักร้อง Brutal Death ยิ่งไม่ต้องพูดถึง 2 ปี ขึ้นแน่นอน
3.อย่าทรมานตัวเอง รู้ว่าเจ็บคอ แสบคอ ให้หยุด แล้วกินน้ำเปล่าให้เยอะๆ เข้าไว้ รักษาคอตัวเองไว้บ้าง
4.ถ้าเจอกับการเจ็บป่วยเกี่ยวกับลำคอบ่อยๆ ก็ขอให้ทำใจครับ เพราะเป็นกันทุกคน ไม่มีเว้น พวก คออักเสบ เส้นเลือดในคอแตก นี่ผมว่าต้องเจอกันแน่นอน ให้ทำใจไว้ด้วยครับ ผมก็เป็นมาแล้ว ครั้งนึง แต่ถ้าไม่อยากเป็นบ่อยก็อย่างที่บอก รักษาเสียงตัวเองไว้บ้าง
5.ตั้งเป้าหมายของตัวเองให้แน่นอน เพราะถ้าฝึกแบบไม่มีเป้าหมาย มันก็ไม่ค่อยกระเตื้อง ส่วนตัวผม ผมจะตั้งเป้าหมายย่อย ไปเรื่อยๆ แต่เป้าหมายหลักของผมเป็น เสียงแบบ วง Disgorge
6. ความขยันครับ ฝึกบ่อยๆ ร้องทุกวัน แล้วมันจะค่อยๆได้ขึ้นทีละนิดๆเอง พอรุ้ตัวอีกที ก็สำรอกได้แล้ว
การฝึกหายใจในลักษณะลึกถึงกระบังลม
ยืนตัวตรง หลัง ไหล่และศรีษะ ตั้งตรง แยกเท้าออกจากันเล็กน้อยพอสบาย มือเท้าสะเอวไว้ ให้นิ้วหัวแม่มืออยู่ด้านหลัง นิ้วที่เหลือวางอยู่ที่กล้ามเนื้อบริเวณซี่โครงซี่ล่างๆ หายใจเข้าลึกๆ (ทางปาก 80 % จมูก 20 %) พยายามให้รู้สึกว่าลมลงไปถึงฐานของปอด จากนั้นค่อยๆผ่อนลมอย่างช้าๆเป็นเสียง ตัวเอส (S) เมื่อลมออกหมด กระบังลมจะคลายตัว กล้ามเนื้อหน้าท้องจะค่อยๆหดตัวแฟบลง ก่อนปฏิบัติซ้ำให้หยุดรอให้กล้ามเนื้อรู้สึกผ่อนคลาย แล้วปฏิบัติซ้ำไปเรื่อยๆ เน้นการควบคุมลมให้ค่อยๆผ่อนไปอย่างช้าๆและสม่ำเสมอ
1. ถ้าจะฝึก ก็หาเสียงการร้องในดวงใจมาสักวงนึงก่อน แล้วก็ค่อยๆร้องตามไปเรื่อยๆนะครับ ไม่ต้องเอาเนื้อเหมือนก็ได้ ร้องไปเรื่อยๆ ไม่จพเป็นต้องร้องให้จบ สมมติ ฝึก BMTH เพลง Pray For Plagues ก็ฝึกตอนขึ้นต้นแค่คำว่า Fly คำเดียวก่อนครับ
2. การร้องสำรอกส่วนใหญ่ที่ผมเห็นเพื่อนๆ ของผมพยายามทำ ส่วนใหญ่จะใจร้อน แล้วไปเค้นเสียงจากลำคอ จนทำให้คอพังก็มีหลายคน ที่อยากจะบอกก็คือ ต้องใจเย็นครับ เพราะพวกนักร้องอาชีพ เค้าฝึกมากันเป็นปี กว่าจะได้ขนาดนั้น เช่น แน็ป Retrospect ผมว่าอย่างต่ำเลยก็ ปีนึง แล้วยิ่งพวกนักร้อง Brutal Death ยิ่งไม่ต้องพูดถึง 2 ปี ขึ้นแน่นอน
3.อย่าทรมานตัวเอง รู้ว่าเจ็บคอ แสบคอ ให้หยุด แล้วกินน้ำเปล่าให้เยอะๆ เข้าไว้ รักษาคอตัวเองไว้บ้าง
4.ถ้าเจอกับการเจ็บป่วยเกี่ยวกับลำคอบ่อยๆ ก็ขอให้ทำใจครับ เพราะเป็นกันทุกคน ไม่มีเว้น พวก คออักเสบ เส้นเลือดในคอแตก นี่ผมว่าต้องเจอกันแน่นอน ให้ทำใจไว้ด้วยครับ ผมก็เป็นมาแล้ว ครั้งนึง แต่ถ้าไม่อยากเป็นบ่อยก็อย่างที่บอก รักษาเสียงตัวเองไว้บ้าง
5.ตั้งเป้าหมายของตัวเองให้แน่นอน เพราะถ้าฝึกแบบไม่มีเป้าหมาย มันก็ไม่ค่อยกระเตื้อง ส่วนตัวผม ผมจะตั้งเป้าหมายย่อย ไปเรื่อยๆ แต่เป้าหมายหลักของผมเป็น เสียงแบบ วง Disgorge
6. ความขยันครับ ฝึกบ่อยๆ ร้องทุกวัน แล้วมันจะค่อยๆได้ขึ้นทีละนิดๆเอง พอรุ้ตัวอีกที ก็สำรอกได้แล้ว
การฝึกหายใจในลักษณะลึกถึงกระบังลม
ยืนตัวตรง หลัง ไหล่และศรีษะ ตั้งตรง แยกเท้าออกจากันเล็กน้อยพอสบาย มือเท้าสะเอวไว้ ให้นิ้วหัวแม่มืออยู่ด้านหลัง นิ้วที่เหลือวางอยู่ที่กล้ามเนื้อบริเวณซี่โครงซี่ล่างๆ หายใจเข้าลึกๆ (ทางปาก 80 % จมูก 20 %) พยายามให้รู้สึกว่าลมลงไปถึงฐานของปอด จากนั้นค่อยๆผ่อนลมอย่างช้าๆเป็นเสียง ตัวเอส (S) เมื่อลมออกหมด กระบังลมจะคลายตัว กล้ามเนื้อหน้าท้องจะค่อยๆหดตัวแฟบลง ก่อนปฏิบัติซ้ำให้หยุดรอให้กล้ามเนื้อรู้สึกผ่อนคลาย แล้วปฏิบัติซ้ำไปเรื่อยๆ เน้นการควบคุมลมให้ค่อยๆผ่อนไปอย่างช้าๆและสม่ำเสมอ
เครดิต/bbs.pramool.com