!i!iหวัดดีค่าาi!i!
เพื่อนๆเคยสงสัยกันมั้ยว่า เมะ เคะ ซึนคืออะไร??>>แต่ถ้าไม่อยากรู้ ไม่สงสัยคงไม่เข้ามาหรอก
ในค.เห็นส่วนตัวคิดว่าคำว่าซึนหมายถึงหมาป่วย
แต่วันนี้..หยุดความสงสัยของคุณไว้เพียงเท่านี้เพราะเรามีคำตอบบบบบบ!!!!!
[ มาดูคำว่า คู่จิ้น,จิ้น,ฟิน,มโน กัน ]
เริ่มกันที่คำแรก.. ‘ คู่จิ้น ’ เป็นคำศัพท์ใหม่ และเป็นคำศัพท์แสลงที่รู้กัน
เฉพาะกลุ่ม
ต่อมา.. คำว่าจิ้นนั้น มาจาก ‘ imagination ’ หรือก็คือ ‘ จินตนาการ ’ นั่นเอง ดังนั้น คำว่า คู่จิ้น อาจเกิดจากการที่คนสองคนสนิทกันมากๆ อยู่ด้วยกันบ่อยๆ จนคนรอบข้างรู้สึกว่า.. ‘ เหมือนเค้าจะรักกันนะ / เหมือนแฟนกันเลย / ดูน่ารักจัง ’ เป็นต้น
ดังนั้นจึงเกิดคำว่าคู่จิ้นขึ้นมา และคำคำนี้ สามารถใช้ได้ทั้งคู่จิ้นที่เป็น ชายกับชาย ชายกับหญิง และหญิงกับหญิง
ในวงการบันเทิงไทยนั้นเองก็มีคู่จิ้นอยู่มากมาย
• ยกตัวอย่างฝั่ง ‘ ชายกับชาย ’ เช่น
- โตโน่กับริท
- เต๋ากับคชา
- นัทกับซิน
- ฮั่นกับแกงส้ม
• ยกตัวอย่างฝั่ง ‘ ชายกับหญิง ’ เช่น
ณเดชญ์กับญาญ่า
บอยกับมาร์กี้
พอร์ชกับฉัตร
กันต์กับเชียร์
• ยกตัวอย่างฝั่ง ‘ หญิงกับหญิง ’ เช่น
นทกับแอปเปิ้ล
สต็อปกับสมายล์
คู่แต่ละคู่ที่กล่าวมาข้างต้นนั้น เกิดจาก ‘ ฟิน ’ และ ‘ มโน ’ กันเองของแฟนคลับล้วนๆ
คำว่า ‘ ฟิน ’ นั้น มาจาก ‘ ฟินแลนด์ ’ และ ‘ ฟินเนเร่ ’ ซึ่งหมายถึงอะไรที่สุดยอด
เป็นแสลงที่ใช้บอกอารมณ์ความรู้สึกว่ามัน ‘ สุดยอดมาก ’ อะไรประมาณนั้น
ส่วนคำว่า ‘ มโน ’ มาจาก มโนภาพ ก็คือการจินตนาการอะไรต่างๆ ไปเอง
เช่น มโนว่าคู่จิ้นเขารักกัน แต่ความเป็นจริงอาจตรงข้ามก็ได้.. หรืออาจจะเป็น
การมโนไปเองว่าฉันได้กอดณเดชญ์ ทั้งๆที่ความจริงอาจจะไม่ใช่
[ และต่อมาคือคำว่า คู่ Y(วาย) และ สาว Y(วาย) ]
คำว่า ‘ คู่ Y ’ นั้นก็เหมือนกับคู่จิ้น เพียงแต่อาจจะมีปลีกย่อยออกมาอีกเล็กน้อย
‘ Y(วาย) ’ มาจากภาษาญี่ปุ่นคำว่า ‘ Yaoi ’(ยาโอย/ยาโออิ) และ ‘ Yuri ’(ยูริ)
*Yaoi หมายถึง คู่รักชายกับชาย หรือ Boy’s Love
*Yuri หมายถึง คู่รักหญิงกับหญิง หรือ Girl’s Love
ดังนั้นคำว่าคู่ Y จึงสามารถใช้ได้ทั้งกับคู่จิ้นชายชายและหญิงหญิง
แต่ยกเว้นชายหญิง
ต่อมาคือคำว่า ‘ สาว Y ’ คำคำนี้ใช้เรียกผู้หญิงที่ชื่นชอบ Y มากๆ
ก็คือชื่นชอบคู่จิ้นชายกับชายหรือหญิงกับหญิง เราจะเรียกว่าสาว Y
อาการของพวกเขาคืออาจจะไม่ได้ชอบเพศเดียวกัน แต่การที่ได้เห็น
ชายหนุ่มที่ปิ๊งรักกันเองแล้วรู้สึกกระชุ่มกระชวย ใจบิดไปบิดมาจนจะละลาย
(ความจริงก็ไม่ค่อยเข้าใจน่ะนะ ว่าทำไมผู้หญิงถึงชอบอะไรแบบนี้
มันเป็นเรื่องที่ซับซ้อนน่ะ อืม..เราก็ไม่เข้าใจตัวเองด้วย เพราะเราก็เป็นสาว Y)
ในไทยเองก็มีเด็กสาวประเภทนี้เกลื่อนกลาดไปหมด
ลองกลับไปเช็คคนใกล้ตัวคุณดีๆ ว่ามีบ้างมั้ย ..
[ ต่อมาคือคำว่า เคะ และ เมะ ]
สองคำนี้อาจทำให้หลายๆคนงง และอาจจำสลับกันในตอนแรก
คำว่า ‘ เคะ ’ มาจากภาษาญี่ปุ่นคำว่า ‘ อุเคะ ’ ที่แปลว่าฝ่ายรับ
ง่ายๆ ก็เกย์ควีนที่เรารู้ๆ กันนี่แหละ
ส่วนคำว่า ‘ เมะ ’ มาจาก ‘ เซเมะ ’ ที่แปลว่าฝ่ายรุก
เอาง่ายๆ อีกก็เกย์คิงนั่นเอง
แล้วยังไงล่ะ ตัดสินได้ยังไงว่าใครเคะใครเมะ???
อธิบายง่ายๆ
ฝ่ายเคะ คือฝ่ายรับ ดังนั้นจึงมีวิธีสังเกตอยู่ ดังนี้
1. ใบหน้าหวาน บางทีอาจจะดูไม่คล้ายผู้หญิงแต่ดูแล้วน่ารัก
2. รูปร่างบอบบาง ตัวเล็ก อาจจะไม่ได้เล็กเท่าผู้หญิงแต่ก็บางๆ อะนะ
3. นิสัยการแสดงออกน่ารักโมเอะ และมีบางอย่างที่คล้ายผู้หญิงนั่นเอง
**หมายเหตุ : แต่สำหรับบางคนที่มีคู่จิ้นเป็นของตัวเอง เช่น นาย A กับนาย B เป็นคู่จิ้นกัน B อาจจะดูไม่เคะเลย แต่บังเอิญว่านาย A ดูเมะกว่า B จึงจำใจต้องเคะไปตามระเบียบ ถึงแม้ B จะดูไม่เคะ แต่ถ้าคู่จิ้นของเขาดูเมะกว่า ก็ต้องยอมเคะนะ ^^
ฝ่ายเมะ คือฝ่ายรุก มีวิธีสังเกต คือ
1. ตัวสูงใหญ่ ดูมาดแมนแฮนด์ซั่มมากๆ ดูแล้วสามารถปกป้องเคะได้
2. ใบหน้าที่ดูยังไงก็ไม่มีทางแต่งหญิงขึ้น
3. นิสัยแมนๆ ติดหื่นเล็กน้อย อาจจะไม่ได้ตั้งใจ(FC มโนเอง) ดูออกเจ้าชู้ๆ สายตาการกระทำที่บ่งบอกถึงความเป็นชายและโชกโชนพอสมควรนั่นเอง
ป.ล.ขออภัยหากกระทู้นี้ทำให้แฟนคลับบางคนของ ศิลปินที่ถูกกล่าวถึงในการยกตัวอย่างไม่พอใจก็ขออัยมา ณ ที่นี้ด้วย ข้าพเจ้าเพียงแต่ต้องการอธิบายความหมายและข้อเท็จจริงหลายๆ อย่างให้คนที่ไม่รู้ได้รู้เท่านั้น
***ขอบคุณเครดิทจาก คุณ Helwa : http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2519272
Ps.มาตั้งกระทู้นี้เพราะความสงสัยกระสับกระส่ายใคร่รู้ทั้งนั้น
Ps2.นำค.รู้มาแปลกๆกึ่งเกือบมีสาระกึ่งไม่มีสาระมาแชร์กับเพื่อนๆนะคะ