สวัสดีคร้าบ ชมรมคนรักแมวยินดีตอนรับ ทุกท่านที่ เข้ามาเยี่ยมเยือนนะครับ แอดมินชมรม ชื่อ Zun นะครับ
แมวซุล เป็นแมวบ้านลูกผสม ชื่อ ซึงยี
ซึงยี เป็นแมวที่ ผมเก็บมาจาก ข้างถังขยะสภาพผอมโซ่มาก ผมซุลเลยเก็บมาเลี้ยงจนมีสภาพดีขึ้นและอ้วน
จนสุดท้ายถลายเป็นแมวที่ ซุลรักมากตัวหนึ่ง
นิสัยของซึงยี เป็นแมวที่ ติดเจ้าของมาก กินเยอะมากกกกก จนซุลแอบจนเลยที่เดียว
แต่ใจจิงของ ซุล อยากเลี้ยง แมว เมนคูนมากเพราะมันตัวใหญ่ แล้ววว เพื่อนๆๆ ล่ะ มีแมวในฝันกันบ้างเปล่า
ชมรมนี้ อนุญาตโพสภาพแมวและพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ได้ นะครับ
มีอะไรติดต่อ ซุลได้ นะครับ
Facebook : http://www.facebook.com/Prantakan.Lee
จนสุดท้ายถลายเป็นแมวที่ ซุลรักมากตัวหนึ่ง
นิสัยของซึงยี เป็นแมวที่ ติดเจ้าของมาก กินเยอะมากกกกก จนซุลแอบจนเลยที่เดียว
แต่ใจจิงของ ซุล อยากเลี้ยง แมว เมนคูนมากเพราะมันตัวใหญ่ แล้ววว เพื่อนๆๆ ล่ะ มีแมวในฝันกันบ้างเปล่า
ชมรมนี้ อนุญาตโพสภาพแมวและพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ได้ นะครับ
มีอะไรติดต่อ ซุลได้ นะครับ
Facebook : http://www.facebook.com/Prantakan.Lee
ประวัติความเป็นมาของแมว
"แมว" หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า "Felis Catus" มีกำเนิดขึ้นบนโลกมากกว่า 50 ล้านปีมาแล้ว นัีกชีววิทยาค้นพบว่าบรรพบุรุษของแมวถือกำเนิดขึ้นกว่า 50 ล้านปีมาแล้ว เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและกินเนื้อเป็นอาหาร เรียกว่า Miacis และได้วิวัฒนาการจนเริ่มมีลักษณะคล้ายแมวเมื่อ 10 ล้านปีก่อน ขนาดและรูปร่างใกล้เคียงกับแมวป่าที่มีเขี้ยวขนาดใหญ่เรียกว่า Dinistis
ในความจริงแล้วนั้นแมวบ้านมีต้นตระกูลที่แยกออกมาจากเสือไซบีเรียน และแมวพื้นเมืองต่าง ๆ ปัจจุบันสายพันธุ์แมว (รวมทั้งสิงโตและเสือต่าง ๆ ) มีทั้งหมดถึง 36 ตระกูล 51 ชนิด
ชาวอียิปต์โบราณ นับถือแมวเป็นสัตว์เทพเจ้าถึงกับว่าหากแมวตายในบ้านต้องนำไปทำมัมมี่เลยทีเดียว ขนาดคนที่จะนำไปทำมัมมี่ยังต้องเป็นเฉพาะราชวงศ์ หรือขุนนางเท่านั้น ซึ่งมัมมี่ที่ว่านี้ สามารถตามไปดูกันได้ที่พิพิธภัณฑ์ในประเทศอังกฤษ เหตุที่ชาวอียิปต์โบราณนับถือแมวเป็นสัตว์เทพเจ้านั้น เพราะเมื่อประมาณ 4,000 กว่าปีก่อน กลุ่มชาวนาได้นำแมวป่ามาฝึกใช้ในการจับหนูในโรงนา ที่เข้ามาทำความเสียหายกับผลผลิตและพืชพันธุ์ของชาวนา เมื่อหนูในโรงนาหมดไป ประชาชนก็มีอาหารอุดมสมบูรณ์ขึ้น แถมยังปราศจากโรคภัยที่เกิดจากหนูอีกด้วย แมวจึงได้ถือว่าเป็นสัตว์เทพเจ้าในยุคอียิปต์โบราณนั่นเอง ซึ่งเทพเจ้า Bastes หรือเทวีบัสเตต ที่ชาวอียิปต์นับถือนั้น มีตัวเป็นคนแต่มีหัวใจเป็นแมวเป็นตัวแทนแห่งความรัก ความอุดมสมบูรณ์ ฉะนั้นหากใครฆ่าแมวจะต้องถูกลงโทษอย่างหนัก ยกตัวอย่างเช่นในสมัยก่อนพวกที่ต้องการยึดครองอาณาจักรอีิยิปต์โบราณจึงใช้วิธีอุ้มแมวไปรบด้วยซึ่งชาวอียิปต์นั้นก็ไม่กล้าที่จะต่อสู้แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า อาณาจักรอียิปต์ล่มสลายเพราะแมว ถึงอียิปต์โบราณจะล่มสลายแต่ความนับถือแมวเป็นดั่งเทพเจ้าก็ยังเหมือนเดิม
เคยสงสัยกันบ้างหรือเปล่าว่า แมวขยายพันธุ์ข้ามน้ำข้ามทะเลไปทั่วโลกได้อย่างไร ก็เพราะชาวอียิปต์ไม่เพียงแต่ใช้หนูจับแมวในโรงนาเท่านั้น ยังใช้จับหนูบนเรือสินค้าอีกด้วย จึงมีความเชื่อว่าเมื่อเรือเทียบท่า แมวก็ได้ลงเรือแต่ไม่ได้กลับขึ้นมาบนฝั่ง เลยเป็นเหตุให้มีแมวไปทุกแห่งหนทั่วโลก
แต่สำหรับยุคกลางในยุโรป นั้นมีความเชื่อเรื่องแมวที่แตกต่างกับยุคอียิปต์โบราณโดยสิ้นเชิง โดยมีความเชื่อว่าแมวเป็นตัวแทนของความชั่วร้ายต่าง ๆ เป็นสัตว์เลี้ยงของแม่มดโดยเฉพาะแมวดำ และหากชาวยุโรปคนใดในยุคนั้นเลี้ยงแมวจะถูกประณามว่าเป็นแม่มดที่ชั่วร้าย ถ้ายิ่งเป็นคนแก่เลี้ยงแมวด้วยนี่สิยิ่งแย่ไปกันใหญ่ เรียกว่าเป็นต้องโดนจับเผาทั้งเป็นไม่ว่าคนหรือแมวก็ตาม และช่วงนี้เองที่ทำให้กาฬโรคเกิดการระบาดหนักในยุโรปเพราะปริมาณของหนูขณะนั้นนับวันยิ่งเพิ่มปริมาณมากขึ้น แต่แมวกลับยิ่งลดจำนวนน้อยลงนั่นเอง
ถัดมาดูทางแถบเอเซีย อย่างในประเทศญี่ปุ่นและประเทศจีนกันบ้าง ได้เริ่มนิยมเลี้ยงแมวกันมากขึ้นกว่าเดิมที่เคยเลี้ยงกันอยู่แล้ว เพราะที่ประเทศญี่ปุ่นใช้แมวเป็นสัญลักษณ์ในการนำโชค อย่างที่เคยเห็นกันอยู่ตามร้านค้าทั่วๆ ไปนั่นก็คือ " แมวกวัก " จะใช้กวักเรียกลูกค้าให้เข้ามาอุดหนุนสินค้า หรือจะความเชื่อว่าแมวเป็นตัวแทนแห่งโชคลาภเช่นกัน การที่แมวเข้ามาอยู่ในบ้านถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากเพราะทำให้เจ้าของบ้านมีโชคลาภมาเสมอ
ประเทศไทย เราก็มีการเลี้ยงแมวมานานแล้วเหมือนกันตั้งแต่สมัยสุโขทัยโน่น แมวไทยคู่แรกได้ออกสู่สายตาชาวโลกเมื่อปี พ.ศ. 2427 เป็นแมววิเชียรมาศแต้มสีครั่ง โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.5) ทรงพระราชทานให้กับกงศุลอังกฤษประจำกรุงเทพมหานคร ขณะนั้นคือ Mr.Owen Gould และได้นำไปให้แก่น้องสาวที่อังกฤษอีกทอดหนึ่ง แต่หลังจากนั้น เมื่อปีพ.ศ.2428 แมวไทยคู่นี้แหละได้เข้าประกวดที่ประเทศอังกฤษ ในงาน The Crystal Palace และได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวดอีกด้วยจากการประกวดครั้งนี้เองที่เป็นจุดเิริ่มต้นให้ชาวอังกฤษ นิยมหันมาเลี้ยงแมวไทยกันมากขึ้น จนได้จัดตั้ง The Siamese Cat Clubs ในปี พ.ศ 2443 และ The Siamese Cat Society of the Brithish Empire ในปี พ.ศ. 2471 จากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้แมวไทยคู่นี้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั่วอังกฤษ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงเห็นว่าแมวไทยสามารถทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักแก่ประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก จึงได้พระราชทานแมวไทยให้กับหลาย ๆ ประเทศ จนแมวไทยและประเทศไทยกลายเป็นที่รู้จักมีชื่อเสียงไปทั่วโลกนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.ntsfarm.com